ตอนที่ 1685 อลหม่านสุดขีด

อัจฉริยะสมองเพชร

อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆

ตอนที่ 1685 อลหม่านสุดขีด

ฟิ้ววววว!

กระแสกระบี่ฉีแผ่ซ่านออกไปโดยรอบ ฉีกกระชากและก่อเกิดรอยแยกของมิติมากมายนับไม่ถ้วน เจตนาสังหารอันเข้มข้นอย่างน่าทึ่งครอบคลุมทั่วพื้นที่ ส่งผลทำลายล้างจิตวิญญาณของผู้ที่อยู่บริเวณนั้น

“แกมันรนหาที่ตาย!”

เมื่อเห็นอู๋ชู่หมายมั่นจะคร่าชีวิตของเขาโดยไม่ลังเลราวกับคนเสียสติ เป่ยชิงขมวดคิ้วด้วยความโมโห เขาสะบัดหอกและชูมันขึ้นเพื่อปัดป้องการโจมตีของอู๋ชู่

เคร้งงงง!

เมื่ออาวุธ 2 ชิ้นปะทะกัน ประกายแสงสว่างวาบก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า

ทั้งอู๋ชู่และเป่ยชิงเป็นนักรบขั้นชั่วกัลปาวสาน โลกจารึก จัดว่าไร้เทียมทานในบรรดานักรบที่มีวรยุทธต่ำกว่าขั้นนักปราชญ์โบราณเมื่อทั้งคู่ปะทะกัน คลื่นความสั่นสะเทือนจากการโจมตีก็ฉีกกระชากทั้งพื้นโลกและสวรรค์ แม้ดวงจันทร์สีเลือดก็ดูจะหม่นหมองไปเพราะพละกำลังของพวกมัน

“หมอนั่นเป็นบ้าไปแล้วหรือไง?”

ยิ่งต่อสู้ไป เป่ยชิงก็ยิ่งงงงันขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อครู่นี้เองที่อีกฝ่ายเพิ่งส่งผู้แทนมาแจ้งว่ายินดีทำตามข้อเรียกร้องของเขาและขอเปิดการเจรจาต่อรอง ซึ่งเขาเองก็เตรียมการสำหรับสิ่งที่จะพูดในการเจรจาต่อรองไว้แล้ว แต่ใครจะไปคิดว่าก่อนที่เวลา 1 ชั่วโมงจะมาถึง อีกฝ่ายก็พรวดพราดเข้ามาและพร้อมจะคร่าชีวิตของเขาได้ทุกเมื่อ

หมอนั่นคิดอะไรอยู่?

กินดินปืนเข้าไปหรือไง?

“อู๋ชู่ ผมจะถือว่าการกระทำของคุณเป็นการบ่อนทำลายความเป็นพันธมิตรของเรานะ คุณควรจะรู้ว่าหากเราแตกคอกัน ผมก็ไม่รีรอที่จะรายงานเรื่องของคุณต่อท่านอำมาตย์เฉินหลิงอย่างแน่นอน!”เป่ยชิงตวาดกร้าว

“คุณคิดจะรายงานเรื่องผมต่ออำมาตย์เฉินหลิงหรือ? ตามสบายเลย! ในเมื่อคุณกล้าสังหารลูกน้องของผมอย่างโหดเหี้ยมแล้วผมจะยังมีอะไรต้องเสียอีก?” อู๋ชู่ตวาดลั่นขณะกวัดแกว่งหอกอย่างเกรี้ยวกราดเข้าใส่อีกฝ่าย

“ผมสังหารลูกน้องของคุณ? คุณพูดบ้าอะไร?” เป่ยชิงคำรามกลับ“อย่ามากล่าวหาผมในสิ่งที่ผมไม่ได้ทำนะ!”

“เหอมู่ กุ้ยหลี่ และหลี่เจีย…หากสามคนนั้นผนึกกำลังกัน ก็สามารถรับมือได้แม้แต่กับนักรบขั้นชั่วกัลปาวสานโลกจารึก แล้วจะมีใครอื่นเป็นตัวการได้ถ้าไม่ใช่คุณ!” อู่ชู่กัดฟันตอบ

แม้ลูกน้องทั้งสามของเขาจะเป็นแค่นักรบชั่วกัลปาวสานขั้นต้นแต่ประสิทธิภาพของคนเหล่านั้นก็จัดว่าไร้เทียมทาน นอกเสียจากเป่ยชิง ไม่มีใครอื่นในแคมป์นี้ที่เก่งกาจพอจะสังหารทั้งสามได้อย่างเงียบเชียบ!

ยิ่งไปกว่านั้น…หมอนั่นยังถึงกับโยนศพของทั้งสามไว้หน้าเต็นท์ของเขาด้วย มีสายตารู้เห็นมากมายที่เป็นพยานได้!

“คุณกำลังบอกว่าผมสังหารเหอมู่ กุ้ยหลี่ และหลี่เจีย?” เห็นความเกรี้ยวกราดในดวงตาของอู๋ชู่ เป่ยชิงถึงกับผงะ เขาขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิดขณะกำลังจะอ้าปากอธิบาย

แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอย่างนั้น เปลวเพลิงร้อนแรงก็พวยพุ่งออกจากเต็นท์ของเขา ใครคนหนึ่งวางเพลิงเต็นท์!

จากนั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากฝูงชน “อำมาตย์เฉินหลิงไม่เคยคิดที่จะทำงานร่วมกับพวกเรา พวกเขาส่งกองกำลังไปที่หุบเขาเพื่อลอบโจมตีเราด้วย ดูสิ แม้แต่ท่านแม่ทัพใหญ่อู๋ชู่ก็ยังส่งคนมาสร้างความปั่นป่วนที่นี่…”

เสียงนั้นดังชัดเจนไปทั่วแคมป์อันเงียบสงัด ราวกับขว้างก้อนหินลงไปในลำน้ำอันสงบนิ่ง

พริบตาต่อมา ความอลหม่านขั้นสุดก็บังเกิด

ทหารจำนวนมากได้เป็นพยานรู้เห็นการสู้รบอย่างเกรี้ยวกราดระหว่างอู๋ชู่กับเป่ยชิง ทุกกระบวนท่าของพวกเขามุ่งตรงเข้าสู่จุดตาย หมายเอาชีวิตอีกฝ่าย พวกเขายังสงสัยอยู่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นก็พอดีกับที่ได้ยินคำนั้น ต่างคนต่างเข้าใจทันที ความโกรธเกรี้ยวพุ่งเข้าจับหัวใจของพวกเขา

“สังหารคนทรยศ!”

“พวกเขาแค่หาข้ออ้างที่จะโจมตีคนของเรา เจ้าพวกสารเลวหน้าไม่อาย!”

“พี่ชาย จัดการเลย! พวกเราคือนายทหารผู้หยิ่งในศักดิ์ศรี ภักดีกับอำมาตย์เฉินชิง เราจะปล่อยให้ใครมาสบประมาทเราไม่ได้!”

“ผมขวางหูขวางตาเจ้าพวกนี้มานานแล้ว ฆ่ามันให้หมด!”

…..

เสียงกู่ก้องร้องตะโกนเรียกหาการต่อสู้ดังไปทั่ว ราวกับใครคนหนึ่งได้จุดประกายจิตวิญญาณการต่อสู้ของพวกเขาขึ้นมา แต่ในฐานะเผ่าพันธุ์ปีศาจชั้นสูงที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ถึงจะโกรธเกรี้ยวแค่ไหน พวกมันก็ยังไม่เคลื่อนไหว เพราะถือเป็นความกระด้างกระเดื่องที่จะเปิดการสู้รบหากปราศจากคำสั่งของผู้บังคับบัญชา

ในตอนนั้นเอง เผ่าพันธุ์ปีศาจตัวหนึ่งที่สวมหมวกเกราะและชุดเกราะสีดำก็บินเข้ามาและคำราม “พวกคุณรีรออะไรอยู่? ไอ้สารเลวพวกนี้เหยียบย่ำพวกเรา เอาคืนพวกมันให้สาสม!”

นี่คือคำสั่งโดยตรงจากหนึ่งในแม่ทัพของพวกเขา ด้วยสิ่งนี้ ฟางเส้นสุดท้ายที่เหนี่ยวรั้งทุกตัวไว้ก็ขาดผึง พวกมันพุ่งเข้าใส่อีกฝ่ายพร้อมกับส่งเสียงกู่ก้องร้องตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว

“….”

อู๋ชู่กับเป่ยชิงซึ่งต่อสู้กันกลางอากาศอยู่เมื่อครู่ต่างจังงัง พวกมันนึกไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุอลหม่านแบบนี้

“มีบางอย่างไม่ถูกต้องแล้ว…” อู๋ชู่เลิกคิ้ว

ถึงมันจะโกรธเกรี้ยวแค่ไหน แต่ในฐานะผู้ที่ได้ก้าวขึ้นมาถึงตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ มันก็ไม่มีนิสัยหุนหันพลันแล่น เสียงตะโกนเมื่อครู่นี้ดูจะมาได้เหมาะเจาะกับเวลา เร่งเร้าอารมณ์ของเหล่าทหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยากที่จะเชื่อว่าเรื่องแบบนี้ไม่ได้ถูกวางแผนมาก่อน

อู๋ชู่รีบหันไปสั่งการกับบริวาร “เหอหลิง, ชุนมู่ และเป่ยเย่ พยายามระงับสถานการณ์ข้างล่างไว้ พวกเรายังไม่พร้อมที่จะรับมือกับการต่อสู้ในตอนนี้!”

พวกเขาเพิ่งเป็นพันธมิตรกันได้ไม่นาน ยังไม่ได้สู้กับสภาปรมาจารย์เลยด้วยซ้ำ หากมารบกันเองตั้งแต่ต้น ก็คงไม่รู้จะอธิบายเรื่องนี้กับอำมาตย์เฉินหลิงอย่างไร

ในฐานะผู้นำกองทัพ เขาไม่อาจปล่อยให้อารมณ์เข้าบดบังเหตุผลจนหน้ามืดตามัว

“ขอรับ!”

ทั้งสามรีบร่อนลงไปกลางหมู่พลทหารเพื่อยับยั้งเหตุการณ์ แต่ไม่ช้า แม่ทัพที่ชื่อเหอหลิงก็บินกลับขึ้นมาและร้องว่า “ท่านแม่ทัพใหญ่ ข่าวร้าย! คนของพวกมันเริ่มโจมตีคนของเราโดยไม่ให้โอกาสเราอธิบายเลย ชุนมู่กับเป่ยเย่พยายามใช้เหตุผลระงับการต่อสู้ แต่พวกเขาก็ถูกสังหาร!”

ขณะที่รายงาน เหอหลิงก็สะบัดข้อมือ แล้วร่างของศพทั้งสองก็ปรากฏ

เมื่อเห็นศพนั้น อู๋ชู่นัยน์ตาแดงก่ำ ดูราวกับเลือดจะหยดออกมาได้

“เป่ยชิง ฉันอดทนกับแกครั้งแล้วครั้งเล่า แต่แกก็ทดสอบความอดทนของฉันอยู่นั่น…”

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายสังหารแม่ทัพของเขาไปแล้วถึง 5 คน อู๋ชู่อดกลั้นความโกรธไว้ไม่ไหวอีกต่อไป เขากวัดแกว่งกระบี่และพุ่งมันเข้าใส่เป่ยชิง

“พี่อู๋ชู่ เรื่องนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นนะ คนของผมไม่มีทางกล้าโจมตีแม่ทัพของคุณหรอก” เป่ยชิงพยายามอธิบาย

แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ เผ่าพันธุ์ปีศาจอีกตัวหนึ่งที่สวมหมวกเกราะและชุดเกราะสีดำก็รีบเข้ามารายงานกับเป่ยชิง “ท่านแม่ทัพใหญ่ข่าวร้าย! แม่ทัพ 6 นายของเราเพิ่งถูกสังหาร!”

จากนั้น เผ่าพันธุ์ปีศาจตัวนั้นก็สะบัดข้อมือ ร่างของศพ 6 ศพปรากฏบนพื้น

เมื่อเห็นแบบนั้น เป่ยชิงกัดฟันและหันไปพูดกับอู๋ชู่ “คุณพูดว่าอะไรนะ?”

“ทำได้ดี!” อู๋ชู่คำรามอย่างพอใจ

เขาเคยคิดว่าพรรคพวกของตัวเองกำลังเพลี่ยงพล้ำ แต่ลูกน้องของเขาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีประสิทธิภาพไม่เบา พวกนั้นสังหารแม่ทัพของเป่ยชิงไปได้ถึง 6 นาย!

“ดูเหมือนคราวนี้คุณจะเอาจริงนะ ถ้าอย่างนั้นล่ะก็ ผมจะจัดให้”ได้ยินคำพูดของอู๋ชู่ เป่ยชิงระงับอารมณ์ไม่ไหวอีกต่อไป

เขาเงื้อหอกขึ้นและปล่อยพลัง

ฟิ้ววว!

กระแสหอกฉีพุ่งออกมาอย่างเกรี้ยวกราด ด้วยประสิทธิภาพอันน่าทึ่งของหอกนั้น ดูเหมือนเป่ยชิง จะสำเร็จความเข้าใจแก่นสารบางอย่างของศิลปะเพลงหอกแล้ว

ส่วนอู๋ชู่ก็ไม่น้อยหน้า ดูจากพละกำลังของกระแสกระบี่ฉี ก็เห็นได้ชัดว่าเขาสำเร็จความเข้าใจแก่นสารบางอย่างของศิลปะเพลงกระบี่เช่นกัน

ในชั่วพริบตา เผ่าพันธุ์ปีศาจทั้ง 2 ตัวก็ฟาดฟันกันอย่างรุนแรง

“ให้อลหม่านขั้นสุดกันไปเล้ยยยย!”

ท่ามกลางเผ่าพันธุ์ปีศาจที่อยู่ด้านล่าง เผ่าพันธุ์ปีศาจตัวหนึ่งเหยียดริมฝีปากยิ้มขณะมองความวุ่นวายที่อยู่ตรงหน้า

เขาคือจางเซวียน

เขาคือแม่ทัพที่เข้าไปรายงานกับอู๋ชู่และเป่ยชิง

ถ้าเผ่าพันธุ์ปีศาจพวกนี้รวมตัวกันเป็นหนึ่งได้ เขาคงจะสังหารพวกมันได้ยาก แต่เมื่อพวกมันแตกคอกันเอง การสังหารก็ทำได้ง่ายขึ้นมาก โดยเฉพาะเมื่อเขาสามารถปลอมตัวและทำให้พวกมันไม่ทันระมัดระวังได้ ภายในเวลาเพียง 10 นาที จางเซวียนก็สังหารแม่ทัพเผ่าพันธุ์ปีศาจไปแล้วมากกว่า 10 ตัว

ด้วยศพของเหล่าแม่ทัพและความสามารถในการปลอมตัวอย่างน่าทึ่งของจางเซวียน แม้แต่เผ่าพันธุ์ปีศาจที่เฉลียวฉลาดอย่างอู๋ชู่และเป่ยชิงก็ยังควบคุมตัวเองไม่ได้และถูกลากเข้ามาเป็นเหยื่อในการจัดฉากของเขา

พวกมันคงไม่คิดว่าจะมีใครที่สามารถปลอมตัวเป็นลูกน้องของมันได้แนบเนียนอย่างไร้ที่ติแบบนี้

“แม่ทัพโม่ชิง คุณมาทําอะไรที่นี่? พวกเขาต่อสู้กันอยู่ตรงนั้น…”

ขณะที่จางเซวียนกำลังเฝ้าดูความอลหม่าน เผ่าพันธุ์ปีศาจตัวหนึ่งที่สวมหมวกเกราะและชุดเกราะสีดำก็เดินเข้ามาและเงื้อกระบี่ขึ้น

ฟึ่บ!

ในชั่วพริบตา ศีรษะของเผ่าพันธุ์ปีศาจตัวนั้นก็ร่วงลงไปกลิ้งอยู่กับพื้น

หลังจากตัดหัวอีกฝ่ายแล้ว จางเซวียนรีบปลอมตัวเป็นแม่ทัพโม่ชิงและร้องออกมา “แม่ทัพจี้โม่ถูกสังหาร พวกเราต้องล้างแค้นให้เขานะ!”

เสียงของจางเซวียนดังก้องจนได้ยินไปทั่ว

ในเมื่อเกิดความอลหม่านขนาดนี้แล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรที่จะกระพือเปลวเพลิงแห่งความบ้าคลั่งให้ทุกอย่างวอดวายหนักขึ้นกว่าเดิม