เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 795
พูดจบ นักปราชญ์สะบัดมือเบาๆ โลกด้านหน้าราวกับม้วนภาพที่ถูกเขาเปิดออก เผยให้เห็นความว่างเปล่าเป็นแถบ

นักปราชญ์ก้าวเข้าไป แล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอย

เรียกได้ว่ามาเร็วไปเร็ว ลู่ฝานมองตรงที่นักปราชญ์หายไป เงียบไม่พูดอะไรอยู่นาน

“นี่มันแดนระดับไหนกัน”

ลู่ฝานเอ่ยถาม

เสียงเจดีย์เสวียนเก้ามังกรดังขึ้นในตัวลู่ฝาน

“ระดับอริยปราชญ์ ระดับอริยปราชญ์อย่างไม่ต้องสงสัย”

ลู่ฝานกลืนน้ำลาย พูดแบบปลงๆ ว่า “นี่คือระดับอริยปราชญ์เหรอ!”

ทันใดนั้น ลู่ฝานนึกถึงภาพที่นักปราชญ์เกาเท้าเมื่อครู่ ไม่มีท่าทางเป็นยอดฝีมือระดับอริยปราชญ์เลยสักนิด

นี่อาจเป็นคนที่เหนือกว่าคนปกติ นี่คือการเป็นอิสระ!

ลู่ฝานลุกขึ้นเดินกลับไป ท้องฟ้าสดใส แสงอาทิตย์สาดส่อง

ในเมืองหยุนไห่เละเทะไปหมด จนกระทั่งตอนนี้ประชาชนเพิ่งกล้าเดินออกมา แต่ละคนมองลู่ฝานด้วยแววตาเคารพเลื่อมใส

เมื่อเดินมาถึงนอกประตูเมือง พลเอกฉือหลงและคนอื่นกำลังรักษาอาการบาดเจ็บ เมื่อเห็นลู่ฝานกลับมา พวกเขาพากันลุกขึ้นมา รวมไปถึงพลเอกฉือหลงด้วย แต่ละคนมองลู่ฝานอย่างเคารพนอบน้อม

ลู่ฝานงุนงง คิดไม่ถึงว่าพลเอกฉือหลงจะเดินเข้ามาพูดว่า “ผู้ตรวจการลู่ใช่ไหม ผมฉือหลง สวัสดีครับ”

พลเอกฉือหลงคารวะ เขามองลู่ฝานด้วยแววตาเป็นกันเอง คนอื่นพากันทำความเคารพลู่ฝาน ลู่ฝานไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ศิษย์พี่หานเฟิงรีบเดินเข้ามา มองลู่ฝานแล้วพูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน ความแข็งแกร่งของนายทำให้พวกเขาตกใจ ฟันมารทั้งสี่ร่วงลงมาด้วยกระบี่เดียว สุดยอด สุดยอดมาก!”

พูดพลาง ศิษย์พี่หานเฟิงตบไหล่ลู่ฝาน

ลู่ฝานอ้าปากค้าง ในหัวของเขาเหมือนมีฟ้าผ่า

ที่แท้เพราะสิ่งนี้นี่เอง เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมอีซูถึงพูดเรื่องจะลบหรือไม่ลบภาพกับเขาถึงสามรอบ อีกฝ่ายคงหมายถึงภาพนี้

ฟันมารทั้งสี่ด้วยกระบี่เดียว ภาพนี้ใครเห็นก็ต้องตกใจทั้งนั้น

ดูพวกคนด้านหน้านี่สิ ปรมาจารย์บำเพ็ญชี่จ้าวกวง คุณฟู่กุ้ย พลเอกเฟิง พลเอกฉือหลง

แต่ละคนมีวิทยายุทธเหนือกว่าเขาทั้งนั้น แต่ตอนนี้คนพวกนี้มองเขาด้วยท่าทางนอบน้อม ราวกับว่าเขาคือผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง

ลู่ฝานมีสีหน้าประหลาด เขาอยากอธิบายให้คนพวกนี้ฟัง อันที่จริงเขาไม่ได้ทำ
แต่คนพวกนี้ไม่ให้โอกาสเขาได้อธิบาย พลเอกฉือหลงมองลู่ฝานแล้วพูดว่า “บุญคุณที่ผู้ตรวจการลู่ช่วยชีวิต จะไม่ลืมไปตลอดชีวิต ต่อไปถ้าผมช่วยเหลืออะไรได้ รีบบอกผมได้เลย ผมไม่ปฏิเสธ
แน่นอน”

ลู่ฝานรีบพูดว่า “คนที่ช่วยทุกคนคือผู้อาวุโสคนเมื่อกี้ ไม่ต้องขอบคุณผมหรอก”

คุณฟู่กุ้ยเดินเข้ามาพูดว่า “ผู้ตรวจการลู่ถ่อมตัวเกินไปแล้ว ผู้อาวุโสคนเมื่อกี้คงเป็นคนที่ผู้ตรวจการลู่เรียกมาสินะ”

ลู่ฝานอ้าปากค้าง พูดอึกๆ อักๆ ว่า “พูดแบบนี้ก็ได้ แต่……”

ปรมาจารย์บำเพ็ญชี่จ้าวกวงเดินเข้ามาพูดว่า “ผู้ตรวจการลู่ ผมไม่มีอะไร เหลือเพียงทักษะการกลั่นยาเล็กๆ น้อยๆ นี่คือยาเสวียนสิบขวด ผู้ตรวจการลู่ได้โปรดรับไว้ ผมขอตัวลาก่อน!”

ปรมาจารย์บำเพ็ญชี่จ้าวกวงไม่รอให้ลู่ฝานตอบกลับ เอายายัดเข้าไปในอกลู่ฝาน หลังจากนั้นหันหลังเดินออกไป

ผู้ฝึกชี่คนอื่นก็ทำแบบนี้ ไม่นานมียากองเต็มมือลู่ฝาน

พวกผู้ฝึกชี่เป็นคนที่เย่อหยิ่งจริงๆ พวกเขาไม่ชอบติดค้างบุญคุณใคร หลังจากเอาของมีค่าให้ลู่ฝาน พวกเขาจึงกลับไปอย่างโล่งใจ ลู่ฝานไม่รู้จะพูดอะไร ทำได้เพียงมองยาในมือที่เยอะขึ้นเรื่อยๆ อย่างเงียบๆ

โอเค เห็นแก่ยา เรื่องนี้เขาจะยอมรับไว้ก่อน

เพราะถึงเขาพูดว่าไม่ใช่ ก็ไม่มีใครเชื่อไม่ใช่เหรอ