บทที่ 1560 ถึงปรมาจารย์สูงสุด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1560 ถึงปรมาจารย์สูงสุด

 

สงครามขึ้นอยู่กับคู่ต่อสู้

 

หากฟางหยวนเอาชนะผู้อมตะระดับหกหรือผู้อมตะระดับเจ็ด นั่นย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก

 

แต่เมื่อคู่ต่อสู้ของเขาเป็นผู้อมตะระดับแปดที่มีชื่อเสียงเช่นจักรพรรดินีอสูรสายฟ้า มันจึงกลายเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

 

ในความเป็นจริงฟางหยวนไม่ได้มีช่วงเวลาที่ง่ายดาย แต่มันก็เพียงพอแล้วที่จะสร้างชื่อเสียงให้เขาในฐานะผู้อมตะระดับเจ็ดอันดับหนึ่งและขึ้นนําฟงจิวเก้อ

 

หลังการต่อสู้ครั้งนี้ชื่อของฟางหยวนก็ยิ่งโด่งดังมากขึ้น

 

กระทั่งผู้อมตะระดับแปดก็เริ่มให้ความสนใจสัตว์ประหลาดตัวนี้

 

แน่นอนว่านี่เป็นแผนการของฟางหยวน

 

แม้มันจะเป็นความพ่ายแพ้ของฟางหยวนและถูกบังคับให้ล่าถอย เขาก็ยังได้รับผลประโยชน์จากเรื่องนี้

 

ชนะหรือแพ้ไม่สําคัญ มีเพียงความสูญเสียและผลประโยชน์ที่ได้รับจากการต่อสู้เท่านั้นที่มีคุณค่า

 

แม้ฟางหยวนจะแพ้ แต่เขาก็ได้รับกําไรมหาศาล คุณค่าของซี่โครงทั้งสามไม่ได้อยู่ที่ตัวมันเองแต่เป็นความหมายที่ซ่อนอยู่

 

ฟางหยวนใช้การต่อสู้ครั้งนี้สั่นคลอนโลกของผู้อมตะทั้งหมดรวมถึงการแสดงออกที่ซับซ้อนของซูตู๋ ความไม่พอใจของวูหยง และการถอนหายใจของลั่วเว่ยหยิน

 

เมื่อฟางหยวนกลับมายังแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา เขารู้สึกได้ถึงทัศนคติที่ไม่เหมือนเดิมจากผู้คนที่นี่

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ทั้งหมดรวมถึงจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามแสดงออกด้วยทัศนคติที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่วังสวรรค์กําลังหาโอกาสบุกโจมตีพวกเขาอีกครั้ง ดังนั้นฟางหยวนจึงกลายเป็นเสาหลักและสิ่งค้ำจุนจิตใจของพวกเขา

 

ฟางหยวนโจมตีผู้อมตะระดับแปดและยังเป็นผู้เชี่ยวชาญท่ามกลางผู้อมตะระดับแปดเช่น จักรพรรดินีอสูรสายฟ้า

 

พลังการต่อสู้ของเขาปรากฏต่อหน้าทุกคน แล้วตอนนี้ผู้ใดจะสนใจการบ่มเพาะระดับเจ็ดของเขา?

 

ด้วยเหตุนี้เมื่อฟางหยวนกลับมาถึงแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา คนเหล่านี้จึงออกมาต้อนรับเขาอย่างกระตือรือร้น

 

อย่างไรก็ตามทัศนคติของฟางหยวนค่อนข้างเย็นชา เขากล่าวเพียงไม่กี่คํากับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา ปิงหยวน และคนอื่นๆ ขณะที่เขาพยักหน้าให้เซี่ยเอ๋อ นี่ทําให้นางต้องก้มศีรษะลงด้วยความเขินอาย ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หิมะคนอื่นๆเผยรอยยิ้มด้วยความยินดีเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เสนอให้จัดงานเลี้ยงต้อนรับฟางหยวนแต่ฟางหยวนปฏิเสธโดยไม่ลังเล

 

“สถานการณ์ในเวลานี้ค่อนข้างอันตราย สิ่งสําคัญในตอนนี้คือการใช้เวลาทุกนาทีให้คุ้มค่าที่สุดเพื่อก้าวข้ามภัยอันตรายในครั้งนี้” ฟางหยวนกล่าวอย่างเฉยเมยแต่ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ทุกคนต่างพยักหน้าเห็นด้วย

 

สถานะของฟางหยวนเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์

 

ผู้อมตะเหล่านี้ปฏิบัติกับเขาในฐานะผู้อมตะระดับแปด ตอนนี้พวกเขาต้องก้มศีรษะลงและแสดงทัศนคติของผู้น้อย

 

ด้านหนึ่งเป็นเพราะความแข็งแกร่งของฟางหยวนที่สามารถโจมตีจักรพรรดินีอสูรสายฟ้า ในทางกลับกันมีศัตรูตัวฉกาจอยู่ตรงหน้าพวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากฟางหยวน

 

“ทุกคนกลับไปได้ ข้าต้องคุยกับผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งเป็นการส่วนตัว” ฟางหยวนโบกมือให้กลุ่มผู้อมตะกลับไปโดยปราศจากความสุภาพ

 

จากนั้นฟางหยวนกล่าวกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา “ข้าเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายหลางหยา นอกจากนั้นข้ายังเป็นสมาชิกพันธมิตรสีเผ่าพันธุ์”

 

คํากล่าวเหล่านี้ทําให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารู้สึกดีมาก นี่ทําให้ความอึดอัดใจของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาที่ต้องส่งมอบความหมายที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมลดลงอย่างมาก

 

ผู้อมตะต่างมีไหวพริบและเร่งจากไป

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคว้าแขนของฟางหยวนและหายไปจากจุดนั้นก่อนจะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในเมืองเมฆาที่หนึ่ง

 

“ด้วยวิญญาณอมตะสัมผัสแห่งเต๋าที่ทําให้สามารถมองเห็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า เราพบว่าพวกเขาได้เตรียมการบางอย่างไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาจริงๆ เราต้องกําจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่อันตรายเหล่านั้นเป็นอันดับแรกหากเราต้องการย้ายแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวด้วยความกังวล

 

ฟางหยวนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง ด้วยความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของท่าน การปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเหล่านี้ควรเป็นความสามารถพิ เศษของท่านมิใช่หรือ?”

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวด้วยน้ำเสียงโศกเศร้า “วังสวรรค์ก็คือวังสวรรค์ วิธีการของพวกเขาผิดปกติเป็นอย่างยิ่ง ข้าใช้วิธีเกือบทั้งหมดแล้วแต่ยังไม่สามารถทําสิ่งใดกับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเหล่านั้น”

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายแหลมคม

 

วังสวรรค์เตรียมตัวมาดีจริงๆ เนื่องจากความพร้อมของพวกเขา พวกเขาจึงไม่กังวลว่าจะถูกค้นพบและไม่กลัวว่ามันจะถูกทําลาย บางทีเทพธิดาจื่อเว่ยอาจพิจารณาถึงทักษะของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไว้แล้ว

 

“ข้าสงสัยว่าท่าไม้ตายอมตะชําระล้างตัวเองของข้าจะมีผลหรือไม่?” ฟางหยวนคิดและค่อนข้างมั่นใจกับวิธีนี้หลังจากที่เขาสามารถกําจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูลของเทพธิดาจื่อเว่ย

 

แต่เขายังไม่ต้องการทดลองในเวลานี้

 

เขากล่าวกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา “ในกรณีนี้โปรดนําความหมายที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมให้ข้า เมื่อข้ากลายเป็นถึงปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม ข้าจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างแน่นอน”

 

การแสดงออกของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเปลี่ยนไปทันที ความหมายที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเป็นสมบัติล้ำค่าของเขา เมื่อเขาต้องนํามันออกมามอบให้ฟางหยวน เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้สึกไม่สบายใจและไม่เต็มใจ

 

อย่างไรก็ตามเนื่องจากเขาทําข้อตกลงกับฟางหยวนไว้แล้วและด้วยสถานการณ์ที่เลวร้าย แม้เขาจะไม่เต็มใจ เขาก็ทําได้เพียงพยักหน้าเท่านั้น

 

หลังจากไม่นานฟางหยวนก็ได้เห็นความหมายที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของบรรพชนผมยาว

 

ความหมายที่แท้จริงคือเจตจํานงรูปแบบหนึ่ง

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ฟางหยวนเคยเห็นความหมายที่แท้จริงที่สามารถแสดงรูปลักษณ์ออกมาอย่างชัดเจน ความหมายที่แท้จริงนี้อยู่ในรูปลักษณ์ของบรรพชนผมยาวที่นั่งไขว้ขาปิดเปลือกตา ร่างกายของเขาส่องประกายระยิบระยับเหมือนเพชร

 

เจตจํานงทั่วไปสามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวของพวกมันเองโดยการใช้จ่ายความคิด แต่ความหมายที่แท้จริงนี้สงบนิ่งราวกับรูปปั้น

 

อย่างไรก็ตามนี่เป็นเหตุผลที่ความหมายที่แท้จริงนี้สามารถคงอยู่มาอย่างยาวนาน

 

“รับไป” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาแสดงออกด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อนก่อนจะถอนหาย ใจกล่าวกับฟางหยวน

 

ฟางหยวนพยักหน้าและก้าวไปข้างหน้า ดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อความหมายที่ แท้จริงของบรรพชนผมยาวพุ่งเข้าสู่จิตใจของเขา

 

แสงระยิบระยับส่องประกายขึ้นในใจของเขาทันที

 

ฟางหยวนเร่งนั่งลงและปิดเปลือกตาทําสมาธิ

 

เขาเริ่มใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาเพื่อดูดซับความหมายที่แท้จริงของบรรพชนผมยาวอย่างต่อเนื่อง

 

ทุกอย่างดําเนินไปอย่างราบรื่น ฟางหยวนใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงเพื่อซึมซับความหมายที่ แท้จริงของบรรพชนผมยาว

 

นี่คือความเข้าใจทั้งหมดของบรรพชนผมยาวที่มีต่อเส้นทางแห่งการหลอมรวม ตอนนี้มันกลายเป็นรากฐานของฟางหยวนแล้ว!

 

ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของฟางหยวนทะยานขึ้นสู่ระดับถึงปรมาจารย์สูงสุดในครั้งเดียว!

 

“นี่คือการทะยานขึ้นสู่สวรรค์ในขั้นตอนเดียว! กระทั่งในสงครามห้าภูมิภาคที่อาณาจักรแห่งความฝันปรากฏขึ้นมากมาย มันก็ยังไม่สามารถมอบความสําเร็จระดับนี้ให้ข้า!” กระทั่งฟางหยวนก็ยังรู้สึกตื่นเต้น กําไรของเขามหาศาลเกินไปจริงๆ

 

แม้ฟางหยวนจะดูดซับความหมายที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมทั้งหมดแล้ว แต่เขายังนั่งอยู่ที่เดิมโดยไม่ขยับเขยื้อนและลิ้มรสความหอมหวานของมันอย่างเต็มที่

 

เส้นทางแห่งการหลอมรวม!

 

นี่เป็นเส้นทางที่พิเศษมาก

 

ผู้อมตะที่บ่มเพาะบนเส้นทางสายนี้มีความเชี่ยวชาญมากที่สุดในการหลอมรวมวิญญาณ

 

วิธีการบ่มเพาะของผู้ใช้วิญญาณมีสามองค์ประกอบ เลี้ยงดู ใช้งาน และหลอมรวมวิญญาณ

 

ตอนนี้ในแง่ของการหลอมรวมวิญญาณ ฟางหยวนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่ไปแล้ว ท่ามกลางผู้อมตะทั้งห้าภูมิภาคอาจไม่มีผู้ใดที่สามารถแข่งขันกับเขา

 

“อย่างไรก็ตามระดับความสําเร็จอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ สิ่งที่ข้าขาดตอนนี้คือประสบการณ์ในการหลอมรวม วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม และท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม” ฟางหยวนเข้าใจเรื่องนี้อย่างชัดเจน

 

“แต่ตราบเท่าที่ข้าฝึกฝนต่อไป ความก้าวหน้าของข้าจะรวดเร็วมาก ท้ายที่สุดตอนนี้ ข้าก็เป็นถึงปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม!”

 

“ผู้ใดจะคิดว่าหลังจากความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการโจรกรรมของข้าบรรลุระดับปรมาจารย์เอก ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของข้าจะกลายเป็นระดับถึงปรมาจารย์สูงสุดในเวลาอันสั้น!”

 

ฟางหยวนไตร่ตรองและตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

 

เพียงการชําเลืองมองเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณระดับมนุษย์เล็กน้อย เขาก็สามารถเข้าใจมันได้อย่างลึกซึ้งและยังสามารถยกระดับมันได้อย่างเหมาะสม

 

เขาดูเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะที่มีเนื้อหามากกว่าเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณ ระดับมนุษย์และสามารถทําความเข้าใจมันได้อย่างรวดเร็วด้วยการประมวลผลเพียงเล็กน้อย

 

สําหรับเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับแปดที่ซับซ้อน ฟางหยวนจําเป็นต้องใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาเพื่อไตร่ตรอง แต่เนื่องจากความสําเร็จระดับกึ่งปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม ความคิดของเขาจึงไม่มีข้อผิดพลาด

 

บางครั้งเขาไม่จําเป็นแม้แต่ต้องอนุมาน เขาสามารถหลอมรวมวิญญาณอมตะหรือตัดสินว่าเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะนั้นๆใช้งานได้หรือไม่ด้วยสัญชาตญาณเท่านั้น

 

สําหรับเคล็ดลับที่ไม่สมบูรณ์ เขาไม่ต้องใช้แสงแห่งปัญญาในการอนุมานอีกต่อไป ตอนนี้ความยากของมันลดลงเป็นอย่างมาก

 

“ในประวัติศาสตร์มีปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเพียงสามคน ตอนนี้ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของข้าอยู่ในระดับถึงปรมาจารย์สูงสุด ข้าควรถูกพิจารณาว่าอยู่ในสิบอันดับแรกท่ามกลางผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมตลอดกาล

 

พลังการต่อสู้ของฟางหยวนอาจไม่เปลี่ยนแปลง แต่มุมมองของเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป มันแทบยกระดับมุมมองบนเส้นทางแห่งการบ่มเพาะของเขาขึ้นสู่จุดสูงสุดทันที

 

ด้วยการยืนอยู่บนที่สูง

 

ข้อมูลเชิงลึกมากมายปรากฏขึ้นในใจของเขา

 

วิถีของการบ่มเพาะประกอบด้วยการเลี้ยงดู การใช้งาน และการหลอมรวม แท้จริงแล้วมันเป็นหนึ่งเดียวกัน

 

“การเลี้ยงดูวิญญาณเกี่ยวข้องกับการหลอมรวม การหลอมรวมวิญญาณต้องเข้าใจการใช้งาน และการใช้งานวิญญาณเกี่ยวเนื่องกับการเลี้ยงดูและการหลอมรวม

 

ฟางหยวนในปัจจุบันสามารถดูเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณและบอกได้ทันทีว่าวิญญาณ ดวงนั้นควรเลี้ยงดูอย่างไรและใช้งานอย่างไร

 

ด้วยความเข้าใจของเขา เขายังสามารถอนุมานวิธีการหลอมรวมวิญญาณได้จากวิธีการเลี้ยงดูและการใช้งานมันอีกด้วย

 

“เดี๋ยว! ข้าเข้าใจแล้ว ในความเป็นจริงท่าไม้ตายทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นท่าไม้ตายระดับมนุษย์ หรือท่าไม้ตายอมตะ พวกมันถือเป็นเคล็ดลับการหลอมรวมที่ไม่สมบูรณ์ทั้งสิ้น!

 

ร่างกายของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้นเมื่อเขาเข้าใจประเด็นนี้