EG บทที่ 756 การประชุมคณะกรรมการบริษัทไมโครซอฟท์

 

เฝิงหยู่ไม่ได้แก้ตัวเมื่อเขาบอกว่าเขามีธุระบางอย่าง เขามีสิ่งที่ต้องไปทำจริงๆ เขาต้องการอ่านข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกของคณะกรรมการทั้งหมด

 

เฝิงหยู่จำหนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการในยุคนี้ได้เพียงคนเดียว ซึ่งก็คือ สตีฟ บอลเมอร์ เขาจะเป็น ซีอีโอ ของ ไมโครซอฟท์ในอนาคต เขาไม่ได้เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและไม่ได้ลงทุนเงินสักแดงเดียว แต่เขาได้รับหุ้นของบริษัท

 

ในช่วงเริ่มต้นของไมโครซอฟท์ บิล เกตส์ถือหุ้น 49% และพอล อัลเลนเป็นเจ้าของหุ้น 35% สตีฟ บอลเมอร์ มี 8% และพนักงานที่เหลือมี 8% แน่นอนว่านี่คือหุ้นที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงทั้งหมด

 

ในระหว่างช่วงที่พอล อัลเลนออกจากไมโครซอฟท์ เขาลงทุนในหลายบริษัท แต่บริษัทพวกนี้ส่วนใหญ่ล้มเหลว เมื่อปีที่แล้ว บริษัทโทรทัศน์แห่งหนึ่งที่เขาลงทุนปฏิเสธคำขอของเขาในการเพิ่มเงินลงทุน ด้วยความโกรธ เขาขายหุ้นทั้งหมดทิ้ง แต่หลังจากที่เขาขายหุ้นไปแล้ว มูลค่าของบริษัทนั้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 50%

 

พอล อัลเลนโต้เถียงกับบิล เกตส์มากกว่าหนึ่งครั้ง บิล เกตส์ บอกพอลว่าเขาขายหุ้นเพื่อระดมเงินทุนสำหรับการลงทุนของเขาและจะช่วยลดสัดส่วนการลงทุนในบริษัท เขาควรขายหุ้นให้กับบิล เกตส์ แต่พอล อัลเลนรู้สึกว่าเขาเสียสละมาแล้วก่อนหน้านี้ในอดีตและเขาไม่จำเป็นต้องทำอีกครั้ง เขาไม่พอใจเมื่อบิล เกตส์มอบหุ้นจำนวนมากให้แก่สตีฟ บอลเมอร์

 

ตอนนี้สตีฟ บอลเมอร์เป็นรองประธานของไมโครซอฟท์ กรรมการคนอื่นๆ ยกเว้นกรรมการคนหนึ่งจาก บริษัทการลงทุนแห่งหนึ่ง ล้วนดำรงตำแหน่งในฝ่ายบริหารระดับสูง สิ่งที่ทำให้เฝิงหยู่ประหลาดใจก็คือมีกรรมการเพียง 8 คนเท่านั้นในคณะกรรมการบริษัท

 

ดูเหมือนว่าบิล เกตส์ชอบที่จะถูกควบคุม มีกรรมการจำนวนไม่มากและเมื่อพูดมีการตัดสินใจเกิดขึ้น พวกเขาจะตัดสินใจตามเปอร์เซ็นต์ของสัดส่วนการถือหุ้น นั่นหมายความว่าเฝิงหยู่ ซึ่งเป็นเจ้าของหุ้นที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเพียง 2% ไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจอะไรเลย

 

เมื่อชาติที่แล้วของเฝิงหยู่ เมื่อบิล เกตส์ ปลดเกษียณ มีกรรมการเพียง 10 คนในคณะกรรมการบริษัท และ 8 ปีหลังจากนั้น ไมโครซอฟท์ก็เพิ่มจำนวนกรรมการเป็น 11 คน นั่นคือช่วงเวลาที่บิล เกตส์ เป็นเพียงผู้อำนวยการทั่วไปในคณะกรรมการ เขาไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดอีกต่อไป

 

เฝิงหยู่มองสมาชิกทั้งหมดของคณะกรรมการ มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เขาน่าจะดึงมาอยู่ข้างเขาได้ คนๆ นั้นก็คือ สตีฟ บอลเมอร์ เพราะเขาได้รับความไว้วางใจจากบิล เกตส์ และจะเป็น ซีอีโอ ของ ไมโครซอฟท์ ในอีกไม่กี่ปี สิ่งสำคัญที่สุดคือเขาและพอล อัลเลนเข้ากันไม่ได้เลย

 

ถ้าเฝิงหยู่สามารถโน้มน้าวให้สตีฟ บอลเมอร์ ทำการตัดสินใจที่ผิดพลาดได้ เช่น ห้ามไมโครซอฟท์ไม่ให้เข้าสู่ภาคธุรกิจกลุ่มฮาร์ดแวร์ได้ ก็จะเพิ่มโอกาสให้เลอโนโวได้กลายเป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ชั้นนำของโลก!

……

 

ไม่กี่วันต่อมาการประชุมคณะกรรมการของไมโครซอฟท์ก็เริ่มต้นขึ้น กรรมการทุกคนตกใจที่เห็นเฝิงหยู่ในห้องประชุม ชายหนุ่มคนนี้คือใคร? เขาดูเหมือนคนจีนเลย เขาเข้ามาได้อย่างไร?

 

พอล อัลเลนมองไปที่เฝิงหยู่และยิ้มเยาะ สตีฟ บอลเมอร์ ก็มองเฝิงหยู่ ด้วยความสนใจ คนๆ นี้เป็นกรรมการคนใหม่ที่บิล เกตส์พูดถึงใช่หรือเปล่า?

 

กรรมการคนอื่นไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเฝิงหยู่และจะมีสมาชิกใหม่ในคณะกรรมการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สมาชิกใหม่ที่ว่าก็คือชายหนุ่มคนนี้นั่นเอง

 

กรรมการคนอื่นเห็นประธานกรรมการพยักหน้าและยิ้มให้ชายหนุ่มคนนั้น นั่นหมายความว่าพวกเขารู้จักกัน จากปฏิกิริยาของพอล อัลเลน เขาก็น่าจะรู้จักคนๆ นี้เหมือนกัน

 

พวกเขาอยากรู้ว่าเขาเป็นใครและเขามาทำอะไรในการประชุมคณะกรรมการครั้งนี้

 

“ผมมีเรื่องที่จะประกาศในการประชุมครั้งนี้ เฝิงหยู่จากตะวันออกไกลเป็นนักธุรกิจร่ำรวยผู้ลึกลับที่ซื้อหุ้นของเรา”

 

กรรมการรู้สึกประหลาดใจและมองหน้าเฝิงหยู่ เฝิงหยู่แค่พยักหน้าเท่านั้นและไม่ลุกขึ้นยืนทักทายทุกคน กรรมการที่เหลือไม่ได้สนใจ ท้ายที่สุดแล้วเฝิงหยู่ก็รวยกว่าพวกเขา

 

แต่พอล อัลเลนโกรธ เขารู้สึกว่าเฝิงหยู่หยาบคายมาก แต่เขาไม่ได้คิดถึงตัวเอง เขาก็ดูถูกกรรมการคนอื่นเหมือนกัน

 

“พอลกับผมแลกเปลี่ยนหุ้นบางส่วนกับคุณเฝิงประมาณ 1% นั่นหมายความว่าตอนนี้เฝิงหยู่เป็นเจ้าของหุ้นที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง 2% ดังนั้นผมจึงเสนอชื่อเฝิงหยู่ให้เข้ามาเป็นคณะกรรมการบริษัทครับ”

 

บิล เกตส์ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดและมีอำนาจในการเสนอชื่อเฝิงหยู่ให้เข้ามาเป็นคณะกรรมการบริษัท

 

หลายคนคิดว่าสมาชิกทุกคนในคณะกรรมการจะต้องเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท แต่นี่ไม่เป็นความจริง คณะกรรมการจะถูกจัดตั้งขึ้นในระหว่างการประชุมผู้ถือหุ้นผ่านการลงคะแนน โดยปกติผู้ถือหุ้นจะเสนอชื่อตัวเอง แต่ก็มีสมาชิกของคณะกรรมการที่ไม่ใช่ผู้ถือหุ้น อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดาทั่วไปในประเทศจีน

 

โดยทั่วไป ผู้ที่ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นที่เข้ามาเป็นคณะกรรมการบริษัทจะได้รับรางวัลเป็นหุ้นของบริษัทเป็นสิ่งตอบแทน ในที่สุดพวกเขาจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท

 

นี่คือเหตุผลที่ว่าถึงแม้ว่าบิล เกตส์ ไม่ได้เสนอชื่อเฝิงหยู่ แต่เฝิงหยู่ก็ยังสามารถเสนอชื่อตัวเองได้ แต่ถ้าบิลเกตส์ปฏิเสธคำขอของเฝิงหยู่ เฝิงหยู่ก็จะไม่สามารถเข้ามาเป็นสมาชิกในคณะกรรมการได้

 

ที่จริงแล้ว บิล เกตส์ และพอล อัลเลน หรือ สตีฟ บอลเมอร์ สามารถตัดสินใจได้ว่าจะให้เฝิงหยู่ เข้ามาเป็นคณะกรรมการบริษัทได้หรือไม่ วันนี้บิล เกตส์ ไม่ได้เสนอวาระเรื่องที่เฝิงหยู่เข้าร่วมคณะกรรมการ ซึ่งเป็นการบอกโดยนัยแก่ทุกคนว่าถ้ามีใครไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ก็เปล่าประโยชน์

 

ผู้ถือหุ้นคัดเลือกคณะกรรมการให้เป็นผู้นำของบริษัท สมาชิกยังสามารถถูกถอดถอนได้ ในอดีต กรรมการบางคนของไมโครซอฟท์ก็เคยถูกถอดออกจากคณะกรรมการมาแล้ว คนที่ค้านกับมติของบิล เกตส์ จะถูกถอดถอนทั้งหมด

 

บิล เกตส์ เป็นทั้งผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด ประธานกรรมการ ประธานบริษัท และซีอีโอของบริษัท ในบริษัทขนาดเล็กหลายแห่ง ประธานและซีอีโอคือคนๆ เดียวกัน แต่องค์กรขนาดใหญ่ส่วนใหญ่มีโครงสร้างที่ซับซ้อนกว่านั้น นั่นเป็นเหตุผลที่คณะกรรมการจะแต่งตั้งคนสองคนเพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการบริษัท และในเวลาเดียวกันก็ให้สามารถตรวจสอบซึ่งกันและกันได้

 

สตีฟ บอลเมอร์ เป็นรองประธาน แต่ขณะนี้เขากำลังทำหน้าที่ในฐานะประธาน

 

หลังจากที่สมาชิกได้ยินสิ่งที่บิล เกตส์พูด พวกเขาก็ปรบมือต้อนรับเฝิงหยู่ มีเพียงพอล อัลเลนเท่านั้นที่ยังคงจิบกาแฟของเขาต่อไป

 

ทุกคนมองเฝิงหยู่ คนๆ นี้จะเป็นกรรมการคนล่าสุดของคณะกรรมการหรอ? ดูเหมือนว่าบิล เกตส์จะสนับสนุนเขาเต็มที่ ซึ่งตรงกันข้ามกับพอล ชายสองคนนี้มีความขัดแย้งกันอีกแล้วหรอ?

 

“โอเคครับ พิธีต้อนรับจะสิ้นสุดลงแค่นี้ ตอนนี้ผมแต่งตั้งคุณเฝิงหยู่เป็นรองประธานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก  เขาจะรับผิดชอบธุรกิจในประเทศจีน”

 

ทุกคนเข้าใจทันทีว่าทำไมกรรมการคนใหม่นี้จึงเป็นคนจีน เขาน่าจะมาจากประเทศจีน ไมโครซอฟท์กำลังจะเข้าสู่ตลาดจีนหรอ?

 

สตีฟ บอลเมอร์ ถามว่า “เขาจะรับผิดชอบธุรกิจอะไรครับ?”

 

เฝิงหยู่ตอบก่อนที่บิล เกตส์จะพูด “ทุกอย่างครับ ผมจะตัดสินใจเกี่ยวกับธุรกิจทั้งหมดในประเทศจีนและจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ ของ บริษัท”

 

สตีฟ บอลเมอร์ ขมวดคิ้ว ประเทศจีนเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับไมโครซอฟท์ มันเร็วเกินไปหรือเปล่าที่จะส่งมอบธุรกิจให้กับชายหนุ่มคนนี้? แม้ว่าเฝิงหยู่จะเป็นผู้ถือหุ้นด้วยก็ตาม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นผู้จัดการที่ดี

 

ทำไมบิล เกตส์ จึงเห็นด้วยที่จะให้เขาเป็นผู้รับผิดชอบโดยรวมในประเทศจีน ชายหนุ่มคนนี้เป็นคนพิเศษในประเทศจีนหรอ?

 

บิล เกตส์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “คุณเฝิงสามารถช่วยให้ไมโครซอฟท์เข้าครอบครองตลาดจีนทั้งหมดได้ ไม่ต้องกังวลนะครับ มีเรื่องอะไรจะพูดคุยอีกมั้ยครับ? ถ้าไม่มี ผมขอจบการประชุมแต่เพียงเท่านี้”

 

การประชุมคณะกรรมการครั้งนี้จัดขึ้นสำหรับเฝิงหยู่โดยเฉพาะ

 

สตีฟ บอลเมอร์ สังเกตเห็นว่าเฝิงหยู่ ยิ้มให้เขาสองสามครั้งแล้ว และเขาก็งงมาก…….