แดนนิรมิตเทพ บทที่ 946
เฉินเข่อซิน “……”

เฉินเข่อซินสีหน้าอึมครึม ก่นด่าในใจว่า “ไอ้หมิงเจ๋อเซวียนทำบ้าอะไร ทำไมไม่ขยับล่ะ”

อันที่จริงหมิงเจ๋อเซวียนร้อนใจกว่าใคร ต่อยและเตะม้าตัวนั้นไม่หยุด “ลุกขึ้นมา ไอ้ม้าเวร รีบลุกขึ้นมา!”

เมื่อเฉินโม่ขี่ม้าตัวนั้นอย่างสบายๆ ผ่านหน้าหมิงเจ๋อเซวียน หมิงเจ๋อเซวียนทำได้เพียงเงยหน้ามองเฉินโม่ เหมือนคนธรรมดาเงยหน้ามององค์เทพ

เฉินโม่มองหมิงเจ๋อเซวียนอย่างราบเรียบแวบหนึ่ง สีหน้านิ่ง แต่ในสายตาของหมิงเจ๋อเซวียน กลับคิดว่ามีการเยาะเย้ยมากมายไม่สิ้นสุดแฝงอยู่ในสีหน้าของเฉินโม่

จนเฉินโม่ขี่ม้าครบสามรอบ ม้าของหมิงเจ๋อเซวียนเพิ่งลุกขึ้นมา บรรทุกหมิงเจ๋อเซวียนวิ่งมาถึงเส้นชัย

หมิงเจ๋อเซวียนมองเฉินโม่ด้วยสีหน้าอึมครึม “นายใช้วิธีอะไรกันแน่ ทำไมจู่ๆ ม้าของฉันก็นิ่งไป”

เฉินโม่ปรายตามองเขานิ่งๆ ไม่ตอบอะไร พูดด้วยเสียงเฉยเมยว่า “นายแพ้แล้ว!”

“ฉันไม่ยอม!” หมิงเจ๋อเซวียนแผดเสียงด้วยความโมโห

“งั้นจะเอาอีกรอบไหม ฉันสามารถทำให้นายยอมรับจากใจจริงเลย!” เฉินโม่พูดอย่างนิ่งๆ

“นาย……” หมิงเจ๋อเซวียนไม่มีความมั่นใจแล้วจริงๆ เขาคิดว่าการที่ม้าของตัวเองไม่ขยับ ต้องเป็นเพราะเฉินโม่ทำอะไรบ้าๆ แน่นอน ถึงแข่งกันอีก เขาก็แพ้เหมือนเดิม

“ได้ ฉันยอมแพ้!” หมิงเจ๋อเซวียนถอนหายใจ สีหน้ายอมรับชะตากรรม

เฉินโม่ก็ไม่พูดไร้สาระกับเขา พูดอย่างราบเรียบว่า “จำไว้ ต่อไปอย่าโผล่มาอยู่ต่อหน้าฉันอีก”

ใบหน้าหล่อเหลาของหมิงเจ๋อเซวียน แดงก่ำขึ้นมาทันที

เฉินโม่ขี่ม้ากลับมาข้างเฉินเข่อเอ๋อร์ แล้วพลิกตัวลงจากม้า

เฉินเข่อเอ๋อร์ดีใจจนวิ่งเข้ามา จับแขนของเฉินโม่อย่างสนิทสนม ยิ้มแล้วพูดว่า “พี่เฉินโม่ พี่เก่งสุดยอดเลย!”

พูดจบ เฉินเข่อเอ๋อร์แอบมองรอบๆ ใช้โอกาสตอนคนยังไม่ทันตั้งตัว ถามเบาๆ ว่า “พี่เฉินโม่ พี่ทำได้ยังไงกันแน่ ทำไมจู่ๆ ม้าของเขาก็นิ่งไปล่ะ”

เฉินโม่หัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “ที่จริงแล้วง่ายมาก ถ้าเธออยากเรียนฉันสอนให้ได้!”

“จริงเหรอ งั้นก็ดีมากเลย!” เฉินเข่อเอ๋อร์ดีใจจนกระโดดโลดเต้น

“เข่อเอ๋อร์ อย่าฟังคำพูดไร้สาระของเขา ครั้งนี้ถือว่าเขาโชคดี เจอหมิงเจ๋อเซวียนเลือกม้าป่วยพอดี ครั้งหน้าเขาไม่โชคดีขนาดนี้หรอก” ไม่เห็นเฉินโม่อับอาย เฉินเข่อซินกลุ้มใจมาก

เฉินเข่อเอ๋อร์มองพี่สาวด้วยรอยยิ้มร้ายกาจเต็มใบหน้า ยิ้มแล้วพูดว่า “พี่ บางครั้งโชคก็เป็นความสามารถอย่างหนึ่งนะ!”

“เธอ……” เฉินเข่อซินหมดคำจะพูด ถลึงตาใส่เฉินโม่ แล้วไม่พูดอะไรอีก

ตอนนี้ที่สนามกอล์ฟซึ่งอยู่ไม่ไกล มีวัยรุ่นแต่งตัวดูดีกลุ่มหนึ่ง กำลังยืนล้อมทักทายชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่ง อายุประมาณ 24-25 ปี

ชายหนุ่มคนนั้นยิ้มบางๆ รับมืออย่างสุภาพ เห็นได้ชัดว่าชำนาญและมีประสบการณ์จริง

แต่เมื่อสายตาของชายหนุ่มคนนั้น เห็นเฉินโม่ที่สนามม้า เขาอึ้งเล็กน้อย ดีใจขึ้นมาในใจทันที

“ทุกท่าน ผมเจอคนรู้จัก คงไม่ได้อยู่ต่อด้วยแล้ว!” ชายหนุ่มคนนั้นกล่าวขอโทษ ลุกขึ้นเดินไปทางเฉินโม่

“เชิญเลยครับคุณชายเอียน!” วัยรุ่นสองสามคนพูดอย่างเกรงใจมาก

เอียนซื่อหรงมาถึงสนามม้าอย่างรวดเร็ว เดินไปทางเฉินโม่ทันที

ตอนเห็นเขา พวกหมิงเจ๋อเซวียนมีสีหน้าดีใจมาก

“พี่หมิง นั่นคุณชายใหญ่ตระกูลเอียนไม่ใช่เหรอ” เพื่อนของหมิงเจ๋อเซวียนคนหนึ่ง พูดเบาๆ ด้วยความดีใจ

หมิงเจ๋อเซวียนที่กำลังมีใบหน้ากลุ้มใจ ช้อนตาขึ้นมอง จู่ๆ เขาสีหน้ายินดีอย่างอดไม่ได้ “คุณชายเอียนจริงๆ ด้วย!”

“เหมือนเขากำลังมาทางนี้ เราเข้าไปทักทายเขาไหม” ชายหนุ่มคนนั้นถามอย่างตื่นเต้น

หมิงเจ๋อเซวียนอับอายต่อหน้าเฉินโม่ แต่ไม่ได้หัวร้อนจนหน้ามืดตามัว แม้พวกเขามีพื้นฐานครอบครัวไม่ธรรมดา แต่เมื่อเทียบกับตระกูลเอียนแห่งยานจิง ยังห่างกันเยอะมาก

ดังนั้นถ้าพวกเขารีบร้อนไปทำความรู้จักเอียนซื่อหรง ไม่แน่อาจทำให้อีกฝ่ายรู้สึกต่อต้าน

“เดี๋ยวก่อน ดูก่อนว่าคุณชายเอียนจะทำอะไร”

“อืม”

บทที่ 945

บทที่ 947