ตอนที่ 937 เดิมพันใหม่ในบ่อนพนัน

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

เมื่อเรื่องราวของกองทัพอู่เว่ยแพร่มาถึงเมืองหลวง ทุกคนก็มองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาเลย เพราะเมืองหลวงไม่เคยเผชิญกับสงครามมาเป็นเวลานานแล้ว 

 

 

สงครามระหว่างดินแดนทางเหนือและดินแดนทางตะวันตกแผ่ขยายไปทั่วทั้งจักรวาลหลี่ว์มานานแล้ว และความแข็งแกร่งที่กองทัพเฮยอวี่เผยออกมาให้เห็นในระดับยุทธศาสตร์จากการปิดล้อมก็ทำให้ทุกคนรู้สึกสนใจ 

 

 

อย่างไรก็ตาม กองทัพเฮยอวี่ กองทัพเดียวกันนี้กลับต้านทานกองทัพเล็กๆ ที่ประกอบไปด้วยทหารเดนตายเพียงเท่านั้นไม่ได้ 

 

 

เมื่อคนที่รู้สถานการณ์พูดถึงกองทัพอู่เว่ย พวกเขาก็จะพูดว่า “เดิมทีกองทัพอู่เว่ยนั้น เป็นกองทัพที่ประกอบไปด้วยพวกคนพเนจร ผู้คนทางเหนือจะรู้ว่าพวกเขาไม่เป็นระเบียบ แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะเอาชนะกองทัพเฮยอวี่ได้ด้วยกำลังพลเพียงสามพันนาย คนพเนจรเหล่านี้ล้วนไม่กล้าต่อสู้ พวกเขาจะเอาแต่หลบหนีจากสนามรบเท่านั้น ไม่รู้ว่า เวลานี้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นมาได้อย่างไร” 

 

 

ส่วนความอ่อนแอของกองทัพอู่เว่ยในอดีตนั้น ทุกคนล้วนพูดให้เห็นภาพที่ชัดเจนของพวกเขาออกมาได้อย่างง่ายดาย ราวกับว่ายิ่งพวกเขาอธิบายว่ากองทัพอู่เว่ยอ่อนแอมากมายเท่าใด สงครามครั้งนี้ก็จะยิ่งน่าตื่นเต้นเร้าใจมากขึ้นเท่านั้น 

 

 

เพราะสงครามไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกเขา ดังนั้นไม่ว่าสงครามนั้นจะถูกหรือผิด และจะคว้าชัยหรือพ่ายแพ้ก็ล้วนไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือ มันน่าสนใจหรือไม่! 

 

 

ในเมืองหลวงมีบุตรธิดาของขุนนางผู้มั่งคั่งเป็นจำนวนมาก พวกเขาส่วนใหญ่มักอ่านบทกวีขององค์ราชา พวกเขาล้วนทำตัวดังผู้มีอารยะชื่นชมทหารหาญที่ป้อมปราการชายแดนว่าเก่งกาจ แต่น้อยคนนักที่จะอยู่ในสนามรบจริงๆ 

 

 

และเพื่อดึงดูดใจลูกค้าผู้มั่งคั่งเหล่านี้ แน่นอนว่านักเล่าเรื่องที่โรงน้ำชาและร้านสุราย่อมจะพูดคุยถึงอะไรก็ตามที่กำลังเป็นเรื่องที่ร้อนแรงที่สุดในขณะนี้ 

 

 

เวลานี้ ในร้านสุราที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง มีชายชราผู้หนึ่งนั่งอยู่บนเวทีและลูบเคราของเขาขณะกล่าวว่า “ผู้นำกองทัพอู่เว่ย เย่เสี่ยวหมิง ถือง้าว…”  

 

 

“ไม่ พูดผิดแล้ว!” จู่ๆ เด็กสาวคนหนึ่งก็ลุกขึ้น “ลุงของฉันไปทางเหนือมาเมื่อเดือนที่แล้ว เขาได้รับข่าวจากกองทัพเฮยอวี่ว่า เวลานี้ผู้บัญชาการของกองทัพอู่เว่ยถูกแทนที่ด้วยเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มีแซ่ชื่อหลี่ว์! และยิ่งกว่านั้นคือ เขาไม่ได้ใช้ง้าวในการต่อสู้!” 

 

 

ในช่วงเวลานั้น การเล่าเรื่องกลายเป็นประดักประเดิดที่สุด คนที่แต่งเรื่องและพูดเกินจริงส่วนใหญ่ต่างก็กลัวว่าในหมู่ผู้ฟังจะมีผู้ที่รู้ข้อเท็จจริงของสถานการณ์ นักเล่าเรื่องตัวเล็กๆ อย่างเขาจะเข้าไปสำรวจอะไรในสนามรบได้อย่างไรเล่า? 

 

 

ภายใต้สถานการณ์ปกติ พวกเด็กๆ ในเมืองหลวงเหล่านี้จะไม่รู้เรื่องเช่นนี้กัน เพราะพวกขุนนางชั้นสูงในเมืองหลวงจะไม่สนใจกองทัพเล็กๆ อย่างทัพอู่เว่ย ดังนั้นลูกหลานของพวกเขาจึงไม่รู้เรื่องราวใดๆ 

 

 

แต่คราวนี้ มีผู้คนให้ความสนใจเกี่ยวกับสถานการณ์ เพราะตัวเอกของเรื่องนี้คือ กองทัพอู่เว่ยซึ่งน่าทึ่งมากจนแม้แต่ขุนนางชั้นสูงก็ยังถือเป็นเรื่องชูโรง 

 

 

นักเล่าเรื่องลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ขอบังอาจถามหญิงสาวผู้กล้าคนนี้สักหน่อย คุณได้ยินอะไรมาบ้างหรือ? แซ่หลี่ว์ เป็นแซ่ธรรมดา แล้วคุณรู้ชื่อจริงของเขาหรือไม่?” 

 

 

“ฉันไม่รู้ชื่อจริงของเขาชัดเจน แต่รู้ว่าอาวุธที่เขาใช้ขณะต่อสู้เป็นเพียงแค่กิ่งไม้เท่านั้น!” เด็กสาวกล่าวพูดอย่างโอ้อวด “ว่ากันว่าเด็กหนุ่มคนนี้หน้าตาดีและมีระดับการฝึกบำเพ็ญที่สูงมาก เขาไม่ได้ด้อยไปกว่าเหล่าอัจฉริยะในเมืองหลวง และยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีสายเลือดที่ดีกว่า!” 

 

 

บรรดาลูกหลานขุนนางที่เฝ้าคอยสังเกตการณ์อยู่ต่างก็ไม่รู้สึกยินดี ผู้บัญชาการของกองทัพอู่เว่ยที่แตกสลายอยู่ในระดับเดียวกับพวกเขาได้อย่างไร … และว่ากันว่า เขาหน้าตาดีมากด้วยหรือ? ตอนต่อสู้อยู่จะดีได้สักแค่ไหนเชียว? 

 

 

ยิ่งกว่านั้นยังกล่าวกันว่า เขายังใช้กิ่งไม้เป็นอาวุธ หากเป็นเรื่องจริงก็แสดงว่าเขาอวดเก่งวางท่ามาก! 

 

 

มีอัจฉริยะนับไม่ถ้วนในเมืองหลวงที่อวดดี แต่ผู้บัญชาการของกองทัพอู่เว่ยเป็นคนแรกที่กล้าอวดวางท่าใช้กิ่งไม้ในการต่อสู้ เขาคิดว่าเป็นปรมาจารย์เจ้าสำนักกระท่อมกระบี่หรือ? 

 

 

เพียงเวลาชั่วข้ามคืน นักเล่าเรื่องทั้งหมดในเมืองหลวงก็เปลี่ยนเรื่องราวของพวกเขา หลี่ว์ซู่ถูกเปลี่ยนจากนักรบผู้ทรงพลังในกองทัพมาเป็นคนที่ชื่นชอบในบทกวี 

 

 

และในคืนเดียวกันนั้น บรรดาเด็กสาวๆ ในเมืองหลวงต่างก็เริ่มปรารถนาถึงเด็กหนุ่มคนนี้ แต่ในทางกลับกัน พวกผู้ชายในเมืองหลวงต่างก็ไม่พอใจหลี่ว์ซู่เป็นอย่างมาก หากเขามาที่เมืองหลวง พวกเขาก็จะจัดการสั่งสอนให้เขาทำตัวดีๆ สักหน่อย! 

 

 

ทันใดนั้นก็มีการเดิมพันใหม่ตามบ่อนพนันใหญ่ๆ ในเมืองหลวง พวกเขาเดิมพันกันว่า กองทัพอู่เว่ยจะรอดพ้นจากการถูกกองทัพเฮยอวี่ปิดล้อมได้หรือไม่? กองทัพอู่เว่ยจะอยู่รอดได้นานแค่ไหน? และกองทัพอู่เว่ยจะเข่นฆ่าบรรดาทหารของกองทัพเฮยอวี่ได้จำนวนเท่าใด? 

 

 

มีการเดิมพันทุกประเภท และแน่นอนว่าเจ้ามือรับแทงย่อมเป็นผู้กำหนดอัตราต่อรอง 

 

 

เดิมที ข่าวเรื่องของกองทัพอู่เว่ยน่าจะถูกพูดถึงไม่กี่วันก่อนซาไป แต่ทันทีที่เปิดการเดิมพันเหล่านี้ ข่าวก็ยิ่งแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ 

 

 

แล้วบ่อนพนันก็เริ่มเผยแพร่เรื่องความอ่อนแอของกองทัพอู่เว่ยและพูดถึงว่าพวกเขาโชคดีเพียงใดที่เอาชนะกองทัพเฮยอวี่มาได้เพราะโชคช่วย และหลังจากที่คนกลุ่มใหญ่วางเดิมพัน พวกเขาก็เริ่มให้ความสนใจและตั้งตารอข่าวของกองทัพอู่เว่ยทุกวัน 

 

 

พวกเขาไม่สนใจว่ากองทัพอู่เว่ยจะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอเพียงใด แต่สนใจแค่ว่าพวกเขาจะชนะหรือแพ้เดิมพันเท่านั้น 

 

 

ต้องบอกว่าเงินทำทุกอย่างได้จริงๆ และเพื่อเป็นการกระตุ้นกระแสนิยม บ่อนพนันหลายแห่งก็ส่งยอดฝีมือระดับหนึ่งของพวกเขาไปเป็นหน่วยสอดแนมเพื่อรับข้อมูลในเวลาเดียวกัน จากนั้นพวกเขาก็จะส่งข้อมูลผ่านวัตถุเวทมาทันทีและบ่อนพนันก็จะเปลี่ยนอัตราต่อรองได้ทันเวลา 

 

 

ด้านหนึ่งนั้นคือเจ้ามือจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจริงๆ และเร็วกว่าพวกนักพนัน 

 

 

และในอีกด้านหนึ่งนั้น ยังเป็นการเผยแพร่ข่าวกรองแบบสดๆ ทันทีทันควันเพื่อให้ผู้คนในเมืองหลวงยังคงความกระตือรือร้นสนใจกองทัพอู่เว่ย 

 

 

นอกจากนี้ เจ้ามือรับแทงในบ่อนพนันยังติดสินบนนักเล่าเรื่องทั้งหมดให้มาเข้าร่วมงานใหญ่นี้อีกด้วย 

 

 

หลังจากที่ได้รับการฝึกฝนแล้ว บรรดาหน่วยสอดแนมก็บินไปยังดินแดนทางเหนือ พวกเขาคาดว่าจะกลับมาถึงในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า และจะเริ่มกระจายข่าวเมื่อจัดการทุกอย่างพร้อมแล้ว! 

 

 

เหล่าเจ้ามือรับแทงในบ่อนพนันล้วนเต็มไปด้วยความมั่นใจและกระตือรือร้น 

 

 

แต่ในวันที่แปด บ่อนพนันบางแห่งก็ได้รับข้อมูลมาว่า หน่วยสอดแนมจากบ่อนพนันตระกูลซ่งถูกกองทัพอู่เว่ยจับกุมตัวไป… 

 

 

บรรดาบ่อนพนันทั้งหลายต่างตกตะลึง นั่นเขาเป็นยอดฝีมือระดับหนึ่งนะ! กองทัพอู่เว่ยร้ายกาจในการจับกุมผู้คนจริงๆ! พวกเขาจับได้อย่างไร? บ้าหรือเปล่า? นี่พวกเขากำลังทำสงครามกับกองทัพเฮยอวี่อยู่หรือเปล่า? ทำไมถึงมาจับหน่วยสอดแนมจากบ่อนพนันของเรา?  

 

 

ยอดฝีมือระดับหนึ่งบางคนพยายามหนี พวกเขาไม่แม้แต่จะได้ต่อสู้ด้วยซ้ำ 

 

 

ทว่าพวกเขาถูกจับกุม…กองทัพอู่เว่ยแข็งแกร่งแค่ไหน? พวกเขาจับเป็นยอดฝีมือระดับหนึ่งได้อย่างไรกัน? 

 

 

บรรดาบ่อนพนันที่เต็มไปด้วยความมั่นใจล้วนพูดไม่ออก ส่วนพวกนักเล่าเรื่องต่างก็บอกว่าพวกเขาไม่กล้าไปเข้าใกล้ภูเขาที่กองทัพอู่เว่ยอยู่ และพวกเขายังต้องหนีห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตรเพื่อหลีกเลี่ยงการค้นหาของอีกฝ่าย… 

 

 

ในเวลานี้ บ่อนพนันต่างๆ พลันตระหนักได้ในทันทีว่าพวกเขาทั้งหมดล้วนประเมินกองทัพอู่เว่ยต่ำเกินไป กองทัพอู่เว่ยนั้นแข็งแกร่งอย่างน่าทึ่งมากจริงๆ! 

 

 

แน่นอนว่า หลี่ว์ซู่ซึ่งอยู่ห่างไปไกลในภูเขาราชันหลี่ว์ไม่รู้ว่ามีผู้คนในเมืองหลวงที่อยู่ห่างออกไปกว่า สองหมื่นกิโลเมตรได้เปิดวางเดิมพันให้กับกองทัพอู่เว่ยแล้ว เขาเพียงแค่มองไปที่บรรดาชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คุณมาจากกองทัพเฮยอวี่ใช่หรือไม่?” 

 

 

ชายหนุ่มส่ายหัวแล้วกล่าวว่า “คุณควรจะปล่อยผมนะ ผมมาจากราชสำนัก หากคุณเป็นปฏิปักษ์กับผม คุณคาดเดาผลที่ตามมาไม่ได้หรอก” 

 

 

หน่วยสอดแนมจากบ่อนพนันตระกูลซ่งมีนามว่าจ้าวซ่วย เขามีชีวิตอยู่มาก็มาก แต่บอกตามตรงว่าความจริงแล้วเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะถูกจับ คาดไม่ถึงว่ากองทัพอู่เว่ยจะมียอดฝีมือระดับหนึ่งสี่คน ในตอนที่เขาเพิ่งเข้าไปใกล้ภูเขาราชันหลี่ว์ เขาก็ถูกหัวหน้าบาทหลวง แอนโทนี่ จอห์นสัน และหลิวอี้เจาเข้าปิดล้อม … 

 

 

แล้วเขาจะทำอะไรได้เล่า? เขาก็หมดหวังอย่างที่สุดแล้ว!