ตอนที่ 623 เย่เซียว คุณมันปีศาจ (4) โดย Ink Stone_Romance

“คุณ…ลองโดนคนเอามีดมากรีดซ้ำรอยเดิมจากเมื่อวานดูสิ…” เสียงเธอแหบแห้ง คิ้วเรียวย่นเข้าหากัน “เย่เซียว คุณออกไปก่อนได้ไหม? ฉัน…ฉันรู้สึกไม่สบายจริงๆ…”

เย่เซียวใช้มือเดียวกดบั้นท้ายเธอไว้อย่างไม่แคล้วใจ “คุณ…ไม่รู้สึกอะไรกับผมสักนิดเลยเหรอ?”

“…”แพขนตาเธอสั่นกึก ค่อยๆ เปิดเปลือกตามองเขา “ปกติคุณกับน่าหลัน…ก็ดุดันแข็งกร้าวแบบนี้ ไม่สนใจความอยู่ความตายของคนอย่างนี้เหรอ?”

“!” เย่เซียวหน้าเย็นชา “เรื่องของเรา อย่าลากเธอเข้ามาเกี่ยว”

เธอหัวเราะน้อยๆ “นั่นสิ…เธอดูอ่อนแอขนาดนี้ เกรงว่าจะทนการกระทำป่าเถื่อนของคุณแบบนี้ไม่ไหว งั้น…คุณจะทำต่อไหม? ถ้าทำฉันจะทนไว้ ถ้าไม่ทำ…ฉันจะเข้าไปทายา…”

“ทำบ้าอะไร!”

เขาตะคอกเสียงดังด้วยความโกรธ

ทนไว้?

มีอะไรกับเขา สำหรับเธอแล้วมันเป็นเรื่องที่ต้องทนขนาดนั้นเชียวหรือ?

เย่เซียวถอนตัวออกมากะทันหันเรียกเสียงครางอย่างเจ็บปวดจากไป๋ซู่เย่ สองขายืนไม่นิ่งจนแทบทรุดลงพื้นแต่ถูกเย่เซียวช้อนตัวขึ้นมาก่อน

บนเรียวขาขาวเนียนของเธอมีรอยหยดเลือดชวนให้ปวดขมับตุบๆ ทั้งที่อยากเห็นเธอโดนทรมาน แต่ตอนนี้พอเห็นเธอเลือดไหลกลับไม่รู้สึกดีใจสักนิด!

ไป๋ซู่เย่เจ็บจริงๆ ไม่คิดขัดขืนได้แต่ปล่อยให้เขาอุ้มตัวเองกลับห้องไป

เขาเปิดไฟค้นหาของบางอย่างบนหัวเตียงเธอ

“คุณหาอะไร?”

“ยาที่ซื้อคืนนั้นล่ะ?”

ไป๋ซู่เย่ชะงักงัน ลืมตามองเขา “คุณหมายความว่า…ยานั่น คุณออกไปซื้อคืนนั้นเหรอ?”

เย่เซียวชะงักมือที่กำลังพลิกหาของอยู่และเพิ่งรู้ตัวว่าเมื่อครู่หลุดปากพูดไปเพราะความร้อนใจ

ปากบางเม้มเข้าหากันแน่น

สักพักหันข้างแค่นหัวเราะเย้ยเธอ “ทำไม? คิดว่าผมซื้อมาให้คุณโดยเฉพาะเหรอ?”

“…”หัวใจของไป๋ซู่เย่ดิ่งลงอีกครั้ง เรื่องที่คิดไปเองจะยิ่งทำให้ดูเป็นตัวตลก เธอซุกหน้ากับหมอนกล่าวด้วยเสียงอ่อนแรง “คุณไม่ต้องหาแล้ว ยาฉันลืมไว้ที่บ้าน…แล้วก็…”

เธอหยุดไปช่วงหนึ่งพร้อมยกหน้าขึ้นหน้าจากหมอน

“คราวหลัง…คุณช่วยฝึกเทคนิคตัวเองให้ดีแล้วค่อยมาทำกับฉันได้ไหม? ฝีมือแย่ขนาดนี้ จะทำให้ฉันรู้สึกสงสารน่าหลันที่คอยอดทนกับคุณมานานขนาดนี้”

สีหน้าเย่เซียวถมึงทึง กัดฟันกรอด “…ไป๋ซู่เย่ อยากตายหรือไง!”

เมื่อก่อนไม่เคยรู้เลยว่าผู้หญิงคนนี้จะฝีปากกล้าขนาดนี้

ไป๋ซู่เย่ไม่สนใจเขาอีก

เกิดเสียงดัง ‘ปัง!’ประตูถูกกระแทกปิดก่อนเจ้าตัวจะออกไป

เธอนอนคว่ำหน้ากับหมอนปล่อยให้น้ำตาไหลทะลักจากดวงตาจนเปื้อนปลอกหมอนอย่างไม่รู้ตัว

เดิมทีอยากลุกไปอาบน้ำสักหน่อยแต่ลองขยับตัวดูแล้วยังรู้สึกเจ็บอย่างมาก จึงตัดสินใจนอนคว่ำแน่นิ่งอยู่อย่างนั้น

…………………………

ทั้งที่คิดว่าตัวเองจะหลับไปทั้งอย่างนี้จนถึงเช้าอีกวัน แต่สามสิบนาทีหลังจากนี้ประตูถูกเปิดออกอีกครั้ง

เธอแค่ได้ยินเสียงฝีเท้าก็รู้แล้วว่าเย่เซียวกลับมาแล้ว เธอกลัวว่าเขาจะเป็นบ้าอารมณ์คลั่งแล้วทรมานเธอ เลยหลับตาแกล้งหลับอยู่บนหมอน

ดีที่เขาไม่ได้เปิดไฟ ความมืดช่วยให้เธอพรางตัวได้ ไม่ให้เขามองเธอออกได้ง่ายขนาดนั้น

“หลับแล้วเหรอ?” เย่เซียวเดินมาข้างเตียงถามหยั่งเชิง

เธอไม่ตอบ เขาคงไม่ถึงกับฝืนทำกับเธอในตอนที่เธอยังหลับอยู่หรอกนะ

ขณะที่คิดอยู่ชั่วครู่ต่อมาผ้าห่มบนตัวถูกเลิกออก

ความเย็นถาโถมเข้ามาเรียกให้เธอย่นคิ้วน้อยๆ ไม่ทันตั้งตัวที่ว่างข้างกายก็ยวบลง ร่างที่ร้อนดังไฟเพลิงขยับเข้าใกล้เธอ

เธอแสร้งหันข้างด้วยความไม่ไว้วางใจ หันแผ่นหลังให้เขาอย่างระแวง ผู้ชายคนนี้…จะทำอะไรกันแน่?

ด้านหลังได้ยินเสียงสวบสาบ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ไม่กล้าลืมตาแต่ก็สัมผัสถึงมือของชายหนุ่มได้ชัดเจน กำลังคืบคลานเข้ามาจากใต้กระโปรงเธอ

“เย่เซียว…” หมดความอดทน เธอพ่นลมจากจมูกทีก่อนห้ามมือเขาไว้

เธอหันกลับมามองเขา

ความมืดปกคลุมห้องแต่ดวงตาที่น้ำตาคลอหน่วยและผ่านการร้องไห้มาของเธอนั้นยิ่งสะท้อนให้วาววับท่ามกลางความมืด ตอนนี้ดวงตาคู่นั้นแฝงด้วยแววตาระแวงปนหวาดกลัว

เย่เซียวเห็นอย่างชัดเจนจนรู้สึกบีบรัดที่หัวใจ ไม่คิดว่าไป๋ซู่เย่ในตอนนี้จะกลัว! ทำไม? เธอเห็นเขาเป็นปีศาจหรือสัตว์ประหลาดอะไร?

“เอามือออก!”เขาสั่งอย่างเย็นชา

“ฉันรู้ว่าคุณอยากทรมานฉัน” เธอเจ็บจนแทบหมดแรงพูด “แต่ว่า…ถ้าคุณทนไม่ไหวจริงๆ ทำไมไม่ไปหาน่า…”

คำว่า ‘หลัน’ยังไม่ทันออกจากปากดีก็ถูกเย่เซียวกัดฟันพูดขัดด้วยใบหน้าเย็นยะเยือก “ก่อนที่ผมจะข่มขืนคุณเป็นครั้งที่สาม ทางที่ดีก็เลือกหุบปากดีๆ ซะ!”

“….”

“เอาออก!”

ไป๋ซู่เย่กัดปาก ยังคงกำข้อมือเขาไว้ไม่ยอมปล่อย เขาขมวดคิ้วก่อนจะแกะมือเธอออกคล้ายหมดความอดทนเต็มที

เธอหายใจหนักอึ้งขึ้นเล็กน้อย หลับตาพลางคิดว่าความเจ็บปวดกำลังรอเธออยู่

แต่…

วินาทีถัดมาสิ่งที่เกิดขึ้นกลับเป็น…ความรู้สึกเย็นชื้น…

ปลายนิ้วเขามียาเนื้อเย็นอยู่คอยทาวนรอบปากแผลเธอเบาๆ ไม่ได้เบาแรงอ่อนโยนมากแถมยังงกๆ เงิ่นๆ

แต่ว่า…

กลับทำให้เธอรู้สึกสบายอย่างมาก

นี่…

หมายความว่า…

เธอเข้าใจเขาผิดไป?

อื้อ

ความรู้สึกสบายที่ทำเอาเธอรู้สึกอับอายถาโถมเข้ามาจนเธอแทบหลุดเสียงคราง เธอกัดปากแน่นห้ามตัวเองไม่ให้ขายหน้า กลับรู้สึกได้ถึงชายหนุ่มข้างๆ ที่ร่างกายร้อนผ่าวขึ้นเรื่อยๆ ลมหายใจก็หอบหนักขึ้นเรื่อยๆ…

“อยากได้เหรอ?” เย่เซียวอ้าปาก เสียงแหบจนน่าใจเต้น

“ใครอยากได้?”ไป๋ซู่เย่สูดหายใจลึก กัดปากล่างไว้อย่างดื้อดึง “คนอยากได้คือคุณหรือเปล่า?”

“…”เย่เซียวไม่ได้ปฏิเสธ ดวงตาร้อนระอุเหมือนมีไฟลุกโชนจ้องเธอเขม็ง สายตานั่นคล้ายว่าต้องการกลืนกินเธอหมดทั้งตัวไม่เหลือซาก ต่อให้อยู่ในความมืดไป๋ซู่เย่ก็รู้สึกถึงมันได้ดี ทั้งที่เป็นวันอากาศหนาวเย็นแต่กลับรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัว บนจมูกรั้นเล็กๆ ชื้นด้วยเหงื่อชั้นบางๆ

“เย่เซียว พอแล้ว…” ในที่สุดก็ทนต่อไม่ไหว เธอคู้ตัวไปด้านหลังเล็กน้อยเพื่อหลบมือเขา หายใจแผ่วน้ำเสียงสั่นเครือ “ไม่เจ็บแล้ว…”

เย่เซียวไม่ได้ตามตื๊อเธออีก

ไป๋ซู่เย่เดิมทีอยากถามเขาว่ายานี่ได้มาจากไหนแต่เขากลับพลิกตัวออกไปจากกองผ้าห่มอย่างฉับไว

ลงจากเตียงเสร็จโยนหลอดยาใส่หัวเตียง “ในเมื่อไม่เจ็บแล้วก็พักผ่อนไวๆ ยานี่ ทาตามเวลาด้วย”

พูดจบก็เดินออกจากห้องไปอย่างไม่ลังเล

ไม่หันกลับมาด้วยซ้ำ

ไป๋ซู่เย่โผล่หัวออกมามองเขานิ่งกระทั่งประตูถูกปิดลงเธอถึงถอนสายตาออกอย่างผิดหวัง

เขาจากไปอย่างไม่ลังเลขนาดนั้น ไม่เหลือเยื่อใยเพียงนิดคล้ายว่า…ภาพที่เขาทายาให้เธอเมื่อครู่เป็นเพียงภาพลวงตาของเธอ

เธอกอดผ้าห่มค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นนั่ง เปิดไฟหัวเตียงก็เห็นว่าหลอดยานั้นนอนแน่นิ่งอยู่บนหัวเตียง

……………………………………………