ตอนที่ 648 : คำชี้แนะ

Virtual World – Peerless White Emperor

เซี่ยหยู่เอ๋อร์หวาดกลัวเย่ฉางมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเธอเห็นว่าเย่ฉางดูละครดราม่าจนจบ ในขณะที่เขาหาวด้วยสีหน้าที่สงบนิ่ง เมื่อคิดว่าคนๆนี้เป็นคนคนเดียวที่เกือบจะฆ่าเธอ เธอก็สั่นสะท้านทันที จากนั้นเธอหลับตาลงอย่างช้าๆ เพื่อสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเธอ ผ่านหน้าจอโฮโลแกรม เธอทดสอบปฏิกิริยาตอบสนองของระบบประสาทของเธอ ‘มันถูกยกระดับขึ้น และตอนนี้ฉันได้รับความสามารถพิเศษบางอย่าง’

“เธอควรมีสมาธิมากขึ้น เมื่อใช้ทักษะเหนือธรรมชาติที่ได้รับหลังจากปลดล็อคพันธุกรรมครั้งแรก โปรดจำไว้ด้วยว่าหากเธอยังไม่เข้าใจมันอย่างถ่องแท้ จงอย่าบินสูงจนเกินไป ไม่งั้นเธออาจตกลงมาตายได้” เย่ฉางพูดในขณะที่ดูทีวีอยู่

“ถ้าอย่างนั้นแล้วล็อคอันที่สองล่ะ?” คำพูดของเย่ฉางนั้นทำให้เซี่ยหยู่เอ๋อร์อนุมานได้ว่า มันไม่ได้มีทักษะเหนือธรรมชาติเพียงอย่างเดียว

“ฉันไม่รู้ ทุกคนมีแตกต่างกันออกไป บางคนมีทักษะเหนือธรรมชาติ ในขณะที่บางคนมีความสามารถทางกายภาพ นอกจากนี้ยังมีบางคนที่อาจได้รับทักษะมากกว่าหนึ่งอย่าง หรือแม้กระทั่งได้รับสัมผัสพิเศษ มันไม่สามารถคาดเดาได้ ทั้งหมดที่ฉันรู้ก็คือการปลดล็อคที่เกี่ยวข้องกับประสบการณ์ของเธอเอง ตัวอย่างเช่นหากเธอกำลังกระหายน้ำอย่างมาก การปลดล็อคจะทำให้เธอมีทักษะหรือพลังที่เกี่ยวข้องกับมัน” เมื่อพูดจบเย่ฉางก็ชี้ไปที่ไหล่ตัวเอง เซี่ยหยู่เอ๋อร์มองเขาด้วยความสับสน

“เธอไม่เก็ทเหรอ? มานวดฉัน!” เย่ฉางบ่น

เซี่ยหยู่เอ๋อร์กลอกตามองเขา และเดินไปคุกเข่าอยู่ข้างหลังเย่ฉาง เมื่อเธอเริ่มนวด เย่ฉางก็ถอนหายใจ “เฮ้อ! เธอนี่ซื่อบื้อจริงๆ้ลย…ทีนี้เธอรู้หรือยังว่านิกายสะเดาะกุญแจของเรานั้นทรงพลังแค่ไหน?”

‘นิกายและทักษะที่ได้จากการปลดล็อคนั้นแข็งแกร่งมากก็จริง แต่ชื่อมันนี่สิ … มันฟังดูเหมือนแก็งลักขโมยยังไงก็ไม่รู้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอันตรายของการปลดล็อค มันทำให้ฉันตกใจเกือบตาย’ เซี่ยหยู่เอ๋อร์ได้แต่ตำหนิอยู่ในใจ

“ถ้าเช่นนั้นนายอยู่ขั้นไหนแล้ว?” เซี่ยหยู่เอ๋อร์อยากรู้อยากเห็น

“มันเป็นความลับ แต่ฉันสามารถบอกเธอได้ว่าทักษะเหนือธรรมชาติอันแรกที่ฉันได้จากการปลดล็อคคือทักษะอะไร ฉันสามารถมองเห็นวิถีและรูปแบบการโจมตีที่จะเกิดขึ้นในวินาทีถัดไป” เซี่ยหยู่เอ๋อร์อ้าปากค้าง เมื่อเธอได้ยินสิ่งที่เย่ฉางพูด จากนั้นเธอก็นึกถึงความเร็วที่เหลือเชื่อของเขา ‘ด้วยการที่สามารถมองเห็นวิถีและรูปแบบการโจมตีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้เขาสามารถต่อกรกับคนอื่นๆได้ง่ายขึ้น …’ อย่างไรก็ตามเธอไม่รู้ว่าอันที่จริงแล้ว เย่ฉางไม่ได้บอกความจริงทั้งหมดกับเธอ สำหรับตอนนี้เย่ฉางสามารถมองเห็นอนาคตได้มากกว่า 1 วินาที

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะปลดล็อคขั้นที่สองได้เมื่อไหร่?” เซี่ยหยู่เอ๋อร์ถามต่อ หลังจากปลดล็อคขั้นแรกแล้ว เธอดูเหมือนจะรู้ว่าล็อคตัวที่สองอยู่ที่ไหน จากนั้นเย่ฉางยืดตัวขึ้น แล้วมองเข้าไปในดวงตาของเธอ “ศิลปะการต่อสู้และการปลดล็อคนั้นมันมีความเหมือนกัน มันต้องมีวิธีปฏิบัติมากมายในการปรับปรุงและพัฒนา เราจะต้องไม่รีบเร่งจนกว่าเธอจะมีความสามารถมากกว่านี้ เมื่อถึงตอนนั้นเธอจะไม่โดนผลกระทบด้านลบ นิกายสะเดาะกุญแจและนิกายอื่นๆนั้นแตกต่างกัน เราไม่จำเป็นต้องนั่งสมาธิเพื่อทำใจให้สงบ แต่เราจะเน้นความต้องการของร่างกาย นี่เป็นเพราะวิธีที่เราฝึกฝนจะนำภาระมาสู่ร่างกายมากขึ้น จริงๆแล้วตอนนี้เธอสามารถปลดล็อคขั้นที่สองได้แล้ว แต่ก่อนหน้านั้นเธอควรปล่อยวางทุกอย่าง และให้ความสำคัญกับการฝึกฝนร่างกายและพลังซี่ของตัวเอง เอาล่ะ! ฉันจะชี้แนะเธอเกี่ยวกับวิธีโคจรพลังซี่ จงจำเอาไว้ให้ดีๆล่ะ ในอนาคตเธอต้องทำตามวิธีที่ฉันบอก และฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ สำหรับมหาพลังซี่นั้น เธอปล่อยวางมันไปก่อน รอจนกว่าร่างกายของเธอจะคุ้นเคยกับ ‘นทีหมุนวน’ ก่อน เมื่อถึงตอนนั้นเธอสามารถฝึกด้วยตัวเองได้”

เย่ฉางรู้ว่านิกายของเธอสอนมหาพลังซี่ให้กับเธอ ซึ่งการฝึกใน 6 ขั้นแรกนั้นจะมีความยากค่อนข้างปานกลาง แต่ขั้นหลังจากนั้นมันจะยากมากยิ่งขึ้น เมื่อถึงขั้น 7 มันจะยากกว่านี้อีกมาก มันถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเทคนิคที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคนี้ อย่างไรก็ตามการฝึกฝนมหาพลังซี่เป็นเรื่องยากจริงๆ ขณะนี้มีเพียงแค่สองคนเท่านั้นที่บรรลุถึงขั้น 10 ซึ่งเป็นขั้นสูงสุด หนึ่งในนั้นคือ Mencius และอีกคนหนึ่งคือจักรพรรดิดอกเบญจมาศ

“นทีหมุนวนคืออะไร?” เซี่ยหยู่เอ๋อร์ถามด้วยเสียงต่ำ

“มันคือทักษะการเคลื่อนไหวประเภทหนึ่ง มันสามารถนับเป็นศิลปะต่อสู้พลังซี่ประเภทหนึ่ง อย่างไรก็ตามมันจะมีประโยชน์สำหรับเธอ” เย่ฉางไม่รู้จะอธิบายให้เธอฟังยังไงดี เพราะตัวเขาเองนั้นไม่มีพลังซี่ เขาแทนที่มันด้วยพลังจิต

นทีหมุนวนเป็นเทคนิคการเคลื่อนไหวที่เย่ฉางคิดค้นขึ้นเอง มันเป็นวิธีที่เรียบง่ายและตรงจุดที่สุดในการโคจรพลังซี่อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อร่างกายจดจำการไหลเวียนของพลังซี่ มันก็ไม่จำเป็นต้องโคจรมันอย่างตั้งใจ พลังซี่จะไหลเวียนอยู่ภายในร่างกายซ้ำๆเอง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง ก่อนหน้านั้นเฉาเฉียงหยูก็ประหลาดใจเมื่อเธอฝึกฝนมัน ตอนนี้เธอไม่จำเป็นต้องฝึกโคจรพลังซี่แล้ว แม้ว่าการฝึกโคจรพลังซี่ด้วยตัวเองนั้นมันจะเป็นการดีที่สุด แต่สำหรับเธอแล้วสิ่งที่สำคัญกว่าในตอนนี้ก็คือ การปรับปรุงสมรรถภาพทางร่างกายของเธอ เพื่อวางรากฐานสำหรับการปลดล็อคขั้นต่อไป

หลังจากฝึกนทีหมุนวน เซี่ยหยู่เอ๋อร์ไม่เข้าใจว่าทำไมเย่ฉางถึงเต็มใจที่จะสอนเธอโดยไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายอะไรเลย แม้ว่าตอนนั้นเขาเกือบจะฆ่าเธอแล้ว แต่เธอก็รู้ว่าในท้ายที่สุดแล้วเขาต้องมาช่วยเธออย่างแน่นอน เพื่อที่จะบังคับความสามารถภายในร่างของเธอให้ตื่นขึ้นมา เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องโหดร้ายต่อเธอ เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอก็เริ่มสงสัย ‘เนื่องจากเขาสอนนทีหมุนวนที่สุดยอดให้กับฉัน ดังนั้นเขาต้องมีทักษะที่สุดยอดอื่นๆอยู่อีก!’ เธอรีบถามเย่ฉางทันที “เอ่อ ท่านอาจารย์มีทักษะหรือเทคนิคอื่นๆอีกไหม? ตัวอย่างเช่นทักษะฝ่ามือสังหาร?”

“มีอยู่แล้ว! ฉันกำลังจะพูดถึงมันอยู่พอดี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเธอจะต้องแก้ไขรูปแบบการโจมตีและท่าทางของเธอ เธอต้องฝึกตีหุ่นไม้อย่างน้อย 10,000 ครั้ง” เซี่ยหยู่เอ๋อร์ตกตะลึงเมื่อเย่ฉางพูดเรื่องนี้ ‘นี่คือการฝึกฝนพื้นฐานของนาย!?’

เมื่อเห็นสีหน้าที่จริงจังของเธอ เย่ฉางจึงพูดว่า “อย่ายึดติดกับพวกทักษะที่ซับซ้อนเหล่านั้นและเพียงแค่มุ่งเน้นที่ความแข็งแกร่งและความเร็ว ดังนั้นเธอจะต้องมีพื้นฐานที่มั่นคง เธอเพียงแค่ใช้ท่าพื้นฐานที่มั่นคง ซึ่งได้มาจากการฝึกฝนมาเป็นเวลานาน เมื่อเธอมีความเร็วและความแข็งแกร่ง มันจะไม่มีความแตกต่างในด้านพลัง มันจะยากมากสำหรับคู่ต่อสู้ที่จะหลบการโจมตีของเธอได้”

เมื่อพูดเสร็จแล้วเย่ฉางก็ฟาดฝ่ามือสังหารใส่คอของเธอทันที เซี่ยหยู่เอ๋อร์พยายามบล็อคมันอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเธอจะสามารถเห็นการโจมตีที่กำลังจะมาถึง แต่เธอก็รู้ว่าเธอนั้นไม่สามารถบล็อคมันได้ หัวใจของเธอดิ่งลง ในที่สุดฝ่ามือสังหารก็หยุดอย่างแม่นยำห่างจากคอของเธอเพียงแค่ 1 มม. “ก่อนที่แขนของเธอจะยกขึ้นมาบล็อคการโจมตีของฉัน ฝ่ามือของฉันก็มาถึงจุดสำคัญของเธอแล้ว สำหรับเราแล้วการโจมตีที่ซับซ้อนนั้นไร้ประโยชน์ คติประจำใจของนิกายเราคือการกำจัดศัตรูด้วยทักษะที่เรียบง่ายที่สุด, เร็วที่สุด และสะอาดหมดจดที่สุด แม้ว่ากระบวนการฝึกฝนอาจจะน่าเบื่อ แต่มันก็ถือเป็นการฝึกฝนจิตใจไปในตัว นอกจากนี้ทักษะทุกอย่างประกอบด้วยสิ่งที่ง่ายที่สุด เมื่อเธอเข้าใจความหมายของทักษะนี้อย่างสมบูรณ์แล้ว อาจกล่าวได้ว่าเธอเข้าใจทุกอย่างแล้ว การเรียนรู้สิ่งอื่นๆจะง่ายเหมือนท่อง ABC เมื่อถึงเวลานั้นเธอจะรับรู้ว่าสิ่งอื่นๆไม่มีความหมายอีกต่อไป”

เซี่ยหยู่เอ๋อร์กำลังวิเคราะห์สิ่งที่เย่ฉางพูด ดังนั้นเย่ฉางจึงไม่รบกวนเธอ เขาหันไปดูละครต่อไป จากนั้นสักพักเขาก็มองนาฬิกา “ถึงเวลาที่ฉันจะต้องไปแล้ว ฉันจะมาชี้แนะเธออีกครั้งเมื่อตอนฉันว่าง นอกจากนี้อย่าถูกล่อลวงจนรีบปลดล็อคขั้นที่สองล่ะ ทำให้พื้นฐานของเธอมั่นคงก่อน”

เมื่อเขาพูดจบ เย่ฉางก็กระโดดออกจากหน้าต่างและหายไปในท้องฟ้ายามค่ำคืน เซี่ยหยู่เอ๋อร์กำลังจ้องมองหน้าต่างที่เย่ฉางออกไป ‘เขาเป็นคนที่แปลกมาก แต่เขาก็แข็งแกร่งจริงๆ’ ทันใดนั้นเธอนึกถึงสิ่งที่ผู้หญิงจากกลุ่มมังกรพูด ในที่สุดเธอก็เข้าใจความหมายของมัน ‘หากอาจารย์ผมขาวจริงจังในการแข่งขันมหาวิทยาลัยทั้งห้า ฉันพนันได้เลยคู่ต่อสู้ของเขาถึงจะมีกี่ชีวิตก็คงไม่เพียงพอ’