บทที่ 1090 หากไม่มีแผ่นอักษรสีเหลือง ชีวิตของเขาคงอยู่ได้อีกไม่นาน

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 1090 หากไม่มีแผ่นอักษรสีเหลือง ชีวิตของเขาคงอยู่ได้อีกไม่นาน

ฝูกวงกล่าวอย่างไม่ปิดบัง “ท่านปู่เจียง นายท่านของข้าเป็นจักรพรรดินีแห่งรัฐปิง ผู้อยู่เหนือคนบนใต้หล้า ท่านเข้ามาถามนายท่านของข้าเช่นนี้ มันจะไม่เป็นการทำเกินหน้าที่ไปหน่อยหรือ?”

“เวลานี้ มีชีวิตของนายน้อยอี้เป็นเดิมพัน ข้าไม่สนอะไรทั้งนั้น”

ราชวงศ์ของรัฐอี้กำลังจะล่มสลาย เหลือเพียงนายน้อยผู้เดียวเท่านั้น พวกเขารับปากกับจักรพรรดิองค์ก่อนว่าจะจงรักภักดีต่อนายน้อย ปกป้องนายน้อยไปตลอดชีวิต

จักรพรรดิองค์ก่อนมีบุญคุณอันใหญ่หลวงกับพวกเขา พวกเขาไม่อาจละเลยต่อคำสัญญาที่มีต่อจักรพรรดิองค์ก่อนได้

นอกจากนี้พวกเขายังเฝ้าดูการเติบโตของนายน้อยมาตั้งแต่ยังเล็ก มันไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบนายบ่าว แต่มันเป็นความสัมพันธ์แบบปู่กับหลานเสียมากกว่า

เมื่อรู้ว่านายน้อยยอมสละชีวิตของตนเองเพื่อแลกกับชีวิตของจักรพรรดินีแห่งรัฐปิง หัวใจของพวกเขาเจ็บปวดเป็นอย่างมาก

พวกเขาอยากจะสละชีวิตของตนแทนชีวิตของนายน้อยที่ยอมสละให้กับจักรพรรดินีแห่งรัฐปิง แต่ทั่วทั้งใต้หล้ามีเพียงชีวิตของนายน้อยเท่านั้นที่สามารถทำเช่นนี้ได้

เนื่องจากมีเพียงจิตวิญญาณของนายน้อยเท่านั้นที่เชื่อมโยงกับนาง

“ท่านปู่เจียง ข้ารู้ว่าท่านเป็นห่วงหวงกุ้ยจวิน วางใจ เรื่องนี้ข้าจะเป็นคนจัดการเอง และจะชดใช้ให้ท่านอย่างพึงพอใจ”

“มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่รัฐปิงจะสามารถทำให้ข้าและทหารอีกหลายแสนนายพึงพอใจได้ นั้นก็คือการที่ฝ่าบาทนำกำลังทหารไปจัดการเผ่าเพลิงฟ้า ช่วยแย่งชิงแผ่นอักษรสีเหลืองกลับมาให้นายน้อยของพวกเรา”

ฝูกวงยกหน้าอกขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง กล่าวออกมาอย่างไม่พอใจว่า “ท่านปู่เจียง นายท่านของข้าให้เกียรติท่าน ไม่ถือความเรื่องที่ท่านทำเกินหน้าที่ ท่านก็อย่าได้ใจมากเกินไป นายท่านของข้าเพิ่งจะตื่นขึ้นมาหลังจากหมดสติไปสามเดือนเต็ม ร่างกายยังไม่ฟื้นฟูเต็มที่ และยังมีเรื่องอีกมากมายที่ยังไม่ชัดเจน ท่านเข้ามาก็เอาแต่ข่มขู่ ทำเช่นนี้มันไม่เกินไปหน่อยหรือ?”

“พระสวามีคือผู้นำของเผ่าเพลิงฟ้า ท่านจะให้นายท่านของพวกเรายกทหารไปจัดการเผ่าเพลิงฟ้า ท่านอยากล้มล้างนายท่าน ทำให้เขาขัดแย้งกับเผ่าเพลิงฟ้างั้นหรือ?”

เมื่อคำพูดนี้ออกไป ท่านปู่เจียงก็รู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูดออกมาเมื่อสักครู่นั้นมันเกินไปจริง ๆ

จัดการเผ่าเพลิงฟ้า มันเท่ากับการล้มล้างจักรพรรดินี

จักรพรรดินีเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความเสียหายอย่างแท้จริง แม้พวกเขาคิดว่าเหวินเส่าอี๋นั้นไม่เหมาะสม เป็นนายน้อยของพวกเขาที่เหมาะสมมากกว่า

แต่……

ใครใช้ให้เหวินเส่าอี๋รู้จักจักรพรรดินีแห่งรัฐปิงก่อนพวกเขา

ท่านปู่เจียงกำหมัดแน่น น้ำเสียงแข็งทื่อ เขาคุกเข่าลงไป

“ฝ่าบาท ข้ารู้ว่าท่านเพิ่งจะฟื้นจากอาการประชวร เพียงแต่……เผ่าเพลิงฟ้าต้องการครอบครองแผ่นอักษรสีเหลืองเพื่อการแก้แค้นโดยส่วนตัว และนายท่านของข้า……นายท่านของข้ายอมสละชีวิตเพื่อช่วยรักษาให้ท่าน หากสามารถนำแผ่นอักษรสีเหลืองกลับมาได้ เขาก็ยังมีโอกาสรอดชีวิต แต่หากไม่ได้แผ่นอักษรสีเหลืองกลับคืนมา เขา……เกรงว่าเขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่ถึงหนึ่งเดือน พวกข้าไร้ซึ่งหนทาง จึงจำเป็นต้องเข้ามาขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาท”

“ฝ่าบาท ได้โปรดเห็นแก่ที่นายท่านของข้ายอมมอบรัฐอี้ให้แก่ท่าน ช่วยนายท่านของข้าสักครั้ง นายท่านของข้าเป็นคนจิตใจบริสุทธิ์ เขา……หากไม่มีใครช่วยเขา เขา……”

ตรงประโยคสุดท้าย น้ำตาของท่านปู่เจียงไหลพราก ไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้

ในเวลานี้ ดูเหมือนเขาจะชราลงมาก

กู้ชูหน่วนรีบพยุงเขาขึ้นมา

“ท่านปู่เจียง ท่านกำลังทำให้ข้าอายุสั้น ท่านรีบลุกขึ้นมาเถิด ข้าเข้าใจคำขอของท่าน ข้าจะเก็บไว้พิจารณา”

“เวลานี้รัฐอี้มีเพียงนายท่านของข้าเพียงผู้เดียว หากไม่มีนายท่าน……ก็เท่ากับว่าไม่มีรัฐอี้……ฝ่าบาท……”

ฝูกวงเข้ามาขวางด้านหน้าของกู้ชูหน่วน กล่าวออกมาไปอย่างเยือกเย็น “นายท่านของข้าจะไตร่ตรองเรื่องนี้เอง หากท่านปู่เจียงไม่มีเรื่องอื่นใดแล้ว เชิญท่านถอยกลับไป นายท่านของข้าต้องการไปพบกับหวงกุ้ยจวิน”

“ได้……”

ท่านปู่เจียงรู้สึกว่าสิ่งที่เขาทำลงไปวันนี้นั้นมากเกินไป เขาจึงรีบหลีกทางให้ หวังว่ากู้ชูหน่วนจะใช้เวลากับนายน้อยของเขาให้มากขึ้น

หลังจากกู้ชูหน่วนเดินออกไปแล้วพักหนึ่ง นางจึงกล่าวออกมาว่า “ฝูกวง เหตุใดข้าจึงรู้สึกว่าเจ้าไม่ค่อยชอบท่านปู่เจียงเสียเท่าไรนัก ปกติเจ้าก็ชื่นชมในตัวหวงกุ้ยจวินไม่ใช่หรือ?”

“หวงกุ้ยจวินเป็นคนสุภาพ อ่อนโน้มและอ่อนโยน ทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องนายท่าน แน่นอนว่าข้าต้องชื่นชอบในตัวของหวงกุ้ยจวิน แต่ท่านปู่เจียง……คำพูดของเขาช่างไม่น่าฟังยิ่งนัก”

ฝูกวงไม่ได้บอกนาง ท่านปู่เจียงกลัวว่าหวงกุ้ยจวินจะยอมสละชีวิตเพื่อช่วยนาง ดังนั้นจึงคิดจะสังหารนางหลายครั้ง