คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 934
ขณะที่เขากล่าว โยเอลก็จ้องไปที่แลนวินด้วยความชื่นชม
โยเอลแอบชอบแลนวินมานานกว่าสามปีแล้ว ตั้งแต่ที่เขาเข้าร่วมกับสำนักสุญตาเมื่อสามปีก่อน เขาก็หลงรักแลนวินตั้งแต่แรกเจอ
ในหัวใจของโยเอล แลนวินไม่ใช่แค่เพียงสาวสวยเท่านั้น เธอยังมีเสน่ห์และยั่วยวนอีกด้วย และบางวันเขาแอบฝันถึงเธอด้วย!
เฮ้อ!
แลนวินถอนหายใจและกล่าวอย่างร้อนรน “ถ้ามันง่ายจริง ฉันคงไม่ขอกำลังเสริมจากสำนักหรอก”
จากนั้นลิลี่ก็เดินเข้ามาหาพวกเขาพร้อมกับถ้วยน้ำชา
แลนวินจ้องไปที่ลิลี่ และรู้สึกว่าได้พบกับที่ระบายความหงุดหงิด “นี่ ยัยขี้เหร่ ฉันแค่ขอให้แกไปชงชามาให้ ทำไมแกชักช้ายืดยาดขนาดนี้ ช้ามาก! ฉันไม่รู้แล้วว่าคนอย่างแกจะมีปัญญาทำอะไรได้มากไปกว่านี้อีกไหม”
ตั้งแต่โยเอลเดินมาถึง แลนวินก็ทำกับลิลี่เหมือนคนรับใช้ และคอยกดหัวอยู่ตลอดเวลา
แลนวินคิดว่าลิลี่เป็นเพียงคนหน้าตาอัปลักษณ์ที่ไร้ค่า เป็นภาระของเธอที่จะต้องแบกมาทำภารกิจด้วย
ดูเหมือนว่าลิลี่มาที่นี่เพื่อคอยชงน้ำชาและเสิร์ฟน้ำเท่านั้น
แต่กระนั้น แลนวินก็ยังไม่พอใจ ทันทีที่เธอหันไปเจอลิลี่ แลนวินก็มักจะชอบขยี้ปมด้อยของเธอ
ลิลี่ไม่ได้ตอบสนองอะไร เธอรินน้ำชาอย่างเงียบ ๆ เธอรู้สึกประหม่าและเธอก็ทำน้ำชากระเด็นออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ไสหัวไปเลย ยัยขี้เหร่!”
โยเอลก็ยกมือขึ้นมาปัดป้องอย่างขยะแขยง เขาไม่ได้แม้แต่จะหันมามองลิลี่ “ไร้ค่าแล้วยังไม่ระวังตัวอีก แค่เทน้ำชาปกติเธอยังทำไม่ได้เลย ออกไปเดี๋ยวนี้ อย่ามารบกวนบทสนทนาของฉันกับศิษย์พี่”
คนแอบรักก็มักจะเห็นด้วยเสมอกับคนที่แอบชอบ
โยเอลรู้ดีว่าแลนวินนั้นรำคาญลิลี่ เขาเลยรู้สึกไม่ชอบลิลี่ด้วยเช่นเดียวกัน
ลิลี่กล่าวตอบสั้น ๆ และรีบออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่เธอก้าวออกจากห้อง แลนวินก็กล่าวขึ้นมาทันควัน “มันน่ารำคาญมากที่เห็นหน้ายัยขี้เหร่นั้นทั้งวัน! เหตุผลที่ภารกิจของเราไม่ราบรื่นก็เพราะความดวงซวยของเธอ ทำไมเจ้าสำนักถึงยอมรับเธอเข้ามาเป็นลูกศิษย์ได้? เธอมีดีอะไร? และเจ้าสำนักเองก็ยังถ่ายทอดวิชาและวรยุทธมากมายให้กับยัยขี้เหร่นี่ด้วย!”
โยเอลพยักหน้าขึ้นมาทันทีอย่างเห็นด้วย “ใช่ ๆ แต่ในเมื่อศิษย์พี่รู้สึกหงุดหงิดทุกทีที่ได้เห็นหน้ามัน ทำไมเราไม่ทิ้งยัยขี้เหร่นั้นไว้กลางทางเลยล่ะ?”
‘ทิ้งหล่อน?’
แลนวินคิ้วขมวด “แล้วเราต้องทำยังไง?”
โยเอลฉีกยิ้มและลดเสียงเบาลงขณะที่กล่าว “มีภูเขาลูกใหญ่ห่างออกไปไม่กี่กิโลเมตร มันคือภูเขาวายุทมิฬของสำนักประกายแสง พวกโจรมันบุกเข้ายึด และพวกมันก็ก่อตั้งสำนักวายุทมิฬขึ้นมา เจ้าสำนักของพวกมันคือพี่น้องกัน และพวกมันทุกคนก็เป็นคนโฉด พวกมันก่ออาชญากรรมทุกประเภท ไม่มีใครกล้าที่จะเสนอหน้าขึ้นไปภูเขา หรือเข้าไปในอาณาเขตของสำนัก”
ดวงตาของโยเอลก็เปล่งประกายราวกับวายร้ายขณะเขากล่าว “เราจะลวงยัยขี้เหร่ไปใกล้กับสำนักวายุทมิฬ หล่อนมันปวกเปียก หล่อนไม่มีทางที่จะรอดกลับมาได้อย่างปลอดภัย แล้วเมื่อไหร่ที่เรากลับไปที่สำนักสุญตา เราก็ค่อยรายงานท่านเจ้าสำนักว่า หล่อนไม่ยอมปฏิบัติตามคำแนะนำของเราและออกไปทำด้วยตัวเองจนเสียท่า ท่านเจ้าสำนักก็คงไม่โทษเรากับสิ่งที่เกิดขึ้น”
แลนวินดีใจ เธอพยักหน้าให้กับโยเอลและกล่าวชื่นชม “วิเศษไปเลยโยเอล ที่คิดแผนการแบบนี้ออกมาได้”
แลนวินนั้นตื่นเต้นลุ้นระทึก
ในที่สุดเธอก็จะได้กำจัดภาระที่แบกไว้
เมื่อโยเอลได้ยินคำกล่าวเชยชมโยเอลก็ยิ้มร่า เขาพยายามจะทำให้เธอประทับใจอีกครั้ง “มันเป็นเกียรติของผมที่ได้คลายทุกข์ให้กับศิษย์พี่”
แลนวินไม่อยากจะเสียเวลามาฉอเลาะ เธอโบกมือให้กับโยเอลว่าไม่จำเป็นที่จะต้องกล่าวถึงเรื่องนี้อีก
จากนั้นแลนวินก็ตะโกนไปทางประตู “นี่ ยัยขี้เหร่ เข้ามานี่!”
ลิลี่คิดถึงแต่แดร์ริลเท่านั้นในตอนนี้ เมื่อเธอได้ยินข่าวว่าเขาทำลายสำนักประกายแสงได้ เธอก็รู้สึกซาบซึ้งกินใจ เพราะเธอรู้ว่าเขาทำเพื่อเธอ
ตั้งแต่สำนักประกายแสงถูกถล่ม ลิลี่ก็ไม่ได้ยินข่าวคราวของแดร์ริลอีกเลย สาวกสำนักประตูสุราลัยปิดล้อมพื้นที่บริเวณโดยรอบของภูเขาแห่งปัญญา ไม่ใครกล้าที่จะขึ้นบนภูเขา มันเลยเป็นเหตุผลที่ลิลี่ติดตามแลนวินมาที่เมืองเล็ก ๆ นี้ เธออยากะรอแดร์ริลลงมาจากภูเขา