ตอนที่ 1690 ก็แค่สนุกๆ

อัจฉริยะสมองเพชร

อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆

ตอนที่ 1690 ก็แค่สนุกๆ

เพื่อตอบโต้ผู้ที่ปรากฏตัวอย่างกะทันหัน เหรินชิงหยวนกับคนอื่นๆรีบชักอาวุธออกมาเตรียมพร้อมทันที แต่ขณะที่กำลังจะเข้าโจมตี ก็เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายได้ถนัด

เหรินชิงหยวนตาโตด้วยความประหลาดใจและอุทานว่า “ปรมาจารย์หลัวนี่เอง!”

เจียงฟังโหย่วกับหลัวกั้นเจินก็จดจำร่างนั้นได้

พวกเขาเคยเห็นหลัวลั่วชิงเมื่อครั้งงานหมั้น ด้วยรูปร่างหน้าตาและบุคลิกโดดเด่นของเธอ ไม่มีทางที่พวกเขาจะจำเธอสลับกับคนอื่น

เพียงแต่…ทำไมจู่ๆเธอถึงปรากฏตัวที่นี่?

เธอไม่ได้อยู่กับจางเซวียนที่ตระกูลจางเพื่อดูแลอาณาจักรใต้ดินแห่งภูเขาพยัคฆ์มังกรหรอกหรือ?

“เป็นไปได้ไหมว่าเธอจะเป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจ?” หลัวกั้นเจินเลิกคิ้วขณะปล่อยรังสีของความเป็นปฏิปักษ์ออกมา

แม้เขาจะยอมรับจางเซวียนในฐานะหัวหน้าตระกูลหลัวคนใหม่ แต่ก็ไม่อาจทำใจยกโทษให้หลัวลั่วชิงได้สำหรับการที่เธอบุกรุกงานหมั้น แถมยังทำร้ายเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลหลัวจนได้รับบาดเจ็บ

เขาเคยพยายามสืบเสาะภูมิหลังของหลัวลั่วชิง แต่ดูเหมือนเธอจะโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ แม้แต่เครือข่ายข้อมูลข่าวสารอันกว้างขวางของตระกูลหลัวก็ไม่อาจรวบรวมข้อมูลของเธอได้

การที่นักรบผู้ทรงพลังอย่างหลัวลั่วชิงปรากฏตัวอย่างปุบปับโดยไม่มีสัญญาณล่วงหน้า ก็ยากที่เขาจะทำใจไม่ให้สงสัยตัวตนของเธอ!

ได้ยินคำนั้น อีกสองคนที่เหลือก็หันไปมองหลัวลั่วชิง สีหน้าของเธอไม่มีอะไรผิดปกติขณะมองศพที่เรียงรายก่ายกองอยู่ทั่ว แต่เธอกลับกวาดสายตาไปรอบๆ ดูเหมือนกำลังพยายามค้นหาอะไรบางอย่าง

“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง” เหรินชิงหยวนตั้งข้อสังเกตพร้อมกับขมวดคิ้ว “ผมก็ยังสงสัยอยู่ว่าเธอจะวางท่าสงบเยือกเย็นอยู่แบบนี้ได้หรือหลังจากที่เห็นคนของตัวเองต้องตายไปมากมาย…”

บริเวณนี้มีเผ่าพันธุ์ปีศาจนอนตายนับแสนตัว ซึ่งความตายของพวกมันก็ใหญ่โตพอที่จะสั่นคลอนรากฐานของกองกำลังเผ่าพันธุ์ปีศาจแล้ว!

ถ้าหลัวลั่วชิงเป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจจากโลกอื่นจริงๆ ก็น่าจะมีปฏิกิริยาบ้างกับการสังหารที่เกิดขึ้น การที่เธอยังคงสุขุมเยือกเย็นอยู่ได้ทั้งๆที่เห็นความพินาศวอดวายอยู่ตรงหน้า ก็บ่งบอกว่าเธอไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเผ่าพันธุ์ปีศาจ

“ปรมาจารย์เหริน, หัวหน้าหลัว, หัวหน้าเจียง พวกคุณเห็นจางเซวียนบ้างไหม?”

“จางเซวียน? ปรมาจารย์จางก็อยู่ที่นี่หรือ?” เหรินชิงหยวนชะงักกับคำถามนั้น

หลังจากที่แยกจากกันเมื่อวันก่อน จางเซวียนก็รีบร้อนกลับตระกูลจางทันที ดูน่าประหลาดที่หลัวลั่วชิงจะมาตามหาเขาในสนามรบของเผ่าพันธุ์ปีศาจแห่งนี้

“ใช่แล้ว เมื่อวานนี้ ปรมาจารย์จางได้แก้ไขวิกฤตการณ์ที่อาณาจักรใต้ดินแห่งภูเขาพยัคฆ์มังกรจนเสร็จสิ้น ก่อนจะเข้าสู่สนามรบของเผ่าพันธุ์ปีศาจ ฉันค้นหาอยู่พักหนึ่งก่อนจะแกะรอยตามเขามาที่นี่” หลัวลั่วชิงอธิบาย

“ผมได้ยินเรื่องสถานการณ์ที่อาณาจักรใต้ดินแห่งภูเขาพยัคฆ์มังกรเหมือนกัน ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด มีกองกำลังเผ่าพันธุ์ปีศาจราวหมื่นตัวประจำการอยู่ที่นั่นใช่ไหม? นี่คุณหมายความว่า…ปรมาจารย์จางเพียงคนเดียวจัดการปัญหาทั้งหมดเรียบร้อยแล้วหรือ?” เจียงฟังโหย่วถามด้วยความสงสัย

เหล่าสมาชิกตระกูลเจียงถูกกระจายกองกำลังออกไปเพื่อเป็นกองหนุนในการดูแลอาณาจักรใต้ดินแห่งภูเขาพยัคฆ์มังกรของตระกูลจางและอาณาจักรใต้ดินกลุ่มดาวของตระกูลหลัว

ในฐานะหนึ่งในอาณาจักรใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดของทวีปแห่งปรมาจารย์ อาณาจักรใต้ดินแห่งภูเขาพยัคฆ์มังกรถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของเผ่าพันธุ์ปีศาจ ด้วยความอลังการของการบุกรุกครั้งนี้ แน่นอนว่าความมั่นคงปลอดภัยของมันจะต้องสั่นคลอน ต่อให้ได้รับการอารักขาจากตระกูลจางก็เถอะ แต่จางเซวียนคลี่คลายสถานการณ์ทั้งหมดได้ด้วยตัวเขาเอง…มันเป็นแบบนั้นไปได้อย่างไร?

“ใช่ มีกองกำลังเผ่าพันธุ์ปีศาจกว่าหมื่นตัวอยู่ที่นั่น เมื่อวานนี้ จางเซวียนบอกว่าจะไปสอดแนมดูลาดเลา แต่ลงท้ายก็สังหารพวกมันจนหมด กว่าพวกเราจะรู้ เขาก็มุ่งหน้าไปยังสนามรบของเผ่าพันธุ์ปีศาจแล้ว” หลัวลั่วชิงอธิบาย

“เขาสังหารเผ่าพันธุ์ปีศาจทั้งหมื่นตัวระหว่างที่เข้าไปสอดแนมดูลาดเลา?”

“คุณไม่ได้ล้อพวกเราเล่นใช่ไหม?”

ทั้งสามถึงกับขนลุกขนชัน

เพราะเคยปะทะกับกองกำลังเผ่าพันธุ์ปีศาจมาหลายครั้ง พวกเขาจึงรู้ซึ้งถึงประสิทธิภาพการต่อสู้และความสามารถของพวกมันเป็นอย่างดี ต่อให้นักปราชญ์โบราณทั่วไปก็ยังรับมือกับกองกำลังเผ่าพันธุ์ปีศาจที่มีถึงหมื่นตัวได้ยาก แต่จางเซวียนกวาดล้างทั้งกองทัพได้ระหว่างที่เข้าไปสอดแนม

นี่เป็นเรื่องจริงหรือ?

“ก็จริงน่ะสิ อันที่จริง กองกำลังเผ่าพันธุ์ปีศาจนับแสนตัวที่นี่ก็น่าจะถูกจางเซวียนสังหาร ว่าแต่…เขาอยู่ไหนล่ะ? ตอนที่คุณทั้งสามมาถึง รู้สึกอะไรบ้างหรือเปล่า?” หลัวลั่วชิงตั้งคำถาม

เธออยู่กับจางเซวียนตลอดสองสามวันที่ผ่านมา จึงรู้ดีว่าเขามีวิธีการอันน่าทึ่งอย่างไรบ้าง เธอได้เห็นศพที่เหรินชิงหยวนชี้นิ้วไปก่อนหน้านี้แล้ว และรู้ทันทีว่านั่นเป็นผลงานของหม้อต้นกำเนิดทองคำกับหอกสวรรค์กระดูกมังกร

ปัญหาเดียวตอนนี้ก็คือหาจางเซวียนไม่เจอ ในเมื่อทั้งสามคนมาถึงก่อนหน้าเธอ พวกเขาจะพบอะไรบ้างหรือเปล่า?

“คุณกำลังบอกพวกเราว่าจางเซวียน…ตัวเขาเพียงคนเดียวกวาดล้างกองทัพเผ่าพันธุ์ปีศาจที่มีกำลังนับแสนตัวนี่นะ?”

“ไม่สิ ไม่ใช่ ถ้าเรานับเผ่าพันธุ์ปีศาจที่อยู่บริเวณอาณาจักรใต้ดินแห่งภูเขาพยัคฆ์มังกรด้วย ก็จะรวมเป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจถึง 110000 ตัว!”

“พูดอีกอย่างก็คือ เขาจัดการภัยคุกคามครั้งใหญ่ที่กำลังจะเข้าสู่ทวีปแห่งปรมาจารย์จนราบคาบแล้ว ใช่ไหม?”

ทั้งสามหัวหมุนติ้ว สิ่งที่พวกเขาเพิ่งได้ยินช่างเหลือเชื่อเสียจนทำลายความเชื่อเดิมที่พวกเขาเคยมีไปเกือบหมด

เอาจริงๆสิ?

เผ่าพันธุ์ปีศาจที่มีวรยุทธระดับเซียนขั้น 3 ขึ้นไปกว่า 110000 ตัว…นั่นเป็นกองกำลังที่แม้แต่สภาปรมาจารย์สำนักงานใหญ่ก็ยังรับมือได้ยาก! ต่อให้สภาปรมาจารย์สำนักงานใหญ่เรียกรวมพลปรมาจารย์ทั้งหมดได้สำเร็จ ก็คงจะเอาชนะได้ยากเต็มที

แต่อีกฝ่ายแก้ไขวิกฤตการณ์ครั้งนี้ได้ด้วยตัวเอง

เขาทำได้อย่างไรกัน?

ต่อให้ปรมาจารย์ขงก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่านี้ในยุคสมัยของเขา!

เหรินชิงหยวนสูดหายใจลึกและพยายามระงับความตกตะลึง ก่อนจะตอบคำถามของหลัวลั่วชิง “ปรมาจารย์หลัว พวกเรามาถึงก่อนคุณเมื่อสักครู่นี้เอง และไม่เห็นปรมาจารย์จางเลย…”

ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ บรรยากาศด้านบนก็ปั่นป่วนขึ้นทันที เขารีบเงยหน้าขึ้น และเห็นหมู่เมฆดำกลุ่มใหญ่รวมตัวกันอย่างรวดเร็ว

“มันคือการทดสอบวรยุทธ” เหรินชิงหยวนอุทานด้วยความประหลาดใจ

จากนั้น ร่างหนึ่งก็โผล่พรวดขึ้นสู่กลางอากาศและลอยตัวเงียบๆอยู่ใต้หมู่เมฆดำที่กำลังรวมตัวกัน

เปลวเพลิงสีดำสนิทแผดเผาหมู่เมฆที่อยู่เหนือร่างของเขา ทำให้บรรยากาศโดยรอบแห้งผาก อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นจนดูเหมือนท้องฟ้าจะหลอมละลายได้

“มันคือการทดสอบเปลวเพลิงสวรรค์…”

หลัวกั้นเจินกับเจียงฟังโหย่วกลืนน้ำลาย

เมื่อวันก่อน ตอนที่พวกเขาพบปรมาจารย์จาง อีกฝ่ายยังเป็นแค่นักรบระดับเซียนขั้น 9 สูงสุด แต่ภายในระยะเวลาอันสั้น ไม่เพียงแต่เขาจะฝ่าด่านวรยุทธไปสู่ขั้นนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้น 1-การพักฟื้นภายในได้สำเร็จ ยังพุ่งพรวดอย่างรวดเร็วเข้าสู่วรยุทธขั้นร่างอันทรงเกียรติด้วย

เขาทำอย่างไรจึงฝึกฝนวรยุทธได้รวดเร็วขนาดนี้?

นักรบทั่วไปจะต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจนานหลายปีกว่าจะฝ่าด่านวรยุทธครั้งใหญ่ได้ แต่สำหรับชายหนุ่มที่อยู่กลางอากาศ ทุกอย่างง่ายดายไม่ต่างอะไรกับของเด็กเล่น

ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้สังหารเผ่าพันธุ์ปีศาจกว่า 110000 ตัว พร้อมกับแม่ทัพที่มีวรยุทธขั้นชั่วกัลปาวสานอีกมากมาย

“พวกคุณอยู่ที่นี่เอง!”

ขณะที่ฝูงชนกำลังอึ้งตะลึง จางเซวียนก็เห็นพวกเขาและส่งยิ้มให้ “ขอเวลาแป๊บนึงนะ ให้ผมผ่านการทดสอบเปลวเพลิงสวรรค์ก่อน แล้วค่อยคุยกัน!”

เมื่อพูดจบ จางเซวียนก็ดำดิ่งเข้าสู่เมฆดำที่รวมตัวกันเป็นก้อนใหญ่

“เขาจะใช้วิธีเดิมกับการทดสอบเปลวเพลิงสวรรค์หรือ?” หลัวกั้นเจินถึงกับซวนเซเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพนั้น

เขาเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับการเอาชนะการทดสอบสายฟ้าของจางเซวียน แต่การทดสอบสายฟ้ากับการทดสอบเปลวเพลิงสวรรค์นั้นแตกต่างกันมาก ดำดิ่งเข้าไปในเปลวเพลิงอย่างนั้น…เขาไม่กลัวว่าจะมอดไหม้เป็นเถ้าถ่านหรือไง?

และที่หนักข้อยิ่งกว่าก็คือ ไอ้สีหน้าผ่อนคลายสุดๆนั่นน่ะ มันคืออะไร?

คุณมั่นใจว่าคุณจะผ่านการทดสอบอันทรงพลังไปได้อย่างปลอดภัยใช่ไหม*?*

“เอ่อ…” เห็นความประหลาดใจของหลัวกั้นเจิน เหรินชิงหยวนส่ายหน้าและอธิบาย “ปรมาจารย์จางไม่เป็นอะไรหรอก เขาเพิ่งผ่านการทดสอบเปลวเพลิงสวรรค์ที่สภาปรมาจารย์สำนักงานใหญ่ไปเมื่อวานนี้เอง”

“เขาผ่านการทดสอบแล้ว?” หลัวกั้นเจินอุทานด้วยความงงงัน “นักรบแต่ละคนจะเผชิญกับการทดสอบเปลวเพลิงสวรรค์เพียงครั้งเดียวเท่านั้นในชีวิต ใช่ไหม? แล้วทำไมเขาถึงได้เผชิญหน้ากับมันเป็นครั้งที่สองล่ะ?”

การทดสอบเปลวเพลิงสวรรค์เป็นการทดสอบวรยุทธที่นักรบผู้หนึ่งจะต้องผ่านไปให้ได้เมื่อฝ่าด่านวรยุทธไปสู่ขั้นร่างอันทรงเกียรติ นักรบที่มีวรยุทธระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่แต่ละคนจะเผชิญหน้ากับมันเพียง 1 ครั้งเท่านั้น ไม่นึกเลยว่าจะมีใครที่ได้เจอกับการทดสอบเปลวเพลิงสวรรค์เป็นครั้งที่ 2!

“ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เรื่องจริงก็คือเขาเพิ่งผ่านการทดสอบเปลวเพลิงสวรรค์ที่สภาปรมาจารย์สำนักงานใหญ่ไปเมื่อวันก่อนนี่เอง และเขาก็เอาตัวรอดได้โดยการดำดิ่งเข้าสู่หมู่เมฆ ผมจึงไม่คิดว่าครั้งนี้เขาจะมีปัญหาอะไร” เหรินชิงหยวนตอบ

“ไม่ใช่นะ ปรมาจารย์เหริน, เมื่อ 2 วันก่อน ปรมาจารย์จางไปที่ตระกูลเจียงของเราและผ่านการทดสอบเปลวเพลิงสวรรค์ที่นั่นเหมือนกัน…แต่คุณบอกว่าเขาเผชิญหน้ากับการทดสอบเปลวเพลิงสวรรค์ที่สภาปรมาจารย์สำนักงานใหญ่ด้วยนี่ ใช่ไหม?” เจียงฟังโหย่วถามงงๆ

“สรุปก็คือ พวกคุณกำลังบอกผมว่านี่เป็นครั้งที่ 3 ที่เขาเผชิญหน้ากับการทดสอบเปลวเพลิงสวรรค์?” หลัวกั้นเจินแทบลมจับ

นี่มันการทดสอบเปลวเพลิงสวรรค์นะ เป็นพละกำลังที่นักรบทุกคนแสนจะหวาดกลัว!

แต่จางเซวียนเผชิญหน้ากับมันครั้งแล้วครั้งเล่า…ราวกับการทดสอบเปลวเพลิงสวรรค์เป็นเพื่อนเล่นที่เขาจะท้าดวลเมื่อไรก็ได้ตามใจ!