บทที่ 1830 - เจ้าของร้านที่พยายามซ่อนตัว

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

AST
  บทที่1830 – เจ้าของร้านที่พยายามซ่อนตัว
  ชายคนนั้นจ้องมองชิงสุ่ยด้วยความอยากรู้อยากเห็นเขากำลังสงสัยว่าทำไมชายคนนี้ถึงต้องการเจดีย์เก่าๆ
  ”ไม่ทราบว่าเจ้ายินดีจ่ายในราคาเท่าใด?”ชายเจ้าของร้านจ้องมองชิงสุ่ยขณะกล่าวถาม
  ชิงสุ่ยไม่ค่อยชอบคนประเภทนี้เขาจึงตอบยังอดกลั้นว่า “ท่านเป็นถึงผู้ขาย ข้าจะไปรู้ราคาที่ท่านต้องการขายได้อย่างไร โปรดเสนอราคามาเถิด หญิงสาวของข้าชอบเจ้าสิ่งนี้ ฉะนั้นราคาก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลใดๆ”
  ”ถ้าเช่นนั้นก็เอาเป็น1 ล้านเหรียญเงิน!!”ชายคนนั้นครุ่นคิดชั่วครู่หนึ่งก่อนจะบอกราคาอย่างมั่นใจ  ”ชิงสุ่ยอย่าไปสนใจมันเลย เขาคงเป็นพวกโก่งราคา พวกเราไปกันเถอะ”ฉินชิงเล่นไปตามบทเหมือนรู้ว่าชิงสุ่ยต้องการอะไร
  ”พวกเจ้าอยากได้มันไม่ใช่หรือคุณพ่อค้า 1 ล้านเหรียญเงินมันดูมากเกินไป ท่านพอจะลดราคาได้หรือไม่? ข้าอยากจะซื้อให้กับพวกนางจริงๆ”ชิงสุ่ยเสแสร้งทำเป็นกัดฟัน เพื่อให้เจ้าของร้านสังเกตเห็น
  ชายชราผู้เป็นเจ้าของร้านแสดงสีหน้าอันมีความสุขเนื่องจากเขากำลังจะหลอกคนโง่เง่าอย่างชิงสุ่ยได้
  ”950,000เหรียญเงิน ไม่ลดต่ำกว่านี้แล้ว ถ้าเจ้าเอาไม่เอาก็เชิญ”เจ้าของร้านกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
  ”ช่างมันเถอะจ่ายเงินเป็นล้านเพื่อของเล่นชิ้นเล็กๆแค่นี้ มันไม่คุ้มเอาซะเลย”ฉินชิงดึงแขนชิงสุ่ย
  ฉินชิงยังคงเล่นไปตามบทถ้าหากนับเงินภายในถุงผ้าไหมต่างมิติ พวกเขามีเงินอยู่ด้วยกันทั้งหมด 1,800,000 เหรียญเงิน แต่ถ้าหากนับในดินแดนหยกยุพราชอมตะ ชิงสุ่ยจะมีเงินมากมายกองเป็นภูเขา และมีเหรียญทองไม่ต่ำกว่า 100,000 เหรียญ การใช้เงินแค่เศษเสี้ยวหนึ่งของภูเขา ภูเขาก็แทบจะไม่สูญสลาย
  เจ้าของร้านยิ้มขณะมองดูสถานการณ์เบื้องหน้าที่เกิดขึ้นเขารู้สึกเศร้าใจและดูถูกเหยียดหยามชิงสุ่ยที่มีหญิงสาวแสนสวย 2 คนอยู่ข้างกายแต่กลับรวยไม่จริง
  ”ไม่เป็นไรข้าจะซื้อมัน แต่ท่านจะต้องแถมรูปปั้นทองแดงสัมฤทธิ์ที่อยู่ด้านข้างให้กับข้าด้วย”ชิงสุ่ยชี้ไปยังรูปปั้นทองแดงที่ถือเจดีย์สามองค์ ตัวเขาก็ไม่แน่ใจว่ามันทำจากทองแดงสัมฤทธิ์หรือไม่ แต่สีภายนอกดูเหมือนมาก
  เจ้าของร้านดวงตาเป็นประกายเมื่อได้ยินคำพูดเขาทำตามคำขออย่างง่ายดาย ที่สำคัญรูปปั้นทองแดงสัมฤทธิ์ก็เป็นสิ่งของธรรมดาที่เขาใช้ทำในเวลาว่าง จากคำขอเจ้าของร้านจึงมโนได้ทันทีว่าชิงสุ่ยก็คงเป็นคนธรรมดาทั่วไปไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุสมบัติโบราณ
  รูปปั้นที่ชิงสุ่ยขอเขารู้ดีว่ามันคือของที่ไร้คุณค่าที่สุด แต่ลักษณะการแกะสลักก็ถือว่าค่อนข้างดี และเป็นการออกแบบเพื่อใช้ในการจับเจดีย์ทั้ง 3 องค์โดยเฉพาะ
  การซื้อขายเป็นไปอย่างราบรื่นทันทีที่เขาได้ใจดีทั้ง 3 องค์มา ชิงสุ่ยก็รีบทำความสะอาดอย่างรวดเร็ว เมื่อฝุ่นและคราบด่านที่ติดอยู่ตามองค์เจดีย์ถูกตัดออก ภายในก็เปิดเผยให้เห็นถึงเนื้อที่เรียบเนียนปราณี
  การเสียเงินเกือบ1 ล้านเหรียญเงินเพื่อเจดีย์ เรียกได้ว่าเป็นการจ่ายเงินที่สุรุ่ยสุร่ายอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่โชคดีที่ชิงสุ่ยรู้ว่ามันคือเจดีย์ปกปักชะตาสวรรค์ เงิน 1 ล้านบาทไม่ต้องพูดถึงเลยเพราะมันมีคุณค่ามากกว่านั้น และมันก็เทียบเท่ากับสมบัติล้ำค่าของตระกูลใหญ่ๆ
  หลังจากที่เดินออกจากร้านค้าใบหน้าชิงสุ่ยก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข “เจ้าลองเดาซิ ว่าทำไมเจ้าของร้านถึงพยายามไล่เราออกจากร้านให้ไวที่สุด?”
  ”นั่นสิทำไมเขาถึงไล่ลูกค้าให้ออกจากร้านเร็วยิ่งนัก? แล้วสิ่งที่จะเอามามันมีประโยชน์อะไรบ้าง?”ฉินชิงจ้องมองเจดีย์ที่อยู่ในมือของเธอด้วยสายตาสงสัย
  ”นี่คือสมบัติที่มีประโยชน์ยิ่งถ้าหากมีใครรู้วิธีการใช้งานของมัน ข้ามั่นใจเลยว่าผู้คนจะไล่ตามและพยายามฆ่าเพื่อแย่งชิงมันมาจากมือของเจ้า”ชิงสุ่ยตอบกลับอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็มั่นใจว่าผู้คนย่อมไม่รู้ประโยชน์ของมัน
  ”สมบัติแย่งชิง?”ฉินชิงหมอด้วยความประหลาดใจ เธอรู้ดีว่าชิงสุ่ยคงไม่มีทางยอมจ่ายเงินมหาศาลเพื่อซื้อสิ่งของสวยงามไร้ประโยชน์อย่างโง่เคลา ซึ่งถานท่ายหลิงเยียนก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน
  ”บอกข้ามาเถิดอย่าทำให้ข้าอยากแล้วปล่อยให้ข้าต้องติดพันข้อสงสัยอีกต่อไปเลย”ฉินชิงพยายามถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะเธอรู้ดีว่าถานท่ายหลิงเยียนจะไม่ยอมปริปาก
  ”ขั้นแรกก็จัดการเจ้าขยะนั่นก่อนเลย”ชิงสุ่ยยิ้มก่อนจะหันหลังกลับไปมองใครบางคนที่พยายามตามติดอยู่ด้านหลัง
  ตลอดเส้นทางเดินชิงสุ่ยพยายามเดินมาในเส้นทางที่ไม่มีผู้คน เขาเดาไว้ว่าที่เจ้าของร้านขับไล่เขาออกมาอย่างรวดเร็วมันจะต้องมีเหตุผลบางอย่าง ซึ่งอาจจะแอบลอบตามเขามาอย่างลับๆก็เป็นได้ ก่อนที่เขาจะออกมาจากร้านชิงสุ่ยได้สบตากับดวงตาของเจ้าของร้าน มันบ่งบอกถึงความอิจฉาริษยา และกามอารมณ์อย่างชัดเจน
  ”อืมอย่าได้พยายามแอบอีกเลย ออกมาเถอะ”ชิงสุ่ยจ้องมองชายสูงวัยผู้ซึ่งเป็นคนขายเจดีย์ให้กับเขา ตอนนี้ชายผู้นั้นกำลังซ่อนตัวอยู่บริเวณมุมทางโค้ง
  ใบหน้าของชายคนนี้ไม่ได้มีความหล่อเหลาหรือความน่ารังเกลียดส่วนใหญ่จะบ่งบอกถึงความต้องการทางเพศ
  ”น่าเสียดายจังโดนจับได้ซะแล้ว”ชายผู้นั้นหัวเราะเยาะพร้อมดวงตาที่น่ากลัว
  ”แสดงว่าเจ้าจงใจตามพวกเราจริงๆไม่ทราบว่าเพื่ออะไร?”ชิงสุ่ยยิ้มตอบ
  ”ก็ไม่มีอะไรมากหรอกเพียงแค่ข้าคิดว่าตัวของเจ้านั้นไม่สมควรพาหญิงสาวโฉมงามทั้งสองคนไปไหนมาไหนด้วยก็เท่านั้นเอง”
  ”โอ้เจ้ากำลังหมายความว่าเจ้าต้องการแยกข้าจากโฉมงามทั้งสองคนใช่หรือไม่?”ชิงสุ่ยเผยเห็นรอยยิ้มที่เป็นธรรมชาติ