“อาจเป็นเพราะพวกนั้นรู้ว่าเสี่ยวเสียฆ่าเจ้าพวกโง่เมิ่งอีเหลียงนั่นก็ได้ ก็เลยทำแบบนี้” เฉียวฉู่ก็พอจะเข้าใจอยู่บ้าง แต่ก็ยังมีส่วนที่ไม่เข้าใจอยู่ดี
จวินอู๋เสียส่ายหน้า
“พวกเขาพยายามจับหมีวิญญาณกันอย่างเป็นความลับมาก ถ้าจงจงถูกจับได้แล้ว พวกเขาจะพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ทุกคนหันมาสนใจทันที และจะไม่ปล่อยให้เรื่องมันบานปลายต่อไปอีก ดังนั้น ถ้าจงจงอยู่ในมือพวกเขาแล้ว พวกเขาคงไม่ส่งวิญญาณออกมาตามจับข้ามากมายขนาดนี้ แต่คงรวบรวมกำลังทั้งหมดไปที่การสร้างหอคอยโยวหลิงแทน และจะมาคิดบัญชีกับข้าหลังจากหอคอยโยวหลิงแห่งที่สี่สร้างเสร็จแล้ว”
“แบบนี้นี่เอง” เฉียวฉู่ลูบคาง ในที่สุดก็เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดแล้ว
ต้องบอกว่าจวินอู๋เสียคิดได้ละเอียดถี่ถ้วนจริงๆ
“บอกข้าสิ พวกเจ้าเห็นอะไรที่หอคอยโยวหลิงแห่งที่สี่?” จวินอู๋เสียอยากรู้เรื่องของหอคอยโยวหลิง นางอยากไขข้อสงสัยในใจผ่านหอคอยโยวหลิง
ฟ่านจั๋วเล่าทุกอย่างที่พวกเขาเห็นใกล้ๆหอคอยโยวหลิงให้จวินอู๋เสียฟัง
หอคอยโยวหลิงแห่งที่สี่ถูกสร้างขึ้นในสถานที่ที่เหล่าวิญญาณอาศัยอยู่ และนี่ไม่ใช่กรณีเดียว จากการตรวจสอบของน่าหลานเยว่ หอคอยโยวหลิงแห่งที่สามก็เป็นเหมือนกัน พวกเขาไม่ได้เลือกสถานที่ที่ว่างเปล่า ไม่มีใครรู้ว่าอูจิ่วคิดอะไรอยู่ แต่เขายึดที่อยู่ของวิญญาณอื่นอย่างเผด็จการ…ไอลีนโนเวล
เนื่องจากการก่อสร้างหอคอยโยวหลิง เหล่าวิญญาณที่อาศัยอยู่เดิมจึงต้องย้ายออกไปอย่างไม่มีทางเลือก มันเป็นการก่อสร้างขนาดใหญ่ และหอคอยโยวหลิงแห่งที่สี่เพิ่งเริ่มสร้างได้ไม่นานมานี้เอง จึงมีวิญญาณจำนวนมากที่ยังไม่ได้ย้ายออกไป ทำให้ที่นั่นค่อนข้างวุ่นวายโกลาหล
พื้นที่รอบๆสถานที่ก่อสร้างหอคอยโยวหลิงแห่งที่สี่ถูกปิดไม่ให้ใครเข้าใกล้ พวกเฉียวฉู่จึงทำได้แค่เฝ้าสังเกตการณ์จากระยะไกล ไม่สามารถเข้าใกล้ได้เลย
ความเร็วในการก่อสร้างกลับมาเป็นปกติอย่างกะทันหัน ทีมงานก่อสร้างจึงเริ่มรับสมัครคนงานจากภายนอก พวกเฉียวฉู่ดูเกณฑ์การรับสมัครมาแล้วและพบว่าพวกเขาต้องการแค่วิญญาณมนุษย์เท่านั้น ไม่มีข้อกำหนดพิเศษอย่างอื่น พวกเขาจึงกลับมาที่นี่เพื่อปรึกษาเรื่องนี้กับจวินอู๋เสีย
“ข้าว่าทำไมเราไม่ใช้โอกาสนี้แอบเข้าไปในนั้นล่ะ?” เฉียวฉู่คันไม้คันมืออยากลอง ความลึกลับที่อยู่เบื้องหลังหอคอยโยวหลิงทำให้เขาอยากจะสืบสวนให้ลึกลงไปอีก
จวินอู๋เสียพยักหน้า นางกำลังคิดแบบเดียวกัน
“แต่ตอนนี้มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง เราจะทำยังไงกับหน้าของเสี่ยวเสียดี?” ฟ่านจั๋วมองจวินอู๋เสีย ตอนนี้จวินอู๋เสียเป็นวิญญาณ ไม่ได้อยู่ในกายเนื้อ ดังนั้นของที่นางเคยใช้แปลงโฉมเมื่อก่อนจึงไม่สามารถใช้ได้ในตอนนี้
และในบรรดาข้าวของที่เย่เจี๋ยเตรียมให้จวินอู๋เสียก็ไม่มีของแบบนั้นอยู่ ในโลกวิญญาณที่มีภาพเหมือนของจวินอู๋เสียติดอยู่ทั่วไปหมด ถ้าจวินอู๋เสียใช้รูปลักษณ์ของนางตอนนี้ นางจะถูกจับทันทีก่อนที่จะได้แอบเข้าไปอย่างแน่นอน
นั่นคือจุดที่จวินอู๋เสียกำลังคิดอยู่ ในกระเป๋ามิติที่เย่เจี๋ยเตรียมไว้ให้นาง เต็มไปด้วยข้าวของที่วิญญาณสามารถใช้ได้ แต่ไม่มียาอะไรเลย ยิ่งกว่านั้น นางไม่คิดว่ายาที่มีส่วนผสมของเนื้อและผิวหนังจะสามารถปรับเปลี่ยนใบหน้าของร่างวิญญาณได้
“เสี่ยวเสียเอ๋อร์” ทันใดนั้น จวินอู๋เหยาที่นั่งอยู่ด้านหนึ่งก็เอ่ยปากเรียก
จวินอู๋เสียหันไปมองจวินอู๋เหยา เมื่อเห็นเขากวักมือเรียกนาง นางก็เดินเข้าไปหา
จวินอู๋เหยายื่นมือออกไปเชยคางจวินอู๋เสีย มองดูใบหน้าอันงดงามนั้น แล้วพูดว่า “ถ้าอยากแปลงโฉม จะต้องการอย่างอื่นไปทำไม? ให้ข้าช่วยเจ้าไหม?”
จวินอู๋เสียตาเป็นประกายทันที