อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 646 กลับจวนอ๋องหาน
การหายใจที่เบาจนไม่ได้ยินของเลว่อิ่งเพิ่มความเร็วขึ้นเล็กน้อย ไม่ช้าก็กลับคืนสู่ความสงบ เร็วจนทำให้คนจับไม่ได้

“เย่เฟิงเป็นคนที่น่าสังเวชผู้หนึ่ง และเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก เขาเป็นลูกชายแท้ๆของฮ่องเต้และฮองเฮาแห่งแคว้นฉู่ แต่เพิ่งจะคลอดออกมาก็ถูกขโมยไปทิ้งไว้ที่เผ่าปีศาจ อายุห้าปีก็เป็นทาสบำเรอของหัวหน้ากองธงกล้วยไม้โดนทรมานเหยียดหยาม ได้รับความหิวโหยเหน็บหนาวบีบคั้น ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น”

“ความปรารถนาสูงสุดในชีวิตของเขาคือการตามหาพ่อแม่แท้ๆของตัวเองให้เจอ เขาก็พบตามความปรารถนาแล้ว แต่พ่อแม่ของเขากลับเป็นฮ่องเต้และฮองเฮาผู้ที่อยู่อย่างสูงศักดิ์และมีอำนาจล้นฟ้าแห่งแคว้นฉู่ โอรสผู้หนึ่งที่เป็นทาสบำเรอสนองความต้องการให้คนเล่นกันอย่างมีความสุขเผยแพร่ออกไป หน้าตาของราชวงศ์แคว้นฉู่ยังจะเอาอีกหรือไม่”

“เขาไม่กล้ายอมรับ ท้ายที่สุด……ฮองเฮาฉู่จำเขาได้แล้ว อยากยอมรับกันและกันกับเขา น่าเสียดาย……เขาตายแล้ว ตายอย่างน่าอนาถที่ทะเลโลหิตแห่งภูเขาน้ำเต้า ไม่ได้เห็นแม้แต่หน้าครั้งสุดท้ายของฮองเฮาฉู่ กระทั่งยังไม่เคยได้พบกับฮ่องเต้ฉู่ด้วยซ้ำ”

“เขามีชีวิตอย่างต้อยต่ำมาก มีชีวิตอย่างไร้ศักดิ์ศรี ใช้ชีวิตยังเทียบไม่ได้แม้แต่กับหมากับแมว แต่ไม่ว่าอย่างไรในใจของเขาก็ยังมีคุณธรรม ไม่ว่าคนอื่นจะทรมานหรือเหยียดหยามเขายังไง ก็ไม่อาจเผาไหม้คุณธรรมในจิตใจของเขาไปได้”

เลว่อิ่งฟังเงียบๆ บนใบหน้าของเขาไม่มีความเคลื่อนไหว ไร้ความสุขไร้ความเศร้า ราวกับว่าเป็นรูปปั้นที่อยู่เป็นนิรันดร์เช่นนั้น

มีเพียงในใจของเขาเองที่รู้ว่า จิตใจอันเยือกเย็นของเขาดวงนั้น เวลานี้ได้ถูกระลอกคลื่นกระตุ้นขึ้นมาทีละชั้นๆแล้ว

เย่เฟิง……องค์ชายแห้งแคว้นฉู่ ทาสบำเรอของหัวหน้ากองธงกล้วยไม้……

หัวหน้ากองธงกล้วยไม้เป็นคนแบบไหน คนทั้งโลกไม่มีผู้ใดไม่รู้

การเป็นของเล่นของเขา นั่นก็เหมือนตายทั้งเป็นเป็นแน่

ก็เพราะเขาหน้าตาเหมือนเย่เฟิง ดังนั้นฮ่องเต้ฉู่และฮองเฮาฉู่ถึงได้ดีต่อเขาขนาดนั้นหรือ?

คำพูดของกู้ชูหน่วนดังขึ้นอีกครั้งช้าๆ

“ฮ่องเต้ฉู่และฮองเฮาฉู่สองสามีภรรยารักใคร่กัน ฮ่องเต้ฉู่ละทิ้งหญิงงามในวังหลังนับสามพันนาง โปรดปรานฮองเฮาฉู่ผู้เดียว ฮองเฮาฉู่คิดถึงลูกจนป่วย สุขภาพไม่ดี ตลอดมาก็ไม่ได้มีบุตรอีก และไม่ยอมให้กำเนิดอีก ฮ่องเต้และฮองเฮาแห่งแคว้นฉู่ปล่อยให้ขุนนางในราชสำนักยื่นหนังสือแสดงเจตจำนง แต่ไม่ยอมรับพระชายาและพระสนมอีก ในใจของพวกเขาเชื่อมาเสมอว่า ลูกชายของพวกเขายังอยู่ในโลก เพียงแค่พวกเขาตั้งใจหา ช้าเร็วก็ต้องหาเจอสักวันหนึ่ง”

“การตายของเย่เฟิงมีผลกระทบกระเทือนต่อพวกเขาอย่างรุนแรง พวกเขาล้างหน้าด้วยน้ำตาทุกวัน หลังจากที่เจ้าปรากฏตัว รอยยิ้มของพวกเขาจึงได้ปรากฏออกมาอีกครั้ง”

“เจ้าบอกเรื่องราวเหล่านี้กับข้าทำไม?” เลว่อิ่งกล่าวขึ้นอย่างเย็นชา

“ข้ารู้ว่ายากมากที่ข้าจะเปลี่ยนความคิดที่หยั่งรากลึกของเจ้า แต่ฮ่องเต้และฮองเฮาแห่งแคว้นฉู่เป็นคนดี พวกเขาก็ปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนเป็นลูกชายแท้ๆ หลังจากนี้ไม่ว่าเจ้านายของเจ้าจะให้เจ้าสังหารใคร เจ้าก็ไม่สามารถทำร้ายพวกเขาได้”

เลว่อิ่งไม่ได้พูดจา แต่หันศีรษะออกไปทางนอกหน้าต่าง

กู้ชูหน่วนกลับยิ้มแล้ว ยืดเอวบิดขี้เกียจแล้วจากไป

“เสพสุขกับความสุขที่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัวเช่นนี้เถอะ ไม่แน่เจ้าอาจจะเป็นลูกชายแท้ๆของพวกเขาจริงๆก็ได้”

เลว่อิ่ง “……..”

“มีคนประคบประหงมรักและเอ็นดูไว้ในอุ้งมือ ดีกว่าการลิ้มรสเลือดจากปลายมีดดาบไม่ใช่หรือไง?”

เลว่อิ่งเอียงหน้ามองไป ก็ไม่รู้ว่าเงาร่างสีแดงเพลิงของกู้ชูหน่วนหายไปอยู่ที่ไหนแล้ว

เขาไตร่ตรองคำพูดของนางเงียบๆ ผ่านไปเป็นเวลานาน ในดวงตาของเขามีความเจ็บปวด จับมีดดาบของตัวเองไว้แน่น

คนที่อยู่ในยุทธจักร ทำตามใจตัวเองไม่ได้

นับประสาอะไรกับพวกเขา……

กู้ชูหน่วนถือโอกาสตอนที่ฮัวฉีหลัวหลับวิ่งย่องกลับไปที่จวนอ๋องหานแล้ว

ใกล้จะถึงยามจื่อ กู้ชูหน่วนกลัวว่าตัวเองจะรบกวนเย่จิ่งหาน จึงตั้งใจปีนกำแพงเข้าไปโดยตรง

สิ่งที่ทำให้นางคาดไม่ถึงคือ นางเพิ่งจะกระโดดลงมา ที่จวนก็หนาแน่นไปด้วยผู้คน และผู้นำไม่ใช่เย่จิ่งหานพอดีหรอกหรือ

เย่จิ่งหานนั่งอยู่บนเก้าอี้นอน ที่ยืนอยู่ด้านหลังคือชิงเฟิงเจี่ยงเสวีย ทั้งยังมีชิวเอ๋อร์รวมทั้งเหล่าบรรดาองครักษ์ด้วย

เหมือนกำลังจับชู้แบบคาหนังคาเขา

ถุ้ย

บ้าอะไร

นางก็ไม่ได้ไปมั่วกับใครสักหน่อย