เทือกเขาแอลป์ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะหนาทำให้ทั้งเทือกเขาขาวโพลนไปหมดจนมองไม่เห็นอะไรนอกจากหิมะไม่มีสักคนที่อยู่ในสถานที่เช่นนี้ หิมะที่หนาจนอาจจะลึกกว่าร้อยเมตรหรืออาจจะถึงสองร้อยเมตรด้วยซ้ำ มันลึกขนาดที่ว่าถ้าเป็นหลุมปกติก็ไม่สามารถมองเห็นถึงก้นหลุมได้
  และในตอนนั้นเองจู่ๆก็มีบางอย่างขยับเคลื่อนอยู่ในกองหิมะทำให้กองหิมะที่หนากว่าร้อยเมตรเคลื่อนตัว
  ตามมาด้วยเสียงดังบางอย่างหิมะค่อยๆเคลื่อนแตกตัวกระจาย
  ”!…หิมะนี้!”เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น ร่างใหญ่ยักษ์ของหวังไคโผล่ขึ้นมากองหิมะหนา “ว่ายทวนอยู่ในหิมะเป็นหลายชั่วโมงจนจะป่วยแล้ว หิมะท่วมหนาขนาดนี้กว่าจะหากันเจอ เหนื่อยจนจะตายอยู่แล้ว!”
  จมูกของชูฮันขึ้นสีแดงเพราะความหนาวเขาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเพราะความเหนื่อยล้าหลังจากออกมาจากการประเมิณของเสาหิน “พูดให้ดี ไม่งั้นพ่อจะให้แกลงไปว่ายงมในนั้นอีกรอบ”
  ”อะไรนะ?!”หวังไคเสียวสันหลังวาบด้วยความกลัว มันรีบหดตัวและกระโดดหนีเข้าไปอยู่ในกระเป๋าชูฮันทันที อุ้งมือของมันกำจิกเสื้อผ้าชูฮันไว้แน่นด้วยกลัวว่าชูฮันจะเตะมันออกมา มันรู้ดีว่าชูฮันไม่เคยพูดเล่นและไม่เคยมีความเมตตา!
  หลังจากดุหวังไคเรียบร้อยชูฮันก็ขี้เกียจเกินกว่าจะพูดอะไรออกมาอีก เขาเพียงแค่เดินหน้าต่อหน้าอย่างยากลำบาก เขาเดินไปพร้อมกับพยายามปรับความรู้สึกใหม่ที่เกิดขึ้นจากการเข้าสู่ระยะ 6
  ต้องบอกเลยว่าการประเมิณระยะ5 เรียกได้ว่าค่อนข้างยากมากเลยทีเดียว เขาต้องทุ่มพลังหมดทั้งตัวเต็มกำลัง และเขาก็รู้ว่าเขาจะต้องเป็นคนแรกที่มาทำการประเมิณเสาหินพิเศษเสานี้  ตอนที่เขาไปในการประเมิณมันมีเส้นทางแยกออกไปหกเส้นทางให้เลือกเดิน ซึ่งทั้งห้าเส้นทางจะอยู่ตรงข้ามกับเส้นทางโลกคู่ขนานที่พาไปยังประตูมิติ หากเพราะในตัวของชูฮันมีระบบล่มสลายอยู่และเป็นอย่างทุกครั้งมันจะคอยดึงดูดและยั่วยวนเขาให้เลือดเส้นทางที่พาไปยังโลกคู่ขนานอยู่เสมอ
  ชูฮันรู้ว่าทางเส้นนี้มีเศษชิ้นส่วนล่มสลายที่รอให้เขาค้นพบอยู่ที่จริงจุดประสงค์ที่เขามาที่นี้ก็เพื่อตามหาเศษชิ้นส่วนล่มสลายชิ้นที่ห้านี้อยู่แล้ว
  เพราะงั้นชูฮันที่พึ่งจะได้ชิ้นที่ห้าที่พึ่งมาครอบครองจึงยังมึนๆอึนๆไม่หายในขณะเดียวกันมันก็เป็นเพราะหวังไคมีสีหน้าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่หลังจากการประเมิณจบลงล
  เพื่อเศษชิ้นส่วนล่มสลายชิ้นที่ห้าเขายอมละทิ้งรางวัลในประตูมิติไปตั้งเท่าไหร่?
  ”ฉันบอกว่าให้เลือกไม่เส้นทางที่หนึ่งก็ที่สองมันมีรางวัลมากมายให้นายรอเก็บอยู่ นายไม่คิดจะเรื่องความสมบูรณ์แบบของระบบล่มสลายเลยรึไง?!” หวังไคเหลือบตามองชูฮันอย่างไม่พอใจ “ดูนะ ชิ้นส่วนล่มสลายที่ต้องใช้เพื่อช่วยแม่ของนายนายก็มีอยู่แล้ว ก็เอาไปให้ท่านตอนนี้เลย เท่ากับตอนนี้นายมีชิ้นส่วนล่มสลายสองชิ้นเก็บอยู่ในประตูมิติของนาย ถ้างั้นฉันขอหนึ่งชิ้นมาเพื่อยกระดับระบบล่มสลายได้มั้ย?”
  ”ถ้าฉันให้นายไปนอกเหนือจากเพิ่มความทรงจำขึ้นมา 25% มันจะทำประโยชน์อะไรได้อีก?” แววตาของชูฮันยากที่จะอ่าน เขาดูไม่อยากจะสนทนากับหวังไคเท่าไหร่
  ”ฉันยังไม่ทันได้ฟื้นตัวเลยฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าแท้จริงแล้วฉันสามารถทำอะไรได้บ้าง?” หวังไคตาโต “ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้มีความทรงจำ นายกำลังกังวลอะไรกันแน่?”
  ”ฉันไม่ได้กังวลแต่ฉันเกรงว่านายจะไร้ประโยชน์” ชูฮันพูดออกมาทื่อๆ หากที่จริงในใจของเขาก็เริ่มคิดคล้อยตามคำพูดของหวังไค  การทำงานต่างๆของระบบล่มสลายในตอนนี้ค่อนข้างตรงตัวทว่าสิ่งที่ชัดเจนและมีประโยชน์ที่สุดก็คือเขาไม่จำเป็นจะต้องฝึกฝนและสะสมพลังของตัวเองเพื่อยกระดับวิวัฒนาการเหมือนกับคนทั่วไป ทุกอย่างเกิดจากการส่งผ่านแลกเปลี่ยนพลังงานในรูปแบบของข้อมูลและเหรียญล่มสลาย
  และความสามารถที่หลากหลายในระบบล่มสลายนั้นก็เป็นประโยชน์อย่างมากต่อตัวชูฮันโดยเฉพาะสามความสามารถพิเศษที่ชูฮันนำมาใช้ การต่อสู้ ความเร็วและความแม่นยำ อย่างเช่นก่อนหน้านี้ที่ชูฮันได้ยกระดับขึ้นมาที่วิวัฒนาการระยะ 6 หลังจากที่เขาได้ยกระดับ ทั้งสามความสามารถพิเศษเองก็ถูกยกระดับขึ้นมาที่ระยะ 6 เช่นกัน
  สำหรับความสามารถอื่นๆในระบบล่มสลายนั้นอย่างก่อนหน้านี้ที่ชูฮันต้องใช้เหรียญล่มสลาย 10,000 เหรียญเพื่อแลกกับยาต้านไวรัสที่ทำให้เกือบตายในเมืองหนานตู้
  นอกเหนือจากการเสริมสร้างทางสมรรถภาพร่างกายความสามารถพิเศษ และการกำจัดไวรัสในร่าง ชูฮันก็ยังไม่พบความสามารถอื่นของระบบล่มสลาย แต่หวังไคก็พยายามเกลี้ยกล่อมเขาให้ไตร่ตรองเรื่องนี้ดู แต่มันไม่มีอะไรที่ดึงดูดชูฮันได้เลย เพราะแม้แต่ตัวหวังไคเองก็ไม่รู้เช่นกัน ดังนั้นชูฮันจึงไม่รู้ว่าควรจะยกชิ้นเศษล่มสลายให้หวังไคไปดีมั้ย
  ไม่ใช่ว่าไม่เด็ดขาดแต่เป็นเพราะหลังจากเหตุการณ์ของแม่ ชูฮันอยากจะเก็บชิ้นส่วนล่มสลายสำรองเอาไว้กับตัวในกรณีที่มันมีเหตุฉุกเฉินอย่างนั้นเกิดขึ้นอีก ถ้าเขาหุนหันใช้ชิ้นล่มสลายเพื่อยกระดับระบบล่มสลายให้กับหวังไคไป แล้วหลังจากมันเกิดเหตุการณ์คล้ายกับแม่เขา แต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้ได้แต่ยืนมองคนของเขาตายไปอย่างสิ้นหวังล่ะ?
  แม้ว่าเราจะสูญเสียโลกแต่จะให้เราทอดทิ้งคนใกล้ชิด คนที่เราห่วงใยลงคอได้ยังไง อย่างที่รู้ว่าชูฮันยังตามหาพ่อไม่เจอเลย แต่ที่เขามั่นใจคือพ่อของเขาตกอยู่ในมือของไอ้ชั่วซาวชุนฮุ่ย!
  ”นายคิดว่ามันดีกว่า?”หวังไคมองชูฮันที่เอาแต่เงียบตลอดทางขณะเดินไปข้างหน้าด้วยความเร็วคงที่ หวังไคอดไม่ได้ที่จะพูดกระตุ้นชูฮัน “เพื่อให้มันสมบูรณ์แบบโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ตอนนี้ฉันจะพูดตรงๆกับนาย ฉันแค่อยากมั่นใจว่านายระวังตัวเรื่องเกาช้าวฮุ่ย แม้ว่าฉันจะไม่รู้จักเขาแต่สัญชาตญาณของฉันบอกว่านายห้ามเปิดเผยชิ้นส่วนล่มสลายข้างนอกโดยเฉพาะต่อหน้าเขาเด็ดขาด!”
  ”เขามีจมูกและหูเหมือนหมา”ชูฮันกระซิบตอบขณะยังคงเดินหน้าต่อไป มือหนึ่งสัมผัสเข้ากับโลหะเย็นๆตรงหน้า ซึ่งมันคือด้านนอกของเจ้า Amaterasu3000
  ”ฉันรู้น่า!แล้วนายจะพูดออกมาให้เขาได้ยินทำไม?” เมื่อได้เห็นเครื่อง Amaterasu3000 ทันใดนั้นหวังไคก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมาทันที มันพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอาไว้ไม่ให้ปะทุออกมา
  ”ก่อนอื่นปล่อยวาง เพราะยังไงฉันก็คงไม่ทำให้มันสมบูรณ์ในเร็วๆนี้แน่” คำตอบของชูฮันนั้นแน่วแน่และชัดเจน จนหวังไคหมดหนทางจะโต้แย้ง จากนั้นชูฮันก็เอื้อมไปเคาะเกราะของ Amaterasu3000
  ”ก๊อก!ก๊อก!”
  เสียงที่ดังจากด้านนอกเข้ามาด้านในทำให้เกาช้าวฮุ่ยที่รออยู่ในยานมาตลอดคืนด้วยสภาพหงุดหงิดอย่างมาก เขาตื่นตัวขึ้นมาทันที
  ”พ่อมึงสิชูฮัน!!!”เสียงตะโกนสบถของเกาช้าวฮุ่ยระเบิดอ่านประตู Amaterasu 3000 ออกมาด้านนอก เกาช้าวฮุ่ยจ้องหน้าชูฮันจากด้านในจนตาถลน โดยไม่สนใจว่าชูฮันจะจมอยู่ในกองหิมะหนามานานขนาดไหน “ฉันรอนายทั้งคืน พึ่งจะได้นอนไปไม่กี่ชั่วโมง ไม่ทราบว่านายท่านอยากจะคนรับใช้อย่างกระผมพาไปไหนนอีกครับ?!”
  เกาช้าวฮุ่ยพูดเสียงรอดไรฟันอย่างประชดประชันนัยน์ตาสีเหลืองอำพันเริ่มขยายตัวพร้อมกับรัศมีความน่ากลัวที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาจ้องชูฮันที่ปีนดันตัวขึ้นมาจากกองหิมะด้วยสายตาเหลือเชื่อ