โทรศัพท์โทรมาจากสถานีตำรวจ เกี่ยวกับเรื่องการสารภาพของเกศวดีอย่างไม่ต้องสงสัย
ถึงเมื่อคืนเธอจะเดาได้แล้วว่าเกศวดีช่วยส้มเปรี้ยว แต่ตอนนี้ได้ยินว่าเป็นแบบนี้จริงๆ ในใจมายมิ้นท์ก็ยังโกรธเคืองมาก
เกศวดีสมองทึ่มจริงๆ ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว
เธอไม่เคยคิดเลย เรื่องที่ปล่อยส้มเปรี้ยวหนีไป หลังจากมันเปิดเผยออกมา จะทำให้ตระกูลเสนาประกรเดือดร้อนไหม?
“คุณมายมิ้นท์? คุณมายมิ้นท์?” พลตำรวจภูทิศเห็นโทรศัพท์ไม่ได้รับคำตอบจากมายมิ้นท์เป็นเวลานาน จึงเรียกสองที “คุณยังอยู่ไหม?”
“ฉันยังอยู่ค่ะ” มายมิ้นท์ดวงตาสั่นไหว หายใจเข้าลึกๆ ระงับความโกรธในใจชั่วคราว ได้สติกลับมาแล้ว “พลตำรวจภูทิศ ฉันอยากรู้ว่าเกศวดีได้เผยที่อยู่ส้มเปรี้ยวไหม?”
“เรื่องนี้ไม่ครับ” พลตำรวจภูทิศส่ายหน้า “เกศวดีบอกว่าหลังจากสับเปลี่ยนกระเป๋าส้มเปรี้ยวแล้ว ทั้งคู่ก็แยกกันที่นอกโรงพยาบาล เธอไม่รู้เหมือนกันว่าส้มเปรี้ยวไปที่ไหน”
“เกศวดีโกหกหรือเปล่า?” มายมิ้นท์ขมวดคิ้ว
พลตำรวจภูทิศตอบกลับ “เราใช้เครื่องจับเท็จทดสอบ เธอไม่ได้โกหก เธอไม่รู้เกี่ยวกับที่อยู่ส้มเปรี้ยวจริงๆ”
มายมิ้นท์กัดปาก
เกศวดีไม่รู้ที่อยู่ส้มเปรี้ยว งั้นตอนนี้ส้มเปรี้ยวต้องซ่อนตัวแล้วแน่ๆ
แค่ไม่รู้ว่าซ่อนตัวที่ไหนกัน
ราวกับเดาได้ว่าตอนนี้มายมิ้นท์กำลังคิดอะไรบางอย่าง พลตำรวจภูทิศจึงเอ่ยปากอีกครั้ง “ไม่ต้องห่วงนะครับคุณมายมิ้นท์ ฉันได้รับการอนุญาตจากเบื้องบนแล้ว ออกหมายจับส้มเปรี้ยวอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าอีกไม่นาน คงจับเธอได้”
“ค่ะ ฉันเชื่อพวกคุณ” มายมิ้นท์ฝืนยกยิ้มตอบกลับ
หลังจากนั้น เธอก็ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของเกศวดีจากพลตำรวจภูทิศ ก่อนจะวางสายไป แล้วทิ้งโทรศัพท์ไว้ข้างๆ นั่งข้างเตียง เริ่มนึกย้อนว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
เพราะเธอจำได้แม่น ว่าเมื่อคืนตัวเองหลับบนรถเปปเปอร์
ดังนั้นตอนนี้ เธอไม่มีความทรงจำตอนกลับมาที่นี่เลยแม้แต่นิดเดียว
ถ้าอย่างนั้นก็เห็นได้ชัดว่า เธอไม่ได้ลงรถเดินกลับมาเอง แต่เปปเปอร์พาเธอกลับมา
แต่แขนเขาได้รับบาดเจ็บยังไม่หายดี งั้นเขาพาเธอลงจากรถยังไง?
ขณะที่กำลังคิด ที่ห้องรับแขกก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
มายมิ้นท์ขมวดคิ้ว เดินออกไปจากห้องนอน “ใครคะ?”
“มิ้นท์ นี่ฉันเอง” นอกประตูมีเสียงลาเต้ดังขึ้น
มายมิ้นท์ยิ้ม แล้วเปิดประตู “นายมาทำไม?”
“มาเพราะเรื่องส้มเปรี้ยวฆ่าตัวตายไง” ลาเต้เดินเข้ามา เปลี่ยนรองเท้าพลางพูดไปด้วย
มายมิ้นท์ปิดประตู “เพราะเรื่องส้มเปรี้ยว? เรื่องนี้เมื่อคืนฉันบอกนายไปแล้วไม่ใช่เหรอว่า……”
“มิ้นท์ สิ่งที่ฉันจะพูดต่อไปนี้ เธอห้ามตื่นเต้นเด็ดขาดนะ” หลังจากเปลี่ยนรองเท้าเสร็จ ลาเต้ก็ยืดตัวขึ้น มองเธอด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
มายมิ้นท์พยักหน้า “ได้ ฉันจะไม่ตื่นเต้น นายจะพูดอะไร?”
“สิ่งที่ฉันอยากบอกเธอคือ ส้มเปรี้ยวไม่ได้ตาย คนที่กระโดดตึกฆ่าตัวตายเมื่อคืนไม่ใช่หล่อน” ลาเต้พูดด้วยสีหน้าย่ำแย่
ดวงตามายมิ้นท์ฉายแววประหลาดใจ “นายรู้ได้ยังไง?”
หรือว่าตำรวจประกาศเรื่องนี้ออกไปแล้ว?
ไม่จริงสิ ตำรวจคงไม่ประกาศแน่
หลังจากประกาศไป ประการแรกอย่าว่าแต่ความน่าเชื่อถือของตำรวจลดลง ประการที่สองจะทำให้คนหวาดกลัวด้วย
ดังนั้นตำรวจไม่มีทางประกาศออกไปแน่
“ฉันได้ยินคนในกลุ่มพูดกัน” ลาเต้ตอบ
“กลุ่ม?” มายมิ้นท์ขมวดคิ้ว
ลาเต้ตอบอืม “ใช่ เรื่องที่ส้มเปรี้ยวกระโดดตึกฆ่าตัวตาย ตอนนี้กำลังแพร่กระจายในกลุ่ม แล้ววันนี้เช้าไม่รู้ใครในกลุ่มบอกว่าคนที่ฆ่าตัวตายไม่ใช่ส้มเปรี้ยว แต่เป็นตัวแทนที่ส้มเปรี้ยวหามา ฉันเลยไปสืบเพราะไม่วางใจ พบว่ามันเป็นงั้นจริงๆ เกศวดีช่วยส้มเปรี้ยว”
เรื่องนี้ ถึงตำรวจไม่ได้ประกาศต่อสาธารณะ แต่คนในกลุ่มจะสืบหาก็ง่ายดายมาก
แต่หลังจากสืบแล้ว จะประกาศออกไปไม่ได้
“มิ้นท์ ทำไมเธอตอบสนองเรียบเฉยจัง?” ลาเต้เห็นหน้ามายมิ้นท์ไม่ตกใจ แถมยังขมวดคิ้วครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ก็เผลอถามออกไปอย่างสงสัย
มายมิ้นท์ก็ไม่ปิดบังเขา ตอบกลับว่า “เพราะเรื่องนี้ ฉันรู้แล้วเมื่อคืน”
“เธอรู้แล้วเมื่อคืน?” ลาเต้เสียงสูง
มายมิ้นท์พยักหน้า “อืม”
“แล้วทำไมเมื่อคืนเธอไม่บอกฉัน?” ลาเต้น้อยใจนิดหน่อย
มายมิ้นท์นวดขมับ “ไม่ใช่ไม่บอกนาย แต่เผยแพร่ไม่ได้ ฉันตั้งใจว่าจะบอกนายทีหลัง สุดท้ายก็ไม่คิดว่านายจะรู้มันวันนี้”
“ก็ได้ ฉันยกโทษให้เธอ แต่มิ้นท์ ตอนนี้ไม่รู้ส้มเปรี้ยวซ่อนตัวที่ไหน แต่สิ่งที่แน่ใจก็คือ หล่อนจะต้องแก้แค้นเธอแน่ ดังนั้นก่อนที่จะพบตัวหล่อน เธอต้องระวังตัวนะ” ลาเต้พูดอย่างกระสับกระส่าย
มายมิ้นท์ยกมุมปากยิ้มเบาๆ “ฉันรู้ ไม่ต้องห่วงนะ เอาล่ะ นายนั่งรอฉันที่นี่ก่อน ฉันจะไปเลี่ยนเสื้อผ้าล้างหน้าแปรงฟันแป๊บหนึ่ง”
“ไปเถอะ” ลาเต้โบกมือ
มายมิ้นท์หันหลังกลับไปที่ห้องตัวเอง แล้วเริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้า
ระหว่างเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอเห็นเครื่องประดับที่วางบนตู้หัวเตียง จู่ๆ ก็ตกตะลึง นึกขึ้นได้ว่าลืมคืนเครื่องประดับให้เปปเปอร์
ช่างเถอะ เดี๋ยวค่อยพกไป แล้วให้คนไปส่งให้เขาก็แล้วกัน
หลังจากมายมิ้นท์สวมเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ก็โน้มตัวหยิบเครื่องประดับที่หัวเตียงขึ้นมา
ทันใดนั้นหางตาเธอก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ทั้งร่างก็ตกตะลึง
นี่มัน……
มายมิ้นท์รีบวางเครื่องประดับลง แล้วเอื้อมมือไปหยิบวัตถุที่เปล่งประกายบนผ้าปูเตียงขึ้นมา
“กระดุมข้อมือ!” มายมิ้นท์หยิบกระดุมข้อมือขึ้นมาดู จำได้ทันทีว่านี่คือกระดุมข้อมือของเสื้อเชิ้ตผู้ชาย และนี่คือเพชรน้ำเงินล้ำค่าคู่บ้านคู่เมือง
และรอบๆ ตัวเธอ ชายคนเดียวที่สามารถใช้เพชรน้ำเงินหรูหราแบบนี้เป็นกระดุมข้อมือได้ มีแค่คนเดียว ก็คือเปปเปอร์!
ดังนั้นกระดุมข้อมือนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นของเปปเปอร์
แต่กระดุมข้อมือของเขา มาอยู่บนเตียงเธอได้อย่างไร แถมยังอยู่กลางเตียงด้วย
ถ้าบอกว่าเปปเปอร์ทำหล่นโดยไม่ได้ตั้งใจ มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะหล่นบนเตียง หล่นพื้นน่าจะเป็นไปได้มากที่สุด
แต่มันปรากฏอยู่บนเตียง……
มายมิ้นท์เบิกตากว้าง นึกอะไรขึ้นได้ ก็กำกระดุมข้อมือในมือแน่นทันที
เมื่อคืนเขาคงไม่ได้ไม่กลับไปหรอกใช่ไหม?
นึกถึงความเป็นไปได้นี้ มายมิ้นท์ก็รีบก้มศีรษะสังเกตเตียงของตัวเอง
สุดท้ายก็เห็นหมอนที่ยุบลงไป ใบหน้าเล็กก็แดงทันที
เขาๆๆ ……
ตอนนี้มายมิ้นท์แน่ใจแล้วจริงๆ ว่าเมื่อคืนเปปเปอร์ไม่ได้กลับไป แต่อยู่ค้างกับเธอ และนอนข้างเธอด้วย
เจ้านั่น ดีใจจนเหลิงไปแล้วหรือไง?
ถึงแม้เมื่อวานเธอตกลงแล้ว ว่าจะไม่ต่อต้านการจีบของเขา ให้โอกาสเขาจีบ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะปีนขึ้นเตียงเธอได้นะ!
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ใบหน้ามายมิ้นท์จะขุ่นเคือง แต่ในใจกลับไม่ได้รู้สึกโกรธเลยสักนิด รู้สึกขำขันด้วยซ้ำไป
ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา นี่แหละเปปเปอร์
“มิ้นท์ เธอไปซื้ออาหารเช้ามาตอนไหน?” ในขณะนี้ นอกประตูก็มีเสียงลาเต้ถามขึ้น
มายมิ้นท์เก็บเครื่องประดับที่วางไว้ขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเดินไปที่ประตู เปิดประตูแล้วตอบ “ฉันไม่ได้ซื้ออาหารเช้านะ?”
“ไม่ได้ซื้อเหรอ? แล้วพวกนี้มันมาจากไหน?” ลาเต้เปิดถุงอาหารเช้าแล้วพูดขึ้น
มายมิ้นท์หากล่อง แล้วใส่เครื่องประดับลงไป ก่อนจะไปดูอาหารเช้าที่เขาพูดถึง
เมื่อเห็นมัน ก็เข้าใจอะไรบางอย่างโดยทันที กำลังจะตอบ จู่ๆ ก็ได้ยินลาเต้พูดขึ้น “เอ๋? นี่มีกระดาษโน้ตด้วย”
กระดาษโน้ต!
แววตามายมิ้นท์ตกตะลึง วางกล่องลงทันที รีบเดินไปแย่งกระดาษโน้ตจากมือเขามา “อันนี้นายอ่านไม่ได้นะ”
เธอรู้แล้วว่าใครซื้ออาหารเช้ามา ต้องเป็นเปปเปอร์อย่างไม่ต้องสงสัย
ดังนั้นกระดาษโน้ตแผ่นนี้ ก็ต้องเป็นกระดาษที่เปปเปอร์ทิ้งไว้แน่นอน
เธอไม่รู้เปปเปอร์เขียนอะไรบนนั้น ถ้าเขียนอะไรบางอย่างที่เลี่ยน ให้ลาเต้เห็นมัน จะกระอักกระอ่วนแค่ไหน