ตู๋กูซิงหลันประกบสองหมัดเข้าหากันอยู่ภายใต้แขนเสื้อ ก่อนที่จะถูกลากลงมาในทะเลสาบ อิ๋งฉีที่มือเท้าว่องไวก็โยนลูกแก้ววารีเม็ดหนึ่งให้กับนาง
ตอนนี้ลูกแก้ววารีกำลังส่งพลังออกมา ครอบคลุมร่างกายทั้งหมดของนางเอาไว้ ไม่ให้นางสำลักน้ำ
ตู๋กูซิงหลันเคร่งเครียดอย่างยิ่ง นางกำลังจะแข็งทื่อไปทั้งตัวอยู่แล้ว
พอถูกไอสีดำนั่นลากลึกลงไป ความหวาดกลัวที่ซุกอยู่ในใจก็ผุดขึ้นมา
ในสมองของนางมีแต่ภาพยามตายของศิษย์น้องวนเวียนผ่านเข้ามาไม่ยอมหยุด นางได้แต่มองดูอย่างไม่อาจจะช่วยเหลืออะไรได้ทั้งนั้น
ทันใดนั้นนางก็กระชากสองมือออก ปลายเล็บกรีดลงไปในใจกลางฝ่ามือ เลือดสดๆ ไหลออกมาจากใจกลางฝ่ามือ
มีแต่ความเจ็บปวดเท่านั้นที่สามารถช่วยเตือนให้นางสงบนิ่งลง
แต่ละคนล้วนมีอดีต ล้วนมีเรื่องที่ผ่านมา มีเรื่องที่ชอบ มีเรื่องที่หวาดกลัว
สิ่งที่ตู๋กูซิงหลันกลัวที่สุด ก็คือความทรงจำอันนั้น
ความรู้สึกสิ้นหวังที่ไม่อาจจะช่วยอะไรได้และความสำนึกเสียใจ…..แม้แต่ตอนนี้เมื่อนึกถึงขึ้นมาก็ยังทำให้นางต้องสั่นเทาไปทั้งร่าง
แม้แต่ในโลกก่อนนางก็ยังไม่อาจเอาชนะได้ และครั้งนี้ก็เช่นกัน การตายของศิษย์น้องยังคงหลอกหลอนอยู่ในใจของนาง เป็นหลุมลึกที่มิว่าอย่างไรก็ไม่อาจจะก้าวข้ามออกไปได้
เมื่อครู่นางคิดแต่เพียงว่าไม่อาจติดค้างความรู้สึกของจีเฉวียนได้อีกแล้ว ดังนั้นจึงลืมไปว่านางเป็นโรคกลัวน้ำลึก
ภายในทะเลสาบ เหยียนเฉียวหลัวกลืนน้ำสีดำลงไปหลายต่อหลายอึก นางสำลักจนไอติดๆ กันหลายครั้ง
กระทั่งยามเมื่อนางใกล้จะขาดใจตายขึ้นมานั้น ก็เห็นว่าไอสีดำนั้นกลายเป็นดังหมอกดำสายหนึ่งโอบล้อมตัวนางเอาไว้ แบ่งแยกน้ำในทะเลสาบออกไป
เหยียนเฉียวหลัวหอบตัวโยน หมอกสีดำนั้นรายล้อมอยู่รอบตัวนาง เพียงครู่เดียว ก็ทำให้นางสามารถมองเห็นภาพทุกอย่างภายใต้ทะเลสาบได้อย่างชัดเจน
สภาพเบื้องหน้าแม้ว่าจะน่าหวาดผวา แต่พอนางได้เห็นดวงตาดอกท้อของตู๋กูซิงหลันที่มีแต่ความหวาดกลัวนั้น ในใจของนางก็พลันเกิดความปิติขึ้นมา
“เฮอะ เฮอะ เฮอะ…..” นางเปล่งเสียงหัวเราะออกมา “ดูท่าองค์หญิงอย่างข้าไม่เพียงแต่มีชะตาเข้มแข็งไม่ต้องตาย แถมยังถูกบางสิ่งเลือกสรรเข้าแล้ว”
หมอกสีดำเหล่านี้ก็คือหลักฐานที่ดีที่สุด
ก่อนหน้านี้ดาบสีดำออกมาจากฝ่ามือของนาง และพละกำลังที่อยู่ๆ ก็เพิ่มพูนขึ้นมาก็เป็นหลักฐานอีกอย่างเช่นกัน
สิ่งที่อยู่ในสระสวรรค์นี้ได้เลือกนาง ดังนั้นจึงได้มอบพลังให้แก่นาง ทำให้นางสามารถมีพลังประมือกับจีเฉวียน แล้วตอนนี้ ก็ยังลากนังคนที่น่ารังเกียจนั่นลงมาในทะเลสาบอีกด้วย
“ตู๋กูซิงหลัน เจ้าไยไม่ทำท่ายโสโอหังต่อไปเล่า? ตอนที่อยู่บนทะเลสาบมิใช่ว่าเก่งกาจนักหรอกหรือ? ที่แท้เจ้าก็มีเรื่องที่หวาดกลัวอยู่เหมือนกัน ฮิ ฮิ ฮิ …” นางหัวเราะเสียงแหลมใส่ จากนั้นก็รวบรวมหมอกสีดำเหล่านั้นเข้ามา
เพียงแค่นางดีดนิ้วเบาๆ หมอกสีดำหลายสายก็พุ่งเข้าหาตู๋กูซิงหลันดุจลูกธนู ทำลายอาณาเขตที่ลูกแก้ววารีสร้างขึ้นมาจนเกิดเป็นรูรั่ว
“หลันหลัน เจ้ามีสมาธิหน่อย!” วิญญาณทมิฬเองก็ถูกห่อหุ้มอยู่ภายในลูกแก้ววารีด้วยเช่นกัน
มันเข้าใจตู๋กูซิงหลันเป็นอย่างดี
สตรีผู้นี้ยามปกติไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน แต่เป็นโรคหวาดกลัวน้ำลึก
ความตายของศิษย์น้องคือปมในใจของนาง ที่นางไม่อาจละวางได้
ตอนนี้ถูกลากลงมาโดยมิได้รู้ว่าจะต้องเจอะเจอกับอะไรบ้าง จึงถือว่าคับขันอย่างแท้จริง โดยเฉพาะหมอกสีดำที่ครอบคลุมอยู่ทั่วร่างของเหยียนเฉียวหลัว ช่างให้ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างยิ่ง
ยิ่งจมลึกลงไปในทะเลสาบ กลิ่นอายก็ยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
“ไม่เป็นไร” ตู๋กูซิงหลันกำฝ่ามือเอาไว้ พยายามฝืนใจต่อต้านความทรงจำอันเกี่ยวโยงกับความตายของศิษย์น้องที่ผุดขึ้นมา
ยามเมื่อลูกธนูจากหมอกดำนั้นพุ่งผ่านเข้ามา อาณาเขตของลูกแก้ววารีก็สั่นสะเทือนเกิดเป็นเสียงครืนครืน
นางรีบผนึกยันต์แผ่นหนึ่งลงไป
ทันใดนั้นก็เกิดแสงสีทองสาดส่องออกมาในทันที อาณาเขตของลูกแก้ววารีจึงมั่นคงขึ้น
แม้แต่ลูกธนูจากหมอกสีดำก็ยังยิงไม่เข้า
“เป็นเจ้าจริงๆ” เหยียนเฉียวหลัวยิ้มเ**้ยมเกรียม “เจ้าทำให้ข้าเป็นเหมือนกับคนโง่ แต่ว่ากระทั่งฟ้าดินก็ไม่อาจทนดูได้อีกต่อไป จึงได้จะทำลายเจ้าเสีย”
เหยียนเฉียวหลัวเกลียดชังนางอย่างที่สุด “วันนี้สระสวรรค์จะกลายเป็นสุสานของเจ้า”
ว่าแล้ว นางก็คำรามเสียงดังออกมา ด้วยสองตาที่แดงก่ำ จากนั้นก็ซัดลูกธนูสีดำออกมาอีกหลายดอก
ถึงพลังป้องกันของนางจะแข็งแกร่งเพียงไร หรือยังจะสามารถต้าทานความประสงค์ของฟ้าดินได้กัน?
เหยียนเฉียวหลัวยิ้มอย่างเย็นชาพลางส่งลูกธนูออกไป ขณะเดียวกันก็กล่าวอย่างเกรี้ยวกราดว่า “ก่อนเจ้าจะตาย ข้าจะบอกให้เจ้ารู้เอาไว้ อย่าได้คิดว่าจีเฉวียนชอบเจ้าเข้าแล้วจริงๆ ต่อให้ในใจของเขาไม่มีข้า ก็ยังมีคนผู้หนึ่งอยู่อย่างแน่นอน เป็นคนที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจจะแทนที่ได้ทั้งนั้น”
“ฉางซุนอิง เจ้าเคยได้ยินชื่อของนางมาหรือไม่?”
ตู๋กูซิงหลันไม่ได้สนใจนางเลย นางเพียงแต่กวาดตามองออกไป มองดูสถานการณ์ใต้ทะเลสาบ
ตั้งแต่ที่พวกนางดิ่งลงมาตรงหน้ารูปสลักขนาดใหญ่ ก็ยิ่งดิ่งลงไปเรื่อยๆ ยิ่งลงไปลึกก็ยิ่งสามารถมองเห็นแขนที่ถูกล่ามเอาไว้ได้อย่างชัดเจน
พวกนางดำดิ่งผ่านศพแห้งมากมายลงไปถึงก้นทะเลสาบ
ก้นทะเลสาบเป็นหลุมดำมืดลึกขนาดใหญ่ ราวกับสิ่งที่รอคอยจะกลืนกินพวกนางลงไป
ในหลุมดำมืดนั้นมีโลงทองแดงอยู่โลงหนึ่ง
ชั้นนอกของโลงมีร่องรอยของช่องที่ถูกแง้มออกมา
ไอหมอกสีดำที่เข้มข้นนั่นลอยออกมาจากโลงของเขา
พอเห็นว่าตู๋กูซิงหลันมิได้สนใจตนเอง ใจของเหยียนเฉียวหลัวก็เกิดความหงุดหงิดขึ้นมา นางถลึงตา ตะคอกออกไปว่า “ตู๋กูซิงหลัน เจ้าคิดจะหนีหรือ?”
“เจ้าคิดจะครอบครองจีเฉวียนเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว แต่กลับต้องพบว่าในใจของเขามีใครอื่นอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว เป็นอย่างไร ความรู้สึกเช่นนี้ทุกข์ทรมานมากใช่หรือไม่?”
“ฉางซุนอิงผู้นั้น คือคนที่ถูกส่งตัวไปยังแคว้นเหยียนพร้อมกับเขาไงล่ะ”
“เจ้าไม่รู้ละซิ? ตอนที่จีเฉวียนยังเป็นเด็ก มีแต่ฉางซุนอิงที่คอยดูแลอยู่ตลอด ทั้งๆ ที่นางเป็นญาติผู้น้องของเขาแท้ๆ แต่กลับเต็มใจลดตัวลงเป็นบ่าวของเขา อดทนอย่างยากลำบากมาตั้งนานหลายปี ใครจะไปคิดว่าตอนหลังจะเกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นมา….”
ยิ่งพูดเหยียนเฉียวหลัวก็ยิ่งดุร้ายขึ้นเรื่อยๆ “นางถึงกับยอมตายเพื่อจีเฉวียน! ชาตินี้ทั้งชาติจีเฉวียนก็ไม่มีทางลืมเลือนนางได้อย่างแน่นอน!”
“เจ้าเป็นใครกัน? ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำอะไรให้เขาแท้ๆ แต่กลับได้รับความรักจากเขาไป? เจ้าอาศัยอะไร?”
ถึงแม้ว่าตู๋กูซิงหลันจะคอยมองลงไปด้านล่างอยู่ตลอดเวลา แต่ว่าเสียงตะโกนปานหัวใจแหลกสลายของเหยียนเฉียวหลัว ทำให้นางยังคงได้ยินไปบ้างหลายประโยค
นางกำลังสำรวจสภาพของตนเองอยู่ตลอดเวลา รอคอยจนเหยียนเฉียวหลัวพูดจบถึงได้ถามออกไปคำนึงว่า “ดังนั้นแล้ว?”
เรื่องราวในอดีตของจีเฉวียน นางไม่อาจมีส่วนกี่ยวข้อง แม้แต่เจ้าของร่างเดิมก็เช่นกัน
นางไม่จำเป็นจะต้องขุดเรื่องที่ผ่านมาของจีเฉวียนขึ้นมา เพื่อมาทำให้ตนเองต้องเป็นทุกข์เสียเปล่าๆ
ยิ่งไปกว่านั้น นางก็ไม่ได้รักจีเฉวียน
เมื่อไม่ได้รัก ย่อมไม่ได้สนใจว่าในใจของเขาจะมีนางหรือไม่
“ดังนั้นในชาตินี้ ก็อย่าได้หวังเลยว่าจะสามารถครอบครองหัวใจของเขาได้ทั้งหมด!” เหยียนเฉียวหลัวชิงชังรังเกียจท่าทางเช่นนี้ของตู๋กูซิงหลันที่สุด นางแสยะยิ้มข่มความเจ็บปวดว่าต่อไป “เฮอะ เฮอะ แต่ว่าเจ้าก็ไม่มีโอกาสอีกแล้ว เจ้าจะต้องตายอยู่ที่นี่เสียตอนนี้”
ทันทีที่สิ้นเสียง ในฝ่ามือของนางก็ปรากฏดาบสีดำขึ้นมาอีกครั้ง
นางขยับตัว กระชับดาบสีดำพุ่งมาทางตู๋กูซิงหลันอย่างรวดเร็ว
นางรู้ดีว่า ดาบสีดำนี้มีพลังมหาศาล จะต้องสามารถทำลายอาณาเขตที่ครอบอยู่บนร่างของตู๋กูซิงหลันได้อย่างแน่นอน
ถึงตอนนั้นไม่ต้องให้นางลงมือ ตู๋กูซิงหลันก็ต้องจมน้ำตาย
ฆ่านางรึ ฮึ เปื้อนมือตนเองเปล่าๆ
ในมือของตู๋กูซิงหลันมียันต์ใบหนึ่ง ดวงตาดอกท้อหรี่ลง นางพยายามทำสมองให้ปลอดโปร่ง ทันทีที่เหยียนเฉียวหลัวแทงดาบเข้ามา นางก็เขวี้ยงยันต์สวนออกไป
ทั้งสองสิ่งปะทะกัน เกิดเสียงดังสนั่นอย่างอย่างรุนแรง
ในทันทีที่เกิดเสียงปะทะอย่างดุดันนั้นเอง ชั้นนอกของโลงทองแดงที่อยู่ก้นทะเลสาบก็เกิดเสียงขยับเคลื่อนไหว
จากนั้นก็เห็นว่าโลงศพหลังถูกแง้มออก มีหมอกสีดำมากมายพวยพุ่งออกมาจากด้านใน