ตอนที่ 285 ฉางซุนอิง

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

ตู๋กูซิงหลันประกบสองหมัดเข้าหากันอยู่ภายใต้แขนเสื้อ ก่อนที่จะถูกลากลงมาในทะเลสาบ อิ๋งฉีที่มือเท้าว่องไวก็โยนลูกแก้ววารีเม็ดหนึ่งให้กับนาง

 

 

ตอนนี้ลูกแก้ววารีกำลังส่งพลังออกมา ครอบคลุมร่างกายทั้งหมดของนางเอาไว้ ไม่ให้นางสำลักน้ำ

 

 

ตู๋กูซิงหลันเคร่งเครียดอย่างยิ่ง นางกำลังจะแข็งทื่อไปทั้งตัวอยู่แล้ว

 

 

พอถูกไอสีดำนั่นลากลึกลงไป ความหวาดกลัวที่ซุกอยู่ในใจก็ผุดขึ้นมา

 

 

ในสมองของนางมีแต่ภาพยามตายของศิษย์น้องวนเวียนผ่านเข้ามาไม่ยอมหยุด นางได้แต่มองดูอย่างไม่อาจจะช่วยเหลืออะไรได้ทั้งนั้น

 

 

ทันใดนั้นนางก็กระชากสองมือออก ปลายเล็บกรีดลงไปในใจกลางฝ่ามือ เลือดสดๆ ไหลออกมาจากใจกลางฝ่ามือ

 

 

มีแต่ความเจ็บปวดเท่านั้นที่สามารถช่วยเตือนให้นางสงบนิ่งลง

 

 

แต่ละคนล้วนมีอดีต ล้วนมีเรื่องที่ผ่านมา มีเรื่องที่ชอบ มีเรื่องที่หวาดกลัว

 

 

สิ่งที่ตู๋กูซิงหลันกลัวที่สุด ก็คือความทรงจำอันนั้น

 

 

ความรู้สึกสิ้นหวังที่ไม่อาจจะช่วยอะไรได้และความสำนึกเสียใจ…..แม้แต่ตอนนี้เมื่อนึกถึงขึ้นมาก็ยังทำให้นางต้องสั่นเทาไปทั้งร่าง

 

 

แม้แต่ในโลกก่อนนางก็ยังไม่อาจเอาชนะได้ และครั้งนี้ก็เช่นกัน การตายของศิษย์น้องยังคงหลอกหลอนอยู่ในใจของนาง เป็นหลุมลึกที่มิว่าอย่างไรก็ไม่อาจจะก้าวข้ามออกไปได้

 

 

เมื่อครู่นางคิดแต่เพียงว่าไม่อาจติดค้างความรู้สึกของจีเฉวียนได้อีกแล้ว ดังนั้นจึงลืมไปว่านางเป็นโรคกลัวน้ำลึก

 

 

ภายในทะเลสาบ เหยียนเฉียวหลัวกลืนน้ำสีดำลงไปหลายต่อหลายอึก นางสำลักจนไอติดๆ กันหลายครั้ง

 

 

กระทั่งยามเมื่อนางใกล้จะขาดใจตายขึ้นมานั้น ก็เห็นว่าไอสีดำนั้นกลายเป็นดังหมอกดำสายหนึ่งโอบล้อมตัวนางเอาไว้ แบ่งแยกน้ำในทะเลสาบออกไป

 

 

เหยียนเฉียวหลัวหอบตัวโยน หมอกสีดำนั้นรายล้อมอยู่รอบตัวนาง เพียงครู่เดียว ก็ทำให้นางสามารถมองเห็นภาพทุกอย่างภายใต้ทะเลสาบได้อย่างชัดเจน

 

 

สภาพเบื้องหน้าแม้ว่าจะน่าหวาดผวา แต่พอนางได้เห็นดวงตาดอกท้อของตู๋กูซิงหลันที่มีแต่ความหวาดกลัวนั้น ในใจของนางก็พลันเกิดความปิติขึ้นมา

 

 

“เฮอะ เฮอะ เฮอะ…..” นางเปล่งเสียงหัวเราะออกมา “ดูท่าองค์หญิงอย่างข้าไม่เพียงแต่มีชะตาเข้มแข็งไม่ต้องตาย แถมยังถูกบางสิ่งเลือกสรรเข้าแล้ว”

 

 

หมอกสีดำเหล่านี้ก็คือหลักฐานที่ดีที่สุด

 

 

ก่อนหน้านี้ดาบสีดำออกมาจากฝ่ามือของนาง และพละกำลังที่อยู่ๆ ก็เพิ่มพูนขึ้นมาก็เป็นหลักฐานอีกอย่างเช่นกัน

 

 

สิ่งที่อยู่ในสระสวรรค์นี้ได้เลือกนาง ดังนั้นจึงได้มอบพลังให้แก่นาง ทำให้นางสามารถมีพลังประมือกับจีเฉวียน แล้วตอนนี้ ก็ยังลากนังคนที่น่ารังเกียจนั่นลงมาในทะเลสาบอีกด้วย

 

 

“ตู๋กูซิงหลัน เจ้าไยไม่ทำท่ายโสโอหังต่อไปเล่า? ตอนที่อยู่บนทะเลสาบมิใช่ว่าเก่งกาจนักหรอกหรือ? ที่แท้เจ้าก็มีเรื่องที่หวาดกลัวอยู่เหมือนกัน ฮิ ฮิ ฮิ …” นางหัวเราะเสียงแหลมใส่ จากนั้นก็รวบรวมหมอกสีดำเหล่านั้นเข้ามา

 

 

เพียงแค่นางดีดนิ้วเบาๆ หมอกสีดำหลายสายก็พุ่งเข้าหาตู๋กูซิงหลันดุจลูกธนู ทำลายอาณาเขตที่ลูกแก้ววารีสร้างขึ้นมาจนเกิดเป็นรูรั่ว

 

 

“หลันหลัน เจ้ามีสมาธิหน่อย!” วิญญาณทมิฬเองก็ถูกห่อหุ้มอยู่ภายในลูกแก้ววารีด้วยเช่นกัน

 

 

มันเข้าใจตู๋กูซิงหลันเป็นอย่างดี

 

 

สตรีผู้นี้ยามปกติไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน แต่เป็นโรคหวาดกลัวน้ำลึก

 

 

ความตายของศิษย์น้องคือปมในใจของนาง ที่นางไม่อาจละวางได้

 

 

ตอนนี้ถูกลากลงมาโดยมิได้รู้ว่าจะต้องเจอะเจอกับอะไรบ้าง จึงถือว่าคับขันอย่างแท้จริง โดยเฉพาะหมอกสีดำที่ครอบคลุมอยู่ทั่วร่างของเหยียนเฉียวหลัว ช่างให้ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างยิ่ง

 

 

ยิ่งจมลึกลงไปในทะเลสาบ กลิ่นอายก็ยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ

 

 

“ไม่เป็นไร” ตู๋กูซิงหลันกำฝ่ามือเอาไว้ พยายามฝืนใจต่อต้านความทรงจำอันเกี่ยวโยงกับความตายของศิษย์น้องที่ผุดขึ้นมา

 

 

ยามเมื่อลูกธนูจากหมอกดำนั้นพุ่งผ่านเข้ามา อาณาเขตของลูกแก้ววารีก็สั่นสะเทือนเกิดเป็นเสียงครืนครืน

 

 

นางรีบผนึกยันต์แผ่นหนึ่งลงไป

 

 

ทันใดนั้นก็เกิดแสงสีทองสาดส่องออกมาในทันที อาณาเขตของลูกแก้ววารีจึงมั่นคงขึ้น

 

 

แม้แต่ลูกธนูจากหมอกสีดำก็ยังยิงไม่เข้า

 

 

“เป็นเจ้าจริงๆ” เหยียนเฉียวหลัวยิ้มเ**้ยมเกรียม “เจ้าทำให้ข้าเป็นเหมือนกับคนโง่ แต่ว่ากระทั่งฟ้าดินก็ไม่อาจทนดูได้อีกต่อไป จึงได้จะทำลายเจ้าเสีย”

 

 

เหยียนเฉียวหลัวเกลียดชังนางอย่างที่สุด “วันนี้สระสวรรค์จะกลายเป็นสุสานของเจ้า”

 

 

ว่าแล้ว นางก็คำรามเสียงดังออกมา ด้วยสองตาที่แดงก่ำ จากนั้นก็ซัดลูกธนูสีดำออกมาอีกหลายดอก

 

 

ถึงพลังป้องกันของนางจะแข็งแกร่งเพียงไร หรือยังจะสามารถต้าทานความประสงค์ของฟ้าดินได้กัน?

 

 

เหยียนเฉียวหลัวยิ้มอย่างเย็นชาพลางส่งลูกธนูออกไป ขณะเดียวกันก็กล่าวอย่างเกรี้ยวกราดว่า “ก่อนเจ้าจะตาย ข้าจะบอกให้เจ้ารู้เอาไว้ อย่าได้คิดว่าจีเฉวียนชอบเจ้าเข้าแล้วจริงๆ ต่อให้ในใจของเขาไม่มีข้า ก็ยังมีคนผู้หนึ่งอยู่อย่างแน่นอน เป็นคนที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจจะแทนที่ได้ทั้งนั้น”

 

 

“ฉางซุนอิง เจ้าเคยได้ยินชื่อของนางมาหรือไม่?”

 

 

ตู๋กูซิงหลันไม่ได้สนใจนางเลย นางเพียงแต่กวาดตามองออกไป มองดูสถานการณ์ใต้ทะเลสาบ

 

 

ตั้งแต่ที่พวกนางดิ่งลงมาตรงหน้ารูปสลักขนาดใหญ่ ก็ยิ่งดิ่งลงไปเรื่อยๆ ยิ่งลงไปลึกก็ยิ่งสามารถมองเห็นแขนที่ถูกล่ามเอาไว้ได้อย่างชัดเจน

 

 

พวกนางดำดิ่งผ่านศพแห้งมากมายลงไปถึงก้นทะเลสาบ

 

 

ก้นทะเลสาบเป็นหลุมดำมืดลึกขนาดใหญ่ ราวกับสิ่งที่รอคอยจะกลืนกินพวกนางลงไป

 

 

 

 

ในหลุมดำมืดนั้นมีโลงทองแดงอยู่โลงหนึ่ง

 

 

ชั้นนอกของโลงมีร่องรอยของช่องที่ถูกแง้มออกมา

 

 

ไอหมอกสีดำที่เข้มข้นนั่นลอยออกมาจากโลงของเขา

 

 

พอเห็นว่าตู๋กูซิงหลันมิได้สนใจตนเอง ใจของเหยียนเฉียวหลัวก็เกิดความหงุดหงิดขึ้นมา นางถลึงตา ตะคอกออกไปว่า “ตู๋กูซิงหลัน เจ้าคิดจะหนีหรือ?”

 

 

“เจ้าคิดจะครอบครองจีเฉวียนเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว แต่กลับต้องพบว่าในใจของเขามีใครอื่นอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว เป็นอย่างไร ความรู้สึกเช่นนี้ทุกข์ทรมานมากใช่หรือไม่?”

 

 

“ฉางซุนอิงผู้นั้น คือคนที่ถูกส่งตัวไปยังแคว้นเหยียนพร้อมกับเขาไงล่ะ”

 

 

“เจ้าไม่รู้ละซิ? ตอนที่จีเฉวียนยังเป็นเด็ก มีแต่ฉางซุนอิงที่คอยดูแลอยู่ตลอด ทั้งๆ ที่นางเป็นญาติผู้น้องของเขาแท้ๆ แต่กลับเต็มใจลดตัวลงเป็นบ่าวของเขา อดทนอย่างยากลำบากมาตั้งนานหลายปี ใครจะไปคิดว่าตอนหลังจะเกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นมา….”

 

 

ยิ่งพูดเหยียนเฉียวหลัวก็ยิ่งดุร้ายขึ้นเรื่อยๆ “นางถึงกับยอมตายเพื่อจีเฉวียน! ชาตินี้ทั้งชาติจีเฉวียนก็ไม่มีทางลืมเลือนนางได้อย่างแน่นอน!”

 

 

“เจ้าเป็นใครกัน? ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำอะไรให้เขาแท้ๆ แต่กลับได้รับความรักจากเขาไป? เจ้าอาศัยอะไร?”

 

 

ถึงแม้ว่าตู๋กูซิงหลันจะคอยมองลงไปด้านล่างอยู่ตลอดเวลา แต่ว่าเสียงตะโกนปานหัวใจแหลกสลายของเหยียนเฉียวหลัว ทำให้นางยังคงได้ยินไปบ้างหลายประโยค

 

 

นางกำลังสำรวจสภาพของตนเองอยู่ตลอดเวลา รอคอยจนเหยียนเฉียวหลัวพูดจบถึงได้ถามออกไปคำนึงว่า “ดังนั้นแล้ว?”

 

 

เรื่องราวในอดีตของจีเฉวียน นางไม่อาจมีส่วนกี่ยวข้อง แม้แต่เจ้าของร่างเดิมก็เช่นกัน

 

 

นางไม่จำเป็นจะต้องขุดเรื่องที่ผ่านมาของจีเฉวียนขึ้นมา เพื่อมาทำให้ตนเองต้องเป็นทุกข์เสียเปล่าๆ

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น นางก็ไม่ได้รักจีเฉวียน

 

 

เมื่อไม่ได้รัก ย่อมไม่ได้สนใจว่าในใจของเขาจะมีนางหรือไม่

 

 

“ดังนั้นในชาตินี้ ก็อย่าได้หวังเลยว่าจะสามารถครอบครองหัวใจของเขาได้ทั้งหมด!” เหยียนเฉียวหลัวชิงชังรังเกียจท่าทางเช่นนี้ของตู๋กูซิงหลันที่สุด นางแสยะยิ้มข่มความเจ็บปวดว่าต่อไป “เฮอะ เฮอะ แต่ว่าเจ้าก็ไม่มีโอกาสอีกแล้ว เจ้าจะต้องตายอยู่ที่นี่เสียตอนนี้”

 

 

ทันทีที่สิ้นเสียง ในฝ่ามือของนางก็ปรากฏดาบสีดำขึ้นมาอีกครั้ง

 

 

นางขยับตัว กระชับดาบสีดำพุ่งมาทางตู๋กูซิงหลันอย่างรวดเร็ว

 

 

นางรู้ดีว่า ดาบสีดำนี้มีพลังมหาศาล จะต้องสามารถทำลายอาณาเขตที่ครอบอยู่บนร่างของตู๋กูซิงหลันได้อย่างแน่นอน

 

 

ถึงตอนนั้นไม่ต้องให้นางลงมือ ตู๋กูซิงหลันก็ต้องจมน้ำตาย

 

 

ฆ่านางรึ ฮึ เปื้อนมือตนเองเปล่าๆ

 

 

ในมือของตู๋กูซิงหลันมียันต์ใบหนึ่ง ดวงตาดอกท้อหรี่ลง นางพยายามทำสมองให้ปลอดโปร่ง ทันทีที่เหยียนเฉียวหลัวแทงดาบเข้ามา นางก็เขวี้ยงยันต์สวนออกไป

 

 

ทั้งสองสิ่งปะทะกัน เกิดเสียงดังสนั่นอย่างอย่างรุนแรง

 

 

ในทันทีที่เกิดเสียงปะทะอย่างดุดันนั้นเอง ชั้นนอกของโลงทองแดงที่อยู่ก้นทะเลสาบก็เกิดเสียงขยับเคลื่อนไหว

 

 

จากนั้นก็เห็นว่าโลงศพหลังถูกแง้มออก มีหมอกสีดำมากมายพวยพุ่งออกมาจากด้านใน