ตอนที่ 742 การส่งพวกเขากลับไป / ตอนที่ 743 ประธานาธิบดีของประเทศ R

ตามใจรัก สาวนักแฮก

ตอนที่ 742 การส่งพวกเขากลับไป

 

 

ตระกูลชุยได้รับข้อมูลถึงความจริงเรื่องที่ชุยอิงได้ล่วงเกินตระกูลเฉิน ท่านประธานาธิบดีเป็นผู้แจ้งเรื่องนี้ด้วยตัวเองด้วยท่าทีที่เป็นมิตรอย่างยิ่ง และแนะนำให้ใช้คนของเขาในการคุ้มกันเธอกลับบ้าน ตระกูลชุยรู้ว่านี่เป็นฉากบังหน้าในการเนรเทศชุยอิง พวกเขาไม่มีปัญหากับเรื่องนี้ ชุยอิงคัดค้านแต่เธอไม่อาจทำอะไรได้

 

 

เหตุผลที่ใช้ในการส่งตัวเฮ่อปินกลับได้ถูกกำหนดไว้เช่นกัน เอกสารของทางการระบุว่าเขาถูกกักตัวที่สนามบินเพราะทำตัวน่าสงสัย เขาไม่ให้ความร่วมมือในระหว่างการสอบสวน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากส่งตัวเขากลับไปประเทศ R โดยไม่มีการระบุถึงความเกี่ยวข้องกับตระกูลเฮ่อหลาน ทั้งหมดนี่เพื่อทำให้เฮ่อหลานชางรู้สึกว่าทุกอย่างยังอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา

 

 

ไม่ว่าเฮ่อปินจะสารภาพหลังจากเขากลับไปแล้วว่าทั้งหมดเป็นความผิดของเขาหรือไม่ ซิงเหอก็ไม่รู้สึกกลัวว่าเขาจะบอกเฮ่อหลานชางหมดทุกสิ่ง เธอเชื่อว่าเขาจะไม่ทำเช่นนั้น อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในเร็วๆ นี้เพราะเธอได้พูดคุยกับเฮ่อปินเป็นการส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว

 

 

“เราจะไม่เปิดเผยความจริงที่คุณถูกจับได้ว่ามาจากตระกูลเฮ่อหลาน ดังนั้นคุณสามารถกลับไปหาพวกเขาได้โดยไม่ต้องกลัวอะไร แน่นอนว่าถ้าคุณต้องการสารภาพทุกอย่างแก่เฮ่อหลานชาง เราไม่ก็ไม่ว่าอะไรเหมือนกันเพราะถึงยังไงเราก็กำลังวางแผนที่จะจัดการกับพวกเขาอยู่แล้ว ถึงอย่างนั้นฉันแนะนำให้คุณคิดให้ดีๆ ก่อนที่จะทำเช่นนั้น เพราะใครจะรู้ว่าคุณอาจจะต้องการร่วมมือกับเราในอนาคตก็ได้” ซิงเหอบอกเขาอย่างมีนัยยะ

 

 

ริมฝีปากของเฮ่อปินแม้มแน่นจนเป็นเส้นบาง เขาไม่พูดอะไรสักคำและใบหน้าของเขาไม่สามารถอ่านความคิดได้

 

 

ซิงเหอไม่ได้อยู่รอคำตอบจากอีกฝ่าย เธอย้ำเตือนเขาก่อนจะจากไป “อีกอย่างหนึ่ง คุณต้องระวังตัวเพราะการซ่อนความจริงจากคนพวกนั้นจะทำให้คุณตกอยู่ในความเสี่ยง เฮ่อหลานชางจะต้องสงสัยเกี่ยวกับความจริงที่ทำให้คุณถูกส่งตัวกลับในเร็วๆ นี้แน่ ถ้าเขาสงสัยว่าคุณจะต่อต้านเขาแล้วมาเข้าพวกกับเรา เขาจะไม่มีวันยกโทษให้คุณ แน่นอนว่าคุณต้องเป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้เอง”

 

 

“คุณกลัวว่าผมจะปากสว่างบอกเรื่องทั้งหมดให้พวกเขารู้ตอนที่ผมกลับไปหรือไง” เฮ่อปินเอ่ยถามด้วยเสียงแผ่วเบาอย่างกะทันหัน

 

 

ซิงเหอยิ้มเล็กน้อย “ต่อให้คุณไม่ได้บอกพวกเขาทุกอย่าง พวกเขาก็คงพอเดาได้อยู่ดี ตอนนี้ความอาฆาตของพวกเราที่มีต่อพวกเขานั้นเห็นได้อย่างโจ่งแจ้งแล้ว แน่นอนว่าฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะมาหาเรื่องฉันแบบเปิดเผยไหม แต่ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะทำถึงขั้นส่งคนมาลอบฆ่าฉันหรอก”

 

 

เฮ่อปินจึงตระหนักได้ว่าซิงเหอมีตัวตนแบบไหนอยู่ เธอไปเยี่ยมเยือนประเทศ R ในฐานะแขกผู้มีเกียรติจากประเทศจีน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอที่ประเทศ R มันจะกลายเป็นหายนะระหว่างประเทศทันที และจะยิ่งเป็นเรื่องยากในการทำอันตรายเธอในประเทศจีน ไม่ว่าตระกูลเฮ่อหลานจะทรงอิทธิพลมากแค่ไหน การลงมือทำอะไรในประเทศจีนก็เป็นเรื่องยาก รวมไปถึงการจัดการลอบสังหารด้วย

 

 

ไม่แปลกใจเลยที่เธอจะไม่หวาดกลัวเลยสักนิด ยิ่งไปกว่านั้น ผู้หญิงคนนี้ยังตั้งตัวเองเป็นอริกับตระกูลเฮ่อหลาน เธอระวังตัว มีความสามารถและมีความมุ่งมั่น เธอไม่กลัวตระกูลเฮ่อหลานเลยแม้แต่น้อย ด้วยเหตุผลบางประการ ที่ทำให้เฮ่อปินรู้สึกว่าบางทีนี่อาจะเป็นโชคร้ายของตระกูลเฮ่อหลานที่คิดจะต่อกรกับเธอ

 

 

“เรายังไม่ถึงประเทศ R ดังนั้นคุณยังพอมีเวลาให้คิด เป็นตัวเลือกของคุณที่จะเลือกทำงานกับเราหรือแบกรับความเสี่ยงไว้เพียงลำพัง คิดเรื่องนี้ให้ดีแล้วให้คำตอบกับฉันก่อนที่เราจะไปถึงที่นั่น” ซิงเหอแยกตัวออกไปพร้อมคำแนะนำที่มีประโยชน์

 

 

ท้ายที่สุดแล้วคำตอบของเฮ่อปินไม่มีการเปลี่ยนแปลง เขาปฏิเสธที่จะร่วมมือกับพวกเธอ ถึงยังไงเฮ่อหลานชางก็เป็นพ่อของเขา จนกว่าเขาจะพิสูจน์ทุกสิ่งได้ เขาจะไม่มีวันหักหลังพ่อของตัวเองง่ายๆ แต่กระนั้นเขาประทับใจในความมีเมตตาที่ซิงเหอมีต่อเขา เธอไม่ได้เปิดโปงเขาต่อตระกูลเฮ่อหลาน และด้วยจิตใต้สำนึก เขาเองก็ไม่อยากเปิดโปงเธอเช่นกัน บางทีเขาควรทำการตรวจสอบอะไรบางอย่างด้วยตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก…

 

 

บนเครื่องบิน นอกจากเฮ่อปินแล้วยังมีชุยอิงอยู่ด้วย

 

 

การปฏิบัติต่อทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ชุยอิงได้รับการปรนนิบัติเป็นอย่างดีราวกับเธอเป็นเจ้าหญิง

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 743 ประธานาธิบดีของประเทศ R

 

 

แต่กระนั้นเธอไม่อาจยอมรับที่จะต้องอยู่ร่วมกับซิงเหอได้ ดังนั้นเธอจึงพยายามสร้างปัญหาให้กับทุกคน เริ่มด้วยการตำหนิเรื่องอาหาร ต่อมาก็เรื่องที่นั่ง ถ้าพวกเขาไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเธอได้ ชุยอิงก็ไม่ลังเลที่จะต่อว่าพนักงานที่อยู่ใกล้ที่สุด บรรดาพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินและหัวหน้าต่างไม่อาจทนกับเธอได้อีกต่อไป ดังนั้นพวกเธอทั้งหมดจึงมาขอความช่วยเหลือจากซิงเหอและมู่ไป๋

 

 

หลังจากอาลิได้ยินคำร้องขอความช่วยเหลือของพวกเธอ เธอก็รู้สึกโมโห “ผู้หญิงคนนี้มันอะไรกัน คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงจริงๆ หรือไง! ซิงเหอ เราไม่ต้องไปสนใจแล้วทำเป็นว่าผู้หญิงคนนั้นไม่มีตัวตนไปเถอะ”

 

 

ซิงเหอยิ้มบาง “เราจะทำแบบนั้นได้ยังไง เธอก็เป็นแบบนั้นจริงๆ นี่ อย่างน้อยก็เป็นแขกผู้มีเกียรติของพวกเรา เอาอย่างนี้เป็นไง ในเมื่อเธอไม่พอใจกับการบริการของพวกเรา งั้นเราก็ต้องช่วยแก้ปัญหาไม่ให้เธอต้องเป็นทุกข์อะไรอีกดีไหม อยู่ให้ห่างจากเธอแล้วอย่าไปทำให้เธอโกรธ ฉันเชื่อว่าวิธีนี้จะต้องทำให้คุณชุยมีความสุขมากขึ้น”

 

 

อาลิเข้าใจสิ่งที่ซิงเหอต้องการจะสื่อทันที เธอออกคำสั่งพนักงานทุกคน “พวกคุณได้ยินที่คุณเซี่ยพูดแล้วใช่ไหม ปล่อยเธอไปเพื่อช่วยไม่ให้เธอต้องหัวเสีย ตอนนี้ฉันแน่ใจว่าพวกคุณทุกคนรู้ว่าต้องทำอะไร!”

 

 

“ค่ะ” บรรดาพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินและหัวหน้าพนักงานเข้าใจเป็นอย่างดี ซิงเหอกำลังบอกให้พวกเธอมองข้ามชุยอิงไปซะ ซึ่งเป็นเรื่องยอดเยี่ยมเพราะพวกเธอเอื่อมระอาที่จะต้องรับมือกับยัยบ้าคนนี้อยู่แล้ว!

 

 

ตลอดการเดินทางหลังจากนั้น ไม่มีใครเข้ามารบกวนชุยอิงอีก เธอตามหาน้ำดื่มแต่ไม่มีใครมาบริการ เธอจึงถามหาอาหารแต่ก็ยังไม่มีใครตอบรับ ไม่ว่าเธอจะเรียกร้องขออะไรก็ดูจะไม่มีใครได้ยินเธอ

 

 

นี่ทำให้เธอโกรธอย่างที่สุด เธอพยายามจะไปต่อว่าซิงเหอหลายต่อหลายครั้งเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ทุกครั้งเธอจะถูกเหล่าบอดี้การ์ดของซิงเหอสะกัดไว้ทุกครั้ง ไม่ว่าเธอจะโยนความเกรี้ยวกราดแบบไหนใส่อีกฝ่าย ซิงเหอก็เมินใส่เธอ ซิงเหอไม่รู้สึกหวาดกลัวตัวตนที่มีความเป็นพิเศษของชุยอิง

 

 

ชุยอิงเก็บความไฟแห่งความโกรธระหว่างอยู่บนเครื่องบินเอาไว้ สิ่งแรกที่เธอจะทำหลังจากเครื่องลงจอดคือการร้องเรียนซิงเหอต่อคุณลุงประธานาธิบดีของเธอ ซิงเหอคาดเดาสิ่งที่ชุยเองจะทำเอาไว้แล้ว หากแต่นั่นเป็นสิ่งที่ซิงเหอปรารถนาให้ชุยอิงทำเพราะเธอต้องการดูปฏิกิริยาของท่านประธานาธิบดี

 

 

 

 

ชุยเชี่ยน ประธานาธิบดีของประเทศ R ได้เชิญพวกเธอไปยังงานเลี้ยงรับรองด้วยตัวของเขาเอง เขาดูเป็นคนเรียบง่าย แต่ในเมื่อเขาเป็นคนที่มีความสามารถที่จะเป็นประธานาธิบดีได้ เขาจะต้องมีบางอย่างที่น่าสนใจซ่อนอยู่ภายใต้รอยยิ้มอันอบอุ่นแน่

 

 

ในระหว่างมื้อค่ำ เขาทำตัวเป็นเจ้าภาพได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาไม่พูดอะไรเกี่ยวกับคำร้องเรียนของชุยอิงเลยแม้แต่คำเดียว เขาถึงขนาดกล่าวขอโทษซิงเหอด้วยซ้ำ “หลานสาวของผมยังเด็กเกินไปหน่อย และเธอสร้างปัญหาบางอย่างระหว่างการเยี่ยมเยือนประเทศจีน ผมต้องขอโทษแทนเธอด้วย”

 

 

ซิงเหอเผยรอยยิ้มเล็กน้อย “ท่านประธานาธิบดีชุยถือเรื่องนี้จริงจังเกินไปแล้วค่ะ พวกเราไม่ได้เก็บความผิดของคุณชุยมาใส่ใจหรอกค่ะ ไม่เช่นนั้นพวกเราคงไม่คุ้มกันเธอกลับมาด้วยตัวเองแบบนี้”

 

 

คำพูดของซิงเหอนั้นเฉียบคมด้วยการระบุอย่างชัดเจนว่าการกระทำของชุยอิงเป็นความผิด นี่สามารถแปลได้ว่าเป็นความผิดของท่านประธานาธิบดีเช่นกัน

 

 

อย่างไรก็ตาม ชุยเชี่ยนไม่ได้แสดงสัญญาณของความโกรธเกรี้ยวแต่อย่างใด เขาหัวเราะและกล่าว “ผมเห็นแล้วว่าทำไมคุณเซี่ยถึงเป็นเชื้อสายของตระกูลเฉิน จากวิธีที่คุณวางตัวเองนี่เอง ผมยังได้ยินมาว่าคุณแม่ของคุณเซี่ยใช้เวลาวัยเด็กอยู่ที่หนึ่งในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าของประเทศ R ด้วยใช่ไหม”

 

 

“ท่านประธานาธิบดีชุยได้ยินมาถูกต้องแล้วค่ะ จากการตรวจสอบของเรา คุณแม่ถูกรับอุปการะโดยสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าของตระกูลเฮ่อหลาน ก่อนหน้านี้ฉันได้เดินทางมาที่นี่เพื่อทำการค้นหาเธอและเฮ่อหลานฉี คุณชายของตระกูลเฮ่อหลานได้เสนอความช่วยเหลือเป็นอย่างดี แต่การค้นหากลับไม่เป็นผล คราวนี้เรากลับมายังประเทศ R เพื่อค้นหาต่อ เราจะไม่มีวันยอมแพ้จนกว่าเราจะหาตัวเธอพบค่ะ” ซิงเหอมองเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่ายและกล่าวด้วยความมั่นใจ

 

 

ดวงตาของชุยเชี่ยนส่องประกายวาบขึ้นเล็กน้อย เขาจ้องมองไปที่ซิงเหออย่างเจาะลึกขึ้น “ความเชื่อมั่นของคุณเซี่ยนี่น่าประทับใจจริงๆ ไม่ต้องกังวลนะครับเพราะคุณจะได้รับการสนับสนุนในการค้นหาจากผมอย่างเต็มที่ ผมแน่ใจว่าด้วยความร่วมมือของทุกคน เราจะสามารถหาแม่ของคุณพบในเร็ววันและคุณจะได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์”

 

 

“ขอบคุณค่ะท่านประธานาธิบดี พร้อมกันนี้เรายังได้คุ้มกันคนของประเทศคุณอีกคนหนึ่งกลับมากับพวกเราด้วย เขาชื่อเฮ่อปินค่ะ”