บทที่ 486 ประธานลั่วผู้ไร้อำนาจ

The king of War

“หัวหน้า เมื่อกี้ไอ้สารเลวสองคนนี้แหละที่บุกเข้ามาโดยไม่สนใจการขัดขวางของพวกเราเลย คิดไม่ถึงว่าตอนนี้ จะกล้ามาทำร้ายหลานชายของประธานซ่ง”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนเมื่อครู่ รีบพูดกับหัวหน้ารปภ.

สีหน้าของหัวหน้ารปภ.ยิ่งโกรธจัด เขาจ้องเขม็งไปที่หยางเฉินแล้วพูดว่า “แม้แต่เยี่ยนเฉินกรุ๊ปก็ยังกล้าบุกเข้ามา ต้องยอมรับว่าพวกคุณกล้าหาญมาก”

พูดจบ เขาก็โบกมือ “พาตัวสองคนนี้ออกไป!”

“หัวหน้า เจ้าหนุ่มสองคนนี้เป็นผู้ฝึกวิชาที่แข็งแกร่งมาก”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนที่เพิ่งพบที่หน้าประตูรีบเดินเข้าไปกระซิบบอก

หัวหน้ารปภ.ตะโกนขึ้นมาทันที “ฟาดด้วยกระบองให้สลบ แล้วค่อยลากออกไป!”

ไม่นาน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกว่าสิบคนพร้อมกระบองยางในมือ ได้วิ่งไปหาหยางเฉินและหม่าชาวพร้อมกัน

ตลอดเวลาหยางเฉินและหม่าชาวล้วนมีสีหน้าสงบนิ่ง ราวกับว่าไม่รู้สึกว่ามีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกว่าสิบคนกำลังจะโจมตีพวกเขา

หานเฟยเฟยกำลังจะร้องไห้แล้ว คิดว่าหากไม่ใช่เพราะตัวเธอ หยางเฉินคงไม่ถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ในใจเธอเกิดความรู้สึกผิดขึ้นมา

“ใครกล้าทำร้ายเขา ให้ข้ามศพฉันไปก่อน!”

ทันใดนั้นหานเฟยเฟยได้ก้าวไปข้างหน้า ผายมือออกแล้วยืนขวางอยู่ตรงหน้าหยางเฉิน สีหน้าเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

เมื่อเห็นสิ่งที่หานเฟยเฟยทำ ในหัวใจหยางเฉินก็มีความอบอุ่นไหลผ่าน

แม้ว่าเรื่องราวจะเกิดขึ้นเพราะเธอ แต่ทั้งหมดซ่งเหล่ยหาเรื่องใส่ตัวเอง หานเฟยเฟยทำได้ถึงขนาดนี้ก็นับว่าดีมากแล้ว

“พวกคุณแน่ใจนะ ว่าจะเอากระบองมาตีพวกเราสลบได้?”

หยางเฉินเอ่ยปากถามขึ้นในทันใด

“ไร้สาระ! พวกคุณกล้าตีหลานชายของประธานซ่งจนสลบ พวกเราจะตีพวกคุณสลบบ้าง? มันก็ถูกต้องแล้วไม่ใช่เหรอ?”

หัวหน้ารปภ.ยิ้มเยาะ

เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งโดยซ่งซวี่หยาง ตอนนี้ซ่งเหล่ยถูกหักข้อมือ แล้วยังถูกตีสลบ เขาก็ย่อมต้องการล้างแค้นให้ซ่งเหล่ย

เยี่ยนเฉินกรุ๊ปได้รับการสนับสนุนจากตระกูลอวี๋เหวิน ตั้งแต่เขาเข้ารับตำแหน่งหัวหน้ารปภ. ยังไม่เคยเห็นใครกล้าก่อเรื่องที่นี่เลย

นานๆ ทีจะได้เจอปัญหา แล้วยังเกี่ยวข้องกับคนของตระกูลซ่งอีก เขาย่อมต้องแสดงออกให้ดี

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว”

จู่ๆ หยางเฉินก็พูดขึ้นมา

หม่าชาวคันไม้คันมือ เตรียมพร้อมเคลื่อนไหวอยู่นานแล้ว คำพูดของหยางเฉินเป็นเหมือนคำสั่งให้ลงมือทำ

“จัดการมัน ตีไอ้สารเลวสองคนนี้ที่กล้ามาก่อเรื่องในเยี่ยนเฉินกรุ๊ปให้สลบไปเลย!”

ทันทีที่หัวหน้ารปภ.ออกคำสั่ง บรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่กำลังเข้าใกล้หยางเฉินและหม่าชาว ก็รีบกรูเข้าไปอย่างฮึกเหิม

หม่าชาวแสยะยิ้มมุมปากอย่างเหี้ยมโหด ขยับข้อมือ เตรียมพร้อมลงมือ

“หยุดเดี๋ยวนี้!”

ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายนี้ ทันใดนั้นเสียงคำรามโกรธเกรี้ยวก็ดังก้องไปทั่วห้องโถงชั้นหนึ่ง

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกว่าสิบคนทยอยหยุดลง แต่ละคนหันไปมองชายวัยกลางคนที่เพิ่งเข้ามาในห้องโถง

“ประธานลั่ว!”

เมื่อเห็นคนที่ประตู มีคนจำได้ว่าเป็นลั่วปิง จึงอุทานออกมาทันที

ในเวลานี้ บนใบหน้าของลั่วปิงเต็มไปด้วยความโกรธ เขาไม่รู้ว่าหยางเฉินมาถึงเมืองเยี่ยนตูแล้ว ทันทีที่มาถึงบริษัท ก็เห็นหยางเฉินถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนมากมาย

ตอนนี้ภารกิจที่หยางเฉินมอบหมายให้เขาทำ เขายังทำเสร็จไม่ถึงครึ่ง ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หยางเฉินเกือบโดนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทำร้ายเข้าแล้ว

จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความกังวล เดินตรงเข้าไปหาหยางเฉินทีละก้าว

“ประธานลั่ว เจ้าหนุ่มสองคนนี้หักข้อมือหลานชายของประธานซ่ง แล้วยังตีเขาจนสลบ”

“คุณขัดขวางไม่ให้พวกเราลงมือ ถ้าหากประธานซ่งรู้เรื่องนี้เข้า คงไม่ค่อยดีใช่ไหม?”

“ผมขอแนะนำประธานลั่วว่าอย่ายุ่งกับเรื่องของคนอื่นให้มากนัก เรื่องราวทางนี้ผมจะเป็นคนจัดการเอง”

หัวหน้ารปภ.พูดเยาะเย้ย

เมื่อเผชิญหน้ากับลั่วปิง เขาไม่เพียงไม่แสดงความเคารพใดๆ ในคำพูดก็เต็มไปด้วยการคุกคาม

ลั่วปิงกำลังจะเดินเข้าไปทักทายหยางเฉิน แต่กลับสังเกตเห็นสายตาของหยางเฉินบอกเป็นนัยว่าไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนของเขา ลั่วปิงจึงตระหนักว่าหยางเฉินยังไม่คิดจะเปิดเผยตัวตนของเขาในขณะนี้

“คุณพูดอะไรนะ?”

ลั่วปิงเดินเข้าไปหาหัวหน้ารปภ. แล้วพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย

หัวหน้ารปภ.ขมวดคิ้วแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “หลานชายของประธานซ่งถูกทำร้าย พวกเรากำลังจัดการเรื่องต่างๆ แทนประธานซ่ง ถ้าประธานลั่วไม่อยากมีปัญหา ก็อย่ายื่นมือเข้ามายุ่งดีกว่า”

“คุณคิดว่าตัวเองเป็นใคร ถึงได้มีสิทธิ์มาสอนให้ผมทำอะไร?”

ลั่วปิงตะโกนเสียงสูงใส่ทันทีอย่างโกรธเคือง

สีหน้าของหัวหน้ารปภ.ชะงักงันทันที แววชั่วร้ายฉายผ่านดวงตา เขาหรี่ตาพลางพูดว่า “ประธานลั่ว น่าจะเข้าใจในสิ่งที่ผมพูดใช่ไหม? หลานชายของประธานซ่งถูกทำร้าย แต่คุณกลับตำหนิและขัดขวางพวกเรา หรือว่าคุณเป็นคนบงการ เจ้าหนุ่มสองคนนั้นจึงกล้าลงมือกับหลานชายของประธานซ่ง?”

หัวหน้ารปภ.ดูเป็นคนหยาบคาย แต่กลับคิดการณ์ละเอียดรอบคอบ

เขารู้ว่าผู้บงการที่แท้จริงที่อยู่เบื้องหลังเยี่ยนเฉินกรุ๊ปในตอนนี้คือทายาทสายตรงของตระกูลอวี๋เหวิน ส่วนซ่งหมิงซู่ว์ก็เป็นคนสนิทที่ได้รับการฝึกอบรมจากตระกูลอวี๋เหวิน

ดังนั้นการที่เขาช่วยเหลือซ่งหมิงซู่ว์ ก็หมายความว่าเขากำลังช่วยเหลือทายาทสายตรงของตระกูลอวี๋เหวินอยู่

หยางเฉินยืนอยู่ข้างๆ ลั่วปิงเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ ถ้าหากในเวลานี้เขายังขี้ขลาดต่อไป จะต้องทำให้หยางเฉินผิดหวังอย่างแน่นอน

“ไสหัวออกไปให้พ้นจากสายตาของผมภายในสิบวินาที มิฉะนั้นทั้งหมดจะถูกไล่ออก!”

ลั่วปิงไม่อยากพูดอะไรไร้สาระ ท่าทีของเขาแข็งแกร่งมาก

ตั้งแต่เขามาถึงสำนักงานใหญ่ของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ก็ระมัดระวังตัวในทุกเรื่อง ด้วยเกรงว่าจะทำอะไรผิดพลาด และถูกคนสนิทที่ได้รับการฝึกอบรมจากตระกูลอวี๋เหวินจับจุดอ่อนได้ ซึ่งจะสร้างปัญหาให้กับหยางเฉิน

อาจกล่าวได้ว่า เขาได้กล้ำกลืนความอัปยศอดสูใช้ชีวิตผ่านวันเวลาที่มืดมน ตอนนี้หยางเฉินมาแล้ว เขายังมีอะไรที่ต้องกังวลอีก?

“พวกเราเป็นคนของประธานซ่ง ผมเกรงว่าคุณจะไม่มีสิทธิ์มาไล่พวกเราออก”

หัวหน้ารปภ.ไม่เกรงกลัวสิ่งใดเพราะมีคนหนุนหลัง

เขาเป็นคนของซ่งซวี่หยาง แล้วเหตุใดต้องกลัวลั่วปิงด้วย?

“ครบสิบวินาทีแล้ว พวกคุณถูกไล่ออก ไสหัวออกไปได้แล้ว!”

ลั่วปิงยกข้อมือขึ้นดูเวลานาฬิกา แล้วประกาศออกไป

“ลั่วปิง คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้!”

ในที่สุดหัวหน้ารปภ.ก็ตระหนักว่า ลั่วปิงกำลังใช้ท่าทีแข็งกร้าวจริงๆ ไม่ต้องเรียกประธานลั่วแล้ว เรียกชื่ออื่นแทน

“ตอนนี้ขอไล่สมาชิกทั้งหมดของแผนกรักษาความปลอดภัยออกในนามของสำนักงานใหญ่ของบริษัท!”

จากนั้นลั่วปิงก็กดโทรออก แล้วสั่งการทันที

เมื่อได้ยินคำพูดของลั่วปิง สีหน้าของหัวหน้ารปภ.ก็มืดมนมากขึ้น

“เอาล่ะ พวกคุณถูกไล่ออกแล้ว ตอนนี้ก็ไสหัวออกไปจากเยี่ยนเฉินกรุ๊ปได้แล้ว”

ลั่วปิง กล่าวอย่างเย็นชา

จากนั้น ก็เดินเข้าไปอยู่เคียงข้างหยางเฉินและหม่าชาว แล้วเอ่ยปากพูดว่า “พวกคุณสองคนไปกับผม!”

พูดจบ ลั่วปิงก็ก้าวไปข้างหน้า ตามติดด้วยหยางเฉินและหม่าชาว

แต่สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็คือ ลั่วปิงเพิ่งประกาศต่อหน้าผู้คนว่าเขาได้ไล่สมาชิกทั้งหมดของแผนกรักษาความปลอดภัยออกแล้ว ในเวลานี้ หัวหน้ารปภ.ได้พาคนเข้ามาขวางลั่วปิงไว้

“พวกคุณทำอะไรฝ่าฝืนหลักการ กล้ามาขวางทางผมเหรอ?” ลั่วปิงคำรามอย่างโกรธเคือง

หัวหน้ารปภ.ยั่วยุเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งทำให้เขาโกรธมาก

ภายในบริษัท เป็นเรื่องปกติที่จะตกเป็นเป้าหมายของผู้บริหารระดับสูง

ตอนนี้แม้แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ระดับล่างสุดของบริษัทก็ยังกล้ามองข้ามตน แล้วยังทำต่อหน้าหยางเฉินด้วย

แค่คิดก็รู้แล้วว่า ในใจลั่วปิงโกรธมากแค่ไหนในเวลานี้