เช้าวันรุ่งขึ้น ถังซีออกจากอุทยานเอ็มไพร์ก่อนที่ถังหย่ากับเซียวหงอี้จะตื่น ก่อนออกไปเธอสั่งให้คนรับใช้ดูแลทั้งสองให้ดี และบอกให้คนขับรถพาทั้งสองไปส่งที่โรงพยาบาลหลังจากทานอาหารเช้าแล้ว
ทันทีที่ขึ้นรถเธอก็ถามอาหกถึงลู่หลี “ตอนนี้ลู่หลีเป็นยังไงบ้าง อาการเขายังโคม่าอยู่หรือเปล่า”
อาหกมองหน้าเธอและพยักหน้า “อาการเขาไม่ค่อยดีครับ ยังคงอยู่ในขั้นโคม่า และมีไข้สูง ลั่วเฟิงผ่าตัดให้เขาแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าเขาจะฟื้นตัวกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม”
อาหกคิดว่าลู่หลีโชคร้ายจริงๆ ครั้งนี้ กลุ่มนักเลงชาวเม็กซิกันวางกับดักล่อคุณเจ็ดไปฆ่าที่ฐานหมายเลขสาม เพราะการตายของเขาจะเป็นระเบิดลูกใหญ่สำหรับหลงเซี่ยว
ถ้านายน้อยจำไม่ได้ว่าชายในหลอดทดลองคนนั้นคือคุณเจ็ดจริงๆ เขาก็คงฆ่าคุณเจ็ดไปแล้วด้วยมือเขาเอง เรื่องนี้จะสร้างหายนะให้นายน้อยพร้อมๆ กับได้โจมตีหลงเซี่ยวกรุปด้วยระเบิดมหาประลัย
เมื่อคิดเช่นนี้ อาหกก็เกิดแรงบันดาลใจอยากฆ่าคนเหล่านั้นในทันที
เมื่อเห็นท่าทางอาหกขุ่นเคืองมากขนาดนั้น ถังซีก็จินตนาการได้เลยว่าเฉียวเหลียงจะต้องทุกข์ทรมานแค่ไหน ถ้าเธอโทรหาเขาตอนนี้ก็มีแต่จะทำให้เขารู้สึกแย่ลง เธอจึงบอกตัวเองว่าอย่าเพิ่งโทรหาเฉียวเหลียง
“ไปที่เอ็มไพร์กรุปก่อน” ถังซีกล่าว
อาหกตอบทันที “ได้ครับ” ถังซีเริ่มอ่านเอกสารในมือ อาหกมองเธอผ่านกระจกมองหลัง และขับรถไปเงียบๆ โดยไม่รบกวนถังซี
บางทีคนที่ได้พบเจอกับเรื่องราวมามากมายจะเข้าใจผู้อื่นดีขึ้น และเข้าใจผู้อื่นได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
คุณถังเลือกที่จะเข้าใจนายน้อย ไม่รบกวนเขาในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ เพราะเธอรู้ว่าแท้จริงแล้วนายน้อยต้องการอะไร
ทั้งสองไปถึงอาคารเอ็มไพร์และพบว่าหน้าประตูเต็มไปด้วยนักข่าว ถังซีลงจากรถ ผู้ช่วยหวังซึ่งรออยู่แล้วก็รีบวิ่งเข้ามาหาเธอ “ท่านประธานคะ ถังเจี๋ยเหรินกับพี่น้องของเขาวางแผนใช้ประโยชน์จากความล้มเหลวของโครงการใหม่ของเราเพื่อทำลายคุณ ตอนนี้พวกเขาเตรียมจัดแถลงข่าวประณามคุณผ่านสื่อ และขับไล่คุณออกจากบริษัท เพื่อกำจัดคุณให้สำเร็จให้ได้ในครั้งนี้ และตอนนี้… คุณถังหลิงอยากพบคุณค่ะ”
กำจัดเธอให้สำเร็จให้ได้ในครั้งนี้อย่างนั้นหรือ เธออยากเห็นจริงๆ ว่าพวกเขาจะทำอะไรได้บ้าง!
ถังซีมองหน้าผู้ช่วยหวัง และเลิกคิ้ว “ถังหลิงเหรอ”
ผู้ช่วยหวังพยักหน้า “คุณถังหลิงอยากพบคุณก่อนงานแถลงข่าวค่ะ”
ถังซีพยักหน้า สงสัยว่าทำไมถังหลิงถึงอยากพบเธอ เธอมองหน้าผู้ช่วยหวังและขมวดคิ้ว “ถังหลิงอยู่ไหน”
ผู้ช่วยหวังตอบว่า “อยู่ในห้องทำงานคุณค่ะ”
ถังซีพยักหน้า ก้าวเดินไปโดยมีอาหกและผู้ช่วยหวังขนาบข้าง ทันใดนั้นนักข่าวคนหนึ่งก็รีบเข้ามายื่นไมโครโฟนตรงหน้าเธอ ถังซีหยุดก้าวเดินและขมวดคิ้ว นักข่าวคนนั้นดูเหมือนจะไม่รู้ตัวว่าเขาหยาบคายแค่ไหน ยังรีบยิงคำถามอีกว่า “ท่านประธานถังครับ โปรดตอบคำถามของผมด้วย! เอ็มไพร์กรุปใช้เงินหลายร้อยล้านหยวนไปกับโครงการนี้ แต่ตอนนี้คุณทำโครงการพังพินาศด้วยมือคุณเอง คุณคิดยังไงในเรื่องนี้ครับ”
ถังซีขมวดคิ้ว ดวงตาเธอเปล่งประกายเยือกเย็น เธอหรี่ตามองนักข่าวคนนั้น และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉันกำลังคิดว่าทำไมคุณถึงหยาบคายขนาดนี้! การมีคุณอยู่ในองค์กรช่างสร้างความอัปยศให้กับสำนักข่าวที่คุณทำงานจริงๆ!”
นักข่าวคนนั้นยังคงพยายามถาม อาหกจ้องเขาด้วยสีหน้าดุดัน เมื่อถูกข่มขู่เช่นนั้นนักข่าวก็ค่อยๆ ถอยออกไป ถังซีเคลื่อนตัวผ่านฝูงชนเข้าไปในบริษัท
ทันทีที่ถังซีเข้าไปในลิฟต์ อาหกก็กล่าวกับเธอด้วยรอยยิ้ม “คุณถังครับ นายน้อยมอบหมายงานอีกอย่างหนึ่งให้ผมทำ ตอนนี้ผมไปกับคุณไม่ได้แล้วครับ เอาไว้เจอกันหลังจากนี้นะครับ”
ถังซีเลิกคิ้วมองหน้าอาหก “เป็นคุณหลู่เหรอ”
เธอยังจำคุณหลู่ผู้ถือหุ้นใหญ่ของเอ็มไพร์กรุปได้ เมื่อมีอาหกอยู่ที่นี่ด้วย แม้กรรมการคนอื่นจะไม่อยู่ข้างเธอ เธอก็ยังขับไล่คนเหล่านั้นออกจากบริษัทได้ อย่างไรก็ตามคนเหล่านั้นรู้วิธีที่จะใช้สื่อเป็นเครื่องมือ และเพื่อไม่ให้ถูกสื่อคุกคาม เธอคิดว่าเป็นการดีกว่าที่จะใช้วิธีอื่น ในการทำให้พวกเขาไม่มีโอกาสส่งเสียงดังในสื่อได้อีก!
อาหกเกาศีรษะ “คุณถังครับ นี่ผมเก็บความลับอะไรไว้จากคุณไม่ได้เลยหรือครับ”
ถังซียักไหล่ “ใช่ คุณก็รู้นี่นา ว่าฉันคือถังซี”
จากนั้นเธอก็เดินนำผู้ช่วยหวังเข้าไปในลิฟต์ ผู้ช่วยหวังยื่นเอกสารให้เธอ “นี่คือข่าวประชาสัมพันธ์ที่พวกเขาแจกให้นักข่าวค่ะ เพื่อนนักข่าวคนหนึ่งของฉันให้มา พวกเขาเตรียมคำถามยากๆ ไว้ให้ถามคุณ เพื่อนฉันเป็นแค่นักข่าว เขาก็เลยทำอะไรไม่ได้ นอกจากแจ้งข่าวให้พวกเราทราบล่วงหน้า”
ถังซีรับข่าวประชาสัมพันธ์นั้นมาและยิ้ม “ฝากขอบคุณเพื่อนคุณให้ฉันด้วย”
ผู้ช่วยหวังยักไหล่และพยักหน้ารับ
ถังซีและผู้ช่วยหวังไปที่ห้องทำงาน ถังหลิงรอเธออยู่ที่นั่นแล้ว ขณะถังซีเดินเข้าไป ถังหลิงซึ่งยืนอยู่ที่หน้าต่างฝรั่งเศสในห้องหันกลับมามองเธอ ถังซีเลิกคิ้วมองถังหลิง “มีอะไรให้ฉันช่วยหรือเปล่า”
ถังหลิงมองไปทางผู้ช่วยหวังที่เดินตามถังซีเข้ามา ผู้ช่วยหวังจึงรีบออกไปทันทีและปิดประตูให้พวกเขา ถังซีหันไปมองประตูที่ปิดลงแล้วหันมามองถังหลิง ถามว่า “บอกฉันมาสิ ทำไมเธอถึงอยากเจอฉัน”
ถังหลิงจ้องมองถังซีนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะละสายตา จากนั้นก็ยื่นเอกสารปึกหนึ่งกับแผ่นดิสก์ให้ถังซี “นี่เป็นผลจากการสืบหาข้อมูลที่ผมทำอยู่นานหลายเดือน มีข้อความที่ฉินซินหยิ่งส่งถึงถังเจี๋ยเหริน บอกเขาเกี่ยวกับเบาะแสของถังซี มีประวัติการโทรติดต่อกันระหว่างพวกเขา ประวัติการซื้อน้ำมันเครื่องบินของถังเจี๋ยเหริน หลักฐานที่พวกเขาติดสินบนคนซ่อมบำรุงเครื่องบิน ให้จัดการทำให้เครื่องบินขัดข้อง และภาพเคลื่อนไหวจากดาวเทียมบันทึกเหตุการณ์เครื่องบินตก”
ถังซีมองหน้าถังหลิง เขาไม่ได้ใช้คำว่า ‘คุณ’ แต่เป็น ‘ถังซี’ เมื่อเขาพูดถึงถังซีเมื่อกี้…
ถังหลิงดูเหมือนจะรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอขมวดคิ้ว กล่าวอย่างจริงจังว่า “ฉันอยากรู้ว่าทำไมเธอถึง…”
ถังหลิงกำลังจะกล่าวอะไรบางอย่าง แต่ถังซีขัดจังหวะ แล้วกล่าวต่อไปด้วยรอยยิ้ม “ถังหลิง เธอจำได้ไหมตอนฉันอายุสี่ขวบ เราสองคนเล่นกันอยู่ที่ริมทะเลสาบ ฉันอยากตกปลา แต่เธอปฏิเสธไม่ยอมให้ฉันถือเบ็ด ฉันโกรธมาก ฉันเตะเธอตกลงไปในบ่อปลา” จากนั้นเธอก็มองหน้าถังหลิงซึ่งดูท่าทางประหลาดใจ เธอกล่าวต่อไปอีกว่า “ฉันจำเหตุการณ์นั้นได้แม่น เพราะคุณปู่ซึ่งไม่เคยโกรธฉันเลย ในครั้งนั้นท่านให้ฉันคุกเข่าอยู่ทั้งชั่วโมงเพื่อเป็นการลงโทษ”