บทที่ 531 เค้กชิ้นหนึ่ง

รักหวานอมเปรี้ยว

ครุ่นคิดแล้ว มายมิ้นท์หยิบแฟ้มเอกสารมาเปิดดู เริ่มลงมือทำงาน

ถึงเวลาเที่ยง หลังจากกินอาหารกลางวันกับลาเต้แล้ว เธอก็ถือเครื่องประดับที่ต้องคืนให้เปปเปอร์ ขับรถออกไปจากเทนเดอร์กรุ๊ป มุ่งหน้าไปที่บริษัทตระกูลนวบดินทร์

มาถึงบริษัทตระกูลนวบดินทร์ ก็บ่ายโมงแล้ว

มายมิ้นท์เพิ่งจะเหยียบเข้ามาในประตูใหญ่ของบริษัทตระกูลนวบดินทร์ ก็เห็นผู้ช่วยเหมันตร์เดินมาทางเธอ “คุณมายมิ้นท์ครับ”

มายมิ้นท์ยิ้มรับ “ผู้ช่วยเหมันตร์”

“คุณมายมิ้นท์ ประธานเปปเปอร์ให้ผมมาพาคุณขึ้นไปครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์ทำท่าทางเชื้อเชิญ

มายมิ้นท์แปลกใจนิดหน่อย “เขารู้ได้ยังไงว่าฉันมาถึงแล้ว?”

ตอนเช้าเธอบอกไปว่าช่วงเที่ยงๆจะเข้ามา แต่ก่อนมา เธอยังไม่ได้บอกเปปเปอร์เลยนะ

ดังนั้นเปปเปอร์รู้ได้ยังไงว่าเธอมาถึงแล้ว ทั้งยังให้ผู้ช่วยเหมันตร์ลงมารับเธออีก?

ผู้ช่วยเหมันตร์ดันแว่นเล็กน้อยพร้อมเอ่ยปากอธิบาย “คืออย่างนี้ครับ ประธานเปปเปอร์บอกว่าช่วงเที่ยงๆคุณมายมิ้นท์จะกลับเข้ามา จึงให้มารออยู่ตรงนี้ล่วงหน้าหน่อยน่ะครับ”

“อย่างนี้เอง” มายมิ้นท์พยักหน้าในทันที “งั้นคุณคงรอนานมากแล้วสินะคะ?”

คงต้องบอกว่า การที่เปปเปอร์ให้ผู้ช่วยเหมันตร์ลงมารอก่อนล่วงหน้า

ความจริงใจนี้ ก็คุ้มค่าที่จะทำให้เธอให้ความสำคัญ

“ไม่เลยครับ ผมก็เพิ่งจะลงมาได้ประมาณสิบกว่านาที เอาเถอะครับคุณมายมิ้นท์ เราไปกันก่อนดีกว่า” ผู้ช่วยเหมันตร์พูดขึ้น

มายมิ้นท์อืมออกมา “ค่ะ รบกวนคุณแล้ว”

ทั้งสองคนเดินไปทางลิฟต์ส่วนตัวของเปปเปอร์

ภายในอาคารมีผู้คนเดินกันขวักไขว่ ต้องมีคนมากมายที่สังเกตเห็นพวกเขาอยู่แล้ว

บางคนที่รู้จักมายมิ้นท์ เห็นมายมิ้นท์อยู่ที่นี่ กลับไม่ได้แปลกใจมากนัก

ถึงยังไงเทนเดอร์กรุ๊ปกับบริษัทตระกูลนวบดินทร์ก็ร่วมงานกันอยู่ ภรรยาเก่าของประธานเปปเปอร์มาที่นี่ อาจจะเป็นเรื่องงานก็ได้

ทว่าบางคนที่ไม่รู้จักมายมิ้นท์ แต่ละคนกลับอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ เริ่มแสดงความคิดเห็นกันขึ้นมา

ผู้ช่วยเหมันตร์เป็นผู้ช่วยคนสนิทของประธานเปปเปอร์ พวกเขารู้กันอยู่แล้ว นอกเสียจากว่าคนสำคัญของประธานเปปเปอร์จะมาที่นี่ ถึงให้ผู้ช่วยเหมันตร์เข้ามาต้อนรับ ส่วนคนอื่นๆจะมอบหน้าที่ให้เลขาและผู้ช่วยทั่วไปเข้ามาต้อนรับแทน

ดังนั้นผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน?

ทำไมประธานเปปเปอร์ถึงให้ผู้ช่วยเหมันตร์เข้ามาต้อนรับด้วยตนเอง?

เธอมีดีอะไรกันแน่นะ?

สายตาที่ประหลาดใจของทุกคน มายมิ้นท์รู้สึกได้ตลอดทาง

แต่ทว่าเธอไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมากมาย ถึงขั้นไม่ได้หันกลับไปมองด้วยซ้ำ

สำหรับเธอแล้ว แค่สายตาของคนพวกนี้ไม่ได้มีเจตนาร้าย พวกเขาอยากมองก็มองไปสิ ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรสักหน่อย

อีกอย่าง ดวงตาก็อยู่บนตัวของคนอื่น เธอคงให้พวกเขาปิดตาเอาไว้ไม่ได้หรอก

หนึ่งนาทีผ่านไป มาถึงห้องทำงานของเปปเปอร์แล้ว

ผู้ช่วยเหมันตร์ผลักประตูเปิดออก ทำท่าทางเชื้อเชิญอีกครั้ง “เชิญครับคุณมายมิ้นท์”

“ขอบคุณค่ะ” มายมิ้นท์กล่าวขอบคุณ แล้วก้าวเท้าเดินเข้าไป

ทว่าหลังจากเข้าไป เธอพบว่าภายในห้องทำงานที่กว้างขวาง ไม่มีใครอยู่เลย

เธอหยุดฝีเท้าลง หันกลับไปมองผู้ช่วยเหมันตร์แล้วถามขึ้น: “ประธานเปปเปอร์ล่ะคะ?”

“ตอนนี้ประธานเปปเปอร์ยังประชุมอยู่ในห้องประชุม อีกเดี๋ยวก็มาครับ คุณมายมิ้นท์นั่งก่อน อยากดื่มอะไรไหมครับ?” ผู้ช่วยเหมันตร์เดินนำเธอมาที่ด้านหน้าโซฟา

มายมิ้นท์นั่งลงไปบนโซฟา “อะไรก็ได้ค่ะ คุณตัดสินใจได้เลย ฉันกินได้ทั้งนั้น”

“งั้นผมไปชงชานะครับ คุณมายมิ้นท์รอสักครู่” ผู้ช่วยเหมันตร์พูดขึ้น

มายมิ้นท์พยักหน้า “ค่ะ”

ผู้ช่วยเหมันตร์ออกไปแล้ว

มายมิ้นท์จึงวางถุงในมือไว้บนโต๊ะน้ำชาด้านหน้า แล้วหยิบมือถือขึ้นมาดู

เห็นข่าวหนึ่งจากหน้าต่างป๊อปอัพที่เด้งออกมา เธอจึงส่งเสียงเอ๊ะ แล้วให้ความสนใจขึ้นมาทันที

“ตระกูลเสนาประกรโดนตรวจสอบ?” มายมิ้นท์นั่งตัวตรงขึ้นมาอย่างมีชีวิตชีวา กดเปิดหน้าต่าง ป๊อปอัพนี้ ก็เห็นด้านบนเขียนไว้ว่าทุกคนในตระกูลเสนาประกรเมืองน้ำรุ้งโดนพาตัวไปตรวจสอบวินัย ทีมตรวจสอบของทางราชการเข้าไปในตระกูลเสนาประกร และเริ่มสอบสวนทรัพย์สินแต่ละอย่างของตระกูลเสนาประกรแล้ว

เห็นถึงตรงนี้ มุมปากของมายมิ้นท์ก็ยิ้มขึ้นมา

สำหรับเนื้อหาทั้งหมดที่เขียนในข่าว เธอไม่รู้สึกแปลกใจเลยสักนิด เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าตระกูลเสนาประกรต้องประสบกับความหายนะนี้

ตั้งแต่เกศวดีโดนจับ ก็ให้คำสารภาพวิธีที่ช่วยเหลือส้มเปรี้ยว รวมไปถึงหลังจากที่ปีนั้นทำให้รักแรกอย่างเลอแปงถึงแก่ความตาย ตำรวจเมืองเดอะซีต้องรายงานเรื่องนี้ต่อผู้บังคับบัญชาอยู่แล้ว

ถึงยังไงเกศวดีก็มาจากตระกูลเสนาประกรเมืองน้ำรุ้ง ซึ่งตระกูลเสนาประกรเป็นครอบครัวที่มีอำนาจและอิทธิพล

ครอบครัวอย่างนี้ วางแผนร้ายเอาชีวิตผู้อื่น ทั้งยังไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ช่วยเหลือคนที่เป็นนักโทษให้หลบหนีไป ก็รู้อยู่ว่าประเทศชาติต้องให้ความสนใจ และออกคำสั่งตรวจสอบตระกูลเสนาประกรจนถึงที่สุดแน่ๆ

ใครให้เกศวดีเป็นคนที่ตระกูลเสนาประกรอบรมสั่งสอนมาล่ะ ตระกูลเสนาประกรเลี้ยงดูคนๆหนึ่งออกมาอย่างนี้ แสดงว่าตระกูลเสนาประกรเองก็มีปัญหาอยู่แล้ว ถ้าไม่ตรวจสอบ คงจนปัญญาที่จะให้ความกระจ่างแจ้งแก่ประชาชน

ดูท่าคราวนี้ตระกูลเสนาประกรคงจบเห่แล้วจริงๆ

คราวก่อนที่เกศวดีก้าวก่ายการทำงานของรัฐบาลเมืองเดอะซี ก็ทำให้ตระกูลเสนาประกรได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงแล้ว ตอนนี้ยังไม่ทันได้ฟื้นตัวกลับมา เกศวดีก็ตัดหนทางของตระกูลเสนาประกรไปอย่างสมบูรณ์อีกครั้ง

เป็นไปได้มากว่าตอนนี้ตระกูลเสนาประกร คงจะเสียใจมากที่ให้กำเนิดลูกสาวอย่างนี้สินะ

“ดูอะไรอยู่ ถึงยิ้มเบิกบานขนาดนั้น?” ตอนที่มายมิ้นท์กำลังอ่านความคิดเห็น ประตูห้องทำงานก็โดนเปิดออกอีกครั้ง เปปเปอร์ก้าวขายาวๆเดินเข้ามา ผู้ช่วยเหมันตร์กำลังถือถาดเดินตามอยู่ด้านหลัง

มายมิ้นท์วางมือถือลงแล้วเงยหน้าขึ้น “กำลังดูข่าวของตระกูลเสนาประกรอยู่ ตระกูลเสนาประกรโดนตรวจสอบจนถึงที่สุดแล้วนะ”

เปปเปอร์เชิดๆคาง “เรื่องนี้นี่เอง งั้นก็สมควรที่จะยินดีจริงๆ”

“คุณรู้อยู่แล้วเหรอ?” มายมิ้นท์มองเขา

เปปเปอร์เดินมานั่งลงไปตรงข้ามเธอ “รู้ได้แปปนึงแล้ว”

“คุณมายมิ้นท์ ชาแดงของคุณครับ แล้วก็เค้กแบล็คฟอเรสอีกชิ้นด้วย หวังว่าคุณจะชอบนะครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์เดินมาถึงข้างโต๊ะน้ำชา วางถาดลงไป แล้วยกกาแฟกับของหวานออกมาวางไว้ด้านหน้าของมายมิ้นท์

มายมิ้นท์พยักหน้าเล็กน้อย “ขอบคุณค่ะ”

“ไม่ต้องเกรงใจครับ เค้กนี่ประธานเปปเปอร์ให้ผมเตรียมเอาไว้ ถ้าคุณจะขอบคุณ ก็ขอบคุณประธานเปปเปอร์เถอะครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์วางกาแฟอีกแก้วไว้ที่ด้านหน้าของเปปเปอร์

มายมิ้นท์มองเปปเปอร์ด้วยความประหลาดใจ “คุณเตรียมไว้ให้ฉันเหรอ?”

เปปเปอร์อืมออกมา “ผมรู้ว่าคุณชอบกินของหวานพวกนี้ ก็เลยให้คนไปซื้อมาโดยเฉพาะน่ะ”

ผู้ช่วยเหมันตร์ที่อยู่ข้างๆอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอยู่เงียบๆ

เริ่มแรก เขาไม่รู้ว่าเค้กนี่ประธานเปปเปอร์เตรียมเอาไว้ให้คุณมายมิ้นท์

หนึ่งเดือนก่อน จู่ๆประธานเปปเปอร์ก็ให้คนวางเค้กอร่อยๆหนึ่งชิ้น แบบไหนก็ได้ ไว้ในตู้เย็นของห้องกาแฟทุกวัน

แรกเริ่มเขาคิดว่า ประธานเปปเปอร์อยากจะกินเค้กซะเอง แต่ความคิดนี้ก็โดนประธานเปปเปอร์ปัดตกไปอย่างรวดเร็ว เพราะเขาไม่เคยเห็นประธานเปปเปอร์กินเลย

ดังนั้นเขาจึงกลัดกลุ้มอยู่สักพัก รู้สึกว่าในเมื่อประธานเปปเปอร์ไม่กิน ทำไมถึงยังให้คนเตรียมเอาไว้อีก แล้วทุกวันก่อนเลิกงานต้องเอาเค้กไปทิ้ง วันที่สองก็ให้คนไปเตรียมเค้กไว้ใหม่

นี่ไม่ได้เสียสติเหรอ

จนกระทั่งครึ่งเดือนก่อนวันหนึ่ง เขาบังเอิญได้ยินเปปเปอร์กำลังพูดอะไรอยู่ ถึงได้รู้ว่าคุณมายมิ้นท์ชอบกินของพวกนี้ เค้กที่เตรียมเอาไว้ทุกวัน ล้วนแต่เตรียมไว้ให้คุณมายมิ้นท์

ถึงคุณมายมิ้นท์จะไม่ได้มาที่นี่บ่อยๆ สิบวันหรือครึ่งเดือนก็ยังไม่มาสักครั้งเลย แต่ประธานเปปเปอร์ยังคงแน่วแน่ที่จะเตรียมเอาไว้ เผื่อว่าคุณมายมิ้นท์มาอย่างกะทันหัน ก็เพียงพอที่จะทำให้คุณมายมิ้นท์ได้กินเค้กอร่อยๆในทันที

ต้องบอกเลยว่า เรื่องนี้ ประธานเปปเปอร์ทำให้เขานับถือจริงๆ

มายมิ้นท์ไม่รู้ว่าเค้กมีที่มาอย่างนี้

เธอกำลังมองเค้ก ภายในใจสับสนสุดๆ

เปปเปอร์เห็นเธอจ้องเค้กไม่พูดไม่จา ดูจากท่าทางแล้วเหมือนไม่ชอบเท่าไหร่ สีหน้าจึงตึงเครียดขึ้นมา “ไม่ชอบเค้กนี้เหรอ?”

“ไม่ใช่” มายมิ้นท์ส่ายหัว “ฉันแค่รู้สึกแปลกใจเฉยๆ ขอบคุณนะ”

“ไม่เป็นไร แค่เค้กชิ้นหนึ่งก็เท่านั้น ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน อีกฝ่ายก็จะเอาของกินเครื่องดื่มมาต้อนรับคุณ ดังนั้นคุณไม่ต้องรู้สึกกดดันหรอกนะ” เปปเปอร์เอ่ยปากขึ้น

เขากลัวว่าเธอจะไม่ยอมกิน เพราะเค้กนี้เขาเป็นคนเตรียมเอาไว้

“ฉันไม่ได้รู้สึกกดดัน คุณก็พูดอยู่ แค่เค้กชิ้นหนึ่งเท่านั้น ฉันคงไม่ถึงขั้นรู้สึกกดดันหรอก” มายมิ้นท์ยิ้ม

ใจที่เป็นกังวลของเปปเปอร์จึงผ่อนคลายลงได้ ริมฝีปากบางๆอมยิ้ม “งั้นก็ดี ชิมดูสิเค้กรสชาติเป็นไง?”