กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 989

ในเวลาเดียวกันนี้ ที่ปลายสาย จู่ ๆ เจนิซก็กรีดร้องออกมาอย่างประหลาด ทำให้แม็กซ์รู้สึกราวกับว่าเลือดในร่างกายของเขาพุ่งออกมา

เสียงนี้คุ้นเคยกับเขามาก นี่ไม่ใช่เสียงที่ผู้หญิงที่กำลังร้องเมื่อตอนที่เธอมีความสุขที่สุดเพราะเธอกำลังถึงจุดสุดยอดหรอกหรือ?

โจอี้รู้สึกเป็นทุกข์มากในเวลานี้และเขากล่าวขึ้นว่า “ที่รัก คุณควรหยุดขยับตัวเพราะตอนนี้คุณไม่สบายอยู่นะ คุณควรหยุดทำกายบริหารเดี๋ยวนี้ ผมจะรู้สึกแย่มากถ้าอาการบาดเจ็บของคุณแย่ลง”

เจนิซคร่ำครวญอย่างเหลือทนก่อนที่เธอรีบถามขึ้นว่า “โจอี้ มีอะไรอีกไหม? ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันจะวางสายเดี๋ยวนี้ ฉัน…ฉันยังคงฝึกท่ากายบริหารอยู่และคงหยุดไม่ได้เพราะตอนนี้ฉันอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ไม่อย่างนั้นทุกอย่างจะสูญเปล่าถ้าฉันหยุดตอนนี้…”

โจอี้รีบพูดอย่างภูมิใจว่า “เจนิซ ผมอยากบอกข่าวดีกับคุณ! เพื่อนที่ดีของผมจะช่วยผมหาเงิน เขาสามารถแนะนำให้ผมรู้จักกับกองทุนบริหารความมั่งคั่งซึ่งจะสามารถสร้างผลกำไรร้อยละ 20 ในหนึ่งสัปดาห์ คุณต้องการที่จะถามแม่ของคุณไหมว่าเธอสนใจที่จะลงทุนในเรื่องนี้ด้วยไหม?

เจนิซโพล่งออกมา “โจอี้ นี่คุณโง่เหรอ? เศรษฐกิจตอนนี้เป็นอย่างไร? รายได้ต่อปีของ Yuebao น้อยกว่าสามเปอร์เซ็นต์ต่อปี และคุณมีเพื่อนที่สามารถสร้างผลกำไรให้คุณได้ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ในเวลาเพียงสัปดาห์เดียวเนี่ยนะ? มันจะเป็นไปได้อย่างไร?”

โจอี้รู้สึกกังวลมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้ และเขาก็โพล่งออกมาว่า “เจนิซ เพื่อนของผมน่ะเขาเจ๋งมากเลยนะ เขาขับรถแฟตันด้วย! คุณรู้เปล่าว่ารถแฟตันเป็นรถที่แพงที่สุดของโฟล์คสวาเกน และมีมูลค่ามากกว่าสองล้านดอลลาร์? นอกจากนี้เขายังจ่ายเงินหนึ่งแสนดอลลาร์เพื่อเลี้ยงอาหารให้เราในวันนี้อีกด้วยนะ”

เจนิซดุเขาอย่างดูถูก “คุณคิดว่าฉันจะเชื่อเหรอว่าคนอย่างคุณจะสามารถรู้จักคนรวยที่สามารถใช้เงินถึงหนึ่งแสนเหรียญในการกินอาหารได้จริง? คิดว่าฉันเป็นเด็กที่จะเชื่อคุณงั้นเหรอ?”

โจอี้รีบพูดว่า “เจนิซ ผมพูดจริงนะ! ผมจะสามารถจ่ายค่าสินสอดให้แม่ของคุณได้ในไม่ช้า ผมจะทำเงินได้มากมายในเร็ว ๆ นี้ และคุณไม่จำเป็นต้องขายบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้าเหล่านั้นให้กลุ่มเพื่อนของคุณอีกแล้ว! ผมจะปฏิบัติต่อคุณอย่างดีในอนาคตอย่างแน่นอน ผมจะดูแลคุณและทำให้แน่ใจว่าคุณมีชีวิตที่ดี”

เมื่ออีกฝ่ายได้ยินดังนั้น เธอจึงพูดอย่างโกรธจัด “อะไรนะ? ทำไมฉันรู้สึกเหมือนกับว่าคุณกำลังดูถูกฉัน ฉันขายบุหรี่ไฟฟ้า แล้วบุหรี่ไฟฟ้าผิดอะไร? ฉันสามารถหารายได้ประมาณห้าพันเหรียญต่อเดือนได้อย่างง่ายดาย ถ้าฉันเจอลูกค้าดี ๆ ฉันก็สามารถทำเงินได้มากกว่าหมื่นดอลลาร์ต่อเดือนด้วยซ้ำ! คุณเพิ่งได้รับเงินเดือนประมาณสามพันเหรียญต่อเดือน แต่คุณยังคงคุยโวเกี่ยวกับการดูแลฉันและจะให้ชีวิตที่ดีแก่ฉัน”

โจอี้อารมณ์เสียมากในขณะที่เขาพูด “เจนิซ ผมไม่ได้ดูถูกคุณเลย ผมแค่รู้สึกว่ามันไม่ใช่การแก้ปัญญาสำหรับคุณโดยไปขายสินค้าหนีภาษีต่อไปในระยะยาว ผมจะทำยังไงถ้าวันหนึ่งคุณถูกจับ?”

เจนิซตอบอย่างโกรธเคืองว่า “หยุดแช่งฉันสักทีเถอะ! ไสหัวไปซะ!”

หลังจากที่เธอพูดจบ เจนิซก็วางสายทันที

โจอี้มองแม็กซ์ด้วยใบหน้าเขินอายขณะที่เขาโพล่งออกมา “ฉันขอโทษ แต่แฟนของฉันดูไม่ค่อยมั่นใจนัก ฉันไม่คิดว่าเธอเชื่อพี่ แต่อาจเป็นเพราะเธอยังไม่เคยเจอพี่ ถ้าเธอเจอพี่ล่ะก็ เธอจะเชื่อพี่อย่างแน่นอน! ทำไมไม่นัดเจอกันพรุ่งนี้แทนล่ะ? ฉันจะพาเธอออกไปเจอพี่ และพี่ก็สามารถพูดคุยกับเธอเป็นการส่วนตัว!”

แม็กซ์โบกมือก่อนจะพูดว่า “ลืมมันไปซะ ลืมมันไปเถอะ ไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้วถ้าเธอไม่เชื่อฉัน อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการพิสูจน์ว่าเธอไม่มีดวงเรื่องเงิน เราไม่ควรบังคับให้สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้น”

อันที่จริง แม็กซ์รู้ดีว่ามันจะไม่ง่ายสำหรับเขาที่จะจัดการกับเจนิซ เพียงแค่ฟังการสนทนาของโจอี้กับเธอทางโทรศัพท์

เธอสามารถนอกใจแฟนของเธอกับผู้ชายอีกคนหนึ่งในขณะที่รับโทรศัพท์จากแฟนของเธอ ยิ่งกว่านั้น เธอยังดุด่า และสาปแช่งแฟนหนุ่มของเธอราวกับเขาเป็นคนงี่เง่าทางโทรศัพท์ คนปกติจะกล้า และไร้ซึ่งความกลัวได้ขนาดนี้เหรอ? นี่เป็นการพิสูจน์ว่าผู้หญิงคนนี้มีความสามารถเป็นอย่างมาก!

คำพูดที่ออกจากปากเธอเพียงคนเดียวสามารถได้คะแนนสักสิบคะแนนได้แล้ว!

ถ้าเขาได้พบกับเธอจริง ๆ และถ้าเธอรู้ว่าโจอี้ให้เงินเขาหกแสนสองหมื่นดอลลาร์ เธอก็จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้เงินคืนจากเขาอย่างแน่นอน

ดังนั้นเขาจึงกระแอมในลำคอก่อนจะมองโจอี้ ในขณะที่เขาถามอย่างไม่มั่นใจว่า “ว่าแต่ โจอี้…นายรู้จักแฟนของนายมานานแค่ไหนแล้ว?”