กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 1101 โกรธเกรี้ยวและทุกข์ใจ
“เวลานั้นเพื่อนของข้าก็ใช้ผ้าในการจุดไฟ เพื่อนของช้าชอบผ้าสีขาว เขาจึงใช้เสื้อผ้าสีขาวในการจุดไฟ
เหวินเส่าอี๋เองก็ชอบสวมเสื้อผ้าสีขาว จึงเหมาะกับเขาพอดี ข้าจึงอยากให้เขามีส่วนร่วมและบริจาคมันมาให้ข้า”
กู้ชูหน่วนแทบจะกระอักเลือดออกมา
“แค่นี้งั้นหรือ?”
“ก็แค่นี้แหละ มันจะมีอะไรอีก?”
“เช่นนั้นเหตุใดต้องใช้ผ้าจำนวนมากถึงเพียงนี้?”
“ข้าพบว่าการใช้ผ้าเป็นเชื้อเพลิงนั้นสามารถทำให้เปลวไฟขนาดใหญ่ลุกโชนขึ้นมา แต่ไม่นานเสื้อผ้าก็ถูกเผาไหม้จนหมด”
หน้าอกของกู้ชูหน่วนยกสูงขึ้น “เจ้าขโมยเสื้อผ้าของเขายังไม่เท่าไหร่ เหตุใดเจ้าจึงต้องขโมยเสื้อและกางเกงด้านในของเขามาด้วย?”
“ใช้เสื้อผ้าทั่วไปของเขาจุดไฟนั้นยังไม่สามารถสร้างอาหารในรสชาติที่ข้าต้องการได้ เสื้อผ้าของเหวินเส่าอี๋ก็หมดแล้วไม่ใช่หรือไง? ข้าจึงต้องใช้เสื้อและกางเกงด้านในของเขา เมื่อเผามัน ข้าก็ได้ขนมไส้ดอกไม้รสชาติที่ต้องการออกมา”
กู้ชูหน่วนคิดว่าเขาจงใจหลอกนางโดยเจตนา
แต่ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขากลับไร้ซึ่งร่องรอยของความชั่วร้าย และไม่ได้ดูล้อเล่นแม้แต่น้อย
มีเพียงใบหน้าอันว่างเปล่า
เหมือนกระต่ายน้อยสีขาวบริสุทธิ์ไร้พิษภัย
“เช่นนั้นภาชนะเหล่านั้น? เหตุใดต้องนำมามากมายถึงเพียงนี้?”
“อ่า…พวกนั้น อาม่อตามอยู่ตั้งนานก็หาจานแบบเดียวกับที่เพื่อนอาม่อใช้ไม่พบ ดังนั้นข้าจึงทุบมันให้แตก เพื่อลองดูว่าสามารถประกอบขึ้นมาให้เหมือนกับจานในตอนนั้นได้หรือไม่”
กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าควรจะโกรธหรือทุกข์ใจหรือไม่ และนางกุมหัวใจของตนเองไว้แน่น
“สมองของเจ้าเลอะเลือนไปแล้วหรืออย่างไร? ก็แค่จานไม่ใช่หรือ แค่ใช้ได้ก็พอแล้ว เหตุใดต้องทำให้เหมือนกับเมื่อก่อนที่เคยทำ?”
เขาเป็นผู้หญิงราศีกันย์หรืออย่างไร?
ถึงได้หมกมุ่นกลับเรื่องพวกนี้?
จอมมารกล่าวอย่างน้อยใจ “ก็เพราะว่าเจ้าชอบขนมไส้ดอกไม้ที่เขาทำ แม้แต่จานเจ้าก็ชอบ อาม่อจึงคิดว่า หากอาม่อทำเหมือนกับที่เขาเคยทำ พี่หญิงจะต้องดีใจมากเป็นแน่”
“เขา? เขาคนไหน? ข้าชอบขนมไส้ดอกไม้ที่ใครเป็นคนทำ?”
“คือ…เรื่องนี้พูดไปก็ยาว วันหลังอาโม่ค่อยเล่าให้เจ้าฟังแล้วกัน”
“เช่นนั้นเหตุใดเจ้าจึงต้องเผาตำหนักเว่ยหยาง?”
จอมมารตวาดอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม “เป็นเพราะเหวินเส่าอี๋ลงมือก่อน เขานำเสื้อผ้าทั้งหมดของอาม่อไปเผา เสื้อผ้าพวกนั้นเป็นเสื้อผ้าใหม่ อาม่อยังไม่เคยให้มาให้พี่หญิงได้ชื่นชมเลยด้วยซ้ำ”
กู้ชูหน่วนโกรธจนแทบกระอักเลือดออกมา
นางทำเวรทำกรรมอะไรไว้ แต่ละคนถึงได้ทำกับนางเช่นนี้
“พี่หญิง เหตุใดใบหน้าของเจ้าจึงดูไม่สู้ดีกัน?”
“ไร้สาระ เจ้าทำให้พระราชวังมีสภาพเป็นเช่นนี้ ข้าจะยังทำหน้านิ่งเฉยได้อย่างนั้นหรือ?”
กู้ชูหน่วนตะโกนออกไปอย่างไม่เกรงใจ
ความโกรธของนางพุ่งสูงขึ้น ตอนแรกก็อยากจะด่าเขาออกไป
แต่เมื่อเห็นร่างกายที่เต็มไปด้วยแป้ง ดวงตาสีแดง มือที่ถูกลวก เมื่อถึงเวลา ไม่ว่าทำเช่นไรนางก็พูดไม่ออก
โดยเฉพาะตอนที่เขาพูดออกมาด้วยความดีใจ “พี่หญิง เจ้ารีบชิมมันเร็ว ข้าทำมาตั้งเนิ่นนาน หากเจ้าชอบ ไว้วันหลังอาม่อจะทำให้ท่านกินบ่อย ๆ”
ฮวาฮวาทนดูไม่ได้อีกต่อไป
ทำขนมไส้ดอกไม้เพียงครั้งเดียวก็เกือบทำให้ห้องครัวไหม้
และยังไม่รวมกับสิ่งอื่น ๆ อีกมากมาย
จะอยู่ที่ตำหนักม่อในฐานะกุ้ยจวินต่อไปได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้ แล้วยังคิดจะทำมันอีก
บางทีแววตาของจอมมารนั้นอาจจะใสซื่อเกินไป ไร้ซึ่งร่องรอยของความชั่วร้าย จ้องมองกู้ชูหน่วนอย่างมีความสุข
กู้ชูหน่วนรู้สึกเหมือนว่ามีหนามติดอยู่ตรงลำคอ นานกว่านางจะกล่าวออกมา “นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าทำขนมไส้ดอกไม้?”
“ใช่ บนโลกใบนี้มีเพียงพี่หญิงคนเดียวเท่านั้นที่คู่ควรกับขนมไส้ดอกไม้ที่อาม่อเป็นคนทำ”
เขาพูดอย่างเย่อหยิ่ง ราวกับว่าทั้งโลกใบนี้มีเพียงกู้ชูหน่วนคนเดียวเท่านั้น
กู้ชูหน่วนไม่ได้รับขนมไส้ดอกไม้ไว้ แต่นางยื่นมือออกไปจับมือที่ถูกลวกของเขา และทายาให้เขาด้วยตัวเอง
“เจ็บหรือไม่?”
“ไม่เจ็บ”
จอมมารรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ มองไปที่กู้ชูหน่วนด้วยความรู้สึกอันอ่อนโยน
คนรับใช้ที่คุกเข่าอยู่ด้านข้างไม่กล้าแม้แต่จะหายใจออกมา
กุ้ยจวินเด็ดดอกไม้ทั่วทั้งพระราชวัง และยังขโมยเสื้อผ้าของเฟิงโห้ว เท่านั้นไม่พอ เขายังเผาตำหนักเว่ยหยาง ฝ่าบาทจะไม่ไถ่ถามความผิดของเขาเลยงั้นหรือ?
ฝ่าบาททรงรักและเอ็นดูม่อกุ้ยจวินถึงเพียงนี้เลยงั้นหรือ
“ไป เข้าไปในห้อง” กู้ชูหน่วนจูงมือจอมมารเข้าไปในห้องนอนท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคน
จอมมารยิ้มออกมาตรงมุมปาก เขากวาดไปทางคนรับใช้อย่างฉูดฉาดราวกับว่าเขาต้องการบอกทุกคนว่าเขาเป็นคนโปรดของกู้ชูหน่วน
“เอี๊ยด…”
ประตูห้องถูกปิดลง กู้ชูหน่วนปล่อยมือในทันที พูดออกมาด้วยความไม่พอใจพร้อมกับใบหน้าอันมืดมน
“คลังสมบัติของรัฐปิงว่างเปล่า มีประชาชนมากมายอดยาก และขาดแคลนเสื้อผ้าทำให้หนาวตาย แต่เจ้า เพื่อที่จะทำขนมไส้ดอกไม้พวกนั้นขึ้นมา เจ้าเผาทำลายผ้าไปมากมาย และทำให้ภาชนะจำนวนมากต้องเสียหาย รวมถึงเผาตำหนักเว่ยหยาง เจ้ารู้หรือไม่ว่าสิ่งที่เจ้าทำลงไปนั้นเสียหายมากเพียงใด?”
จอมมารเล่นกับขนมไส้ดอกไม้เหมือนเด็ก เขาแค่ทำทุกอย่างเพื่อทำให้มันออกมาในสภาพที่งดงามที่สุด
เขาพูดอย่างเคร่งขรึม “ขนมไส้ดอกไม้เป็นสิ่งที่ทำให้พี่หญิงกิน ไม่ได้สูญเปล่า”
กู้ชูหน่วนโกรธเกรี้ยวและทุกข์ใจ
นางรู้สึกเปลืองแรงมากเมื่อพูดกับเขา
หรือเป็นเพราะไม่อยากทำให้เขาอับอายต่อหน้าคนรับใช้
หากเขาไม่ทุ่มทั้งแรงกายและแรงใจเพื่อทำขนมไส้ดอกไม้ให้กับนาง นางคงไม่อดทนมาถึงตอนนี้
กู้ชูหน่วนยื่นมือออกมา “เอาออกมา”
จอมมารขมวดคิ้ว ราวกับว่าไม่เข้าใจที่นางพูด
“ภาชนะที่แตกเสียหาย ผ้าที่ถูกเผาไหม้ รวมถึงตำหนักเว่ยหยาง เจ้าควรจะชดใช้มันไม่ใช่หรือ?”
“อ่า…ที่แท้พี่หญิงก็ต้องการเงิน ไม่ยาก ไม่ยาก”
“ทำไม เจ้ามีเงินติดตัวอย่างนั้นหรือ?”
หากมีเงิน อย่างน้อยก็ต้องทำข้อตกลงกับเขา เนื่องจากทุกวันนี้ไม่ว่าจะไปแห่งหนใดก็ต้องใช้เงิน
“อาม่อไม่มีเงิน แต่อาม่อเป็นคนของพี่หญิง พี่หญิงมีอาม่อก็เท่ากับว่ามีเผ่าปีศาจทั้งเผ่าอยู่ในครอบครอง”
เขายิ้มอย่างชั่วร้ายแต่มีเสน่ห์ ทุกท่าทางของเขาล้วนครอบงำและเต็มไปด้วยความโอหัง ทำให้คนไม่กล้าดูถูกเขา
เส้นสีดำสามเส้นปรากฏออกมาบนหน้าผากของกู้ชูหน่วน
“ดังนั้น ความหมายของเจ้าก็คือ เจ้าจะไม่จ่าย?”
ทันใดนั้นจอมมารก็ลดศีรษะลง กลิ่นดอกไม้ที่เป็นเอกลักษณ์บนร่างกายของเขาอบอวลอยู่ข้างหูของกู้ชูหน่วน
เขายิ้มอย่างมีเลศนัย “จ่าย หรือนอนเป็นเพื่อนเจ้าอย่างไรก็เชิญ?”
กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างเยือกเย็น กอดอกและมองไปที่จอมมาร แววตาของนางเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
“ฮึ…นี่คือวังหลังของรัฐปิง ไม่ใช่เผ่าปีศาจ วังหลังมีกฎเกณฑ์ของวังหลัง หากเจ้าไม่ยอมจ่าย เช่นนั้นข้า…”
“ได้ ได้ ได้ พี่หญิงต้องการสิ่งใด อาม่อจะหามาให้ทั้งนั้น แต่ขนมไส้ดอกไม้ใกล้จะเย็นแล้ว พี่หญิงรีบกินมันเข้าไปเร็ว ข้าอุตส่าห์ตั้งใจทำมาตั้งนาน”
แววตาแห่งความคาดหวังของเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ
ทำให้คำพูดที่กำลังหลุดออกมาจากปากของกู้ชูหน่วนแข็งตัว
จากนั้นก็หยิบขนมไส้ดอกไม้เข้าไปในปากหนึ่งชิ้น
ทันทีที่เข้าไปในปาก นางก็เกือบจะอาเจียนออกมา
หวานมาก หวานเกินไป หวานจะตายอยู่แล้ว
เขาใส่น้ำตาลลงไปมากแค่ไหน
“เป็นอย่างไรบ้าง อร่อยหรือไม่?”
จอมมารดูกระวนกระวาย สายตาคู่หนึ่งที่กำลังจ้องมองมา ทำให้นางต้องระงับความรู้สึก
เหลือบตามองมาที่แผลบนมือของเขา
กู้ชูหน่วนกัดฟันพูด “อร่อย”
“งั้นหรือ? ข้าบอกแล้ว ต่อให้เทียบกับอี้…ต่อให้หน้าตาไม่เหมือนกับที่เพื่อนของข้าเคยทำ แต่รสชาติจะต้องเหมือนกันอย่างแน่นอน หากได้ทำอีกสองสามครั้ง รับรองได้ว่ามันจะต้องออกมาเป็นเหมือนที่เขาทำอย่างแน่นอน”
“พี่หญิง ข้าทำให้เจ้ากินทุกวันเลยดีหรือไม่?”
กู้ชูหน่วนเกือบจะล้มลง
นางยังอยากมีชีวิตอยู่
“อาม่อ เจ้าเผาตำหนักเว่ยหยาง ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องเงิน เจ้าเป็นเพียงแค่กุ้ยจวิน แต่กล้าเผาตำหนักเว่ยหยางต่อหน้าคนมากมายถึงเพียงนั้น ทุกอย่างทำไปโดยไร้เหตุผลและเอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง เหวินเส่าอี๋เองก็ขายหน้า เช่นนี้ เจ้าจะต้องขอโทษเพื่อชดใช้เหวินเส่าอี๋ ข้าเองก็จะได้จบเรื่องนี้”
“ขอโทษเหวินเส่าอี๋? นั่นเป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้ ไม่มีใครบนโลกใบนี้กล้ารับคำขอโทษจากข้า”
“พี่หญิง หากเจ้าคิดว่าฐานะกุ้ยจวินของอาม่อต่ำต้อย เช่นนั้นเจ้าก็เลื่อนตำแหน่งให้อาม่อเป็นเฟิงโห้ว และขับไล่เหวินเส่าอี๋ออกไป”