ตอนที่ 2606 มันมีคนอีกมากมายที่แข็งแกร่งกว่าฉัน

คำถามของซินฟูลเฟรมนั้นได้ทำให้เหล่าผู้ชมเต็มไปด้วยความตกตะลึง

“อะไรกัน ? นี่ซินฟูลเฟรมกระตือรือร้นที่จะต่อสู้กับไซเร้นวอร์นเดอร์มากขนาดนี้เลยงั้นหรอ ?”

“เขาดูไม่ค่อยสนใจอะไรเลยด้วยซ้ำ ในตอนที่คิดว่าตัวเขาเองจะได้สู้กับโซริทารี่ฟรอสต์ แต่ตอนนี้มันดูเหมือนกับว่าเขาตั้งตารอคอยที่จะได้ต่อสู้กับไซเร้นวอร์นเดอร์มากๆ ….. นี่เธอต้องแข็งแกร่งแค่ไหนกันถึงได้รับปฎิกิริยาเช่นนี้จากเขา ?”

“ซินฟูลเฟรมตั้งใจที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับร่างมานาของเขาด้วยการต่อสู้กับไซเร้นวอร์นเดอร์งั้นหรอ ?”

ข้อเสนอแนะของชายคนนี้นั้นทำให้ทุกคนประหลาดใจ แม้ว่าพลังการต่อสู้ของไซเร้นวอร์นเดอร์จะน่าประหลาดใจ แต่มาตราฐานการต่อสู้ของเธอนั้นก็ยังอ่อนแอกว่าโซริทารี่ฟรอสต์อย่างมาก นี่ไม่ต้องพูดถึงซินฟูลเฟรมเลย ข้อได้เปรียบเพียงอย่างเดียวของเธอนั้นคือเธอมีร่างมานาที่ได้รับการปลดล๊อคศักยภาพแล้วหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์

โดยข้อได้เปรียบนี้ของเธอก็เป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้ทุกคนคิดว่ามันทำให้ซินฟูลเฟรมมีปฎิกิริยาแบบนี้

แม้กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่ามีผู้เชี่ยวชาญกี่คนของมหาอำนาจต่างๆที่สามารถปลดล๊อคศักยภาพของร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้ว ถ้ามหาอำนาจต่างๆมีน่ะนะ …. เพราะผู้เชี่ยวชาญขั้นสามส่วนใหญ่ของมหาอำนาจต่างๆนั้นยังไม่ได้เริ่มปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของตัวเองด้วยซ้ำ แน่นอนว่าคนๆหนึ่งก็อาจจะมีความก้าวหน้าขึ้นมาบ้าง หากได้ต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญที่สามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้ว

“นี่ซินฟูลเฟรมกำลังคิดอะไรอยู่กัน ?! เขาถึงกับท้าทายรุ่นเยาว์ด้วยตัวเองเลยงั้นหรอ ?!” ต้วนฮันซานทำได้แค่มองไปยังการกระทำของซินฟูลเฟรมด้วยความโกรธและไม่พอใจเท่านั้น

ชัยชนะของไซเร้นวอร์นเดอร์เหนือโซริทารี่ฟรอสต์นั้น ได้ช่วยเพิ่มพูนชื่อเสียงให้กับตระกูลหลงอย่างมากแล้ว และผลลัพธ์ที่ได้ในทางปฎิบัติก็คือมันจะทำให้ตระกูลหลงยังคงสามารถรักษาสิทในการปกครองหอการค้าอาซูได้ในระยะยาว และด้วยการที่ซินฟูลเฟรมออกปากเชิงท้าทายไซเร้นวอร์นเดอร์ด้วยตัวเองแบบนี้ มันก็จะยิ่งเพิ่มชื่อเสียงของตระกูลหลงขึ้นไปอีก ซึ่งสิ่งจะผลักดันให้เหล่าผู้อาวุโส และผู้อาวุโสสูงสุดของหอการค้าอาซูที่ยังคงเป็นกลางอยู่หันไปเข้าข้างตระกูลหลงแน่นอน

ในขณะเดียวกัน เมื่อได้เห็นฉากนี้ หยานเซี่ยวเฉียนก็จ้องมองมาจากเวทีใกล้ๆด้วยความตกตะลึงเช่นกัน

“สิ่งต่างๆกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง ?”

เมื่อพูดถึงมาตราฐานการต่อสู้ หยานเซี่ยวเฉียนนั้นมีความสามารถมากกว่าไซเร้นวอร์นเดอร์เสมอ และหลังจากได้ฝึกกับไวโอเล็ตซอร์ด เธอก็มั่นใจว่าเธอเติบโตขึ้นมาก และเหนือกว่าไซเร้นวอร์นเดอร์ไปไกลแล้ว

อย่างไรก็ตามปรากฎว่าเธอประเมินความสามารถของตัวเองสูงเกินไปมาก ไม่เพียงแต่ไซเร้นวอร์นเดอร์จะแข็งแกร่งกว่าเธอมากเท่านั้น แต่หนึ่งในตัวตนระดับตำนานของหอการค้าอาซูยังทำการท้าทาย Elementalist ด้วยตัวเองเลย ….

“นี่มันไม่ได้การแล้ว !!! ฉันจะต้องหยุดเขา !!! ไม่งั้นตระกูลหลงจะเป็นสิ่งที่ไม่มีใครหยุดได้แน่นอนในหอการค้าอาซู !!!” ต้วนฮันซานรีบติดต่อไปบอกรองผู้ตัดสินให้เข้าขัดขวางทันที

ซึ่งในขณะที่รองผู้ตัดสินที่ทำงานภายใต้ตระกูลต้วนกำลังจะเข้ามายุ่งเรื่องนี้ เหล่าผู้ชมก็ส่งเสียงโห่ร้องออกมา

“ฉันสนับสนุนคุณเต็มที่ซินฟูลเฟรม !!! ไม่ต้องเสียเวลาและเริ่มได้เลย !!!”

“การจะได้เห็นผู้เชี่ยวชาญที่ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ต่อสู้กับซินฟูลเฟรมนั้นมันจะยอดเยี่ยมมากแน่นอน !!! และมันน่าสนใจยิ่งกว่าการได้ดูโซริทารี่ฟรอสต์ต่อสู้กับซินฟูลเฟรมซะอีก !!”

“นี่คือสิ่งที่เหนือกว่าคำว่า “สุดยอด” ด้วยซ้ำ การต่อสู้ครั้งนี้จะถูกบันทึกลงไปในประวัติศาสตร์ของ God domain ในฐานะการต่อสู้แบบคลาสสิกแน่นอน เพราะเราจะได้เห็นพวกเขาต่อสู้กันด้วยเทคนิคและมาตราฐานการต่อสู้เพียวๆเลย !!!”

หลังจากที่เหล่าผู้ชมตกตะลึงกับข้อเสนอของซินฟูลเฟรมไปชั่วขณะ สมาชิกของมหาอำนาจต่างๆหลายกลุ่มที่มาเข้าชมการแข่งขันครั้งนี้ต่างก็ส่งเสียงสนับสนุนการตัดสินใจของเขาอย่างแรงกล้า และหลายคนนั้นถึงกับตะโกนเรียกร้องให้ซินฟูลเฟรมเริ่มการแข่งขันกับไซเร้นวอร์นเดอร์ทันที

“ดี !! ในเมื่อผู้ชมเห็นชอบแล้วแบบนี้ ผู้อาวุโสของเราหลายๆคนจะว่ายังไงล่ะ ?” ซินฟูลเฟรมถามโดยหันไปมองเหล่าผู้อาวุโส และผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลต่างๆที่เป็นผู้ถือหุ้น ซึ่งหลายคนนั้นพยายามจะหยุดเขา

เมื่อได้ยินคำถามของซินฟูลเฟรม เหล่าผู้ชมต่างก็จ้องมองไปยังพวกผู้อาวุโสและผู้อาวุโสสูงสุดของหอการค้าอาซูอย่างไม่วางตา ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขาต้องเงียบลง แม้จะไม่เต็มใจก็ตาม เพราะถ้าพวกเขากล้าปฎิเสธซินฟูลเฟรม พวกเขาก็จะต้องตอบคำถามกับทุกคนที่เฝ้าดูอยู่

“แม่งเอ้ย !!! ซินฟูลเฟรมบ้าไปแล้ว !!!” ต้วนฮันซานนั้นหน้าซีดเมื่อได้ยินคำถามที่ไม่ไยดีของซินฟูลเฟรม

“ลืมมันไปเถอะ ปล่อยให้พวกเขาต่อสู้กัน …” ชายชราผมขาวในชุดเสื้อคลุมสีดำกล่าวขณะที่เดินเข้ามาหาต้วนฮันซาน “นี่มันอาจไม่ใช่เรื่องเลวร้ายไปซะทั้งหมด เราคงต้องเดิมพันแล้ว ซินฟูลเฟรมอาจจะยกฐานะของเด็กหญิงนั่นได้ แต่อย่างไรก็ตามมันก็จะมีข้อแตกต่างอยู่ดีถ้าเขาฆ่าเธอได้ในทันที เพราะมันจะทำให้ชื่อเสียงที่ตระกูลหลงพึ่งได้รับมาถูกลืมไปแน่นอน”

เมื่อคิดว่าคำพูดของชายชราผมขาวผู้นี้นั้นถูกต้อง เหล่าผู้อาวุโสหลายคนจึงหยุดความพยายามในการจะคัดค้านทันที

“เนื่องจากผู้อาวุโสเฟรมกล่าวเองแบบนี้ และผู้ชมก็ต้องการด้วย ดังนั้นฉันก็จะทำให้ทุกเรื่องมันง่าย” ต้วนฮันซานกล่าวหลังจากสงสติอารมณ์ได้ จากนั้นเขาก็จ้องมองไปยังซินฟูลเฟรมและพูดว่า “อย่างไรก็ตาม ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ต้องพูดคุยกับไซเร้นวอร์น
เดอร์ก่อน เธอพึ่งจะแข่งขันจบมาไม่นาน และฉันกลัวว่าการต่อสู้กับคนระดับผู้อาวุโสเฟรมทันที มันจะทำให้เธอ ….”

ซินฟูลเฟรมพยักหน้าตอบรับ เป้าหมายของเขานั้นง่ายมาก เขาต้องการจะต่อสู้กับไซเร้นวอร์นเดอร์ บางสิ่งนั้นจะสามารถได้รับผ่านทางประสบการณ์โดยตรงเท่านั้น และเขาก็ต้องการจะเผชิญหน้ากับเด็กหญิงคนนี้ในตอนที่เธออยู่ในจุดสูงสุด
อย่างไรก็ตามก่อนที่ซินฟูลเฟรมจะทันได้พูดขึ้น เสียงที่คมชัดก็ดังขึ้นขัดจังหวะของเขา

“ฉันไม่เป็นไร ฉันไม่มีปัญหาที่จะต่อสู้กับผู้อาวุโสเฟรมทันทีเพื่อทดสอบขอบเขตการพัฒนาของฉัน …” ไซเร้นวอร์นเดอร์กล่าว

หลงหวู่ชางที่เฝ้ามองจากที่นั่งของผู้ชมนั้นเต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ เมื่อได้ยินคำพูดของไซเร้นวอร์นเดอร์

“ทำไมเธอทำแบบนั้นกัน ?! ต้วนฮันซานนั้นกำลังยั่วยุให้เธอไปตกหลุมพรางอย่างเห็นได้ชัด !!!” หลงหวู่ชางกล่างอย่างวิตกกังวล “ไม่ได้การแล้ว !!! ฉันจะต้องเตือนเธอ !!!”

เธอควรจะไปฟื้นฟูค่าสตามิน่าและค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของตัวเองให้กลับคืนสู่จุดสูงสุดซะก่อน เพราะท้ายที่สุดแล้วในการต่อสู้กันระหว่างผู้เชี่ยวชาญระดับนี้นั้นทั้งสองอย่างเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ และมันจะถูกผลาญไปในเวลาอันรวดเร็วมากๆ ซึ่งถ้าเธอไม่ทำแบบนั้น มันก็มีสิทสูงมากที่เธอจะพ่ายแพ้ให้กับซินฟูลเฟรมในเวลาอันรวดเร็ว

ซึ่งหากสิ่งนั้นเกิดขึ้น ชื่อเสียงที่ไซเร้นวอร์นเดอร์พึ่งจะสร้างขึ้นมาให้ตระกูลจากชัยชนะครั้งล่าสุดของเธอนั้นก็จะหายไปทันที

อย่างไรก็ตามหลงหวู่ชางนั้นก็ไม่สามารถจะติดต่อไซเร้นวอร์นเดอร์ได้ทัน ก่อนที่ซินฟูลเฟรมจะเอ่ยปากพูดบางอย่างขึ้น

“แม้ว่าช่วงเวลาที่คุณใช้ในการต่อสู้กับโซริทารี่ฟรอสต์จะสั้น แต่คุณก็ใช้ค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจไปมากพอสมควร ฉันจึงจะขอบอกว่า ฉันอยากจะต่อสู้กับคุณตอนที่คุณอยู่ในจุดสูงสุด ฉันไม่ต้องการต่อสู้เพียงเพื่อชัยชนะ และฉันจะไม่ต่อสู้กับคุณในสภาพแบบนี้ คุณควรไปใช้เวลาพักผ่อนให้เพียงพอก่อน …” ซินฟูลเฟรมกล่าวอย่างใจเย็น

“โปรดมั่นใจได้เลยผู้อาวุโสเฟรม จริงๆแล้วในตอนที่ต่อสู้กับโซริทารี่ฟรอสต์นั้น ฉันก็ไม่ได้ใช้ความพยายามมากนักเลย ดังนั้นฉันจึงไม่ต้องการจะพักผ่อน” ไซเร้นวอร์น
เดอร์ตอบอย่างชัดเจน

ในขณะเดียวกันโซริทารี่ฟรอสต์ที่พึ่งจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาที่ด้านล่างของเวทีนั้นก็แทบจะเป็นลมด้วยความโกรธ เมื่อได้ยินคำพูดของไซเร้นวอร์นเดอร์

ช่างหยิ่งผยองอย่างแท้จริง !!!

ไซเร้นวอร์นเดอร์นั้นอวดดีเกินไปแล้ว !!!

แม้แต่ผู้ชมที่เฝ้าชมอยู่ก็ยังไม่ค่อยพอใจกับความคิดของไซเร้นวอร์นเดอร์เท่าไหร่นัก แม้ว่าการต่อสู้ของเธอกับโซริทารี่ฟรอสต์จะใช้เวลาไม่นาน แต่มันก็จัดเป็นการต่อสู้ที่เร้าใจ อย่างไรก็ตามตอนนี้เธอกับมาบอกว่าเธอไม่ได้ใช้ความพยายามมากนักเลยในการเอาชนะโซริทารี่ฟรอสต์

“แม้ว่ามันจะเป็นการดีที่มั่นใจ แต่วอร์นเดอร์ ฉันไม่อยากได้ยินคำแก้ตัวใดๆนะ หากคุณพ่ายแพ้อย่างรวดเร็ว …” ต้วนฮันซานกล่าวเตือนเธอเบาๆ

“คุณกังวลมากเกินไปแล้วผู้อาวุโสฮันซาน แพ้ก็คือแพ้นั่นแหละ ฉันจะไม่พูดแก้ตัวใดๆ นอกจากนี้ฉันเองก็ยังไม่ได้รับการฝึกที่มากพอด้วยซ้ำ มันมีหลายคนในกิลที่แข็งแกร่งกว่าฉัน แม้ว่าเราจะอายุเท่ากันก็ตาม ดังนั้นความพ่ายแพ้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสำหรับฉัน” ไซเร้นวอร์นเดอร์กล่าว

เมื่อได้ยินคำพูดของเธอทั้งสนามประลองก็เงียบลงไปทันที ….

“ไซเร้นวอร์นเดอร์นั้นก็จัดว่าแข็งแกร่งมากแล้ว แต่เธอกับบอกว่าสภาสิบแปดปีกยังมีสมาชิกอายุเท่ากันจำนวนหนึ่งที่แข็งแกร่งกว่าเธออีกงั้นหรอ ?!”

“โม้ !!! เธอต้องโม้แน่นอน !!! แม้แต่ในซุเปอร์กิลต่างๆก็ยังมีผู้เล่นจำนวนไม่มากนักเลยที่จะแข็งแกร่งเท่ากับโซริทารี่ฟรอสต์ ไม่ต้องพูดถึงไซเร้นวอร์นเดอร์ที่แข็งแกร่งกว่าเลย !!!”

“ใช่แล้ว !!! สภาสิบแปดปีกอาจมีชื่อเสียงอย่างมากในทวีปด้านตะวันออก แต่กิลก็ไม่น่าจะเลี้ยงดูผู้เชี่ยวชาญได้ดีเท่ากับซุเปอร์กิล !!!”

เหล่าตระกูลผู้ถือหุ้นหลักของหอการค้าอาซูต่างปฎิเสธที่จะเชื่อคำพูดของไซเร้นวอร์นเดอร์ และหลายคนก็ล้วนมองไปยังเธออย่างดูถูก

“เนื่องจากเป็นกรณีแบบนี้ ฉันจึงมีข้อเสนอแนะ ในเมื่อค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของไซเร้นวอร์นเดอร์ยังไม่ได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ ดังนั้นทำไมเราไม่ส่งหนึ่งในรุ่นเยาว์ที่มีพรสวรรค์ของสภาสิบแปดปีกมาแทนล่ะ ? ฉันแน่ใจว่าผู้อาวุโสเฟรมจะยังคงได้รับประโยชน์ และก็ไม่ใช่ว่าไซเร้นวอร์นเดอร์บอกกับปากของเธอเองหรอว่ากิลของเธอมีรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งกว่าเธออีกจำนวนหนึ่ง ?” ต้วนฮันซานกล่าวแนะนำอย่างเย้ยหยัน ขณะที่มองไปยังไซเร้นวอร์นเดอร์