ตอนที่ 750 สายเกินกว่าจะเสียใจ
“แกคิดว่าคนอย่างแกจะได้เป็นนายน้อยของตระกูลเฮ่อหลานงั้นเรอะ ฉันจะบอกอะไรให้นะ พ่อไม่เคยปฏิบัติกับแกว่าแกเป็นลูกชายท่านมาก่อน แกมันไม่ต่างอะไรกับหมาที่ท่านเลี้ยงไว้เพราะความเห็นใจเท่านั้นแหละ! และตอนนี้ท่านก็ต้องการให้ฉันกำจัดแกทิ้ง ดังนั้นแกไม่สิทธิ์อะไรที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป! นี่คือผลที่แกได้รับจากการหักหลังพวกเรา!”
เฮ่อปินตาเบิกโพลงด้วยความช็อก “ว่าไงนะ ท่านเป็นคนสั่งให้…”
“ถูกแล้ว นี่เป็นคำสั่งตายจากพ่อเพราะการทรยศหักหลังที่แกทำ แต่ไม่ต้องห่วงหรอก เพราะฉันจะปล่อยให้แกมีชีวิตอยู่ต่อไป จะได้รู้ซึ้งว่าการถูกทรมานมันเป็นยังไง…” เฮ่อหลานฉีหัวเราะอย่างมีความสุขและชั่วช้าแต่สีหน้าของเฮ่อปินนั้นซีดเป็นกระดาษ โลกของเขากำลังพังพินาศ เขาไม่คาดคิดว่าพ่อผู้ที่เขาเชื่ออย่างหมดหัวใจ ผู้ที่เขาปรารถนาจะเชื่อว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของแม่ จะทำกับเขาเช่นนี้
เขาบอกทุกสิ่งอย่างสัตย์ซื่อแต่พวกเขากับสงสัยในตัวเขา พวกเขาไม่แม้แต่จะให้โอกาสเข้าได้อธิบาย พวกเขาตัดสินโทษของเขาอย่างง่ายดายโดยไม่ต้องการฟังความจากฝ่ายเขาเลยสักนิด
ถ้างั้นฉันก็ไม่มีค่าอะไรมากไปกว่าหมาตัวหนึ่งสำหรับพ่อสินะ… ถ้างั้นตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่ฉันทำงานหนักเยี่ยงทาสเพื่อเอาชนะใจท่านและท่านคิดแค่ว่าฉันเป็นเพียงหมาตัวหนึ่งที่เห่าเพื่อเรียกร้องความสนใจ
เฮ่อปินเกลียดตัวเองในเวลานั้น เกลียดตัวเองที่เลินเล่อต่อคำแนะนำของซิงเหอ เธอบอกเขาว่านี่อาจเป็นจุดจบของเขา แต่เขากลับดื้อดึงปิดตัวเองจากความจริง เฮ่อหลานชางเป็นพ่อแท้ๆ ของเขา ดังนั้นต้องไม่มีทางทำกับเขาอย่างโหดร้ายแน่ แต่กระนั้นความจริงกลับกำลังตบหน้าเขาอย่างจัง
เฮ่อปินทำงานมานานนับปีภายใต้คำสั่งของเฮ่อหลานชาง เขาควรรู้ดีถึงความไร้หัวใจที่พ่อของเขามี แล้วทำไมเขาถึงมองไม่เห็นความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้ากันนะ
แม้แต่คนนอกอย่างซิงเหอยังมองออกตั้งแต่ตอนที่เจอหน้าพ่อของเขา เฮ่อปินนั้นตามืดบอดด้วยความซื่อสัตย์และความศรัทธาดังนั้นเขาจึงไม่อาจโทษใครอื่นนอกจากตัวเองได้ที่ทำให้เขาต้องพบจุดจบเช่นนี้ แต่มันก็สายเกินกว่าจะเสียใจ…
เพราะเฮ่อหลานฉีไม่มีวันปล่อยอีกฝ่ายไปง่ายๆ เขาจะทรมานอีกฝ่ายจนกว่าจะตาย เฮ่อปินยอมจำนนต่อชะตากรรมของตัวเองว่าเขาจะไม่มีวันได้เห็นแสงตะวันอีกต่อไป
…
ซิงเหอเฝ้าติดตามสถานการณ์ของเฮ่อปินอยู่ตลอด นับตั้งแต่ที่เขาออกจากสนามบินไป เธอสะกดรอยตามเขาโดยภาพจากกล้องบันทึกภาพตามท้องถนน แม้ว่าเขาจะถูกพาตัวไปถึงคฤหาสน์ตระกูลเฮ่อหลานแล้วการสะกดรอยตามของเธอก็ยังคงไม่หยุด
ตระกูลเฮ่อหลานนั้นไม่ได้ติดกล้องวงจรปิดไว้มากนักแต่ก็ครอบคลุม พวกมันมีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้คนนอกแอบลักลอบเข้ามาภายในอาณาเขตของพวกเขา ถึงแม้ซิงเหอจะไม่ได้เข้าไปภายในคฤหาสน์ด้วยตัวเอง แต่เธอก็สามารถมองเห็นทุกซอกทุกมุมของคฤหาสน์ได้อย่างชัดเจนผ่านกล้องพวกนั้น
ดังนั้นเมื่อครู่ที่แล้ว เธอจึงเห็นเฮ่อปินเดินออกมาจากคฤหาสน์หลักและเดินตรงไปยังบ้านหลังเล็กกว่าที่ตั้งอยู่ด้านข้างของพื้นที่ จากนั้นเธอเห็นเฮ่อหลานฉีพาคนกลุ่มหนึ่งตรงไปยังห้องของเฮ่อปิน…
ท้ายที่สุดเธอเห็นร่างกายอันโชกเลือดของเฮ่อปินถูกลากออกมาจากห้องของเขาและถูกเหวี่ยงไปยังชั้นใต้ดินของอาคารอีกหลังหนึ่งซึ่งถูกซ่อนไม่ให้เห็น
“เฮ่อหลานชางลงมือจัดการเขาจริงๆ” มู่ไป๋ที่ยืนอยู่ข้างซิงเหอกล่าวออกความเห็น
ซิงเหอพยักหน้า “เป็นไปตามที่คาด การที่ฉันปล่อยเขากลับไปโดยไร้รอยขีดข่วนย่อมต้องสร้างความหวาดระแวงให้เฮ่อหลานชางอยู่แล้ว แต่ฉันคิดว่าเขาจะค่อยๆ สงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่คิดว่าเขาจะลงมือเร็วขนาดนี้”
“พวกเฮ่อหลานเป็นครอบครัวขี้ระแวงครอบครัวหนึ่ง แม้แต่ชุยเชี่ยนเองยังหาทางจับผิดพวกเขาไม่ได้ นี่แสดงให้เห็นถึงความระแวดระวังและความไม่ชอบมาพากลของพวกเขา เพราะความหวาดระแวงแบบนี้เท่านั้นพวกเขาถึงได้สามารถรักษาภาพลักษณ์อันบริสุทธิ์ผ่องใสต่อหน้าสาธารณชนเอาไว้ได้” มู่ไป๋วิเคราะห์ได้อย่างปรุโปร่ง
ซิงเหอพยักหน้าอย่างเห็นด้วยเพราะส่วนตัวเธอเองก็มีบุคลิกแบบนั้นอยู่ในตัวเช่นกัน เธอระแวดระวังอยู่เสมอ ดังนั้นเธอจึงเข้าใจเฮ่อหลานชางในบางจุด แต่กระนั้นก็มีความแตกต่างกันอยู่ เพราะซิงเหอไม่เคยทำตัวเ**้ยมโหดโดยไร้เหตุผลซึ่งต่างจากเฮ่อหลานชาง
ตอนที่ 751 ช่วยผู้ชายคนนั้น
เขาต้องเลือดเย็นเป็นพิเศษถึงจะสามารถทำร้ายเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองได้ลงคอ ซิงเหอเห็นด้านนั้นในตัวของเฮ่อหลานชาง เธอจึงคาดการณ์ว่าเฮ่อปินอาจต้องพบกับจุดจบที่เลวร้าย
น่าเสียดายที่เฮ่อปินไม่ยอมฟังคำเตือนของเธอ อย่างไรก็ตามซิงเหอ เธอสงสัยจริงๆ ว่าเฮ่อปินรายงานอะไรกับเฮ่อหลานชาง ถึงได้กระตุ้นความหวาดระแวงของเขาได้รวดเร็วขนาดนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นปุบปับจนซิงเหอไม่กล้ายืนยันว่าเขาจะยังมีชีวิตอยู่ต่อไปหรือไม่
ซิงเหอไม่สามารถปล่อยให้เขาตายได้ เพราะเธอจะสูญเสียหมากตัวสำคัญที่จะช่วยให้เธอโค่นล้มตระกูลเฮ่อหลาน ดังนั้นซิงเหอจึงรีบปฏิบัติภารกิจกู้ภัยอย่างรวดเร็วเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะยังมีชีวิตอยู่
“พวกเราจะเริ่มปฏิบัติภารกิจกันภายในคืนนี้!” อยู่ดีๆ ซิงเหอก็ประกาศออกมา
อย่างไรก็ตามมู่ไป๋เข้าใจเธอทันที “คุณวางแผนที่จะช่วยเขา”
“ใช่ มันยังไม่ถึงเวลาตายของเขา การตายของเขาจะทำให้พวกเราสูญเสียโอกาสมากมาย ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพวกเราก็ต้องช่วยเขาให้ได้”
“แล้วถ้าเขายังไม่เต็มใจร่วมมือกับเราหลังจากที่เราช่วยเขาแล้วล่ะ”
ซิงเหอยิ้มอย่างเยือกเย็น “ถ้าเขาตัดสินใจที่จะกตัญญูอย่างโง่เขลาแบบนั้น ฉันก็คงได้แต่ยอมรับความผิดพลาดของตัวเองที่มองคนผิดไป แน่นอนว่าถ้าเป็นกรณีนั้น ก็ไม่มีเหตุผลให้เราต้องเก็บเขาไว้อีกต่อไป!”
มู่ไป๋ชอบด้านนี้ของซิงเหอ ด้านที่ไร้ความปรานี ไม่ตาบอดเพราะความใจบุญและความเมตตา
“โอเค พวกเราจะเริ่มดำเนินการกันคืนนี้” เขาสนับสนุน จริงๆ แล้วแผนการช่วยชีวิตของซิงเหอนั้นง่ายมากและไม่เสี่ยงมากนักเพราะเธอสามารถแก้ไขกล้องวงจรปิดในบ้านของตระกูลเฮ่อหลานตามที่เธอต้องการ นอกจากนี้นี่ก็ไม่ใช่ภารกิจช่วยชีวิตครั้งแรกสำหรับกลุ่มของแซม คฤหาสน์ของตระกูลเฮ่อหลานเป็นแค่เรื่องง่ายๆ เมื่อเปรียบเทียบกับคุกที่มีการคุ้มกันอย่างแน่หนาตอนที่พวกเขาไปช่วยชาร์ลีออกมา
ด้วยการร่วมมือกันอย่างไร้ที่ติจากทั้งสองฝ่าย พวกเขาก็ช่วยเฮ่อปินออกมาได้สำเร็จ เหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งที่มันประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายดายแบบนี้ก็เพราะตระกูลเฮ่อหลานไม่คิดว่าจะมีใครมาช่วยเฮ่อปิน ดังนั้นการรักษาความปลอดภัยในคุกที่ขังเขาไว้เลยไม่เข้มงวด ทุกคนยังคงหลับอยู่เลยตอนที่พวกเขาช่วยเฮ่อปินออกมาจากคฤหาสน์
ซิงเหอคาดว่าเขาน่าจะได้รับบาดเจ็บมาเหมือนกันแต่เธอไม่คิดเลยว่ามันจะรุนแรงขนาดนี้ นอกจากบาดแผลจากกระสุนปืนบนร่างกายของเขาแล้ว ขาของเขาก็หักทั้งสองข้าง และยังมีรอยแส้มากมายอยู่บนร่างกายของเขา
เฮ่อหลานฉีไม่ออมมือเลยจริงๆ ความจริงที่ว่าเฮ่อปินรอดพ้นจากการซักถามแบบนั้นมาได้ก็ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์มากแล้ว อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่ามันจะไม่ทำให้เขาถึงตาย
กลุ่มแพทย์ที่มู่ไป๋พามาด้วยเผื่อว่ามีอะไรเกิดขึ้นมีประโยชน์มาด พวกเขาพันแผลให้เฮ่อปินในขั้นเบื้องต้นเพื่อไม่ให้อาการของเขาเลวร้ายลงชั่วคราว แต่เขาจะรอดหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดของชายหนุ่ม
ซิงเหอเชื่อว่าเฮ่อปินจะรอดตายเพราะว่ามันคงน่าเสียดายมากจริงๆ ถ้าเขาจะตายไปแบบนั้น
หลังผ่านพ้นคืนปฏิการฉุกเฉิน ในที่สุดเฮ่อปินก็ได้สติในเช้าวันถัดมา เมื่อเขาลืมตาขึ้นและเห็นเพดานสีขาว เฮ่อปินก็คิดว่าเขากำลังหลับอยู่ เกิดอะไรขึ้น ฉันตายแล้วหรอ
ทันใดนั้นน้ำเสียงชัดเจนและไพเราะของผู้หญิงก็ดังขึ้นข้างๆ เขา
“คุณตื่นแล้วหรอ”
เฮ่อปินหันศีรษะของเขาด้วยความพยายามอย่างมากจึงได้เห็นซิงเหอ มู่ไป๋ และคนอื่นๆ ที่ยืนอยู่ข้างเตียงของเขา ตาของเขามีน้ำตาคลอเล็กน้อย เขาพูดด้วยเสียงต่ำ “พวกคุณ… ช่วยผมไว้”
“ใช่แล้ว คุณยังมีชีวิตอยู่ เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์จริงๆ” ซิงเหอพูดอย่างไม่ใส่ใจ
แซมจงใจพูดเสริมเพื่อหลอกให้เขากลัว “แต่นายก็เกือบจะตายไปแล้วจริงๆ นะ นี่ก็ทำให้พวกเราประหลาดใจเหมือนกัน พวกเราไม่คิดว่านายจะบาดเจ็บสาหัสแบบนี้เฮ่อหลานชางเป็นพ่อของนายไม่ใช่หรอ ทำไมเขาถึงได้โหดร้ายกับนายนัก”
การพูดถึงเฮ่อหลานชางทำให้เฮ่อปินเกร็งร่างกายของของเขา และความเกลียดชังอย่างรุนแรงก็ปะทุขึ้นมาในดวงตาของเขา ในระหว่างการทรมานเมื่อวานนี้ เขาได้รับการยืนยันจากเฮ่อหลานฉีแล้วว่าพวกเขาเป็นคนฆ่าแม่ของเขา
พวกเขาตระหนักว่าการมีอยู่ของเธอในฐานะคนนอกจะทำลายชื่อเสียงของตระกูล ดังนั้นเธอจึงต้องถูกกำจัด!