บทที่ 611 เรียกคนมาเถอะ

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 611 เรียกคนมาเถอะ
“แกกำลังข่มขู่ฉัน?”

ท่านจินโบกมือ ลูกน้องของเขาก็เริ่มโจมตีทันที

“ไม่เข้าใจคำพูดของคุณเย่เหรอ?”

เย่ว์อิ่นหลงลงเคลื่อนไหว และขณะที่ลูกน้องของท่านจินกำลังจะลงมือเคลื่อนไหว พวกเขาทั้งหมดก็ล้มอยู่บนพื้นแล้ว ศีรษะของพวกเขาเอียงไปข้างหนึ่ง และคอของพวกเขาถูกบิดจนหักแล้ว!

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นแค่ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น

เร็วมากจนนอกจากเย่เซิ่งเทียนแล้ว ไม่มีใครมีปฏิกิริยาตอบสนองว่าเกิดอะไรขึ้น ราวกับว่าแค่พริบตาเดียว คนเหล่านี้ก็เสียชีวิตแล้ว

ท่านจินจ้องมองลูกน้องของตนเองด้วยความอึ้ง ลูกน้องพวกนี้เขาเป็นคนคัดมาอย่างดี ซึ่งสามารถต่อสู้หนึ่งต่อสิบโดยไม่มีปัญหาอะไร และทั้งหมดได้รับการฝึกฝนตามมาตรฐานของกองกำลังพิเศษ

แต่ตอนนี้…….

แค่พริบตาเดียว ก็เสียชีวิตทั้งหมดแล้ว?

ร่องรอยของความกลัวค่อย ๆ เกิดขึ้นในใจของท่านจิน แล้วค่อย ๆ แผ่ขยายอยู่บนใบหน้าของเขา

“พวกแก…พวกแกเป็นใครกันแน่!”

ท่านจินไม่ใช่คนโง่เขลา ชั่วพริบตา ลูกน้องของเขาก็ถูกอีกฝ่ายฆ่าตายหมด

นี่คือพลังความแข็งแกรงระดับไหน?

เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงผู้แข็งแกร่งในโลกบู๊เหล่านั้น ซึ่งไม่ใช่คนที่ลูกน้องของเขาสามารถเทียบได้

เขานึกถึงปรมาจารย์ซุนหลง หมัดแปดเก็กแห่งสำนักแปดเก็ก เขาเคยเห็นซุนหลงลงมือเคลื่อนไวหครั้งหนึ่ง ด้วยความเร็วจนเขาไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่ามอง

ผู้แข็งแกร่งแห่งโลกบู๊!

คุณชายซ่งไปยั่วยุคนโลกบู๊เหล่านี้ได้อย่างไร?

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาสนใจเรื่องนี้แล้ว อีกฝ่ายหนึ่งเป็นคนจากโลกบู๊ ลูกน้องเหล่านี้ของเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย

ท่านจินอดทนต่อความกลัว ตอนนี้มีเพียงคนในโลกบู๊เท่านั้นที่จะสามารถจัดการสองคนนี้ได้

ถ้าซ่งหยวนลี่ไม่ใช่คุณชายใหญ่ของตระกูลซ่ง เขาจะไม่เข้ามายุ่งเรื่องคืนนี้อย่างแน่นอน

แต่ซ่งหยวนลี่เป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลซ่ง เพราะพลังอำนาจของตระกูลซ่งนั้นไม่ธรรมดา แล้วพวกเขายังมีผู้แข็งแกร่งไม่น้อย ถึงแม้ว่าสองคนนี้จะแข็งแกร่ง แต่เมื่อเทียบกับกับตระกูลซ่งแล้ว ก็ไม่สามารถถือเป็นอะไรได้

เพราะสุดท้ายแล้วในยุคนี้ ไม่ใช่แค่การต่อสู้ฆ่าฟันแล้วจะได้ครอบครองทุกอย่าง

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ท่านจินกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “แกเป็นคนของโลกบู๊ใช่ไหม? แต่ฉันไม่สนใจว่าพวกแกเป็นใคร? ถ้าพวกแกกล้าลงมือทำร้ายคุณชายซ่ง ก็คือรนหาความตาย ถ้าพวกแกใจกล้าพอ ก็รออีกสักครู่”

เย่ว์อิ่นหลงไม่แยแส และยืนอยู่ข้างหลังเย่เซิ่งเทียน

เซิ่งเทียนกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “โทรเรียกคนเถอะ”

ท่านจินแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขานึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะสนับสนุนขนาดนี้ ถ้าอีกฝ่ายไม่ยินยอม เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ตอนนี้อีกฝ่ายยินยอม เขาเป็นคนที่ขาดประสบการณ์เลยไม่รู้สึกกลัวอะไรเลย!

ในเมื่อพวกแกรนหาความตายเอง งั้นก็อย่าโทษผม

ท่านจินให้ลูกเศรษฐีสองสามคนช่วยพยุงซ่งหยวนลี่ไปนั่งบนโซฟา จากนั้นเขาก็โทรศัพท์และกล่าวด้วยความเคารพ “ท่านเฉิน ผมได้พบเจอคนสองคนมันรับมือได้ยากหน่อย ต้องรบกวนขอให้คุณมาจัดการด้วยตนเอง ตอนนี้คนของผมตายหมดแล้ว โอเค! ดีมาก! รบกวนคุณแล้ว เมื่อคุณมาถึงแล้วผมจะบอกเรื่องนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง”

เมื่อเห็นท่าทางของท่านจินแล้ว ลูกเศรษฐีกลุ่มนี้รู้สึกมีความมั่นใจทันที คนที่สามารถทำให้ท่านจินเรียกว่า”ท่านเฉิน”มีเพียงคนเดียวเท่านั้น

เขาคือพญาบู๊เฉิน เฉินซือเลี่ยงเจ้าสำนักของสำนักแปดเก็กแห่งเมืองโมตู เขาเป็นคนเพียงคนเดียวของประเทศต้าเซี่ย ที่อาศัยวิชาหมัดเพียงวิชาเดียวจนกลายเป็นระดับพญาบู๊ได้!

“ไอ้จิน พญาบู๊เฉินจะมาที่นี่เหรอ?”

ซ่งหยวนลี่เจ็บปวดจนกล้ามเนื้อเกือบจะหดตัว กัดฟันถามด้วยความโกรธแค้น

ท่านจินไม่พลาดโอกาสนี้ที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลซ่งอย่างแน่นอน ขอเพียงแค่เขาควบคุมได้ดี เขาจะกลายเป็นคนสำคัญของตระกูลซ่ง ดังนั้นเขาจึงกล่าวด้วยความเจ้าเล่ห์ว่า “ถูกต้อง พญาบู๊เฉินเป็นหนี้บุญคุณผม และมีแต่ผมเท่านั้นที่สามารถเชิญพญาบู๊เฉินมาได้”

จิ้งจอกเฒ่าอย่างท่านจิน ไม่ได้พูดว่าหลังจากเสร็จงานนี้แล้ว ให้ตระกูลซ่งขอบคุณพญาบู๊เฉิน ขอเพียงแค่เขาพูดออกมา บุญคุณที่เขามีต่อตระกูลซ่งก็จะลดน้อยลง

ตอนนี้เขาต้องการให้ตระกูลซ่งเข้าใจว่าเขาไม่มีเจตนาที่จะทำให้ตระกูลซ่งรู้สึกซาบซึ้ง เขาแค่ต้องการช่วยซ่งหยวนลี่ด้วยความบริสุทธิ์ใจเท่านั้น

มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น ถึงจะทำให้ตระกูลซ่งให้ความสำคัญกับเขา

“โอเค คราวนี้ผมเป็นหนี้บุญคุณไอ้จิน”

ซ่งหยวนลี่มองเย่เซิ่งเทียนและเย่ว์อิ่นหลงอย่างดุดัน “แม่งฉิบหาย กล้าลงมือทำร้ายฉัน ฉันจะทำให้แกเสียใจที่มาโลกใบนี้!”