ตั้งแต่ที่ตอบรับคำเชิญ เย่เทียนก็รู้ว่ามันมีความเป็นไปได้สองอย่าง
ถ้าไม่ใช่เพราะตู้เฮิงฉุนไปตามคนของย่งเล่อมาเอาคืน ก็ต้องเป็นเพราะเขาสำนึกผิด แล้วให้ตนรักษาตู้เคอหลินให้
ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ตู้เฮิงฉุนก็ไม่มีทางออกหน้าด้วยตนเอง
เพราะมันเป็นแบบนั้น ถ้าจะบอกว่าสาวนักเต้นพวกนี้เป็นคนที่ตู้เฮิงฉุนส่งมา ถึงตีให้ตายเย่เทียนก็ไม่มีทางไม่เชื่อ!
ส่วนผางอานคานนั้น ก่อนที่จะรู้สถานการณ์ของตระกูลเซว การที่จะมาลงมือกับตนก็มีความเป็นไปได้น้อย
อีกอย่าง เขารู้จักความแข็งแกร่งของตนดี ถ้าคิดจะลงมือ ก็ไม่มีทางส่งมือสมัครเล่นแบบนี้มาหรอก
พอวิเคราะห์แบบนี้ เย่ย่งเล่อจึงเป็นคนที่น่าสงสัยที่สุด!
เย่เทียนปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่ามันเป็นแผนการที่ดีมาก ถ้าสามารถจัดการตนได้สำเร็จก็ดีไป แต่ถ้าไม่ ความเดือดร้อนก็จะมุ่งไปที่ตระกูลตู้
พอถึงตอนนั้น ตนก็จะไปหาเรื่องตระกูลตู้ เขาก็จะเป็นฝ่ายที่ได้ประโยชน์
แต่น่าเสียดาย เย่ย่งเล่อไม่รู้เลยว่า ตอนนั้นได้สกัดจุดแขนขาของตู้เคอหลินเอาไว้ ถ้าเรื่องนี้ยังไม่คลี่คลาย ตู้เฮิงฉุนก็ไม่มีทางสังหารตนโดยที่ไม่แม้แต่จะออกหน้าหรอก!
“กับฉันยังกล้าใช้ลูกเล่น เห็นฉันเป็นไอ้โง่รึไง?”
เย่เทียนแอบส่ายหน้า เห็นว่าใกล้ตีสามกว่าแล้ว จึงไม่ได้สนใจพวกหญิงสาวอีก และได้ออกจากสโมสรหงเฟิงอย่างรวดเร็ว
แต่ทว่า ทันทีที่เขาลงมาถึงตีนเขา ด้านหน้าก็มีไปหน้ารถหลายดวงสว่างขึ้น แล้ววิ่งเข้ามาจากไกลๆ ด้วยความเร็วสูง
“เชี่ย! นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว? ไม่คิดให้ฉันได้พักบ้างเลยรึไง?”
พอเห็นรถหลายคันจอดลงตรงหน้าที่อยู่ไม่ไกล เย่เทียนก็ได้ส่ายหน้าอย่างจนใจ วันนี้ต้องเป็นวันที่เขายุ่งที่สุดวันหนึ่งแน้นอน ต้องคิดแต่เรื่องต่อสู้!
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่รถพวกนั้นจอดสนิท คนสิบกว่าคนที่ลงมาก็ค่อยๆ เดิมมาทางเย่เทียน
ในเวลาเดียวกัน ที่วิลล่าของเย่ย่งเล่อ
ชายใส่สูทพูดอย่างนอบน้อมว่า “คุณชาย โอกาสที่สโมสรล้มเหลวแล้วครับ”
“ล้มเหลว?!”
เย่ย่งเล่อแตกตื่นขึ้นมาทันที “ทำไมถึงล้มเหลว? การลอบฆ่าล้มเหลว? หรือว่าการใส่ร้ายล้มเหลว?”
“การลอบฆ่าไม่สำเร็จ แถมดูเหมือนว่าการใส่ร้ายจะล้มเหลวด้วยเหมือนกันครับ” ชายใส่สูทส่ายหน้าพร้อมยิ้มอย่างขมขื่น
“เชี่ย!”
เย่ย่งเล่อถึงกับลุกพรวดขึ้นมา แล้วพูดด้วยสีหน้าที่บึ้งตึงว่า “แล้วมันรู้รึเปล่าว่าเป็นฝีมือของเรา?”
ชายใส่สูทส่ายหน้าเบาๆ แล้วพูดพร้อมรอยยิ้มที่เยือกเย็นว่า “แต่ว่า คุณชายไม่ต้องเป็นห่วง ผมได้จัดคนที่เป็นพรรคพวกไว้ระหว่างทาง ครั้งนี้ต่อให้เขามีปีกก็ยากที่จะหนีพ้นครับ!”
“ว่าไงนะ?!”
แต่ทว่า สีหน้าของเย่ย่งเล่อกลับเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ฉันบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าฝีมือของเย่เทียนมันไม่ธรรมดา ไม่ใช่ลูกหมาลูกแมวที่ไหนจะรับมือได้?”
“แต่นายยังให้คนไปดักไว้กลางทางอีก ถ้าจัดการมันไม่ได้ มันไม่เท่ากับเป็นการเปิดเผยพวกเราหรอกเหรอ?”
“คุณชาย จะพูดอย่างนั้นก็ไม่ได้”
ชายใส่สูทโบกไม้โบกมือ แล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “คนที่ผมหามาในครั้งนี้ ต่างก็เป็นนักสู้ใต้ดินที่เลือกมาเป็นอย่างดีทุกคนต่างก็เป็นคนที่เหี้ยมโหด ส่วนคนที่นำทีมก็คือหยางซิงไห่ที่พอมีชื่อเสียงอยู่ครับ!”
“หยางซิงไห่?!”
เย่ย่งเล่อถึงกับอึ้ง และถามไปอย่างไม่ค่อยมั่นใจว่า “นายหมายถึงหยางซิงไห่ที่ได้แชมป์ในการต่อของเขตทหารเมื่อปีที่แล้วนะเหรอ?”
“คุณชาย คุณเข้าใจถูกแล้ว เป็นเขานั่นแหละครับ!”
ชายใส่สูทพยักหน้าอย่างแรง แล้วพูดตัดพ้อไปว่า “การที่เขาสามารถคว้าแชมป์การต่อสู้มาได้ก็ถือเป็นการยืนยันว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป แต่น่าเสียดายที่นิสัยเสียไปหน่อย มีเรื่องกับคนไปทั่ว ปีนี้จึงถูกขับออกจากกองทัพอย่างช่วยไม่ได้”
“เขาจะไหวมั้ย?”
เย่ย่งเล่อมีความกังวลเล็กน้อย ขมวดคิ้วแล้วพูดไปว่า “ฉันกลัวว่าถึงตอนนั้นเาไม่เพียงฆ่าเย่เทียนไม่ได้ แต่ดันหักหลังพวกเรานี่สิ”
“ถ้าให้คุณย่ารู้ว่าฉันทำแบบนี้กับเย่เทียน คุณย่าก็ไม่มีทางปล่อยฉันไปง่ายๆ แน่…..”
“คุณชายเย่ งานที่ผมทำคุณสามารถวางใจได้เลยครับ!”
ไม่ทันที่เย่ย่งเล่อจะพูดจบ ชายใส่สูทก็ได้พูดขัด หัวเราะคริคริแล้วพูดไปว่า “ผมคำนึงถึงเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้ว จึงใช้เงินก้อนใหญ่สั่งให้คนงานของตระกูลตู้ไปติดต่อกับพวกหยางซิงไห่แล้วครับ!”
“ที่สำคัญ ตอนนี้เมียกับลูกของคนงานตระกูลตู้คนนั้นก็อยู่ในการดูแลของเราแล้ว ต่อให้เย่เทียนตามถึงตัวมัน เชื่อว่ามันก็ไม่มีทางเปิดเผยพวกเราแน่นอนครับ
“ความผิดในครั้งนี้ ต้องเป็นของตู้เฮิงฉุนอย่างแน่นอนครับ!”
“ไม่นึกเลยว่านายจะรอบคอบแบบนี้! ทำได้ดี!”
สายตาของเย่ย่งเล่อเป็นประกาย พูดพร้อมกับรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่า “ต่อให้หยางซิงไห่จะจะได้เย่เทียนไม่สำเร็จ ขอแค่ใส่ร้ายตู้เฮิงฉุนได้ ความทุ่มเทของเราก็จะไม่สูญเปล่า!”
……
“เล่นใหญ่ขนาดนี้ จงเกลียดจงชังฉันขนาดไหนเนี่ย?”
พอเห็นคนนับสิบตรงหน้าที่เดินมาจากรถ เย่เทียนก็ถึงกับเบ้ปาก แล้วแอบบ่นเบาๆ
คนสิบกว่าคนนั้นต่างจ้องมองเย่เทียนด้วยสีหน้าที่เย็นชา สายตาพวกนั้นไม่ต่างอะไรกับมองไปที่คนตายเลย!
มีเพียงคนตรงกลางที่แตกต่างออกไป เขาอายุประมาณสามสิบ ร่างกายกำยำ พร้อมกับกล้ามเนื้อทั่วตัวที่แทบระเบิด มีสายตาที่เฉียบคม ดูท่าว่าถ้าไปยืนอยู่ตรงไหน ก็คงไม่มีใครกล้าสบตากับเขาตรงๆ หรอก
มองแค่แวบเดียว เย่เทียนก็รู้แล้วว่าคนคนนี้ต้องมีฝีมือแน่นอน อย่างน้อยก็ไม่น่าต่างกับเงาทมิฬเท่าไหร่!
“นายใช่มั้ยที่ชื่อเย่เทียน?”
ระหว่างที่เย่เทียนกำลังสำรวจอีกฝ่าย อีกฝ่ายก็กำลังจ้องมองมาที่เย่เทียนเหมือนกัน
“ถูกต้อง!”
เย่เทียนยักไหล่ “เย่ย่งเล่อเป็นคนส่งพวกคุณมาใช่มั้ย?”
“หืม?!”
ชายหนุ่มทำหน้าแปลกใจทันที แต่ก็กลับเป็นปกติอย่างรวดเร็ว แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “อย่างเขานะเหรอจะสั่งพวกเราได้!”
วินาทีต่อมา เหมือนกลัวเย่เทียนจะเซ้าซี้เรื่องนี้ต่อ ชายหนุ่มจึงพูดไปว่า “ฉันแนะนำให้นายอย่าขัดขืนให้มันเสียเปล่าเลย ยอมไปกับพวกเราแต่โดยดีเถอะ!”
“เศษสวะอย่างพวกคุณ แค่มือเดียวผมก็จัดการได้แล้ว”
เย่เทียนยื่นมือออกไป แล้วโบกไปมาอย่างเหยียดหยาม
ช่วงนี้มันอะไรกัน? ทำไมถึงเจอแต่พวกประหลาด? พวกแกเอาแต่จะตัดหัวฉัน แล้วยังอยากให้ฉันยื่นหัวไปเองอีก?
“ไม่นึกเลยว่าจิ๊กโก๋อย่างแกจะบ้าขนาดนี้!”
“อย่างแกเนี่ยนะจะจัดการเรา? ตักน้ำชะโงกดูเงาตัวเองหน่อยไป!”
“นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว รีบๆ จัดการแล้วกลับไปยังมีเวลาหาสาวๆ มาเล่นสนุกอีกสักยกเลย!”
ชายหนุ่มเกิดขมวดคิ้วขึ้นมา เขายังไม่ทันได้พูด ชายสิบกว่าคนที่อยู่ข้างหลังเขาก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน
ชายสิบกว่าคนพูดจาไร้มารยาทมาก นั่นจึงทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วหนักยิ่งกว่าเดิม เห็นได้ชัดว่าเขาไม่พอใจกับการกระทำของพวกนั้น
พอสังเกตเห็นสีหน้าของชายหนุ่ม แล้วเห็นท่ายืนที่ตรงเป็นสง่า เย่เทียนก็เลิกคิ้วขึ้น แล้วถามไปว่า “คุณออกมาจากหน่วยไหนเหรอ?”
“หน่วยเขี้ยวเสือ! หยางซิงไห่!”
ชายหมุ่นก็ไม่ได้คิดที่จะปิดบัง แล้วเงยหน้าขึ้นมาอย่างภาคภูมิใจ
ถึงหน่วยเขี้ยวเสือจะไม่ใช่เหล่าเดอะคิงทั้งสาม แต่ก็เป็นหนึ่งในแปดสุดยอดหน่วยรบพิเศษ เมื่อเทียบกับเฉิงหลงที่อยู่หว่วยชางหลงก็เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด!
“หยางซิงไห่เหรอ?”
เย่เทียนถามด้วยความสนใจ “คุณใช่มั้ยที่ได้แชมป์การต่อสู้ในเขตทหารเมื่อปีที่แล้ว?”
ถึงเขาจะไม่ใช่คนในกองทัพ แต่เพราะอยู่กับพวกจี้เจิ้งโก๋มานาน จึงพอรู้เรื่องในกองทัพอยู่บ้าง
“จะมัวพูดมากอะไรนักหนา! เมียฉันยังรออยู่ที่บ้านนะ!”
“ใช่ใช่ ดึกขนาดนี้แล้ว รีบจัดการไอ้หมอนี่ได้แล้ว!”
ยังไม่ทันที่หยางซิงไห่จะได้ตอบ พวกที่อยู่ด้านหลังเขาก็พูดเร่งขึ้นมาด้วยความรำคาญ
วินาทีต่อมา ชายสิบกว่าคนก็ไม่ได้สนใจหยางซิงไห่ แล้วเริ่มพุ่งเข้าหาเย่เทียน…..