ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK

สารบัญ อาณาจักรวิญญาณ

••••••••••••••••••••

**บทที่****193:**สถานการณ์ที่น่าประหลาดใจ

จากนั้นไม่นานเกิดเป็นเสียงแหบพร่าของหญิงสาวคนหนึ่งทำลายความเงียบงันของศาลา ภายใต้ความโกรธเจ้าอ้วนต่อสู้กับนางอยู่หนึ่งชั่วโมงเขาจึงพอใจ ในตอนนี้มู่ซื่อหรงทำได้เพียงหายใจเท่านั้น นางไม่สามารถแม้แต่จะยกมือขึ้นมาเพื่อหยุดเจ้าอ้วนที่กำลังล่วงเกินร่างกายของนาง

ถึงแม้ว่าสภาพของนางในตอนนี้จะน่าสงสาร มีความกลัวที่นางไม่เคยแสดงออกมาปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง ตอนนี้นางเผยใบหน้าของคนที่ประสบความสำเร็จออกมา

เจ้าอ้วนดึงน้ำจากทะเลสาปเพื่อชำระล้างร่างกายของตนเอง จากนั้นเขาสวมเสื้อผ้าพร้อมกับกล่าวออกมาอย่างเย็นชา “ตอนนี้เจ้ารับรู้ความกล้าหาญของบิดาผู้นี้หรือยัง?”

“ฮ่าฮ่า!” สำหรับมู่ซื่อหรงที่ได้ยินเช่นนั้น นางหัวเราะออกมาโดยไร้ความเกรงกลัว “เจ้าไขมันบัดซบ เจ้าคิดว่าจะเล่นกับข้าง่าย ๆ เช่นนี้หรือ? วันนี้เจ้าขโมยความบริสุทธิ์ของข้าไป พรุ่งนี้ข้าจะให้เจ้าชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดด้วยชีวิตของเจ้า!”

ในขณะที่เจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขาใช้เวลาชั่วครู่เพื่อไตร่ตรองคำพูดของนาง “บัดซบ เจ้าตั้งใจให้ข้าข่มขืนเจ้า แล้วจากนั้นเจ้าก็จะไปร้องเรียนข้า ถูกต้องหรือไม่?”

“ฮ่าฮ่า กว่าเจ้าจะฉลาดก็สายไปเสียแล้ว!” มู่ซื่อหรงกล่าวอย่างสดใส “เจ้าได้รับความบริสุทธิ์ของข้าไปแล้วและไม่มีทางปฏิเสธมันได้ ฮ่าฮ่า สำนักเสวียนเทียนคงจะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง! เพราะว่าไม่มีบุคคลน่ารังเกียจเช่นนี้มาเนิ่นนานนับร้อยปีแล้ว ใครจะคิดว่าคนถัดไปจะเป็นเจ้าก้อนไขมันเดินได้เช่นนี้? เจ้าคิดว่าปู่ของข้าจะดูแลเจ้าอย่างไรกันหรือ? ข้าขอเดาว่าเขาคงจะหั่นเนื้อของเจ้าบาง ๆ ดังเช่นเนื้อปลา! แต่ข้าจะไม่ปล่อยให้เขาทำเช่นนั้น เพราะมันง่ายเกินไปสำหรับเจ้า! ข้าจะอ้อนวอนให้เขาให้ข้าทรมานให้เจ้าค่อยตายอย่างช้า ๆ ข้าจะไม่ปล่อยวางเพียงเท่านั้น ข้าจะทำให้ชีวิตของเจ้าเลวร้ายเสียยิ่งกว่าความตาย ฮ่าฮ่า!”

มู่ซื่อหรงกล่าววาจาได้เลวร้ายจนเจ้าอ้วนแอบสั่นไหว หลังจากคิดถึงผลที่จะตามมา เขาไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากแผ่จิตสังหารออกมา!

แม้ว่ามู่ซื่อหรงจะเห็นเจตนาฆ่าของเจ้าอ้วน แต่นางก็ยังอยู่ในความสงบ “ทำไมหรือ? เจ้าต้องการจะปิดปากข้า? ฮ่าฮ่า เจ้าจงทำมันให้สะอาดหมดจด ปู่ของข้าฝากรอยประทับไว้บนร่างกายของข้า หากเกิดสิ่งใดขึ้น เขาจะมาถึงที่นี่ทันที ในตอนนั้นเจ้าก็คงจะต้องละทิ้งชีวิตของตนเอง!”

“แต่อย่างน้อยเจ้าก็ตายก่อนข้า!” เจ้าอ้วนโต้กลับ

“เหอะ แล้วยังไง? ข้าผู้นี้เหนื่อยกับการมีชีวิตเช่นนี้แล้ว ก็ถือว่าคุ้มค่าถ้าหากมันลากเจ้าไปพร้อมกับข้าด้วย!” มู่ซื่อหรงกล่าวออกมาอย่างเยือกเย็น “มา มากับข้าถ้าหากเจ้ายังเป็นบุรุษ!” ในขณะที่นางกล่าวเช่นนั้น นางอ้าแขนออกเพื่อเย้าแหย่เจ้าอ้วนราวกับว่านางอนุญาตให้เขาทำอะไรกับนางก็ได้

ในขณะนั้นจุดซ่อนเร้นของนางยังคงมีเลือดไหลออกมา หน้าอกของนางเต็มไปด้วยรอยช้ำประทับไว้ ดวงตาของนางแดงก่ำและบวม อีกทั้งยังมีน้ำตาหลงเหลืออยู่ ซึ่งมันเป็นภาพที่น่าสงสารอย่างยิ่ง แม้ว่าเจ้าอ้วนจะเกลียดนางมากเท่าไหร่ เขารู้สึกสงสารนางจับใจอย่างไม่อาจเก็บไว้ได้ ในตอนนี้เขาทำได้เพียงหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น “ลืมมันไป ข้าเป็นเพียงแค่คนงี่เง่าเท่านั้น และเจ้าก็เป็นเพียงคนบ้า ข้าคงไม่ถือโทษโกรธคนบ้าหรอก จริงไหม?” ในขณะที่เขากล่าวเช่นนั้น เขาหยิบเสื้อคลุมของตนเองและบินตรงออกไปด้วยดาบบิน

เมื่อเห็นเช่นนั้น มู่ซื่อหรงตะโกนออกมา “วันนี้ไม่ว่าเจ้าหรือข้าก็ต้องตาย! ข้าจะบอกเจ้าให้ว่าอย่าคิดว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปเพียงแค่เจ้าปล่อยข้าในวันนี้ แน่นอนว่าวันนี้ข้าจะบอกกล่าวเรื่องนี้กับปู่ให้จัดการความแค้นนี้!”

“เหอะ!” เจ้าอ้วนถอนหายใจอย่างรำคาญพร้อมกับหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ “แล้วแต่เลย ข้าจะเฝ้ารอการแก้แค้นของเจ้า!”

“อะไรนะ?” เมื่อเห็นว่าเจ้าอ้วนไม่ได้แยแสมากนัก ทำให้มู่ซื่อหรงตกใจอย่างเหลืออด “ไขมันบัดซบ เจ้าไม่กลัวงั้นหรือ?”

“แล้วข้าต้องกลัวอะไร? อย่างไรเจ้าก็คิดที่จะร้องเรียนข้าอยู่แล้วไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่…” เจ้าอ้วนกล่าวพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ “แต่ปู่ของเจ้ายังต้องใช้ข้าเพื่อรับมือกับเหล่าพี่น้องทั้งสี่ ดังนั้นแม้ว่าเจ้าจะร้องเรียนข้าอย่างไร ข้าจะเพียงแค่ถูกกักขังและไม่ตาย ในเวลานั้นข้าเพียงแค่เข้าสู่การเก็บตัวฝึกตนสักสองสามทศวรรษ คิดเสียว่าไปใช้ชีวิตที่เงียบสงบสักหน่อยก็ดี ต้องขอบคุณเจ้าที่ทำให้ข้ามีโอกาสดีเช่นนี้! ฮ่าฮ่า! ขอบคุณ!” ในขณะที่เขากล่าวเช่นนั้น เขาคำนับต่อมู่ซื่อหรงและบินออกไปอย่างไม่แยแสต่อสิ่งใดทั้งสิ้น

เมื่อเห็นเช่นนี้ มู่ซื่อหรงโกรธจัดจนใบหน้าของนางบิดเบี้ยว “เจ้าต้องการความสงบงั้นหรือ? เหอะ ไม่มีวัน! ข้าหรือจะถูกข่มเหงอย่างง่ายดายเช่นนี้? เจ้าบัดซบ รอก่อนเถอะข้าจะเล่นกับเจ้าจนกว่าเจ้าจะตาย!”

เมื่อคิดเช่นนั้น มู่ซื่อหรงพยายามยืนขึ้นเพื่อชำระล้างตนเองและเปลี่ยนใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ จากนั้นนางหยิบเสื้อผ้าที่ถูกเจ้าอ้วนฉีกขาดและบินออกไปจากสถานที่แห่งนี้ทันที

หลังจากนั้นไม่นาน มู่ซื่อหรงมาพบนักบวชฮัวอวิ๋นที่กำลังอยู่ในสมาธิ นางคุกเข่าลงตรงหน้าเขาและร้องไห้ออกมาอย่างน่าเวทนา “ท่านปู่ ท่านปู่ หลานสาวของท่านถูกรังแก ท่านต้องมอบความยุติธรรมให้กับข้า!”

ในขณะที่นางกล่าวเช่นนั้น นางหยิบเสื้อผ้าที่ถูกฉีกขาดให้นักบวชฮัวอวิ๋นดู

ในขณะที่นักบวชฮัวอวิ๋นเห็นคราบเลือด เขารู้ได้ทันทีว่าหลานสาวของตนถูกข่มขืน เขาคำรามออกมาด้วยความโกรธ “บัดซบ! เจ้าสารเลวคนไหนมันทำเรื่องเช่นนี้? ข้าจะลอกหนังของมันในขณะที่มันยังมีชีวิตอยู่!”

“ท่านปู่ มันคือซ่งจง เจ้าไขมันบัดซบคนนั้น!” มู่ซื่อหรงตอบกลับอย่างรวดเร็ว

“ซ่งจงงั้นหรือ?” เมื่อได้ยินชื่อนี้ นักบวชฮัวอวิ๋นตกใจไปชั่วขณะ หลังจากนั้นดวงตาของเขาก็ส่องประกายออกมาพร้อมกับถามว่า “หลานรักของข้า เจ้าแน่ใจหรือว่าเป็นเขา?”

“แน่นอนว่าไม่ผิด แม้เขาจะกลายเป็นขี้เถ้าข้าก็จดจำได้!” มู่ซื่อหรงตอบกลับทั้งยังร้องไห้

แต่มู่ซื่อหรงไม่คาดคิดมาก่อนว่านักบวชฮัวอวิ๋นจะหัวเราะออกมาในขณะที่นางกล่าว “ประเสริฐ เรื่องนี้มันยอดเยี่ยมมาก!”

มู่ซื่อหรงตกใจอย่างมาก นางคิดว่านักบวชฮัวอวิ๋นไม่เข้าใจและรีบอธิบายทันที “ท่านปู่ เจ้าสารเลวซ่งจงมันข่มขืนข้า!”

“เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร?” แทนที่นักบวชฮัวอวิ๋นจะตอบอย่างจริงจัง เขากลับกล่าวอย่างสบายใจ “ข่มขืนอะไรกัน? เสียงของพวกเจ้าทั้งสองดังสนั่นราวกับคู่รักกำลังแสดงความรักต่อกันและไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ ถูกต้องหรือไม่? แม้ว่าเจ้าอ้วนจะหื่นกามไปสักเล็กน้อย แต่เจ้าก็ไม่ควรจะคิดมากจนเกินไป! นี่เป็นเรื่องปกติของวัยรุ่นหนุ่มสาว ถ้าได้กล่าวเรื่องนี้ออกไปล่ะมันคงจะดูไม่ดีนัก!”

“ว่าอะไร?” หลังจากที่นางตกใจอยู่ชั่วขณะ นางรีบถามออกไปอย่างประหลาดใจ “ท่านปู่ เจ้าไขมันนี้ใช้ประโยชน์จากข้า ท่านไม่เพียงไม่แก้แค้นให้กับข้าอีกทั้งยังละเลยงั้นหรือ?”

“ไม่จำเป็นต้องแก้แค้น แต่ไม่ต้องห่วง ข้าจะแสวงหาความยุติธรรมให้กับเจ้าอย่างแน่นอน บุรุษผู้ยอดเยี่ยมคนนี้จะต้องกลายเป็นสามีเจ้า!” นักบวชฮัวอวิ๋นตอบกลับพร้อมกับหัวเราะออกมา “หลานรักของปู่ แน่นอนว่าเจ้าจะต้องเต็มไปด้วยอำนาจ! ข้าคิดว่าเจ้าอ้วนจะต้องตกเป็นสามีของหงหยิงเสียแล้ว แต่ข้าไม่เคยคาดคิดว่าเจ้าจะเป็นเสือปืนไวเช่นนี้! ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมมาก ๆ!”

เป็นมู่ซื่อหรงที่รู้สึกผิดแผนโดยสมบูรณ์ นางรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว “ท่านปู่ ฟังข้าก่อน ข้าไม่เคยรักกับเจ้าไขมันนั่น มันข่มขืนข้า!”

“เขาข่มขืนเจ้าเพราะชอบเจ้า ถ้าหากเขาไม่ชอบเจ้าแล้วเหตุใดจึงต้องทำเช่นนั้น? ถ้าไม่เช่นนั้นมันก็คงไม่เข้ากันได้อย่างง่ายดายอย่างนั้นหรอก ว่าไหม?” หลังจากนั้นนักบวชฮัวอวิ๋นพยายามเกลี้ยกล่อมนาง “นับตั้งแต่ที่เขาชอบเจ้า แล้วมันจะไม่ดีอย่างไรที่เจ้าจะแต่งงานกับเขา?”

“แต่งงานงั้นหรือ? ข้าไม่ได้รักเจ้าไขมันนั่น!” มู่ซื่อหรงตะโกนลั่น

“ถ้าเป็นเช่นนั้นเจ้าก็จงไปรักเขาซะ!” นักบวชฮัวอวิ๋นกล่าวอย่างไม่สนใจ “ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนอะไร อย่างน้อยเราก็สามารถเลื่อนงานแต่งงานออกไปได้สักสองสามปี ไม่สายเกินไปถ้าหากเจ้าจะแต่งงานกับเขาในเวลาที่เจ้ารักเขาแล้ว!”

“สวรรค์!” มู่ซื่อหรงรู้สึกจะเป็นบ้าทันที นางร้องไห้ออกมา “ท่านปู่ เจ้าไขมันนั่นข่มขืนข้า แล้วข้าจะไปรักกับมันได้อย่างไร? อีกทั้งข้ายังต้องแต่งงานกับมันอีกงั้นหรือ? นี่มันตรรกะอะไรกัน?”

“ทำไมจะไม่ได้?” นักบวชฮัวอวิ๋นตอบกลับ “ดูอย่างข้าที่มีภรรยาถึงเจ็ดคน ข้าไปนอนกับทั้งหกคนก่อนที่จะแต่งงานกับนาง พวกนางทั้งหมดล้วนแต่ไม่เต็มใจในตอนแรก แต่สุดท้ายแล้วทั้งหมดก็ล้วนแต่รักข้า!”

เมื่อได้ยินนักบวชฮัวอวิ๋นชักชวนนางเช่นนี้ มู่ซื่อหรงแทบจะเป็นลมในทันที นางแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่กำลังได้ยิน ราวกับว่านางเหมาะที่จะเป็นของเจ้าอ้วนอย่างไรอย่างนั้น

เขามองเห็นความขุ่นมัวและความสับสนในอาการของมู่ซื่อหรง นักบวชฮัวอวิ๋นจึงอธิบายต่อ “หลานรักของปู่ เจ้าไม่ควรอคติและคิดไปไกลนัก! เจ้าคือหลานรักของข้าและข้าใช้เวลามากมายเพื่อทุ่มเททุกอย่างให้กับเจ้า และข้าย่อมต้องทุ่มเทกับการแต่งงาน ดังนั้นสามีของเจ้าจะต้องเป็นชนชั้นสูงภายในสำนักเสวียนเทียน มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเทียบเคียงกับเจ้าได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ อันดับแรกคือเสี่ยวไป่หลง แต่น่าเสียดายที่เขาตายตกไปในการล่าผลไม้วิญญาณ นอกเหนือจากเขาก็เป็นดาบเทวะไร้ผู้ต้านและศิษย์พี่ซ่ง แน่นอนว่าเหล่าพี่น้องทั้งสี่นั้นไม่ผ่านการคัดเลือกของข้า เพราะอาจารย์ของมันคือศัตรูของข้าและเจ้าจะต้องทุกข์ทรมานถ้าหากต้องแต่งงานกับพวกเขา อีกอย่างข้าก็ไม่คิดว่าเจ้าจะชื่นชอบคนหัวล้านด้วย ถูกไหม?”

“จริง!” มู่ซื่อหรงพยักหน้าอย่างไตร่ตรอง

“ถูกต้อง เมื่อเป็นเช่นนี้เจ้าสามารถเลือกได้ระหว่างดาบเทวะไร้ผู้ต้านหรือว่าเจ้าอ้วนน้อย แต่ข้าคิดว่าคนที่เหมาะสมที่สุดคือซ่งจง!” นักบวชฮัวอวิ๋นกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม “แม้ว่าชื่อของเขาจะดูโชคร้ายสักเล็กน้อยแต่ว่าเขาเต็มไปด้วยอำนาจและมีฝีมือ นอกจากนี้เขาสามารถต่อกรกับข้าได้! ดังนั้นเขาเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเจ้า!”

เมื่อมู่ซื่อหรงได้ยินเช่นนั้น นางแทบจะหมดสติไป เป็นไปได้อย่างไรที่บุคคลผู้นั้นจะสามารถทำให้นักบวชฮัวอวิ๋นยอมรับได้เช่นนี้ ราวกับเขามีความสุขอย่างมากที่จะมีลูกเขยเป็นคนพาล!

มู่ซื่อหรงรู้สึกผิดหวังแต่ไม่สามารถโต้กลับ “แต่ข้าคิดว่าดาบเทวะไร้ผู้ต้านก็ไม่ได้แย่นัก อย่างน้อยข้าก็ชื่นชอบเขามากกว่าเจ้าไขมันเดินได้!”

“อย่าได้คิดถึงดาบเทวะไร้ผู้ต้าน!” เมื่อนักบวชฮัวอวิ๋นได้ยินเช่นนั้น เขารีบกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว “ข้าคิดว่าเขาเคยได้รับการพิจารณาในอดีต แต่ในตอนนี้การพัฒนาของเขาเป็นไปได้ช้ายิ่งกว่าเต่าเสียด้วยซ้ำ แต่กลับมีหน้าเรียกตัวเองว่าดาบเทวะไร้ผู้ต้าน! ให้ตายเถอะ ถ้าหากเขาคือดาบเทวะไร้ผู้ต้านแล้วข้าล่ะจะมีฉายาว่าอะไร?”

ในขณะที่มู่ซื่อหรงได้ยินเช่นนั้น นางหมดหนทางที่จะคุยกับปู่ของตนเองทันที

อย่างไรก็ตาม นักบวชฮัวอวิ๋นยังคงระบายความผิดหวังของตนเองต่อไปโดยไม่แยแสต่อมู่ซื่อหรง “ภายในการต่อสู้เมื่อครั้งล่าผลไม้วิญญาณ ศิษย์พี่ซ่งของเจ้าเปรียบเสมือนไฟที่ส่องสว่าง ประการแรกเขาต่อสู้กับหานปิงเอ๋อ แม้ว่าจะพ่ายแพ้ แต่เขาก็ยังเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยนางไว้ในภายหลัง เขาต่อสู้กับผู้ฝึกตนปีศาจนับสิบคนทั้งคืนกว่าที่กำลังเสริมจะมาถึง เขาสังหารผู้ฝึกตนปีศาจไปหลายคน นี่เป็นการประสบความสำเร็จทั้งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาตลอดนับร้อยปี! อีกทั้งเขายังสังหารผู้ฝึกตนระดับจินตันและสร้างความบาดเจ็บสาหัสให้กับผู้ฝึกตนระดับหยวนหยิน เหตุการณ์นี้ทำให้โลกการฝึกตนต้องสั่นสะเทือน! แต่ดาบเทวะไร้ผู้ต้านของเจ้าน่ะหรือ หึ! ความจริงก็คือเขาไม่ได้รับผลไม้วิญญาณสักผล! เขาโดนคำสาปและต้องนอนทุกข์ทรมานอยู่บนเตียงนานนับปี! ถ้าหากไม่ใช่ศิษย์พี่ซ่งของเจ้าที่สามารถจับตัวตาเฒ่าเฟิงมาได้ แน่นอนว่าเขาจะต้องนอนอยู่บนเตียงเช่นนั้นไปจนตาย!”

“เรื่องนั้น….” ในขณะที่มู่ซื่อหรงได้ยินเช่นนั้น ในหัวใจของนางสั่นไหว นางไม่เคยเปรียบเทียบความสำเร็จของผู้ใดจนถึงตอนนี้ นางได้เห็นแล้วว่าพวกเขาทั้งสองไม่อาจเปรียบเทียบกันได้เลย!

นักบวชฮัวอวิ๋นยังไม่ยอมแพ้และกล่าวต่อ “ไม่ต้องกล่าวถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เพียงแค่เหตุการณ์ล่าสุดในตอนนี้ นับตั้งแต่ที่คุณชายใหญ่และคุณชายรองเข้ามา เหล่าสี่พี่น้องได้รับการแต่งตั้งให้แข็งแกร่งมากกว่าผู้ใดนอกเหนือจากฉุ่ยจิ้งในระดับปฐมภูมิ ดาบเทวะไร้ผู้ต้านเป็นผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิและมีสมบัติวิเศษอยูในมือ แต่เขาอยู่แห่งหนใดในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้? เขาวิ่งเข้าประตูแห่งการเก็บตัวฝึกฝน! แต่เจ้าจงดูอ้วนน้อย เขาจัดการให้พี่น้องลำดับที่สองนามยินนั้นพิการทันทีที่ก้าวเท้าออกมา พรุ่งนี้เขาจะจัดการกับพี่ใหญ่จิน แน่ใจหรือว่าเจ้าไม่ต้องการคนที่มีพลังเช่นนี้? แล้วใครกันที่เจ้าต้องการ?”

เมื่อได้ยินคำเยินยอเจ้าอ้วนเช่นนี้ มู่ซื่อหรงปิดปากแข็งพร้อมทั้งกล่าวต่อว่า “ข้าสามารถแต่งงานกับทุกคนยกเว้นเจ้าไขมันนั่น!”

เมื่อได้ยินนางกล่าวเช่นนั้น นักบวชฮัวอวิ๋นกล่าวออกมาอย่างไร้อารมณ์ “ให้ข้ากล่าวกับเจ้านะ ตราบใดที่ข้ายังเป็นหัวหน้าครอบครัว ข้ายังมีสิทธิ์ตัดสินใจในเรื่องนี้ เจ้าจะต้องแต่งงานกับเขา!”

“ท่านปู่ เจ้าไขมันนั่นมันข่มขืนข้า ไม่เพียงแต่ท่านไม่มอบความยุติธรรมให้กับข้า แต่ท่านกำลังบังคับให้ข้าแต่งงานกับเขาอีกงั้นหรือ? นี่ข้าเป็นสายเลือดของท่านจริงงั้นหรือ?” มู่ซื่อหรงกล่าวออกมาอย่างเหลืออด นางได้แต่คร่ำครวญกับปู่ของตนเอง

“เพราะว่าเจ้าเป็นหลานสาวของข้า ข้าจึงต้องทำเช่นนี้!” นักบวชฮัวอวิ๋นกล่าว “นี่เป็นผลประโยชน์ของเจ้าเองไม่ใช่หรือ? แน่นอนว่าในอนาคตเจ้าอ้วนจะประสบความสำเร็จ เจ้าเพียงแค่เดินตามเขาไปและเสพสุขด้วยกันกับเขา!”

“แต่…” ในขณะที่มู่ซื่อหรงต้องการจะกล่าวอะไรออกมาสักอย่าง นักบวชฮัวอวิ๋นขัดจังหวะนางและกล่าวว่า “พอแล้ว เจ้าควรจะพอใจในเรื่องนี้ได้แล้ว! ความจริงแล้วข้าต้องการจะชักชวนเจ้าเพื่อไปหาเขา แต่ทว่าศิษย์พี่ของข้าต้องการให้เขาแต่งงานกับหงหยิง ข้าจึงคิดว่าคงไม่มีโอกาสอีกต่อไป ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์และเจ้าจะสามารถพิชิตเขาได้! ฮ่าฮ่า นับว่าสวรรค์ยังมีตาจริงๆ! ตอนนี้เขาจะต้องแต่งงานกับเจ้าอย่างแน่นอน! ในที่สุดทุกอย่างก็จบลงอย่างสวยงาม!”

“ว่าอะไร?” เมื่อมู่ซื่อหรงได้ยินเช่นนั้น นางแทบจะเป็นลมล้มไปตรงหน้าเขา “ประเสริฐยิ่งนัก ข้าถูกข่มเหงโดยเจ้าอ้วน ท่านคิดว่าข้าจะมีความสุขกับเรื่องราวลับ ๆ เช่นนี้? ท่านปู่ ท่านเป็นคนหยาบช้าเช่นนี้ได้อย่างไร!”

“นี่เป็นเรื่องหยาบช้างั้นหรือ?” นักบวชฮัวอวิ๋นกล่าวอย่างจริงจัง “กลับไปพักผ่อนซะ เรื่องนี้ถูกตัดสินแล้ว หลังจากที่เขาจัดการพี่ใหญ่จินในวันพรุ่งนี้ เกี่ยวกับเรื่องของวันนี้ข้าจะหมั้นหมายเขาให้เจ้า แน่นอนว่าเขาจะไม่ปฏิเสธ!”

หลังจากที่ตัดสินทุกอย่างแล้ว นักบวชฮัวอวิ๋นส่งให้มู่ซื่อหรงออกไปและทำการฝึกฝนต่อ เมื่อเห็นเช่นนั้นมู่ซื่อหรงเข้าใจทันทีว่านักบวชฮัวอวิ๋นต้องการให้นางแต่งงานกับเจ้าอ้วน แม้ว่านางจะไม่ยินยอม แต่นางก็ไม่อาจฝืนคำสั่งของเขาได้ สวรรค์! นางจะเดินออกจากความโกรธเหล่านี้ได้อย่างไรกัน!