บทที่ 1573 ทางผ่านดารา

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1573 ทางผ่านดารา

 

ผู้อมตะวังสวรรค์สี่คนปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน นั่นทําให้ดวงตาของฟางหยวนเบิกกว้างขึ้น

 

แม้จะมีความรู้และประสบการณ์มากมาย แต่เขายังรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ

 

“มีวิธีขนส่งผู้อมตะระดับแปดสี่คนพร้อมกันเช่นนี้อยู่ด้วยงนหรือ!? หากเราไม่ทําลายวังวนแสงสีดําทันที ข้าเกรงว่าอาจมีผู้อมตะเข้ามามากกว่านี้

 

แม้ฟงจิวเก้อจะไม่ใช่ผู้อมตะระดับแปดแต่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของเขาเทียบเท่ากับผู้อมตะระดับแปด ดังนั้นฟางหยวนจึงจัดฟงจิวเก้ออยู่ในกลุ่มสิ่งมีชีวิตระดับแปด

 

ผู้อมตะระดับแปดมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต้าจํานวนมหาศาล มีเพียงไม่กี่วิธีที่สามารถขนส่งพวกเขาและพวกมันล้วนใช้งานได้ยาก กระทั่งท่าไม้ตายอมตะประตูอมตะที่ฟงจิวเก้อใช้เดินทางมาก่อนหน้านี้ก็ไม่สามารถขนส่งผู้อมตะระดับแปด

 

หากผู้อมตะระดับแปดต้องการเคลื่อนไหว พวกเขาจะบินผ่านสวรรค์สีขาวหรือสวรรค์สี ดําเว้นเพียงพวกเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่บนเส้นทางแห่งห้วงมิติที่สามารถเคลื่อนย้ายตัวเอง

 

แต่ถึงกระนั้นผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่บนเส้นทางแห่งหัวงมิติที่สามารถเคลื่อนย้ายตัวเอง มันก็ยังเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะขนส่งผู้อมตะระดับแปดคนอื่นๆ และในเวลาเดียวกัน

 

อย่างไรก็ตามวังสวรรค์กลับมีวิธีขนส่งผู้อมตะระดับแปดและสามารถเดินทางจากภาคกลางมายังแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาได้โดยตรง นี่เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกินไปจริงๆ

 

“แม้แต่ห้าร้อยปีในชีวิตแรกของข้า ระหว่างสงครามห้าภูมิภาคที่วุ่นวาย ข้าก็ไม่เคยได้ยินว่าวังสวรรค์มีวิธีการขนส่งเช่นนี้

 

สามารถขนส่งผู้อมตะระดับแปดสี่คนในครั้งเดียวและนี่อาจยังไม่ใช่ขีดจํากัด วิธีกา รดังกล่าวน่ากลัวเกินไปข้อได้เปรียบของมันจะส่งอิทธิพลอย่างมากในการต่อสู้

 

ในสงครามห้าภูมิภาค หากวังสวรรค์สามารถเคลื่อนย้ายผู้อมตะระดับแปดไปที่ใดก็ได้ในพริบตาพวกเขาจะมีข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ผู้ใดจะสามารถต่อต้านผู้อมตะระดับแปดจํานวนมากที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันทุกกองกําลังจะกังวลและรู้สึกไม่สามารถทําสิ่งใดกับเรื่องนี้

 

ห้าร้อยปีในชีวิตก่อนหน้า เหตุใดวังสวรรค์ถึงไม่ทําเช่นนี้? เป็นเพราะเงื่อนไขที่ไม่เหมาะสมหรือมันยังไม่ถึงเวลาสําหรับวิธีการนึ่งนหรือ? แต่ข้าคิดว่าข้าเข้าใจแล้ว!”

 

ความคิดของฟางหยวนเคลื่อนไหวราวกับสายฟ้า เขาเข้าใจเหตุผลที่อยู่เบื้องหลัง

 

หากวังสวรรค์เปิดเผยวิธีการนี้ออกมา เมื่อผู้อมตะระดับแปดบางคนเสียชีวิตในภูมิภา คอื่นพวกเขาจะตื่นตัวพวกเขาจะทํางานร่วมกันและสร้างกองกําลังพันธมิตรขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อต่อต้านวังสวรรค์

 

นั่นคือสามัญสํานึกทั่วไป

 

หากพวกเขาไม่ร่วมมือกัน สถานการณ์จะเลวร้ายลงเรื่อยๆ ผู้อมตะระดับแปดจะตกอยู่ในอันตรายเนื่องจากวังสวรรค์สามารถส่งกองกําลังผู้อมตะระดับแปดบุกโจมตีพวกเขาได้ทุกเมื่อ

 

ผู้อมตะไม่ใช่คนโง่ มีเพียงการทํางานร่วมกันเท่านั้นที่จะทําให้พวกเขาปลอดภัยจากการรุกรานของวังสวรรค์

 

แน่นอนว่าวังสวรรค์ก็ไม่โง่ พวกเขาต้องซ่อนวิธีนี้เอาไว้และจะใช้มันในเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น

 

พวกเขากลัวว่าสิ่งนี้จะกระตุ้นให้ผู้อมตะของทั้งสี่ภูมิภาคทํางานร่วมกันและต่อต้านวังสวรรค์เพียงฝ่ายเดียว

 

แต่ตอนนี้เพื่อโจมตีฟางหยวน วังสวรรค์ต้องใช้วิธีนี้ล่วงหน้า มันแสดงให้เห็นถึงความแน่วแน่ที่จะโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

“ไม่ ไม่ใช่ขา พวกเขาถูกล่อลวงโดยวิญญาณสติปัญญาระดับเก้า! ในเวลาเดียวกันการยึดครองแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาจะสามารถสนับสนุนการซ่อมแซมวิญญาณชะตากรรมได้เป็นอย่างมาก

 

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขึ้นกับตนเอง

 

การบุกโจมตีของวังสวรรค์กะทันหันเกินไป แม้ฟางหยวนจะเตรียมใจไว้แล้วก็ตาม

 

แต่ไม่มีสิ่งใดที่เขาทําได้ วิธีการของวังสวรรค์อยู่นอกเหนือจากความคาดหมายของฟางหยวนอย่างสมบูรณ์

 

“นี่คือเหตุผลที่ศัตรูเหล่านี้น่ากลัวที่สุด พวกเขามีไพ่ตายมากมายและรากฐานที่ยิ่งใหญ่เกินไป!” ฟางหยวนลอบถอนหายใจ

 

“เจ้าหัวขโมย!” ขณะที่ผู้อมตะของวังสวรรค์คนอื่นยังสงบนิ่ง จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าก็พุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนแล้ว

 

นางเกลียดฟางหยวนมาก เขาขายกระดูกซี่โครงสามชิ้นของนางในสวรรค์สีเหลืองและแสดงภาพการต่อสู้ระหว่างเขากับนางอย่างไม่หยุดยั้ง นี่เป็นความอัปยศครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของนาง

 

ดังนั้นจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าจึงพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนทันทีด้วยเจตนาสังหารที่รุนแรง

 

แต่ในจังหวะนี้ฟางหยวนกลับหายตัวไปอย่างกะทันหัน

 

การโจมตีของจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าพลาดเป้า นางเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ค่ายกลวิญาณอมตะด้วยสายตาดุร้าย

 

“ฟุบ!”

 

ฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นในค่ายกลวิญญาณอมตะและควบคุมมันด้วยตนเอง สิ่งแรกที่เขาทําคือนําผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ทั้งหมดที่กระจัดกระจายอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเข้ามาในค่ายกลวิญญาณนี้

 

เมื่อเขาลงมือวังสวรรค์ก็ทําเช่นกัน

 

ท่าไม้ตายอมตะเพลงแยก!

 

ฟงจิวเก้อใช้ท่าไม้ตายเฉพาะตัวของเขา เพลงแยกสามารถแยกส่วนคฤหาสน์วิญญาณอม ตะและค่ายกลวิญญาณอมตะทุกชนิด

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น เขากระตุ้นใช้งานค่ายกลวิญญาณอมตะและระเบิดแสงสีส้มแดงออกไป

 

ภายใต้แสงสีส้มแดง เพลงแยกของฟงจิวเก้อกลายเป็นอ่อนกําลังลงก่อนที่เสียงของเขาจะหายไปในความว่างเปล่า

 

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนดัดแปลงค่ายกลวิญาณอมตะเพื่อจัดการเพลงแยกของฟงจิวเก้อโดยเฉพาะและตอนนี้มันก็แสดงพลังอํานาจของมันออกมาให้เป็นที่ประจักษ์แล้ว

 

ฟงจิวเก้อเคยใช้เพลงแยกทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะรุ่นก่อนหน้าหลายชั้นแต่ตอนนี้กลับเป็นเพลงแยกของเขาที่ถูกทําลาย มันจึงช่วยไม่ได้ที่ฟงจิวเก้อจะขมวดคิ้วลึก

 

“ให้เป็นหน้าที่ของข้า” เทพธิดาจื่อเว่ยกระดิกนิ้วส่งดาวสีรุ้งพุ่งออกไป

 

ดาวสีรุ้งราวกับลูกศรบินข้ามผ่านท้องฟ้าและพุ่งเข้าไปในค่ายกลวิญญาณอมตะก่อนจะเปลี่ยนเป็นละอองดาวที่ส่องประกายระยิบระยับอยู่ภายใน

 

ละอองดาวเผยให้เห็นรูปแบบพิเศษหลายอย่างของค่ายกลวิญญาณ นั่นทําให้เทพธิดาจื่อเว่ยเผยรอยยิ้มบาง

 

“โอ้ไม่ ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาท่านี้ช่วยให้นางสามารถอนุมานการทํางานของค่ายกลวิญญาณอมตะ นอกจากนี้มันยังสามารถขัดขวางความร่วมมือของวิญญาณและทําให้ค่ายกลวิญญาณอมตะทํางานช้าลง!” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์บางคนอุทาน

 

“ พวกเราควรทําอย่างไร?”

 

“พวกเราควรทําอย่างไร?”

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เกือบทั้งหมดรู้สึกประหม่าและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

 

วังสวรรค์ทรงพลังเกินไป พวกเขามีผู้อมตะระดับแปดถึงสี่คน แม้จะไม่รวมฟงจิวเก้อ แต่อีกสามคนต่างก็เป็นชนชั้นสูงท่ามกลางผู้อมตะระดับแปด เพียงหนึ่งคนก็เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาแล้วโดยไม่ต้องกล่าวถึงสามคน!

 

“แปลก เหตุใดเทพธิดาจ๋อเว่ยไม่ใช้กระดานหมากรุกกลุ่มดาว?” ฟางหยวนยังเยือกเย็นขณะที่เขารู้สึกสงสัย

 

ในการต่อสู้ที่อาณาจักรแห่งความฝันของภาคใต้ เทพธิดาอเว่ยเคยใช้กระดานหมา กรุกกลุ่มแล้วเหตุใดตอนนี้นางไม่ใช้มัน?

 

น่าเสียดายที่ข้าต้องทิ้งกระดานหมากรุกกลุ่มดาวไว้ที่วังสวรรค์เพื่อรักษาท่าไม้ตายอมตะทางผ่านดารามิฉะนั้นข้าจะสามารถคลี่คลายค่ายกลวิญญาณอมตะนี้ได้ง่ายขึ้นหลายสิบเท่า!” เทพธิดาจอเว่ยลอบถอนหายใจอยู่ภายในแต่นางไม่ได้หยุดการกระทําของนาง

 

อีกหนึ่งท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาถูกปล่อยออกมาโดยปราศจากการแจ้ง เตือนมันทําให้ละอองดาวที่ถูกส่งออกมาก่อนหน้านี้ขยายขนาดขึ้นสองเท่า กระทั่งฟางหยวนก็ไม่รู้ว่าควรจัดการกับมันอย่างไร

 

นี้ค่อนข้างลําบาก!” ฟางหยวนขมวดคิ้วลึก

 

“วังสวรรค์ พวกเจ้าคิดว่าแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาสามารถถูกรังแกได้โดยง่ายงั้นหรือ? ไปตายซะ!”

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาดังขึ้นจากค่ายกลวิญญาณรูปแบบการต่อสู้โบราณยักษ์สวรรค์ที่พึ่งเข้าสู่สนามรบ