ตอนที่ 663 : ถนนพระอาทิตย์ตก

Virtual World – Peerless White Emperor

เย่ฉางถือเข็มฉีดยาขนาดเล็กมาที่ห้องจางเจิ้งเฉียง

จางเจิ้งเฉียงสังเกตเห็นเขา และถามเมื่อเขาเห็นเข็มฉีดยาอยู่ในมือเย่ฉาง “นี่คือ?”

“ของดี! ฉันสร้างมันได้นิดเดียวเอง แต่ฉันเก็บไว้ให้นายและหลินหลี่คนละชุด” เย่ฉางใช้ร่างกายตัวเองในการกรองพลังงานด้านลบ และดูดซับสิ่งสกปรกออกจากน้ำยาทั้งหมด สิ่งที่เหลืออยู่คือแก่นแท้และ DNA ของชิ้นส่วนของภัยพิบัติครั้งใหญ่

“ฉันจะทำเอง มันเจ็บปวดมากเมื่อใดก็ตามที่นายฉีดยาให้ฉัน” จางเจิ้งเฉียงรับเข็มฉีดยามา และฉีดเข้าไปในหน้าอกตัวเอง เย่ฉางนึกถึงอดีต เมื่อก่อนนั้นเขาเป็นคนที่ฉีดยาให้กับจางเจิ้งเฉียงมาโดยตลอด

ครู่ต่อมาใบหน้าของจางเจิ้งเฉียงซีดเซียว และเขาก็ล้มลงบนเตียงร้องขอความช่วยเหลือ “มันหนาวมาก … เพื่อน … ฉันหนาวเหลือเกิน … ฉันหายใจไม่ออก … ”

จากนั้นเย่ฉางวางมือบนหัวจางเจิ้งเฉียง และถ่ายพลังให้เขาเพื่อลดความเจ็บปวด ในท้ายที่สุดจางเจิ้งเฉียงก็หลับไปด้วยเหงื่อทั่วร่างกาย เย่ฉางจับใบหน้าของเขา ‘อาเฉียง แม้ว่ามันจะเจ็บปวดมาก แต่มันก็เป็นผลดีต่อตัวนายเอง หากนายแข็งแกร่งขึ้น นายก็จะสามารถปกป้องตนเองและคนที่นายรักได้ ’

เย่ฉางคลุมผ้าห่มให้เขา แล้วไปที่ห้องหลินหลี่ต่อ เมื่อเข้ามาเย่ฉางเห็นออร่าสีแดงปกคลุมทั่วร่างหลินหลี่ เย่ฉางพึมพำ “หลินเซ็น…”

ทันใดนั้นผมของหลินหลี่เปลี่ยนเป็นสีขาว และเขาก็ลืมตาขึ้นมา อย่างไรก็ตามดวงตาของเขากลับเป็นสีแดงเหมือนพลอยทับทิม และร่างกายของเขาเต็มไปด้วยออร่าที่ชั่วร้ายอย่างยิ่ง “เป็นนายนี่เอง…”

เย่ฉางนำน้ำยาออกมาโดยไม่ลังเล “ฉีดสิ่งนี้ให้กับเขา คุณน่าจะรู้ว่าสิ่งนี้คืออะไร? ในเมื่อคุณเป็นคนที่นำมันมาจากห้วงมิติ”

[หลินหลี่]จ้องมองน้ำยาสีฟ้า และใช้พลังจิตดูดมันเข้ามาหามือของเขา เขาตรวจดูน้ำยาอย่างระมัดระวัง “ชิ้นส่วนของภัยพิบัติครั้งใหญ่! เดี๋ยวก่อน! ปกติแล้วสิ่งนี้มันไม่บริสุทธิ์นี่!! อ่า! มันถูกกรองแล้ว? มันยังกรองพลังงานด้านลบของมนุษยออกไปอีกด้วย! นี่ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะสามารถทำได้ นายเป็นคนทำมันหรอ?…”

“มันไม่ใช่ธุระอะไรของคุณ…” เย่ฉางขัดจังหวะเขา

“ฉันจะใช้มันให้ดีที่สุด เจ้าหนู…” ดวงตาสีแดงของ[หลินหลี่]เปล่งประกาย จากนั้นเย่ฉางจากไปโดยไม่พูดอะไรเลย

“เจ้าเด็กหลินหลี่คนนี้โชคดีจริงๆที่มีพี่ชายอย่างเขา แน่นอนเขาเป็นทายาทตัวน้อย แต่ผมขาวกับฉันมีกลิ่นอายที่เหมือนกัน … ” จากนั้นเขาก็ฉีดยาเข้าไปในหน้าอกตัวเอง และออร่าสีแดงเลือดก็กลายเป็นรังไหมครอบคลุมร่างกายของเขา

สำหรับ SpyingBlade, ฟางชิ และเย่เทียนนั้น ​​เย่ฉางไม่ได้วางแผนที่จะให้พวกเขาใช้น้ำยานี้ เพราะเขายังไม่มีน้ำยามากพอ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือร่างกายของพวกเขาไม่สามารถรับมือกับพลังของมันได้ในตอนนี้

เย่ฉางยืนอยู่บนแนวปะการังและมองไปที่ท้องทะเล ‘ช่างเป็นคืนที่สงบสุขยิ่งนัก ตอนนี้ฉันไม่มีเรื่องที่จะต้องทำแล้ว …’ จากนั้นเขาตัดสินใจที่จะไปเดินเล่นในเมือง

ในเมืองหลินไห่มีพื้นที่หลักอยู่สี่แห่งคือ – Day (เขตตะวันตก), Moon (เขตตะวันออกที่เย่ฉางอยู่), Stars (เขตเหนือ) และ Time (เขตใต้) พื้นที่ที่คึกคักที่สุดคือถนนซินล่าในเขตเหนือ และถนนพระอาทิตย์ตกในเขตตะวันตก ส่วนตลาดกลางคืนในเขตตะวันออกและเขตใต้นั้นไม่ได้คึกคักเหมือนอีกสองแห่ง แต่ก็ยังมีผู้คนพลุกพล่านพอสมควร แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว แต่เวลาทำงานของที่นี่ก็ดูเหมือนจะเพิ่งเริ่มต้น แสงนีออนจากบาร์, ซ่อง, แผงลอย และคาสิโนขนาดใหญ่ส่องสว่างไปทั่วทุกที่ มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการทำธุรกิจ

เย่ฉางคุ้นเคยกับพื้นที่ในถนนซินล่ามากพอสมควร ซึ่งมันเป็นอาณาเขตของเกมเมอร์ ในอดีตเมื่อเขาต้องการเงิน เขาจะมาที่นี่สองสามครั้งเพื่อขโมยเงินจากพวกหัวขโมยอีกที สำหรับถนนพระอาทิตย์ตกนั้นเขาไม่ค่อยได้ไปบ่อยนัก เขาสวมแว่นดำและขึ้นรถไฟลอยฟ้ามุ่งหน้าไปเขตตะวันตก

“ไง พ่อหนุ่มผมขาว คุณอยากเข้ามาสนุกกับพวกเราหน่อยไหม? วันนี้เรามีสาวน้องใหม่เอ๊าะๆมากมายเลยนะ…” ผู้หญิงคนหนึ่งดึงเย่ฉางและชักชวนเขา จากนั้นเธอก็พึมพำ “เรายังมีพวกกลายพันธุ์อีกด้วยนะ! สาวนกฮูกเอย สาวแมวเอย…”

การมีพวกกลายพันธุ์ในพื้นที่สีเทาเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่เย่ฉางไม่รู้ ซึ่งสายอาชีพนี้ได้รับการพัฒนาโดยมนุษย์ เพื่อตอบสนองความต้องการพิเศษบางอย่าง ที่จริงแล้วมันก็ไม่ได้กล่าวถูกไปเสียทั้งหมด เพราะส่วนใหญ่ของพวกการกลายพันธุ์ที่นี่ไม่ได้ถูกบังคับให้ดัดแปลงพันธุกรรม แต่พวกเขาคือผู้กลายพันธุ์สายเลือดบริสุทธิ์ ซึ่งมีความแตกต่างกับคนธรรมดาไม่มากนัก อย่างน้อยก็ไม่ใช่ก่อนที่พวกเขาจะกลายร่าง เพื่อความอยู่รอดและหาเลี้ยงครอบครัวแล้ว พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากเข้าร่วมสังคมมนุษย์เพื่อหารายได้ รัฐบาลกลางไม่ได้ควบคุมเรื่องนี้อย่างเข้มงวด เนื่องจากพวกกลายพันธุ์สายเลือดบริสุทธิ์เหล่านี้เป็นเป้าหมายของรัฐบาลกลาง โดยหวังว่าจะได้รับประโยชน์จากพวกเขา แม้แต่ในอเมริกาพวกกลายพันธุ์เหล่านี้ยังได้รับการเลี้ยงดูเพื่อใช้ต่อสู้กับองค์กรนิพพาน และต่อสู้กับประเทศอื่นๆเพื่อแย่งชิงทรัพยากรที่หายาก พวกกลายพันธุ์สายเลือดบริสุทธิ์มีอยู่ในประเทศจีนเป็นจำนวนมาก แต่ในอเมริกากลับมีไม่มากนัก เนื่องจากประเทศจีนมีศิลปะการต่อสู้มากมาย ทายาทของแต่ละตระกูลจึงมีความแข็งแกร่งอย่างมาก อีกทั้งยังมีองค์กรต่างๆอย่างเช่น กลุ่มมังกรในภาคเหนือ, สมาคมกลายพันธุ์ในภาคใต้, สามนิกายใหญ่ (นิกายประตูปีศาจ -ตระกูลเฉิน, นิกายดาบสวรรค์ – ตระกูลหลิน และนิกายร้อยดอกไม้-ตระกูลหยู่), สำนักดาบดับสูญ, สิบตระกูลใหญ่, ตระกูลอันดับสอง, 10 บทบัญญัติ, นิกายเซน, หอสังหาร และหุบเขาเมตตา

“ฟรีหรอ?” เย่ฉางยิ้ม

“ไอ้บ้า! ไสหัวไปไกลๆ! เสียเวลาฉันจริงๆเลย” หญิงสาวกลอกตาใส่ แต่ทันใดนั้นเธอก็เห็นผู้หญิงผมสั้นสวมเสื้อโค้ต เธอนั้นสูงและหล่อมาก

“หญิงอำมหิต…” หญิงสาวทักทายด้วยความเคารพ

ผู้หญิงที่ถูกเรียกว่าหญิงอำมหิตชำเลืองมองเธอและพยักหน้า จากนั้นเธอมองด้านหลังเย่ฉางที่กำลังเดินจากไป เพราะเขาดูผอมและดูอ่อนแอ ดังนั้นเมื่อตอนเธอเดินผ่านเย่ฉาง เธอจึงไม่ได้สนใจอะไรเขามากนัก

เย่ฉางไม่หันหลังกลับมามองเช่นกัน ด้วยเพราะเขาก็ไม่ได้สนใจเธอเช่นกัน ‘แม้ว่าเราจะเคยพบกันที่การประชุมใต้ดินของหลินไห่ แต่เธอก็จำฉันไม่ได้’

เมื่อเขากำลังจะจากไปไกล หญิงอำมหิตก็หยุดเขา “เดี๋ยวก่อน! คุณมาจากเขตตะวันออกใช่ไหม? คุณคือหนึ่งในจักรพรรดิสงครามคริสต์มาสที่ยิ่งใหญ่! นักเต้นสุภาพบุรุษปีศาจจากสามพี่น้อง และ…คุณคือลูกน้องของหมาป่าโหย(บอสเขตตะวันออก)”

เย่ฉางพูดไม่ออกไปชั่วครู่ ‘ฉันเคยเข้าร่วมการประชุมใต้ดินกับหมาป่าโหยเพียงแค่ครั้งเดียว เพราะเขารู้จักกับอาเฉียง แต่ฉันเคยไปที่นั่นครั้งเดียวเท่านั้นนะ ดูเหมือนว่าอาจเป็นเพราะลุงฟรอสเลอร์และคนอื่นๆที่กระจายข่าวเรื่องฉันผิดๆ’ เย่ฉางยังคงนิ่งเงียบ

หญิงอำมหิตตบไหล่เย่ฉาง และพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “คุณต้องตั้งใจเรียนให้มากขึ้น! อย่าออกไปเที่ยวกับคนใต้ดินเหล่านั้น คุณไม่ควรเสียอนาคตเพื่อที่จะมาเป็นนักเลง มันไม่มีอะไรให้น่าภูมิใจหรอก … ”

“โอ้ เข้าใจแล้ว” เย่ฉางตกตะลึง ‘จริงๆแล้วเธอแค่อยากบอกให้ฉันตั้งใจเรียน?!’ เขาเงยหน้าขึ้นมองผู้หญิงที่สูงกว่าเขา

“ฉันขอลายเซ็นคุณหน่อยได้ไหม? ฉันชอบเพลงวอลทซ์ที่แสนเศร้าของคุณจริงๆ ถ้าฉันไม่ได้เกิดในตระกูลเช่นนี้ ฉันก็หวังว่าจะ …” หญิงอำมหิตส่ายหัว แล้วขอลายเซ็นเย่ฉาง จากนั้นเธอก็บอกผู้หญิงคนนั้น “เขาเป็นแขกวีไอพีจากเขตตะวันออก ค่าใช้จ่ายทั้งหมดของเขาคืนนี้ให้ลงบัญชีฉันไว้”

เมื่อพูดเสร็จ เธอก็เอามือล้วงกระเป๋าเสื้อแล้วเดินจากไป เธอดูเท่ห์มาก!

เย่ฉางตกตะลึง แล้วพูดกับหญิงสาว “ตอนนี้ฟรีแล้วใช่มั้ย?”

“แน่นอน…”

ในขณะที่เย่ฉางเข้าไปดูการบริการของมนุษย์กลายพันธุ์ เขาได้เจอเพื่อนเก่าของเขา – เกมเมอร์ ‘เขามาทำอะไรที่นี่?’

ในเวลาเดียวกันเกมเมอร์ก็สังเกตเห็นเย่ฉาง และผู้หญิงคนที่พูดคุยกับเขาเช่นกัน เกมเมอร์สั่นสะท้าน “ทำไมคุณถึงมาที่นี่?”

“คุณคิดว่าไง?” เย่ฉางยิ้ม

“คุณมีรสนิยมชอบของแปลก” เกมเมอร์เหลือบมองผู้หญิงที่อยู่ข้างๆเย่ฉาง แล้วส่งเสียง “หึ”

“ …… ” เย่ฉางไม่ตอบ แต่กลับถามขึ้นมาแทน “แล้วคุณล่ะ?”

“ราชากัมปนาทกำลังจะตาย ฉันจึงมาที่นี่เพื่อเยี่ยมเยียนเพื่อนเก่าซะหน่อย” เกมเมอร์ยิ้มอย่างเย็นชา

‘ราชากัมปนาท’ เย่ฉางรู้ว่าเขาเป็นตำนานของโลกใต้ดินในเมืองหลินหลี่ ราชากัมปนาทไม่ใช่ชื่อคน แต่เป็นชื่อตำเหน่งของบอสในเขตตะวันตก บอสทุกคนในเขตตะวันตกล้วนได้รับการตั้งชื่อเช่นนี้ เขตตะวันตกเป็นสถานที่ที่สืบทอดอำนาจโดยตรง ประเพณีนี้สืบทอดกันมานานมาก แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้อำนาจของเกมเมอร์ในเขตเหนือมีมากกว่าเขตตะวันตกเสียอีก จึงทำให้เขตตะวันตกคอยจับตาดูเขตเหนืออย่างใกล้ชิด

“มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่เขากลับมาเฝ้าระวังฉันอีกครั้ง และลืมเขตตะวันออกไป…” เกมเมอร์จ้องที่เย่ฉาง ‘ตาแก่คนนั้นลืมศัตรูที่อันตรายที่สุดคนนี้ไปได้ยังไง!’

“ฉันไม่สนใจที่จะเข้าไปยุ่งเรื่องของพวกคุณ ว่าแต่เกมเมอร์ ฉันขออะไรบางอย่างหน่อยสิ” เย่ฉางยักไหล่

เกมเมอร์ขมวดคิ้ว เมื่อเขามองเย่ฉาง

“ฉันขอบัตรสมาชิกหลักสองใบในห้องเกมของคุณ” คำพูดของเย่ฉางจุดประกายความสนใจของเกมเมอร์ เขานิ่งเงียบไปชั่วครู่ และมอบบัตรสมาชิกระดับสูงให้แก่เย่ฉาง “คุณเป็นหนี้บุญคุณฉัน”

เย่ฉางยิ้มและพยักหน้า “แต่อย่าคิดที่จะเปิดห้องเกมของคุณในเขตตะวันออกเชียวล่ะ! มันเป็นไปไม่ได้”

“หึ ยังไงก็ไม่ได้จริงๆสินะ” เกมเมอร์จากไปทันทีหลังจากโดนเย่ฉางปฏิเสธ

เย่ฉางมองหลังเกมเมอร์และครุ่นคิด ‘ถ้าเขาไม่ใช่คนที่ดื้อรั้นในสิ่งเหล่านั้น เขาจะเป็นผู้สมัครที่ดีที่สุดที่จะมาแทนที่ฉันใน 10 บทบัญญัติเลยทีเดียว ความสามารถในการมองเห็นธาตุแท้ของคนอื่นนั้นเป็นสิ่งที่ดี มันทำให้เขาไม่สงสารคนอื่นง่ายๆ แต่มันก็ทำให้เขาเจอคนหน้าซื่อใจคดตั้งมากมาย ด้วยเหตุนี้เขาจึงเป็นพวกหัวรุนแรง จากความสงสารจึงกลายเป็นความเหี้ยมโหด’