เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 810
หลังผ่านไปไม่กี่วัน ที่สถาบันสอนวิชาบู๊

ล่างเขาอวิ๋นซาน ลู่ฝานถอนหายใจ “ในที่สุดก็กลับมาถึงแล้ว”

หานเฟิงที่อยู่ข้างๆ หัวเราะแล้วพูดว่า “ไม่รู้พวกศิษย์พี่ฉู่สิงกลับมาหรือยัง หรือพวกเราจะกลับมาเร็วสุด”

ทั้งสองคนเดินขึ้นไปบนเขา เจ้าดำโดดไปมาบนไหล่ทั้งสองคนไม่หยุด

หลิงเหยาไม่ได้เดินข้างทั้งสองคน เพราะกลับมาสถาบัน หลิงเหยาต้องกลับคณะสงบใจก่อน

ตอนนี้คนที่ตามหลังลู่ฝานคือศิษย์พี่หานเฟิง สิบสาม รวมไปถึงสุ่ยเชียนโหรว

ใช่แล้ว ผู้หญิงดื้อดึงคนนี้ตามพวกเขากลับมาสถาบันสอนวิชาบู๊

พูดขึ้นมาหลายวันมานี้สุ่ยเชียนโหรวก็ลำบากลำบนมาเยอะ

อันดับแรกคือเธอไม่มีเงินติดตัว

อาจเป็นเพราะนิสัยคุณหนูทำให้เป็นแบบนี้ เธอจึงไม่พกเหรียญทองติดตัว ขนาดบัตรผลึกหินยังไม่มีเลย

เธอคิดจะเอายาเม็ดจ่ายแทนเงิน แต่น่าเสียดาย คนทั่วไปในตลาด มีไม่กี่คนที่รู้จักยาเม็ด เห็นผมเผ้ายุ่งเหยิงกับเสื้อผ้ามอมแมมของเธอ ใครจะกล้าเชื่อเธอล่ะ ล้วนคิดว่าเธอเป็นบ้า

ดังนั้นตอนพวกลู่ฝานกินอะไรกันที่ตลาด เธอจึงทำได้เพียงมอง ตอนพวกลู่ฝานเข้าพักในโรงแรม เธอทำได้เพียงรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ข้างนอก

หลายครั้งที่หลิงเหยาจะช่วยเธอ แต่เธอก็ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย

ลู่ฝานคิดมาตลอดว่าความเย่อหยิ่งที่ไม่จำเป็นแบบนี้ เป็นท่าทางที่น่าเศร้ามาก มีแต่ทำให้คนรู้สึกว่าทั้งน่าสงสารทั้งเกลียด

แม้กระทั่งตอนสุดท้ายที่พวกเขาจะนั่งนกปิดฟ้ากลับมา คนของหอฝึกสัตว์มองออกว่ายาเม็ดของเธอคือของจริง แลกเงินให้เธอไม่น้อยเลย

ตอนนั้นลู่ฝานกับหานเฟิง เห็นว่าสุ่ยเชียนโหรวเกือบร้องไห้จริงๆ

น้ำตาคลอเบ้า แต่สุดท้ายเธอก็กลั้นมันเอาไว้

นี่เป็นผู้หญิงที่ดื้อดึงจริงๆ

ลู่ฝานวิจารณ์สุ่ยเชียนโหรวครั้งสุดท้ายในใจ

ศิษย์พี่หานเฟิงแค่ส่งเสียงหึออกมา แสดงความคิดเห็นที่เขามีต่อสุ่ยเชียนโหรว

คณะหนึ่งเดียว ภูเขาเงียบสงบ

เมื่อเห็นบ้านไม้ที่คุ้นตา ลู่ฝานถอนหายใจอย่างโล่งใจ “ที่นี่ก็ยังคงดี”

ศิษย์พี่หานเฟิงยิ้มแล้วพูดว่า “ใช่ ด้านนอกและที่นี่สงบ ศิษย์พี่ฉู่สิง ศิษย์พี่ฉู่เทียน ศิษย์พี่ใหญ่ พวกพี่อยู่ไหนกัน”

หานเฟิงตะโกนเสียงดัง

สุ่ยเชียนโหรวกับสิบสามมองที่นี่อย่างสงสัย ที่เหนือความคาดหมายลู่ฝานคือ สุ่ยเชียนโหรวไม่ได้แสดงความเห็นอะไรกับที่นี่ และไม่มีสีหน้าไม่พอใจด้วย

นี่ทำให้ลู่ฝานตกใจเล็กน้อย

เมื่อเสียงตะโกนของหานเฟิงดังขึ้น อาจารย์เต้ากวงเดินออกมาก่อน

เมื่อเห็นลู่ฝานกับหานเฟิง อาจารย์เต้ากวงพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้นดีใจ “พวกนายสองคนกลับมาเร็วมาก”

หานเฟิงหัวเราะแล้วพูดว่า “พวกศิษย์พี่ยังไม่กลับมาเหรอครับ ฮ่าๆ อาจารย์เต้ากวง ช่วงนี้เราใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานมาก”

อาจารย์เต้ากวงพูดว่า “ความสนุกสนานที่พวกนายพูด ฉันพอจินตนาการได้ ลู่ฝาน เรื่องในตระกูลนายจัดการเรียบร้อยแล้วเหรอ”

ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “จัดการเรียบร้อยแล้วครับ”

หานเฟิงพูดเสียงดังว่า “ไม่ใช่แค่จัดการแล้ว อาจารย์เต้ากวง พูดไปอาจารย์ก็ไม่เชื่อหรอก ศิษย์น้องลู่ฝานได้ป้ายผู้ตรวจการชั้นกลางแล้วนะ”

อาจารย์เต้ากวงพูดอย่างตกใจว่า “ใช่เหรอ ลู่ฝานนายได้ป้ายผู้ตรวจการชั้นกลางจริงเหรอ”

ลู่ฝานพยักหน้าเบาๆ แล้วเอาป้ายออกมา สีหน้าอาจารย์เต้ากวงปลาบปลื้ม เดินเข้ามารับป้ายเพื่อดูอย่างละเอียด

ดูพลางชมว่า “ลู่ฝาน นายเป็นคนที่สร้างปาฏิหาริย์เก่งจริงๆ ตอนนั้นฉันยังไม่ได้ป้ายนี้เลย”

ลู่ฝานพูดว่า “อาจารย์แค่ไม่ได้สนใจไปทำแค่นั้นเอง”

อาจารย์เต้ากวงคืนป้ายให้ลู่ฝานแล้วพูดว่า “นายไม่ต้องมาประจบฉัน ถ้าอี้ชิงรู้ว่านายผ่านการสอบผู้ตรวจการชั้นกลางแล้ว เขาต้องดีใจเหมือนกันแน่ๆ คณะหนึ่งเดียวของเรา มีคนมีชื่อเสียงสักที ต่อไปอย่างน้อยๆ นายต้องได้เป็นหัวหน้าเขต นี่เป็นตำแหน่งที่หลายคนไม่สามารถหามาได้ทั้งชีวิต”