บทที่ 314

หลังจากที่เย่เฉินกลับไปถึงบ้านและทำกับข้าวเสร็จ พ่อตาเซียวฉางควนที่ออกไปข้างนอกทั้งวันเป็นคนกลับมาถึงบ้านก่อน

หลังจากนั้นก็ตามด้วยเซียวชูหรันที่งานยุ่งมาทั้งวัน

หลังจากที่เซียวชูหรันกลับมาแล้ว ข้าวและกับข้าวทั้งหมดก็วางอยู่บนโต๊ะแล้ว ถึงได้เห็น หม่าหลันที่กลับมาอย่างรีบเร่ง

เมื่อเดินเข้ามาในบ้าน เริ่มอวดกับคนในบ้านว่า “วันนี้ฉันเล่นไพ่นกกระจอกได้มาเจ็ดพันกว่า!”

เซียวฉางควนกล่าวตามจิตใต้สำนึกว่า “โอ้ ภรรยาของผม ช่างเก่งกาจ วันหนึ่งได้เจ็ดพัน หนึ่งเดือนก็ได้สองแสนหนึ่งหมื่น! ”

เซียวชูหรันขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้และกล่าวว่า “แม่ หากแม่จะเล่นไพ่นกกระจอกเป็นครั้งคราว เพื่อเป็นการผ่อนคลายมันไม่เป็นปัญหา เล่นด้วยเงินเล็กน้อยฉันสามารถเข้าใจได้ แต่ถ้าชนะหรือแพ้วันละตั้งเจ็ดพัน แบบนี้มันเล่นใหญ่เกินไปใช่ไหม? ถ้าเกิดติดขึ้นมา มันมีความเสี่ยงมากน่ะ!”

หม่าหลันโบกมือ และกล่าวด้วยท่าทางเหยียดหยามว่า “อั้ยหยา แกไม่ต้องมาสั่งสอนแม่ แม่รู้อยู่แก่ใจ คนที่เล่นไพ่กับแม่เป็นมือใหม่ทั้งหมด ความสามารถห่างจากแม่มาก แม่หลับตาและเล่นไพ่กับพวกเขายังชนะได้! รู้หรือไม่ว่าแม่มีฉายาว่าอะไร? นกกระจอกเทพแห่งถนนไห่เหอ!”

เซียวชูหรันถอนหายใจอย่างจำใจ แล้วก็กดขมับ และไม่สนใจเธออีกต่อไป

ขณะที่ทานข้าว ทันใดนั้นเซียวชูหรันก็ได้รับข้อความทางวีแชท หลังจากเปิดดูแล้วถามเย่เฉินว่า “พรุ่งนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ คุณได้วางแผนอะไรไว้หรือเปล่า? ”

เย่เฉินตอบว่า “ผมจะวางแผนอะไรได้ล่ะ ซื้อผัก ทำอาหาร ซักผ้า และกวาดพื้น”

เซียวชูหรันกล่าวว่า “รั่งหลินได้บอกทางวีแชทกับฉันว่า เธอได้จองห้องแช่น้ำออนเซ็นในโรงแรมไว้หนึ่งห้อง ชวนพวกเราไปแช่น้ำออนเซ็น ถ้าหากคุณไม่ได้วางแผนอะไรเป็นพิเศษ ฉันจะตกลงไปกับเธอ”

เย่เฉินถามด้วยความประหลาดใจ “แช่น้ำออนเซ็น ให้ผมไปด้วย? ”

เซียวชูหรันพยักหน้า “เพื่อเป็นการเชิญพวกเราสองคนไปด้วย ห้องที่เธอจองไว้เป็นห้องชุด เราสองคนแช่ห้องหนึ่ง เธอเองจะแช่อีกห้อง เธอบอกว่าเธอมาอยู่ที่นี่ก็นานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสตอบแทนเราสองคนเลย”

หม่าหลันที่อยู่ข้าง ๆ รีบกล่าวขึ้นว่า “ชูหรัน แกไปแช่น้ำออนเซ็นกับรั่งหลิน จะให้เย่เฉินไปทำไมกัน? ไม่ให้เขาไป! ให้เขาอยู่บ้านทำงานบ้าน!”

เซียวชูหรันกล่าวว่า “แม่ รั่งหลินเธอได้เชิญเขาแล้ว! ถ้าหากจะไปก็ต้องไปด้วยกัน!”

หม่าหลันนจ้องมองเย่เฉินและกล่าวว่า “มันจะได้ยังไง? ถึงเวลาเราสองคนต้องนอนห้องเดียวกัน ถ้าเขาทำอะไรแก? แกก็จะไม่เสียเปรียบแย่เหรอ? ”

เย่เฉินถึงได้เข้าใจว่า ที่แท้แม่ยายของตนเอง กังวลเรื่องนี้นี่เอง………

เซียวชูหรันรู้สึกปวดหัวกับคำพูดของหม่าหลัน และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ห้วน ๆ ว่า “แม่ ฉันกับเย่เฉินเป็นสามีภรรยากัน เรื่องของเราสองคน เราจัดการเองได้ แม่ไม่จำเป็นต้องกังวล”

แต่หม่าหลันกังวล เธอโยนตะเกียบ กล่าวอย่างโกรธ ๆ ว่า “อะไรนะ? ฉันที่เป็นแม่ ไม่สามารถยุ่งเรื่องของลูกได้เหรอ? !”

เซียวชูหรันชักสีหน้าไม่ดี และกล่าวด้วยน้ำเสียงโมโหว่า “เรื่องที่ควรยุ่งก็ยุ่งได้ แต่เรื่องที่ไม่ควรยุ่งก็ไม่ควรจะเข้ามายุ่งเช่นกัน!”

หม่าหลันตบโต๊ะและกล่าวว่า “คนที่เป็นแม่มันไม่มีเรื่องอะไรที่ไม่ควรยุ่ง! เรื่องของลูกแม่ยุ่งได้ทุกเรื่อง! ”

เซียวชูหรันถูกกระตุ้นจึงพูดโพล่งออกมาด้วยความโมโหว่า “เรื่องนี้แม่ไม่ต้องมายุ่ง ฉันบอกแล้ว ยังไงเย่เฉินก็ต้องไป ใครก็มาขัดขวางไม่ได้ ถ้าหากแม่ขัดขวาง ฉันก็จะย้ายออกจากบ้านนี้!”

“แก………” หม่าหลันนตกใจ

หากเซียวชูหรันบอกว่าจะย้ายออกจากบ้าน นี้ก็คือจุดอ่อนของหม่าหลัน

หม่าหลันนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดด้วยความโกรธว่า “ได้ ๆ ๆ ฉันไม่ยุ่งแล้ว พวกแกไปเถอะ ทางที่ดีต้องรู้จักควบคุมตนเองด้วย ไม่เช่นนั้นลูกจะเสียใจในอนาคต! ”

เมื่อพูดจบ เธอกลอกลูกตา แล้วยิ้มกริ่มมองไปที่เย่เฉินแล้วกล่าวว่า “ลูกเขยที่แสนดี พรุ่งนี้นายอย่าไปดีกว่า ไปเล่นไพ่นกกระจอกเป็นเพื่อนแม่ดีไหม? แม่ไม่ให้นายไปเปล่า จะให้ค่าเงินค่าขนมสองพัน! ”

หม่าหลันคิดรอบคอบมาก เมื่อพูดกล่อมเซียวชูหรันไม่ได้ ก็พูดกล่อมเย่เฉินแทน หากพูดกล่อมจนเย่เฉินไม่ไปแล้ว เซียวชูหรันก็โทษจนตนเองไม่ได้?

แต่ว่า ตอนนี้เย่เฉินยิ้มบาง ๆ แล้วกล่าวว่า “แม่ ผมเล่นไพ่นกกระจอกไม่เป็น ผมไปแช่น้ำออนเซ็นกับชูหรันดีกว่า! ”