บทที่ 887 บังเอิญ

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 887 บังเอิญ

“เมื่อกี้ผมก็พูดแล้ว ผมคนนี้ไม่มีการศึกษาอะไรแต่ตั้งแต่เด็กก็มีความสนใจต่อวิชาลับฮวงจุ้ยมากเล็กน้อย ”

“ต่อมาเป็นพนักงานดูแลรักษาป่าไม้แล้ว ทุก ๆ วันมีเวลาไปทำอย่างอื่นตอนที่ผมเดินเล่นอยู่ในป่าเขาก็เอาตามรูปแบบฮวงจุ้ยเหล่านั้นในหนังสือที่พูดไปยืนยันสถานที่ที่เห็น”

“ผมก็ค่อย ๆ พบว่าเอาตามรูปแบบในหนังสือที่พูดมาชนิดนั้น ใต้เท้าของผมน่าจะเป็นสุสานหลังใหญ่หนึ่งนะ”

“ผมเอาความคิดอันนี้บอกเพื่อนสองสามคนที่ลาดตระเวนดูแลป่าด้วยกันกับผม พวกเขาต่างก็หัวเราะเยาะผมพูดว่าผมบ้าไปแล้ว”

“ผมไม่อยากถูกหัวเราะเยาะครั้นแล้วต่อมาก็ไม่พูดเรื่องเหล่านี้กับคนอื่นอีก แต่ผมลาดตระเวนเขาทุกวันมองเห็นดินที่ใต้เท้าภูเขาที่อยู่ไกล ๆ น้ำที่ด้านล่าง ผมก็ยิ่งเชื่อมั่นอย่างสนิทใจคิดว่านั่นก็คือสุสานใหญ่หลังหนึ่ง”

“ไม่แน่ว่ายังคงเป็นสุสานจักรพรรดิ”

“ช่วงเวลานั้นผมก็เหมือนสูญเสียสติแล้ว มุดเข้าในเขาอย่างไม่คำนึงถึงกลางวันและกลางคืน”

“มีคืนหนึ่งจู่ ๆ ฝนตกหนักขึ้นมาแล้ว ภายใต้ความร้อนรนผมหลงทางแล้วพนักงานดูแลรักษาป่าที่มีประสบการณ์ต่างก็รู้อากาศฝนตกหนักชนิดนั้น มุดเข้าในป่าเขามั่ว ๆ ก็คือหาที่ตาย”

“เพราะมีความเป็นไปได้มากจะเกิดดินโคลนถล่มหรือดินถล่ม แม้ว่าจะไม่มีสิ่งเหล่านี้ฝนตกหนักเอาดินรดจนอ่อนนุ่มพอไม่ระวังก็มีความเป็นไปได้ที่จะตกลงในหลุม”

“เอาตามประสบการณ์ ผมน่าจะหาสถานที่ที่สูงแห่งหนึ่งรอฝนหยุดแล้วค่อยไป”

“แต่ว่า”

พูดถึงที่นี่ผู้เฒ่าหลิวเปลี่ยนเป็นท่าทางโกรธขึ้นมา

“ผมรับปากบรรพบุรุษเล็กคนนั้นแล้ว วันนั้นจะต้องส่งเงินให้เขาแน่นอน”

“ถ้าหากส่งไปไม่ได้ สารเลวคนนั้นไม่รู้จริง ๆ ว่าจะสามารถทำเรื่องที่ทำให้บรรพบุรุษขายหน้าอะไรออกมา!”

ไป๋หลิงอดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วเสียงหนึ่ง พูด“คุณก็บรรพบุรุษเล็กอีก เป็นสารเลวอีกสรุปแล้วเขาเป็นใคร?”

เป็นลูกชายของคุณเหรอ?”

ผู้เฒ่าหลิวถอนหายใจแล้วเฮือกหนี่ง พูด“เขามีชื่อว่าหลิวเสี่ยวเป่า แม่ของเขาตายนานแล้วพวกเราสองคนพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ผมมักจะรู้สึกว่าทำผิดกับเขาดังนั้นรักมากเกินไปคิดไม่ถึงกลับทำร้ายเขาแล้ว!”

ฉินเทียนพูดเสียงต่ำ“เมื่อกี้คุณพูดเชิญอาจารย์ใหญ่มาจัดวางฮวงจุ้ย หวังว่าลูกชายที่อกตัญญูจะสามารถกลับตัวได้ก็คือหมายถึงลูกชายของคุณ?”

ผู้เฒ่าหลิวพยักหน้าแล้วพูดต่อไปอีก

“วันนั้นที่จริงไม่ควรให้ผมอยู่เวร ผมยืมเงินกับเพื่อนร่วมงานสองสามคนแล้วเตรียมส่งให้หลิวเสี่ยวเป่าแต่เช้าแล้วแต่ผมจู่ ๆ รู้สึกหงุดหงิดรู้สึกว่าเลี้ยงลูกชายที่ไม่เอาไหนคนหนึ่งอย่างนี้ ดูดผมจนแห้งกลับก็ไม่เป็นไรที่สำคัญคือทำผิดต่อแม่เขา”

“ถึงยังไงเวลายังเช้าครั้นแล้วผมก็เข้าในเขา อยากที่จะระบายอารมณ์”

“ใครจะรู้เดินไปเดินมาลืมเวลาแล้ว……”

“ฝนตกหนักเตือนผมแล้ว ผมเอาตามทางในความทรงจำวิ่งออกข้างนอกอย่างต่อเนื่องสักพักใครจะรู้น้ำฝนตกหนักแล้ว ยังคงหลงทางแล้ว……”

ไป๋หลิงพูดเสียงต่ำ“ในรายงานข่าวพูดว่ามีพนักงานดูแลรักษาป่าคนหนึ่งไม่ระวังเหยียบเคว้งตกลงในหลุมดินอันหนึ่งแล้ว ก็คือทางสุสาน”

“พนักงานดูแลรักษาป่าคนนั้น ที่พูดถึงก็คือคุณใช่ไหม?”

“คือผม”ผู้เฒ่าหลิวฝืนยิ้มพูด“เพราะผมรายงานได้ทันเวลามีความดีความชอบ ยังถูกได้รับรางวัลเป็นรางวัลพลเมืองดีแล้วอีกทั้งเงินแปดร้อย”

“นอกจากนี้พิพิธภัณฑ์ฮุนโหวนั่นพวกคุณต่างก็มองเห็นแล้วใช่ไหม?เก็บเงินกับคนอื่น ผมสามารถเพลิดเพลินกับตั๋วเข้าชมฟรีตลอดชีวิต”

ฉินเทียนพยักหน้าพูด“คุณเอาเหตุการณ์ที่ผ่านมาพูดให้ละเอียดอีกสักหน่อย คุณตกเข้าไปได้ยังไง?”

“หลังตกเข้าไปล่ะ?”

“หลังตกเข้าไป”ย้อนกลับไปคิดถึงฉากที่ตกใจของคืนนั้น ในดวงตาของผู้เฒ่าหลิวก็ปรากฏความหวาดกลัวขึ้นมาอีกครั้งแล้ว

เสียงของเขาต่างก็เปลี่ยนแล้วเล็กน้อย

“ผมคิดไม่ถึงถ้ำนั่นจะลึกอย่างนั้น ผมกับน้ำฝนและน้ำโคลนลื่นกลิ้งไปตลอดทางสุดท้ายชนเข้ากับหินใหญ่หนึ่ง ถึงถือว่าหยุดลงมาแล้ว”

“ผมถูกชนจนเวียนหัวตาลายดาวขึ้นหัว นานมากถึงได้มีปฏิกิริยามาผมใช้ไฟฉายส่องดูสภาพแวดล้อมรอบ ๆ พบว่านั่นคือถ้ำหินอันหนึ่ง”

“อีกทั้งบนหินยังสลักบุคคลต่าง ๆ ไว้ก็มีสัตว์ด้วย”

“เวลานั้นผมก็รู้นั่นคือทางสุสาน!”

“และหินเขียวใหญ่ก้อนนั้นที่ขวางผมก็เป็นเชื่อมผ่านประตูของหลุมฝังศพ”

“ผมใช้แรงผลักแล้วเดิมทีก็ไม่มีการตอบสนอง เวลานั้นผมทั้งกลัวทั้งตื่นเต้น”

“มือถือก็ไม่มีสัญญาณนานแล้ว อาศัยผมร้องตระโกนจนคอแตกก็ไม่มีคนมาช่วยผมเวลานั้นผมคิดผมต้องตายอยู่ที่นั่นแล้ว”

ไป๋หลิงยังคงเป็นนิสัยความคิดของสาวน้อย หล่อนเหมือนฟังนิทานโลกมนุษย์ที่น่าสนใจอันหนึ่ง อดไม่ได้พูด“ต่อมาล่ะ?”

“คุณออกมาได้ยังไงแล้ว?”

“ใครช่วยคุณ?”

ผู้เฒ่าหลิวฝืนยิ้มพูด“พูดขึ้นมายังต้องขอบคุณลูกอกตัญญูคนนั้นของผม เป็นเขาที่หาหลุมฝังศพเจอและช่วยผม”

“เพียงแต่พวกคุณอย่าคิดว่าเขาเป็นห่วงผมถึงได้ฝ่าสายฝนเข้าไปในภูเขาเพื่อค้นหา เขาคือถึงเวลาแล้วไม่ได้รับเงินเข้าในเขาหาพ่อเพื่อแก้แค้น”

“จากนั้นล่ะ?พวกคุณก็รายงานเจ้าหน้าที่แล้ว?” ฉินเทียนอดไม่ได้ที่จะถาม

ผู้เฒ่าหลิวพยักหน้าพูด“ถึงแม้ผมรู้นั่นเป็นสุสานใหญ่ ต้องมีของล้ำค่ามากมายแน่นอนแต่ผมเป็นพลเมืองดีจะไม่ทำเรื่องที่ลักขโมยชนิดนั้น”

“พูดขึ้นมาผมรู้สึกว่าลูกชายนั่นของผมยังมีทางช่วยเหลือ เขาเอาผมส่งกลับบ้านรับภาระหน้าที่ของภาระกิจการติดต่อขึ้นมาแล้วด้วยตัวเองอัตโนมัติ”

“เพราะผมล้มบาดเจ็บแล้ว นอนบนเตียงมาตลอดหนึ่งเดือนระหว่างนี้ต่างก็เป็นเขาที่เป็นธุระ”

“เด็กนั่นยังไม่เลว ผ่านความขยันความพยายามไปหนึ่งเดือนในที่สุดทำให้ยอมรับอย่างเป็นทางการ ให้สุสานฮุนโหวมองเห็นดวงอาทิตย์อีกครั้ง”

พูดอยู่เขาถอนหายใจอย่างโล่งอกเฮือกหนึ่งแล้ว พูดอย่างได้ใจเล็กน้อย“ผมคนนี้ไม่มีความสามารถอะไร คิดไม่ถึงบังเอิญให้ผมเจอกับของใหญ่อย่างนี้อันหนึ่งแล้ว”

“ตาแก่อย่างผมถึงแม้ตายแล้วก็ไม่เสียดายแล้ว!”

ฉินเทียน“ยังมีอีกไหม?”

“นี่ก็ไม่มีแล้ว?”

ผู้เฒ่าหลิวพูดอย่างตกใจ“ไม่มีแล้ว พวกคุณยังอยากฟังอะไร?”

“อ่อใช่แล้ว ให้พวกคุณดูของสิ่งหนึ่ง”

เขาลุกขึ้นควักเอากระเป๋าผ้าใบเล็กอันหนึ่งออกมาจากใต้เตียงอย่างระมัดระวังแล้ว เปิดออกแต่ละชั้นข้างในเป็นเหรีญทองแดงเล็กอันหนึ่ง

“ดูหน่อยนี่ก็คือของที่อยู่ข้างในสุสานฮุนโหว อธิบายก่อนผมไม่ใช่ลักขโมยนะ เป็นพนักงานข้าราชการตั้งใจส่งให้ผมเพื่อเป็นการชมเชย”

“ยังมีหนังสือรับรองการเก็บสะสม”

ฉินเทียนพยักหน้าแล้ว เขามองไปรอบ ๆ พูด“คุณที่นี่ดูขึ้นมาแล้วเรียบง่ายและดูหยาบกระด้างมาก ปกติต่างก็อยู่คนเดียวเหรอ ”

“ใช่แล้ว ลูกชายหลิวเสี่ยวเป่าของคุณล่ะ?”

พูดถึง“ลูกชาย”ผู้เฒ่าหลิวกัดฟันด้วยความโกรธอีกครั้ง

“เดรัจฉานคนนี้!”

“เดิมทีผมคิดว่าเขาจะรู้ความดีความชั่วที่ปรากฏขึ้นอีกครั้งอย่างถูกต้อง ใครจะรู้ยังคงเป็นระดับความสามารถต่ำ!”

“ผมเอาเขาไล่ออกไปแล้ว ตัดขาดความสัมพันธ์ของพ่อลูกกับเขาแล้ว!”

“ไม่งั้นแล้วเงินบำนาญชราภาพก็จะถูกเขาขโมยไปแพ้ไม่เหลือไม่ช้าก็เร็วแล้ว!”

ฉินเทียนย่นคิ้วพูด“คุณหมายถึงหลิวเสี่ยวเป่าชอบเล่นพนัน?”

ผู้เฒ่าหลิวพยักหน้าแล้ว

ฉินเทียน“ขอบคุณที่คุณพูดความจริงอย่างตรงไปตรงมา ในฐานะของการตอบแทนพวกเราสามารถช่วยคุณไปหาหลิวเสี่ยวเป่าช่วยคุณพูดโน้มน้าวเขา”

“คุณก็มองออกแล้วสหายของผมคนนี้เป็นอาจารรย์ใหญ่ฮวงจุ้ย มีเขามาอธิบายหรือวิธีการทำเพื่อหลิวเสี่ยวเป่า ไม่แน่ว่าสามารถไปกำจัดการติดพนันของเขาได้”

“จริงเหรอ?”

“งั้นก็ดีมากแล้วจริง ๆ !”

ผู้เฒ่าหลิวตื่นเต้นมาก เขาคิดแล้วเล็กน้อยค้นหาใบหนึ่งจากในลิ้นชัก ข้างบนเขียนหู่จิงอยู่อีกทั้งเบอร์โทรศัพท์

“พี่ใหญ่หู่จิงคนนี้ช่วงก่อนหน้านี้พาคนมาทวงหนี้ ทิ้งเบอร์โทรศัพท์อันนี้ไว้ให้ผมแล้ว”

“ให้เวลาผมภายในหนึ่งเดือนหาเงินมาให้ครบหนึ่งล้าน โทรเบอร์นี้”

“พวกคุณก็มองเห็นแล้ว เอาผมขายแล้วก็มีมูลค่าไม่ถึงหนึ่งล้าน”

“หลิวเสี่ยวเป่าผมคือติดต่อไม่ได้นานแล้ว”

“อาจารย์ใหญ่สองสามท่าน พวกคุณดูสามารถช่วยผมหาผ่านพี่ใหญ่หู่จิงคนนี้ได้ไหม?”