ตอนที่ 900

Alchemy Emperor of the Divine Dao

วันแรกที่เข้าร่วมกับสำนักนภาสีชาด เขาก็ถูกเจ้าแมวอ้วนยั่วยุเสียแล้ว

หลิงฮันถอนหายใจ นี่ไม่ใช่การเริ่มต้นที่ดีเลย!

หลังจากพักผ่อนเต็มที่หนึ่งคืน ในวันถัดมาเขาก็ไปที่ห้องเรียน วันนี้อาจารย์ของสำนักจะมาอธิบายเคล็ดลับหลายๆอย่างของระดับพลังบ่มเพาะทลายมิติ หลิงฮันพอจะสนใจบทเรียนนี้อยู่บ้างและก็อยากจะหาโอกาสพูดคุยกับหลี่เหว่ยเหว่ยเรื่องที่จะทำธุระกิจด้วย

เขาไม่ได้มาสายหรือช้าเกินไป เมื่อเขามาถึงในห้องเรียนมีเพียงที่นั่งหนึ่งในสามที่มีคนนั่งอยู่แล้ว

ห้องเรียนนั้นกว้างพอจะให้คนห้าร้อยคนเข้ามานั่งพร้อมกัน ซึ่งครั้งนี้ศิษย์ที่ผ่านการทดสอบก็อยู่ในช่วงห้าร้อยคนพอดี ดังนั้นห้องเรียนแห่งนี้จึงรองรับศิษย์ใหม่ได้พอดี

“ศิษย์พี่หลิง!”

“พี่ชายหลิง!”

“หลิงฮัน!”

เมื่อเห็นหลิงฮัน ศิษย์หลายคนทักทายเขาด้วยความตื่นเต้น มีเพียงศิษย์ที่พอมีพรสวรรค์ไม่กี่คนที่ยังคงนั่งเงียบและมองหลิงฮันด้วยสายตาดูถูก

เหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นก็ไม่แปลก อัจฉริยะสี่ดาวเช่นหลิงฮันในจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะจะมีกี่คนเชียว?

ที่สำคัญคือด้วยการทดสอบของหอคอยดาราขาว ในอนาคตหลิงฮันจะต้องไต่เต้ากลายเป็นจอมยุทธระดับสูงได้แน่นอน

บางทีอีกหนึ่งล้านปีข้างหน้า เขาอาจจะเป็นถึงจอมยุทธระกับดารา

เพียงแต่ว่าระยะเวลาหนึ่งล้านปีมันยาวนานเกินไป บางทีโชคชะตาอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงและหลิงฮันอาจจะร่วงหล่นก็ได้

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมศิษย์บางคนถึงยังนิ่งเฉย เพราะจะอย่างไรหลิงฮันก็แค่แสดงศักยะภาพอันโดดเด่นออกมาเท่านั้น พวกเขายังไม่เคยเห็นความสามารถในการต่อสู้ของหลิงฮัน… แต่หากพวกเขาเห็นการต่อสู้ของหลิงฮันกับฉือเหลินแล้วล่ะก็ คนเหล่านี้จะต้องเปลี่ยนความคิดในหัวแน่นอน

หลิงฮันยิ้มและพยักหน้าให้ทุกคน

ใครที่เคารพเขา เขาก็จะเคารพกลับ แต่ถ้าใครมาล่วงเกินเขา เขาก็จะไม่ยอมอยู่เฉยเช่นกัน

“เหอะ ช่างน่ารังเกียจนัก!” พี่น้องตระกูลหลัวเองก็อยู่ที่นี่ แน่นอนว่าพวกเขาไม่พอใจในตัวหลิงฮันมาก พวกเขามองหลิงฮันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

ใครกันจะไปคิดว่ามดปลวกจากโลกใบเล็กจะได้อันดับหนึ่งของการทดสอบ?

“ฮ่าๆๆ!” หลัวป้าหัวเราะเสียงดังเพื่อเรียกร้องความสนใจ

“ศิษย์พี่หลัว ท่านหัวเราะอะไรรึ?” ศิษย์คนหนึ่งเอ่ยถาม

ถึงแม้ตระกูลหลัวจะไม่ได้เป็นตระกูลแนวหน้าของเมืองจักรพรรดิ แต่หลัวป้าก็แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ดังนั้นศิษย์หลายคนจึงไม่กล้ามีปัญหากับเขา

“เจ้าไม่รู้งั้นรึ ศิษย์พี่หลิง พี่ชายหลิง หลิงฮันที่พวกเจ้าชื่นชมน่ะเพิ่งจะมาจากโลกใบเล็กเมื่อสิบวันก่อน!” หลัวป้ากล่าว

“อะไรกัน!”

ทุกคนอุทาน มดปลวกจาดโลกใบเล็กน่ะรึ?

ศิษย์มากมายมีท่าทีรังเกียจทันที พวกเขามีพรสวรรค์ด้อยกว่ามดปลวกเช่นนี้งั้นรึ? แต่ก็ยังมีศิษย์บางคนที่มีท่าทีเลื่อมใสชื่นชม การที่คนจากโลกใบเล็กจะมีศักยภาพที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

“หลิงฮัน!” หลัวป้าแสยะยิ้ม เขาเดินออกมาและกล่าว “ลืมที่ข้าพูดไปเมื่อวานแล้วรึ? เจ้ากล้าสู้กับข้าหรือไม่?”

“สู้? เจ้าคิดว่าเจ้ามีคุณสมบัติพอจะสู้กับข้า?” ถึงแม้หลิงฮันจะไม่ใช่คนหยิ่งยโส แต่เขาก็ไม่คิดจะไว้หน้าคนเช่นหลัวป้า

หลัวป้าโกรธจนแทบจะกระทืบพื้น เขาที่เป็นหนึ่งในสามอัจฉริยะของเมืองจักรพรรดิยังไม่มีคุณสมบัติจะสู้กับหลิงฮันงั้นรึ? เขาพยายามข่มความโกรธเอาไว้และกล่าว “ข้าต้องการสู้กับเจ้า!”

“ก็ได้ แต่เจ้าต้องจ่ายค่าธรรมเนียมก่อน ไม่เช่นนั้นก็ไม่ต้องคุยกัน!” หลิงฮันกล่าว “ค่าธรรมเนียมก็ไม่มากอันใด แค่ผลึกก่อเกิดสิบก้อนเท่านั้น แต่หากข้าชนะ เจ้าต้องจ่ายเพิ่มอีกร้อยก้อน”

หลิงฮันคิดอยากจะตอบตกลงทันที แต่เขาก็ชะงักชั่วขณะ ถึงแม้เขาจะเป็นผู้นำรุ่นเยาว์ของตระกูลหลัว แต่การจะนำผลึกก่อเกิดสิบก้อนออกมาใช้จ่ายก็ยังเป็นเรื่องที่ยากเย็น

ยิ่งถ้าหากเขาแพ้ล่ะก็ ผลึกก่อเกิดร้อยก้อนนั้นย่อมเกินกว่าที่เขาจะรับผิดชอบได้

หลิงฮันนั้นมีพรสวรรค์ที่ราวกับสัตว์ประหลาด เขาต้องคิดเผื่อเอาไว้ถึงโอกาสที่ตนเองจะเป็นฝ่ายแพ้ด้วย

หากไม่มีค่าใช้จ่าย ถึงแม้เขาจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้หลิงฮันก็ไม่มีใครหัวเราะเยาะเขา เพราะหลิงฮันนั้นมีอันดับการทดสอบที่สูงกว่า แต่ถ้าเขาชนะ เขาก็จะเป็นฝ่ายได้เหยียบย่ำรัศมีอันดับหนึ่งของหลิงฮัน

“นี่เจ้าคิดจะเลี่ยงการต่อสู้ด้วยวิธีนี้รึ?” หลัวป้าไม่คิดจะยอมแพ้เรื่องท้าสู้

หลิงฮันโบกมือและกล่าว “งั้นก็ไม่ต้องพูดกันอีก คิดจะท้าสู้แต่ไม่ยอมรับข้อตกลงของข้า เจ้าคิดว่าข้ามีเวลาว่างเหมือนกับเจ้ารึไง?”

หลัวป้ากัดฟันด้วยความแค้น เขาเกือบจะระเบิดความโกรธออกมาแต่ก็ต้องระงับเอาไว้

“ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ!” ในตอนนั้นเองพวกเขาก็เห็นสตรีที่งดงามสองคนเดนเข้ามาที่ประตูห้อง หนึ่งคนสวมชุดสีเขียวน่าดึงดูด ส่วนอีกคนสวมชุดสีขาวราวกับเทพธิดา

พวกนางคือหลี่เหว่ยเหว่ยและจื่อหยุนเอ๋อ สองในสามสตรีที่งดงามที่สุดของเมืองจักรพรรดิ

“หลิงฮัน เจ้าพูดได้ดี!” หลี่เหว่ยเหว่ยกล่าวสนับสนุนหลิงฮัน “สมกับที่เป็นคนของคุณหนูผู้นี้! อะ…” นางหยุดชะงักเมื่อพบว่านางพูดอะไรแปลกๆออกไปและรีบพูดแก้ “ไม่ใช่ ไม่ใช่ สมกับที่เป็นคนของผู้อาวุโสฝ่ายซ้าย แต่เพราะเช่นนั้นเจ้าก็ถือเป็นคนของข้าเช่นกัน ถ้าใครคิดจะรังแกเจ้า ต้องผ่านคุณหนูผู้นี้ไปซะก่อน!”

ถึงแม้ที่นี่จะเป็นสำนักนภาสีชาด แต่ในหมู่ศิษย์ใหม่ปีนี้ ใครกันจะมีสถานะเหนือกว่าบุตรสาวของผู้อาวุโสฝ่ายซ้าย?

หลิงฮันจ้องไปยังหลี่เหว่ยเหว่ยด้วยรอยยิ้ม “ทำไมจู่ๆเจ้าถึงทำดีกับข้ากัน ข้าชักรู้สึกแปลกๆแล้วสิ”

“เหอะ ข้าก็ยังเกลียดเจ้าอยู่เหมือนเดิมนั่นแหละ แต่ในเมื่อเจ้าเป็นคนของข้า ข้าจะยอมให้ใครมารังแกได้อย่างไร? ถ้ามีคนรังแกเจ้าไม่ใช่ว่านั่นเป็นการไม่ไว้หน้าข้าหรอกรึ?” หลี่เหว่ยเหว่ยกล่าวอย่างภาคภูมิใจ คอของนางเชิดขึ้นราวกับหงส์

หลิงฮันหัวเราะและไม่เก็บคำพูดนางมาใส่ใจ “ไว้เจ้ารอข้าด้วยล่ะ ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า”

“เจ้าโง่ตัวเหม็น เจ้าคงไม่ได้คิดอะไรกับคุณหนูผู้นี้หรอกนะ?” หลี่เหว่ยเหว่ยมีท่าทีตื่นตัว “อยากจะเป็นหนูตกถังข้าวสารรึ? หากเจ้าคิดไม่ซื่อกับข้าคนนี้ล่ะก็ ฝันไปเถอะ!”

หลิงฮันอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก สมองของสตรีผู้นี้จะคิดลึกเกินไปแล้ว ปกติในแต่ละวันนางคิดอะไรอยู่ในหัวบ้างกันแน่?