ตอนที่ 766 จุดจบของเฮ่อหลานชาง
วินาทีต่อมาเฮ่อปินก็บีบคอเขา ดวงตาของเขาลุกไหม้ไปด้วยเจตนาชั่วร้าย
“แกทำอะไรน่ะ!” เฮ่อหลานชางพยายามที่จะดึงแขนของเขาออกแต่แรงของเขาไม่สามารถสู้กับชายหนุ่มในวัยฉกรรจ์ได้ เฮ่อปินโยนปืนของเขาทิ้งไปแล้วหยิบขวดยาออกมาจากกระเป๋ากางเกง จากนั้นเขาก็กรอกมันเข้าไปในปากของเฮ่อหลานชาง
ยาน้ำไหลลงไปในลำคอของเฮ่อหลานชางอย่างง่ายดาย ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เขาก็มั่นใจว่ามันไม่ใช่อะไรที่ดี เฮ่อหลานชางดิ้นรนด้วยแรงทั้งหมดที่มี เขาพยายามสำรอกยาออกมาแต่เฮ่อปินปิดปากเขาเพื่อบังคับให้ยาไหลลงไปในลำคอของเขา
เมื่อแน่ใจแล้วว่ายาไหลลงไปถึงท้องของเฮ่อหลานชางเรียบร้อย เฮ่อปินก็โยนบิดาของเขาไปที่โซฟาด้วยเสียงดังตุ้บเบาๆ
เฮ่อหลานชางพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะอาเจียนออกมาแต่ว่ามันสายไปแล้ว เขารู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นรัว
“แก… แกเอาอะไรให้ฉันกิน” เฮ่อหลานชางถามด้วยอำนาจ
เฮ่อปินมองลงมาที่เขาและตอบโดยปราศจากความรู้สึก “ยาที่จะทำให้คุณแก่ชราไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่”
“อะไรนะ” เฮ่อหลานชางตกใจ
เฮ่อปินหัวเราะด้วยความชิงชัง “ท้ายที่สุดผมก็ตัดสินใจให้คุณมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่คุณไม่ต้องขอบคุณผมหรอก”
“แก ไอ้เวร ฉันจะฆ่าแก!” เฮ่อหลานชางพุ่งไปหาเฮ่อปินด้วยมือที่พร้อมจะโจมตี ตอนที่นิ้วของเขาจับอยู่รอบลำคอของเฮ่อปิน เขาก็เริ่มรู้สึกหายใจได้ลำบากขึ้นแล้วโลกของเขาก็เริ่มหมุน…
เฮ่อปินมองเขาอย่างเย็นชา แทบจะไม่มีความรู้สึกใดๆ ในตาของเขาเลย ไม่มีความยินดีที่ได้แก้แค้นหรือเสียใจที่ต้องสูญเสียบิดาไป ถ้าจะให้อธิบายความรู้สึกของเขาในตอนนี้ มันก็คือความโล่งอก โล่งอกที่ในที่สุดทุกอย่างก็จบลงสักที เขาไม่รู้สึกผูกพันกับตระกูลเฮ่อหลานและต้องอยู่ภายใต้เงาของบิดาอีกต่อไป ในที่สุดเขาก็สามารถเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง ไม่ต้องตอบคำถามใครอีกนอกจากตัวเอง
อย่างไรก็ตามเฮ่อหลานชางยังไม่พร้อมที่จะพบกับจุดจบแบบนี้!
เขาทำงานมาตั้งหลายปีเพื่อสนับสนุนตระกูลเฮ่อหลานและเพิ่งจะได้รับข่าวดีเกี่ยวกับโปรเจกต์ของเขา แต่ลูกชายของเขากลับมาทำลายมันลงในนาทีสุดท้าย จะให้เขายอมรับโชคชะตาแบบนี้ได้ยังไง
เขาไม่อยากกลายเป็นคนแก่ เขาไม่ต้องการที่จะสูญเสียความทรงจำในตอนที่ความสำเร็จอยู่ใกล้แค่เอื้อมมือ!
เขาจับคอของเฮ่อปินให้แน่นขึ้นและใช้แรงเฮือกสุดท้ายพยายามที่จะบีบคอเขา มีน้ำตาไหลลงมาจากดวงตาของเฮ่อหลานชาง นี่คงเป็นการร้องไห้เพราะความเสียใจอย่างแท้จริงเพียงครั้งเดียวในชีวิตของเขา…
อย่างไรก็ตามไม่ว่าเขาจะไม่เต็มใจหรือเสียใจมากแค่ไหน เขาก็รู้สึกได้ถึงสติที่ค่อยๆ จากหายไปและพละกำลังที่เหือดหายไปจากตัวของเขา เข่าของเขาเริ่มงอและรู้ว่าเขากำลังจะล้มลงไปได้ทุกเมื่อ
เฮ่อหลานชางจับเสื้อของเฮ่อปินไว้อย่างไม่รู้ตัว พยายามที่จะทรงตัวให้อยู่ ก่อนที่จะล้มลงไปเขาพูดความคิดสุดท้ายที่อยู่ในใจออกมา “ไม่ ไม่ใช่ตอนนี้…”
มองดูเฮ่อหลานชางที่ ‘ใกล้ตาย’ อยู่บนพื้น เฮ่อปินก็หัวเราะออกมา “คิดว่าจุดจบนี้เร็วไปสำหรับคุณเหรอ เยี่ยมเลย เพราะว่านี่คือบทลงโทษที่คุณสมควรได้รับ!”
“ทำได้ดีมาก” ซิงเหอบอกกับเฮ่อปินเบาๆ เธอทำเหมือนตัวเองไม่มีตัวตนในช่วงเวลาที่พ่อกับลูกพูดคุยกันก่อนหน้านี้ แต่เธอยอมรับการตัดสินใจสุดท้ายของเฮ่อปิน
เฮ่อปินถามเธอ “คุณไม่โกรธหรอที่ผมไม่ฆ่าเขา”
ซิงเหอส่ายหน้า “ฉันไม่ได้ต้องการให้ศัตรูตายเสมอไป ฉันคิดว่านี่เป็นบทลงโทษที่รุนแรงกว่าการตายสำหรับเขา”
อยู่อย่างแก่ชราไปชั่วชีวิต ชีวิตที่เขาต้องพึ่งพาคนอื่นแม้แต่จะทำกิจวัตรประจำวันของมนุษย์ ชีวิตที่ไร้เกียรติ การต้องใช้ชีวิตแบบนี้เป็นบทลงโทษที่เหมาะสมกับเฮ่อหลานชางที่สุดแล้ว
อย่างไรก็ตามเฮ่อปินก็ยังรู้สึกขอบคุณที่เธอเข้าใจ “ยังไงผมก็ยังรู้สึกขอบคุณพวกคุณอยู่ดีที่ยอมปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไป ผมขอโทษ ผมไม่สามารถทำใจฆ่าเขาด้วยมือทั้งสองข้างของตัวเองได้”
“ฉันเข้าใจ แต่คุณทำได้ดีแล้ว ฉันจะปล่อยที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของคุณ เพราะตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปคุณจะกลายเป็นผู้นำของตระกูลเฮ่อหลานทั้งหมด” ซิงเหอบอกเขาตามความจริง
ตอนที่ 767 ตัดสินทุกอย่าง
เฮ่อปินเข้าใจ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เขาจะต้องทำตัวเป็นเฮ่อหลานฉีเพื่ออำนวยความสะดวก
ให้กับแผนการของซิงเหอ
เฮ่อปินพยักหน้า “อย่าห่วงเลย ผมรู้ว่าต้องทำยังไง”
“ดีแล้ว” ซิงเหอพยักหน้าตอบ เธอจากไปหลังจากที่จัดการบางอย่างอีกนิดหน่อย มีรถจอดรอเธออยู่ข้างนอกแล้วตอนที่เธอออกมาจากคฤหาสน์ของตระกูลเฮ่อหลาน มู่ไป๋และเพื่อนๆ ของเธออยู่ในรถ พวกเขารู้ว่าแผนการประสบความสำเร็จเมื่อเห็นเธอเดินออกมาจากบ้านได้อย่างปลอดภัย
“ซิงเหอ เฮ่อหลานชางตายแล้วเหรอ แผนการสำเร็จแล้วใช่ไหม” อาลิซึ่งนั่งอยู่ข้างหน้าถามอย่างตื่นเต้นในขณะที่เธอเข้ามาในรถ แซมซึ่งเป็นคนขับรถและมู่ไป๋ซึ่งนั่งอยู่ข้างเธอก็รอคอยคำตอบของเธอเช่นกัน
ซิงเหอส่ายหน้า “ไม่ เขายังมีชีวิตอยู่ เฮ่อปินทำใจฆ่าเขาไม่ลง แต่ยังไงตอนนี้เฮ่อหลานชางก็ต้องใช้ชีวิตที่เหลือบนเตียง”
“เยี่ยมไปเลย!” อาลิโห่ร้องยินดี “นั่นก็ไม่เลวเหมือนกัน สมหน้าหน้าเขาแล้ว ฉันยังไม่อยากเชื่อเลยว่าแผนการจะดำเนินไปได้ราบรื่นแบบนี้ ตอนนี้ก็ไม่มีใครมาขวางทางเราแล้ว”
แซมพูดด้วยรอยยิ้ม “ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณเซลล์ทรงจำ สิ่งนี้น่าเหลือเชื่อจริงๆ ถ้าคุณสลับความทรงจำก่อนที่คุณจะตายก็หมายความว่าคุณจะมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไปหรอ”
ตอนแรกเมื่อพวกเขารู้เรื่องของเซลล์ทรงจำ พวกเขาก็ตกใจจนพูดอะไรไม่ออก พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามีของแบบนี้อยู่บนโลกจริงๆ แต่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องเชื่อเมื่อความจริงอยู่ตรงหน้าของพวกเขา
ไม่ว่าอย่างไรจนถึงตอนนี้กลุ่มของแซมก็ยังพบว่าเรื่องทั้งหมดนี้ยากที่จะเชื่ออยู่ดี
ซิงเหอส่ายหน้า “ไม่หรอก การค้นคว้าของลู่ฉีทำให้เราได้เห็นจุดอ่อนใหญ่หลวงของเทคโนโลยีเซลล์ทรงจำ พวกมันมีอายุอยู่ได้ไม่นาน พวกมันทั้งหมดจะหายไปเองเมื่อผ่านไปประมาณครึ่งปี ดังนั้นเฮ่อปินจะสามารถเป็นเฮ่อหลานฉีได้อย่างมากก็อีกครึ่งปีเท่านั้น”
เซลล์ทรงจำไม่ได้ช่วยให้มนุษย์มีชีวิตอยู่ตลอดไป ถึงแม้ว่าซิงเหอจะสงสัยอยู่ลึกๆ ว่าทำไมเฮ่อหลานชางถึงเริ่มค้นคว้าเทคโนโลยีนี้ อนิจจาเทคโนโลยีนี้ขัดแย้งกับกฎแห่งชีวิตของธรรมชาติเกินไป มันมีข้อจำกัดที่ร้ายแรง บางทีอาจจะต้องประสบความสำเร็จโดยสมบูรณ์เพื่อเอาชนะข้อบกพร่องร้ายแรงนี้
ซิงเหอคาดการณ์ว่าอย่างน้อยภายในอีกหลายร้อยปีข้างหน้าก็เป็นไปไม่ได้ทีมันจะประสบความสำเร็จ
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แม้ว่ามันจะอยู่ได้แค่หกเดือน แต่ก็ถือว่าน่าทึ่งมากแล้ว แต่ว่าเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพแบบนี้ไม่ควรไปตกอยู่ในมือของคนชั่ว ไม่อย่างนั้นโลกจะต้องวุ่นวายแน่” แซมออกความเห็น
“พวกเราเข้าใจ” ซิงเหอพยักหน้า พวกเธอได้ปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นเวลานาน จะประกาศเรื่องของเซลล์ทรงจำให้สาธารณชนรู้ไม่ได้เด็ดขาด ตอนนี้มีแค่กลุ่มเพื่อนที่ซิงเหอเชื่อใจเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับมัน และพวกเธอก็ไม่ต้องกังวลว่าเฮ่อปินจะเปิดเผยข้อมูลออกไป
แน่นอนซิงเหอจะไม่บอกชุยเชี่ยนเกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้ สรุปก็คือจะไม่มีใครรู้ว่ามีของแบบนี้อยู่ในโลก
“พวกเราจะไปที่ไหนต่อ” มู่ไป๋โน้มตัวเข้ามาถาม
ซิงเหอพูดพร้อมรอยยิ้ม “ไปหาชุยเชี่ยนและแก้ไขปัญหาของเฮ่อหลานฉี วันนี้พวกเราจะช่วยล้างมลทินให้กับเฮ่อหลานฉี”
ทุกคนเข้าใจว่าเฮ่อหลานฉีที่ซิงเหอพูดถึงก็คือเฮ่อปินซึ่งมาครอบครองร่างกายของเฮ่อหลานฉี เพื่อแผนการของพวกเธอ พวกเธอจึงต้องทำให้เฮ่อหลานฉีหลุดพ้นจากข้อกล่าวหานี้ และพวกเธอก็ต้องการความช่วยเหลือจากชุยเชี่ยนเพื่อทำเรื่องนั้น
ด้วยเหตุนี้ซิงเหอเลยรีบติดต่อไปหาชุยเชี่ยน เธอบอกเขาว่าปัญหาทุกอย่างได้รับการแก้ไขแล้ว และเธอต้องการที่จะพบกับเขา
ชุยเชี่ยนตกใจ “ทุกอย่างได้รับการแก้ไขแล้ว”
ตลอดไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาหัวใจของเขาเขาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ในขณะที่เขากำลังจะสติแตกเพราะความกดดัน การโทรมาของซิงเหอก็เป็นดั่งสายฝนที่ตกลงมาทันเวลาทำให้ความกังวลทั้งหมดของเขาสลายไป เขานั่งหลังตรงขึ้นแล้วสีสันก็กลับคืนสู่ใบใบหน้าของเขา
“ใช่ค่ะ เฮ่อหลานชางจะไม่มาข่มขู่คุณอีกต่อไป พวกเรายังสามารถเกลี้ยกล่อมให้เฮ่อหลานฉีมาช่วยพวกเราอีกด้วย เขารับปากกับเราแล้ว” ซิงเหอพูดอย่างมั่นใจ