บทที่ 616 ส่งศพไปให้ตระกูลซ่ง

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 616 ส่งศพไปให้ตระกูลซ่ง
เย่เซิ่งเทียนไม่อยากจะมองซ่งหยวนลี่แม้แต่แวบเดียว และกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “อิ่นหลง ส่งศพของเขาไปที่ตระกูลซ่ง”

ซ่งหยวนลี่กล่าวด้วยความตกใจกลัว “อย่าฆ่าผม เย่เซิ่งเทียน ถ้าฆ่าผมแล้วคุณจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน อย่าฆ่าผม ผมยินดีที่จะเป็นสุนัขรับใช้คุณ อย่าฆ่าผม ปล่อยผมไปเถอะ ปล่อยผมไปเถอะ”

เย่ว์อิ่นหลงจับคอของซ่งหยวนลี่ แล้วยกมุมปากซ้ายตามสัญชาตญาณ และกล่าวด้วยรอยยิ้มที่น่ากลัว “แกรังแกพี่สะใภ้ของฉันใช่ไหม? ตระกูลซ่งของแกแน่มากใช่ไหม? ฉันอยากเห็นว่าถ้าฉันฆ่าแก่ต่อหน้าทุกคน ฉันจะคอยดูว่าตระกูลซ่งจะมีพลังอำนาจมากขนาดไหน?”

เย่ว์อิ่นหลงลากตัวซ่งหยวนลี่ออกไป

และนี่ก็คือสไตล์การทำงานของเขา

เมื่อเห็นจุดจบของซ่งหยวนลี่แล้ว ลูกเศรษฐี ดาราและเน็ตไอดอลที่เหลือต่างหน้าขาวซีดด้วยความตกใจ พวกเขาต่างคุกเข่าและก้มกราบ

“คุณเย่ พวกเราผิดไปแล้ว พวกเราแค่มาเที่ยวเล่นที่นี่เท่านั้น ไม่เคยมีความคิดที่จะล่วงเกินภรรยาของคุณ”

“คุณเย่ ผมยินดีที่จะเป็นพยานชี้ความผิดของซ่งหยวนลี่ ผมรู้เรื่องเลวของตระกูลซ่งมากมาย ขอร้องคุณได้โปรดไว้ชีวิตผมเถอะ ผมจะร่วมมือกับคุณอย่างแน่นอน”

“คุณเย่ ฉันขอโทษ เมื่อสักครู่ฉันปากเสีย ฉันชั่ว ฉันเลว ขอร้องคุณโปรดไว้ชีวิตฉันด้วยเถอะ ฉันยินดีจะทำทุกอย่างเพื่อคุณ”

เย่เซิ่งเทียนกล่าวด้วยความรังเกียจ “ให้พวกเขาหุบปาก”

เฉินซือเลี่ยงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในเมื่อตอนนี้เย่เซิ่งเทียนออกคำสั่งให้เขา นั่นหมายความว่าเขายกโทษให้ตนเองแล้ว

“อย่าฆ่าฉัน อย่าฆ่าฉัน”

“ฉันผิดไปแล้ว ฉันผิดไปแล้ว โปรดไว้ชีวิตฉันเถอะ”

“ฉันไม่รู้อะไรเลย ฉันถูกพวกเขาหลอก ฮือ ๆ ๆ ปล่อยฉันไปเถอะ”

เย่เซิ่งเทียนไม่แยแสกับการขอความเมตตาทุกรูปแบบ

เฉินซือเลี่ยงเดินเข้าไป แล้วทำให้พวกเขาหมดสติ

สำหรับลูกเศรษฐีเหล่านี้ เฉินซือเลี่ยงเหยียบองคชาตของพวกเขาหักทันที ทำให้พวกเขาไม่สามารถใช้การได้ชั่วชีวิต

นี่คือการลงโทษสำหรับพวกเขา

“คุณเย่ ผู้ใต้บังคับบัญชาขอร้องคุณเรื่องหนึ่ง โปรดยกโทษให้จินโจงด้วย เขามีบุญคุณที่ช่วยชีวิตผู้ใต้บังคับบัญชาเอาไว้ ผู้ใต้บังคับบัญชาเต็มใจที่จะถูกลงโทษ”

สุดท้ายเหลือเพียงจินโจง เฉินซือเลี่ยงคุกเข่าต่อหน้าเย่เซิ่งเทียน และขอร้องแทนจินโจง

ยี่สิบปีก่อน ตอนที่เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส จินโจงเป็นคนช่วยชีวิตเขาเอาไว้

บุญคุณนี้เขาต้องชดใช้คืน

“โทษตายละเว้นได้ แต่โทษเป็นก็ยังมีอยู่ สำหรับคุณแล้ว คุณนั้นถูกเขาหลอกเช่นกัน ซึ่งผมสามารถไว้ชีวิตคุณได้”

เย่เซิ่งเทียนกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

เฉินซือเลี่ยงกล่าวด้วยความซาบซึ้ง “ขอบคุณครับคุณเย่”

“ขอบคุณครับคุณเย่ ขอบคุณครับคุณเย่ จินโจงขอเป็นวัวเป็นควายเพื่อตอบแทนความเมตตาของคุณ”

เดิมทีจินโจงคิดว่าตนเองต้องตายแน่นอน แต่นึกไม่ถึงว่าเฉินซือเลี่ยงจะขอร้องแทนตนเอง

และยิ่งคิดไม่ถึงว่าสุดท้ายเย่เซิ่งเทียนจะไว้ชีวิตเขา

เฉินซือเลี่ยงเหยียบขาทั้งคู่ของจินโจงหักทันที และกล่าวอย่างเย็นชาว่า “คุณใช้ชีวิตที่เหลืออยู่บนรถเข็นเถอะ บริษัทที่เป็นชื่อของคุณทั้งหมดจะถูกโอนไปเป็นของคุณนายซี นี่คือการลงโทษสำหรับคุณ”

“ท่านเฉิน ขอบคุณมาก ผมยินดีรับโทษ คราวนี้ผมมีตาแต่หามีแววไม่ ผมโทษใครทั้งนั้น”

จินโจงไม่เคยคิดว่าตนเองจะยังมีชีวิตรอด ความรู้สึกที่สามารถหนีจากความตายเช่นนี้ ทำให้เขามองเห็นอะไรหลายอย่างได้ชัดเจนขึ้น

ถึงเขาจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลซ่ง แล้วไงล่ะ?

ถ้าไม่มีชีวิต ก็ไม่เหลืออะไร!

ขณะนี้ ในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็น ลูกเศรษฐีเหล่านี้ต่างตกใจจนอุจจาระและปัสสาวะออกมา กลิ่นเหม็นและน่าขยะแขยงมาก

“ออกไปคุยข้างนอก”

เย่เซิ่งเทียนไม่สนใจจินโจงอีกต่อไป เขาเดินออกไป แล้วเฉินซือเลี่ยงก็เดินตามไปอย่างรวดเร็ว

ขณะนี้ ในคฤหาสน์หลังหนึ่ง ไอ้อู๋กำลังรายงานเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในบาร์ให้เหย้ซูหลิงฟัง

“เฉินซือเลี่ยงคุกเข่าให้เย่เซิ่งเทียน? น่าสนใจ หรือว่าเย่เซิ่งเทียนจะมีสถานะอื่นอีก?”

เหย้ซูหลิงกอดตุ๊กตาหมีแล้วนั่งบนโซฟานุ่ม ๆ ดวงตาของเธอเป็นประกาย