บทที่ 2274+2275

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 2274 วาจานี้หมายความว่าอย่างไร?

กู้ซีจิ่วพ่นคำถามออกมาเป็นพรวน หยกนภาไม่กล้าตอบ ไม่กล้าแม้แต่จะเปล่งแสงด้วยซ้ำ

“เจ้าพูดมาสิ”

กู้ซีจิ่วปรารถนาจะง้างปากมันออกมายิ่งนัก ปกติแล้วยามที่มันพูดจามันจะพูดไร้สาระเป็นกระบุง พอบอกให้มันพูดมันกลับแกล้งตาย

‘เจ้านาย ลิขิตสวรรค์ไม่อาจแพร่งพราย!’

เมื่อเห็นเจ้านายกำลังจะโยนมันทิ้งเหมือนโยนขยะ ในที่สุดหยกนภาก็ตะโกนออกมาประโยคหนึ่ง

กู้ซีจิ่วเงียบไปแล้ว

ลิขิตสวรรค์เวรตะไล!

เธอเกลียดลิขิตสวรรค์! เกลียดชังอย่างลึกล้ำ!

เธอมีฐานะเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ ย่อมทราบว่าหากแพร่งพรายลิขิตสวรรค์ออกมาไม่ใช่แค่ผู้แพร่งพรายที่จะโดนลงโทษ แม้แต่ชะตาชีวิตของผู้ที่เกี่ยวข้องกับลิขิตสวรรค์ก็จะเปลี่ยนไปด้วย ซ้ำยังไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงในทางดีด้วย…

เธอมองหยกนภามืดมนอับแสงแสร้งทำเป็นตาย ถอนหายใจหนักๆ เฮือกหนึ่ง

นั่งกอดเข่าอยู่ตรงนั้น เงยหน้ามองจันทราบนนภาอย่างเหม่อลอย

สายลมพัดพาอาภรณ์บนร่างเธอให้ไหวกระเพื่อมดุจระลอกคลื่น ใบหน้าเฉิดฉันของเธอค่อนข้างอ้างว้าง ไม่รู้ว่าเธอหยิบน้ำเต้าสุราลูกหนึ่งออกมาจากไหน เปิดจุกแล้วดื่มเข้าไปหลายอึก

เธอดูทุกข์หมองละอายใจยิ่งนัก เอ่ยพึมพำอยู่ตรงนั้น

“ข้ารู้สึกว่าข้าเป็นคนที่น่าผิดหวังที่สุดเลย หวงถูดีกับข้าถึงเพียงนี้ ทุ่มเทชีวิตจิตใจทำทุกอย่างเพื่อข้า ตอนนั้นข้าก็คงชอบเขามากเหมือนกัน แต่ว่าพอเขาดับขันธ์ ข้าก็ลืมเขาไปทันที! ไม่ว่าอย่างไรก็นึกไม่ออก ตอนนี้เห็นกันอยู่ชัดเจนว่ามีความหวังในการคืนชีพให้เขาแล้ว แต่ในยามนี้ข้ากลับไปชอบคนอื่น…ความจริงแล้วข้าชิงชังคนเหยียบเรือสองแคมยิ่งนักเสมอมา แต่ข้ากลับกลายเป็นคนเช่นนี้เสียเอง…”

หยกนภาค่อนข้างอึดอัด ยังคงแกล้งตายต่อไป

กู้ซีจิ่วดื่มสุราอึกแล้วอึกเล่า

หยกนภารู้สึกว่านางไม่ควรดื่มขนาดนี้ ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้นางก็ดื่มไปลูกหนึ่งแล้ว ถ้าดื่มอีกนางอาจจะเมามายก็ได้…

ขณะที่หยกนภาว้าวุ่นอยู่ จู่ๆ ก็รู้สึกว่ามีน้ำหยดลงบนร่างมัน…

หยดน้ำนี้ออกรสเค็ม และมีรสเฝื่อน

หยกนภาสะท้าน มองไปที่กู้ซีจิ่ว มองเห็นนางเงยหน้ามองท้องฟ้า ในเบ้าตามีน้ำตาเอ่อคลอ

นางร้องไห้แล้ว!

หยกนภาก็ปวดใจเช่นกัน ทว่าไม่รู้ว่าควรจะปลอบโยนอย่างไร

“เสี่ยวชาง ข้าเหยียดหยามตัวเองยิ่งนัก หากว่าหวงถูรู้เข้า เขาต้องเสียใจมาก เกลียดข้ามากเป็นแน่…อาจจะดูแคลนข้าเช่นกัน…”

ยิ่งพูดนางก็ยิ่งโศกหมอง น้ำตาไหลรินลงมา

ในที่สุดหยกนภาก็ทนไม่ไหวแล้ว

‘ไม่หรอก เจ้านาย เขาไม่มีทางเกลียดท่าน ยิ่งไม่มีทางจะดูแคลนท่านด้วย…’

“แต่ข้าชอบคนอื่นเลยนะ เขาต้องรู้สึกว่าข้าเป็นคนไม่มีจิตสำนึก รู้สึกว่าข้าทรยศเขา…”

‘ไม่หรอก ท่านไม่ได้ทรยศเขาเลย…’

“หือ?”

กู้ซีจิ่วก้มมองมัน

“วาจานี้หมายความว่าอย่างไร?”

ดูเหมือนมันจะพลั้งปากไปอีกแล้ว!

หยกนภาปรารถนาจะงอกแขนน้อยๆ สักข้างมาตบปากตนยิ่ง!

มันใช้สมองใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง ลองแถดู

‘ตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ท่านไม่เคยทรยศเขาเลยนี่ เขาดับขันธ์ไปแล้วไม่อยู่แล้ว ท่านจะชอบ…ชอบตี้ฝูอีต่อก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ไม่นับว่าเป็นการทรยศไง’

“เช่นนี้เองรึ?”

แววตากู้ซีจิ่วลุ่มลึกเล็กน้อยจู่ๆ ก็เอ่ยเสริมอีกว่า

“มิใช่เจ้าอยากบอกว่า ตี้ฝูอีคือเขากลับชาติมาเกิด พวกเขาเป็นคนเดียวกัน ดังนั้นจึงไม่นับว่าทรยศหรอกหรือ?”

หยกนภาพลันสั่นระริก!

นางจะเดาแม่นเกินไปแล้ว!

น่าหวาดหวั่นเหลือเกิน!

มิน่าล่ะมนุษย์ถึงกล่าวว่าปากมากจะหายนะ ก็คือตัวมันนี่เอง!

หยกนภานิ่งไปครู่หนึ่ง เอ่ยปริศนาธรรมประโยคหนึ่งว่า

‘เจ้านาย ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น ทุกอย่างล้วนเป็นการคาดเดาของท่าน…ส่วนเรื่องความรู้สึกของท่าน ข้ารู้สึกว่าปล่อยไปตามธรรมชาติดีที่สุด ทำตามเสียงหัวใจ! ถ้าทำตามเสียงหัวใจไม่มีผิดพลาดแน่นอน!’

กู้ซีจิ่วหรี่ตานิดๆ จู่ๆ ก็ลุกขึ้น ทุบน้ำเต้าแตกดังโพละ ทำเอาหยกนภาสะดุ้งโหยง!

————————————————————————————-

บทที่ 2275 บัดซบ! มันโดนนางหลอกอีกแล้ว!

“เสี่ยวชาง เจ้าพูดถูก! ทำตามเสียงหัวใจดีที่สุด พวกเราไปกันเถอะ!”

‘ไป…ไปไหน?’

หยกนภาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองไปชั่วขณะ

“ไปอาณาจักรมารอสุรา ตามหาไอ้เด็กแสบตี้ฝูอี!”

เธอผิวปากคราหนึ่ง ผ่านไปครู่หนึ่ง ราชาเสือดาวเมฆาก็มาถึง กู้ซีจิ่วเหินขึ้นนั่ง มุ่งหน้าสู่ทิศทางของอาณาจักรมารอสุรา

หยกนภามองเห็นดวงตานางแจ่มใส พวงแก้มแดงเรื่อ ท่วงท่าสง่างาม มีความโศกหมองอยู่เสียที่ไหน? น้ำตาที่เคยเอ่อคลอก็อันตรธานไปแล้ว

มันกระจ่างแจ้งในทันที!

เมื่อกี้ที่เจ้านายแสดงท่าทีเสียอกเสียใจเช่นนั้น เป็นการหลอกให้มันพูดใช่ไหม?! ใช่ไหม! ใช่ไหม!

บัดซบ! มันโดนนางหลอกอีกแล้ว!

อารมณ์เสียจริงๆ!

….

กู้ซีจิ่วรู้สึกมาโดยตลอดว่าเจ้าหยกนภาตัวนี้ไม่น่าเชื่อถือ หลังจากไปถึงอาณาจักรมารถึงได้รู้ว่าอันที่จริงแล้วไอ้เจ้านี่พึ่งพาไม่ได้ยิ่งนัก!

ยกตัวอย่างเช่นยากนักกว่าเธอจะแล่นมาถึงอาณาจักรมารได้ปานพายุบุแคม ตัดสินใจเปลี่ยนไปสวมอาภรณ์หนังคุนชุดนั้นแล้วบุกเข้าไป…

ผลคือ…เกือบถูกย่างตายในนั้นแล้ว!

ทันทีที่เท้าของเธอย่ำลงบนอาณาเขตของอาณาจักรมาร เพลิงอนธการใต้ฝ่าเท้าก็พวยพุ่งสูงหลายจั้ง!

อาภรณ์หนังคุนชุดนี้ที่เธอสวมไม่ได้ถูกเผาไป แต่มันร้อนระอุขึ้นในชั่วพริบตา! กู้ซีจิ่วสวมมันแล้วเสมือนครอบลังถึงไว้บนร่าง! ซ้ำยังเป็นลังถึงที่มีอุณหภูมิเกือบร้อยองศาด้วย…

เคราะห์ดีที่พอเธอเห็นท่าไม่ดีแล้ว ก็เคลื่อนย้ายออกไปทันที!

มิเช่นนั้นเกรงว่าเธอคงถูกนึ่งจนกลายเป็นซาลาเปาเนื้ออยู่ที่นั่นไปแล้ว!

แม้จะเป็นเช่นนี้ บนร่างเธอก็ยังมีตุ่มน้ำพองขึ้นมาเจ็ดแปดจุด เกือบผสานเป็นเนื้อเดียวกับอาภรณ์หนังคุนชุดนั้นแล้ว ตอนถอดออกแทบจะลอกหนังหลุดออกมาด้วยแล้ว

“เจ้าซื่อบื้อเสี่ยวชาง เจ้าเกือบจะฆ่าข้าแล้ว!”

กู้ซีจิ่วซ่อนอยู่ในป่าแห่งหนึ่ง เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันพลางทายารักษาอาการถูกลวกให้ตัวเอง

หยกนภาหน้าม่อยคอตก ไม่กล้าโต้แย้งเลยสักประโยค

แผลลวกจากเพลิงอนธการแตกต่างจากแผลลวกทั่วไป แผลลวกปกติกู้ซีจิ่วป้ายยาลงไปเล็กน้อย ไม่ถึงครึ่งชั่วยามก็ดีขึ้นแล้ว

แต่หลังจากถูกลวกหนนี้ ผ่านไปสองชั่วยามแล้ว แผลโดนลวกนั้นยังคงปวดแสบปวดร้อนอยู่ ถึงขั้นที่มีทีท่าว่าจะกลัดหนองด้วย

กู้ซีจิ่วที่เชื่อมั่นในศาสตร์การแพทย์ของตน ยามนี้ก็จนปัญญากับบาดแผลบนร่างพวกนี้เช่นกัน

ดูเหมือนเพลิงอนธการของอาณาจักรมารอสุราแห่งนี้จะแตกต่างกับเพลิงทั่วไป ไม่อาจอนุมานตามหลักสามัญสำนึกได้

ตี้ฝูอีอาศัยอยู่ในสถานที่ที่มี ‘เพลิงพิษผลาญโลกา’ เช่นนี้ จะมีชีวิตรอดได้จริงๆ หรือ?

เธอส่ายหน้า ไม่อยากนึกถึงปัญหาที่ทำให้ปวดประสาทชั่วคราว เธอต้องรักษาบาดแผลบนร่างให้ได้เสียก่อน!

ขณะที่เธอกำลังค้นหาโอสถอื่นๆ บนร่างดู ในพงหญ้าที่อยู่ไม่ไกลจู่ๆ ก็สั่นไหวเกิดเสียงสวบสาบขึ้นมา

สัตว์ร้ายหรือ?!

กู้ซีจิ่วเงยหน้ามอง เห็นหมาป่าน้อยตัวหนึ่งมุดออกมาจากพงหญ้า

หมาป่าน้อยตัวนั้นขาวโพลนไปทั้งร่าง ทว่าดวงตากลับเป็นสีแดงดุจเพลิง ได้รับบาดเจ็บตรงหน้าท้อง มีเลือดซึมออกมาจากปากแผล อาบย้อมขนช่วงท้องจนแดงฉาน

ดวงตาของมันจับจ้องกู้ซีจิ่ว ท่าทางคล้ายอยากเข้าหาและหวาดกลัว

หมาป่าน้อยตัวนี้รูปงามนัก!

ซ้ำยังเป็นหมาป่าเงินพบเห็นได้ยากยิ่งนักด้วย

หมาป่าน้อยตัวนี้ทำให้กู้ซีจิ่วนึกถึงสุนัขพันธ์สปิตซ์[1]ที่ตนชื่นชอบในยุคปัจจุบัน

เธอกวักมือเรียกหมาป่าน้อย

“มาสิ ข้าจะรักษาให้เจ้านะ”

ไม่น่าเชื่อว่าหมาป่าน้อยจะฟังเข้าใจ วิ่งมาหยุดตรงแทบเท้ากู้ซีจิ่ว จากนั้นก็นอนหงายขาชี้ฟ้า เผยบาดแผลตรงหน้าท้องออกมา

หมาป่าเงินตัวนี้ฉลาดเกินไปหน่อยหรือเปล่า?!

กู้ซีจิ่วเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ แผลบนร่างหมาป่าน้อยเป็นแผลจากคมดาบ รักษาได้ไม่ยากนัก

กู้ซีจิ่วใช้โอสถรักษาบาดแผลจากการถูกฟันอย่างดีกับมัน แผลนั้นดีขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วค่อยๆ พันผ้าพันแผลให้

เธอลูบหัวหมาป่าน้อย

“ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าจะรู้ความเช่นนี้ หาได้ยากนัก ไปเถอะ อย่าให้คนชั่วเห็นเจ้าเข้าอีกล่ะ”

————————————————————————————-

[1] สุนัขสายพันธุ์สปิตซ์ แบ่งออกเป็นหลายพันธุ์เช่น Japanese spitz , Finnish Spitz ,German Spitz แต่ที่ได้รับความนิยมในบ้านเราที่สุดคือ Japanese spitz ซึ่งเป็นสุนัขที่เกิดจากการ ผสมพันธุ์ระหว่างสุนัข Siberian และ Samoyed