แผนของวิคเตอร์ โดย Ink Stone_Fantasy

ในฐานะที่เป็นคนที่มีความดีความชอบในเรื่องการผลิตเสบียงมากที่สุด เรื่องราวของลีฟจึงถูกเอาไปวาดลงใน ‘บันทึกของแม่มด’ หนังสือนิทานแบบนี้มีขายอยู่ในตลาด การที่พ่อค้าจากนอกเมืองจะรู้เรื่องราวของเธอจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

แต่การที่ต้องการจะร่วมมือทำงานด้วยการระบุชื่อมาแบบนี้ เขาเพิ่งจะเคยเจอเป็นครั้งแรก คนในสี่อาณาจักรใหญ่นั้นไม่เหมือนกับพวกฟยอร์ดที่ออกเดินทางไปทั่ว พวกเขาค่อนข้างมีอคติกับแม่มดเนื่องจากได้รับอิทธิพลจากศาสนจักร แต่ตอนนี้กลับมีคนที่เป็นฝ่ายเข้ามาหาแม่มดเอง โรแลนด์จึงค่อนข้างรู้สึกตื่นเต้น

หลังอ่านจดหมายจบ เขาจึงลูบคางตัวเองแล้วพูดว่า “มาจากดอว์นหรอ…เจ้าน่าจะรู้ที่อยู่ของเขาใช่ไหม?”

“พ่ะย่ะค่ะ” บารอฟพูด “เขามีบันทึกอยู่ในสำนักบริหารพ่ะย่ะค่ะ นอกจากนี้กระหม่อมยังได้เชิญเลดี้บบุ๊คมาตรวจสอบบันทึกการจ่ายภาษีของเขา ก่อนจะพบว่าบันทึกการจ่ายภาษีของเขาสามารถสืบย้อนกลับไปได้ถึงเมื่อ 6 ปีก่อนพ่ะย่ะค่ะ แต่ว่าตอนนี้การค้าหลักๆ ของเขาคือการซื้อขายอัญมณีดิบ แล้วก็มีหนังสัตว์บ้างในบางครั้ง แต่ไม่ได้มีการค้าที่เกี่ยวกับฝ้ายเลยพ่ะย่ะค่ะ”

“น่าสนใจ” โรแลนด์รู้ดีว่าระบบการเก็บภาษีในยุคสมัยนี้นั้นล้าหลังแค่ไหน ทุกที่ต่างก็ใช้วิธีให้เจ้าหน้าที่เก็บภาษีจดบันทึกทีละรายการๆ เมื่อระยะเวลานานขึ้นแม้แต่ตัวคนจดเองก็ยากที่จะจำได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่จะเอารายการมาเทียบกันเลย นอกจากนี้หากเป็นคนที่อาศัยอยู่ในเมืองอยู่แล้วก็ค่อนข้างง่ายหน่อย เพราะว่าคนเหล่านั้นจะมีที่นาอยู่ แล้วที่นาก็หนีไปไหนไม่ได้ด้วย แต่ถ้าเป็นพวกพ่อค้าที่เดินทางไปๆ มาๆ พวกเขาเหล่านั้นก็จะมีวิธีการหลบ ‘การขูดรีด’ จากพวกเจ้าเมืองเยอะแยะมากมาย การที่มีบันทึกการจ่ายภาษีทิ้งไว้แบบนี้ก็หมายความว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นคนซื่อสัตย์น่าเชื่อถือ นับว่าเป็นพ่อค้าที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนัก

“พาวิคเตอร์เข้ามาที่ปราสาท” เขาวางจดหมายลง “ข้าอยากจะคุยกับเขาเป็นการส่วนตัวหน่อย”

“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”

…..

ไม่นานโรแลนด์ก็ได้เจอกับพ่อค้าคนนี้ภายในห้องรับแขกของปราสาท

เขามีลักษณะพิเศษของคนอาณาจักรดอว์นจริงๆ ผมสีทองอ่อนที่เหมือนกับแอนเดรีย หน้าตาหล่อเหลา ผิวพรรณก็ดูแลเป็นอย่างดี กิริยาท่าทางก็มีความเป็นผู้ดี แค่ดูก็รู้แล้วชาติตระกูลของเขานั้นไม่ธรรมดา

เขารู้สึกไม่อยากจะเชื่อว่าคนแบบนี้ต้องวิ่งไปมาระหว่างสองอาณาจักรเพื่อทำการค้าสำหรับยังชีพด้วยเหรอ เพราะต่อให้เป็นการค้ารายการใหญ่ เขาก็สามารถให้ลูกน้องมาเป็นคนจัดการได้ ไม่ใช่ว่าตัวเองต้องมาวิ่งทำการค้าเองแบบนี้ เพราะว่าในยุคสมัยนี้ต่อให้เป็นคนที่รวยแค่ไหน แต่การเดินทางไกลนั้นไม่ใช่เรื่องที่สบายเลย

ซึ่งอีกฝ่ายก็ได้อธิบายเรื่องนี้ว่าเป็นเพราะการแก่งแย่งกันในตระกูล

เพื่อที่จะหลีกหนีจากการกดขี่ของพี่ชายและพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง เขาจึงจำเป็นต้องออกมาจากบ้านเกิดเพื่อมาทำการค้ายังเกรย์คาสเซิล

ถึงแม้คำอธิบายในส่วนนี้จะยังคลุมเครืออยู่ แต่โรแลนด์ก็ไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อ เพราะถึงยังไงนั้นมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่าย เขาไม่ได้สนใจอะไรนัก อีกทั้งไนติงเกลก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร นั่นก็หมายความว่าอีกฝ่ายไม่ได้พูดโกหก

หลังฟังอีกฝ่ายอธิบายจบ โรแลนด์จึงพูดเข้าประเด็นทันที “เจ้าอยากจะให้ลีฟเพาะพันธุ์เมล็ดพันธุ์ฝ้ายขึ้นมาเป็นจำนวนมาก แต่เป้าหมายสุดท้ายกลับเป็นการเปิดร้านเสื้อผ้าสำเร็จรูปแบบใหม่ขึ้นมา แถมยังจะใช้จุดเด่นเรื่องคุณภาพดีราคาถูกมาขยายมันไปทั่วทั้งอาณาจักรเหรอ?”

นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขาตัดสินใจเรียกวิคเตอร์เข้ามา เพราะว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดขึ้นมาเอง สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่วิคเตอร์เขียนบอกเอาไว้ในจดหมาย มันก็เหมือนกับการที่มีคนมาเสนอแผนการค้าให้กับคุณ โดยเขาบอกว่ามีเป้าหมายที่จะรวบรวมทุนให้ได้ 1 พันล้าน แต่ตอนนี้ขาดเงินอีก 50 หยวนจากคุณ

“ไม่ใช่แค่ในเกรย์คาสเซิลเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ” พ่อค้าหยักหน้า “กระหม่อมได้ทำการคำนวณราคาดูแล้ว สุดท้ายถึงแม้เราจะเอาไปขายในอาณาจักรดอว์น มันก็ยังมีศักยภาพที่จะแข่งขันได้อยู่”

จริงอยู่ที่การทุ่มตลาดนั้นเป็นอาวุธวิเศษในการครองตลาด แต่…มันไม่ได้หมายความจะสำเร็จได้ง่ายๆ “เจ้าจะรับประกันได้ยังไงว่าจะสามารถทำให้มันกลายเป็นสินค้าคุณภาพดีราคาถูกได้?”

“อันดับแรกกระหม่อมต้องการฝ้ายชนิดพิเศษพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท” วิคเตอร์พูดอย่างกระตือรือร้น “ในเมื่อคุณหนูลีฟสามารถเพาะข้าวสาลีทองคำที่ให้ผลผลิตมากกว่าเดิม 3 เท่าขึ้นมาได้ อย่างนั้นกระหม่อมคิดว่านางก็น่าจะทำให้ผลผลิตของฝ้ายเพิ่ม 3 เท่าได้เช่นเดียวกัน ถ้าสามารถลดราคาของวัตถุดิบลงมาได้ 1 ใน 3 ของปัจจุบัน อย่างนั้นราคาของเสื้อผ้าก็จะถูกลงอย่างมากพ่ะย่ะค่ะ”

โรแลนด์ถึงกำหลุดขำออกมา ตรรกะอันนี้ดูแล้วเหมือนจะดี แต่ถ้าคิดดีๆ จะรู้สึกว่ามันน่าขัน การผลิตฝ้ายจำนวนมากนั้นไม่ใช่ปัญหาสำหรับลีฟ เมื่อมีหัวใจแห่งป่าของสนับสนุน เวลาที่ใช้ในการเพราะเลี้ยงของเธอก็จะสั้นลงขึ้นไปอีก แต่ปัญหานั้นอยู่ว่าที่ราคาเสบียงภายในเมืองเนเวอร์วินเทอร์ต่ำขนาดนี้นั้นเป็นเพราะว่ามีการกำหนดราคาเอาไว้ ไม่ใด้เป็นเพราะว่ามันขายไม่ได้ราคา

ถ้าคนไม่มีปัญหาซื้อข้าว อย่างนั้นต้องเป็นปัญหาใหญ่แน่นอน แต่ถ้าไม่มีฝ้าย คนก็ยังมีปอ มีผ้าหยาบกับหนังสัตว์อยู่

“เอาล่ะ…ต่อให้ลีฟสามารถเพิ่มผลผลิตฝ้ายได้ 3 เท่าจริงๆ อย่างนั้นทำไมข้าถึงต้องเอามันมาขายในราคาต่ำให้เจ้า แทนที่จะเอามันไปขายให้กับพ่อค้าคนอื่นเพื่อเอาเงินเพิ่ม 3 เท่าล่ะ?”

“เพราะกระหม่อมสามารถช่วยพระองค์ประหยัดเงินลงทุนได้ก้อนใหญ่ แล้วก็ยังสร้างงานให้กับชาวบ้านได้มากกว่า 2 พันตำแหน่งพ่ะย่ะค่ะ” วิคเตอร์ไม่หยุดชะงักแม้แต่น้อย “นอกจากนี้พระองค์ยังจะได้เงินภาษีอีกจำนวนมาก ชาวเมืองเองก็จะได้ประโยชน์จากมันด้วย ทุกอย่างนั้นพระองค์ไม่ต้องเหนื่อยลงมาจัดการแม้แต่น้อย ขอเพียงพระองค์มอบหมายให้กระหม่อมเป็นคนจัดการก็พอพ่ะย่ะค่ะ”

ต้องยอมรับเลยว่าคำตอบที่ดูมีความเป็นยุคสมัยใหม่นี้ทำเอาโรแลนด์รู้สึกแปลกใจทีเดียว ผ่านไปครู่หนึ่งเขาจึงพูดขึ้นมาว่า “คำพูดพวกนี้….เจ้าเห็นมาจากหนังสือพิมพ์เหรอ?”

“แล้วก็ยังมีประกาศของเมืองเนเวอร์วินเทอร์ทุกฉบับด้วยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมล้วนแต่อ่านพวกมันอย่างละเอียด ถึงแม้จะมีคำศัพท์อยู่ไม่น้อยที่ตอนแรกรู้สึกอ่านไม่คล่องปาก แต่พวกมันทำให้กระหม่อมได้เห็นความหมายของการค้าในอีกด้านหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ” วิคเตอร์เอามือทาบอก “หากกระหม่อมไปเสนอเรื่องการลดราคาแบบนี้กับผู้ปกครองคนอื่น เกรงว่ากระหม่อมคงจะถูกไล่ออกไปจากประตูแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ แต่ถ้าเป็นพระองค์ล่ะก็ กระหม่อมคิดว่ามันอาจจะเป็นจริงได้พ่ะย่ะค่ะ”

นี่นับว่าเป็นวิธีชมแบบใหม่เลยนะเนี่ย….ถ้าเกิดตัวเองไล่เขาอออกไปตอนนี้ นั่นไม่เท่าว่าตัวเองจะกลายเป็น ‘ผู้ปกครองคนอื่น’ อย่างที่เขาว่ามาหรอกเหรอ? โรแลนด์ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “อย่างนั้นเจ้าลองว่าแผนการของเจ้ามาซิ”

หลังจากนั้นวิคเตอร์ก็อธิบายแผนของตัวเองอยู่เกือบหนึ่งชั่วโมง เห็นได้ชัดว่าเขาเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี

ความคิดของเขานั้นไม่ซับซ้อน พูดง่ายๆ ก็คือการสร้างระบบธุรกิจที่เอาการเพาะปลูก การถักทอและการขายมารวมกัน ตระกูลโลธานั้นมีประวัติศาสตร์ในการผลิตเสื้อผ้ามาเป็นเวลายาวนาน เรื่องประสบการณ์และเทคนิคในการผลิตนั้นไม่ใช่ปัญหา ขอเพียงเริ่มดำเนินงานอย่างเป็นทางการ ไม่นานก็จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้

แต่แน่นอนว่าทุกคนวาดฝันให้สวยหรูได้ ทว่าสิ่งที่ทำให้โรแลนด์ฟังวิคเตอร์พูดต่อไปเรื่อยๆ นั้นเป็นเพราะว่าเขาคิดคำนึงถึงรายละเอียดจำนวนมากมาย เมืองเนเวอร์วินเทอร์นั้นไม่เหมาะแก่การปลูกฝ่าย ด้วยเหตุนี้อุตสาหกรรมส่วนนี้และการถักทอจะไปรวมกันอยู่ที่ดินแดนทางใต้ ที่นั่นมีแสงแดดที่พอเพียง อุณหภูมิทั้งปีค่อนข้างสูง ขณะเดียวกันการอพยพเข้ามาของชาวทะเลทรายยังทำให้มีแรงงานจำนวนมาก เงื่อนไขแต่ละด้านล้วนแต่มีความเหมาะสมอย่างมาก ส่วนเรื่องการตัดเย็บทำเสื้อผ้าก็จะอยู่ที่เมืองเนเวอร์วินเทอร์ซึ่งมีกำลังซื้อที่สูงกว่า

การลงทุนในช่วงแรกไม่ว่าจะเป็นการเช่าซื้อที่ดิน การจ้างคนมาเพาะปลูก หรือว่าโรงทอและอุปกรณ์ต่างๆ ทางวิคเตอร์จะเป็นคนรับผิดชอบเอง เมืองเนเวอร์วินเทอร์ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงใดๆ แม้แต่น้อย นอกจากเรื่องจัดหาเมล็ดพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงแล้ว ที่เหลือทางเนเวอร์วินเทอร์ก็แค่นั่งรอผลกำไร

นอกจากนี้เนื่องจากวิธีใช้ฝ้ายนั้นมีเพียงแค่อย่างเดียว ทำให้สามารถคำนวณปริมาณการผลิตได้จากปริมาณที่ซื้อเข้ามา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้จัดเก็บภาษีได้ง่ายมาก ทำให้ลดภาระของทั้งสองฝั่งไปได้ไม่น้อย

และในรายละเอียดเหล่านี้ จุดที่โรแลนด์ค่อนข้างให้ความสำคัญนั้นมีอยู่สองจุด หนึ่งคือเครื่องมือในการทอคุณภาพสูงที่อีกฝ่ายพูดถึงนั้นสามารถรองรับงานจากผลผลิตฝ้ายที่เพิ่มขึ้น 3 เท่าได้ สองคือตระกูลโลธานั้นมีช่างตัดเสื้อฝีมือเยี่ยมอยู่จำนวนหนึ่ง พวกเขาออกแบบเสื้อผ้าให้เหล่าขุนนางในเมืองกลอรีอยู่บ่อยๆ ทำให้สามารถรับประกันได้ว่าสินค้าจะต้องเป็นที่ชื่นชอบของประชาชนอย่างแน่นอน นอกจากนี้วิคเตอร์ยังยอมรับว่าหลังจากที่เขาได้ดู ‘หัวใจแห่งหมาป่า’ เขาพบว่าเสื้อผ้าของชาวเมืองเมืองเนเวอร์วินเทอร์นั้นยังเรียบง่ายไปหน่อย ดูแล้วไม่เข้ากับความเป็นเมืองหลวงเลย เขาก็เลยได้ความคิดนี้ขึ้นมา

สองจุดนี้เรียกได้ว่าเห็นหัวใจสำคัญของแผนนี้ เมื่อมีพวกมัน ระบบธุรกิจที่ดูยิ่งใหญ่และมีความทะเยอทะยานนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป หากแต่มีความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จ