EG บทที่ 784 กรรมการที่ละเลยหน้าที่

 

บิล เกตส์และพอล อัลเลนซึ่งไม่ค่อยเข้าบริษัทก็ยังมาเข้ารวมการประชุมของคณะกรรมการของMicrosoft แต่มีคณะกรรมการคนหนึ่งที่ไม่ปรากฏตัว แต่ให้เลขานุการโทรมาแจ้งว่าติดธุระเลยล่าช้า

“หึ คนบางคนครอบครองตำแหน่ง แต่ไม่ทำงานให้เหมาะสม คนเช่นนี้ไม่ควรนั่งที่นั่งตรงนั้นอีกต่อไป!” พอล อัลเลนพูดเย้ยแล้วมองไปที่เก้าอี้ว่างเปล่า

กรรมการคนอื่นก็มีสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนักเช่นกัน พวกเขาทั้งหมดคิดว่ากรรมการเฝิงคนนี้โอหังนัก แม้ว่าคุณจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสามของบริษัท แต่คุณจะไม่เห็นคนอื่นในสายตาเลยหรือ?

บิล เกตส์ก็รู้สึกอึดอัดในใจเล็กน้อย แม้ว่าส่วนแบ่งตลาดซอฟต์แวร์ของMicrosoftในจีนได้เพิ่มสูงขึ้น เป้าหมายก็เสร็จสมบูรณ์ไปได้ด้วยดี แต่Microsoftยังทำเงินได้ไม่มากนัก ราคาที่ร่วมมือกับLianxiangก็ต่ำเสียยิ่งกว่าต่ำ

ในด้านการทำงานของเฝิงหยู่ เขาทำงานได้จริงๆและเป็นผลงานที่ดีมาก แต่คุณต้องเข้าบริษัทบ้าง คุณน่ะเป็นทั้งผู้ถือหุ้นและเป็นกรรมการเชียวนะ ขนาดผมยังต้องมาทำงานในบริษัทบ่อยๆเลย!

คุณจะไม่มาที่บริษัทก็ได้ถ้าคุณเป็นแค่ผู้ถือหุ้นธรรมดาที่อยากสร้างรายได้จากการลงทุน แต่คุณยังเป็นคณะการของ Microsoft ซึ่งเป็นระดับผู้บริหารหลัก!

“ผมได้ยินว่าช่วงนี้คุณเฝิงออกไปเที่ยวกับคู่ขาทุกวัน เมื่อสองวันก่อนก็ไปที่โบอิ้งเพราะคิดจะซื้อเฮลิคอปเตอร์” กรรมการคนหนึ่งกล่าว

“ผมยังได้ยินด้วยว่าคุณเฝิงยังไปที่บริษัทAmazon แล้วบอกว่าเขาต้องการลงทุนในบริษัทนั่นอีก บริษัทเล็กๆแห่งนั้นมีอะไรที่คุ้มค่ากับการลงทุนกันนะ?” กรรมการอีกคนกล่าว

กรรมการคนอื่นก็เริ่มพูดถึงการละเลยหน้าที่ของเฝิงหยู่ การประชุมคณะกรรมการบริษัทคราวนี้ได้กลายเป็นการประชุมวิจารณ์ไปเสียแล้ว แต่บัลเมอร์ไม่ได้พูดอะไร

กรรมการคนอื่นไม่ได้สังเกต มีเพียงบิล เกตส์และพอล อัลเลนที่สังเกตเห็น

พอล อัลเลนจึงถามว่า “คุณสตีฟ คุณเฝิงเป็นรองประธานประจำเอเชียแปซิฟิกที่คุณรับผิดชอบ ผมเลยอยากจะขอฟังการพัฒนาธุรกิจในเอเชียแปซิฟิกหน่อย”

สตีฟ บัลเมอร์กล่าวอย่างชำนาญว่า “ส่วนแบ่งการตลาดของเอเชียแปซิฟิกเพิ่มขึ้นมาโดยตลอดครับ ยกเว้นญี่ปุ่น อินเดียและอื่นๆ แต่ระบบปฏิบัติการ ซอฟต์แวร์ออฟฟิศ หรือแม้แต่เบราว์เซอร์IE ก็กลายเป็นที่หนึ่งแล้ว ประเทศจีนมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นมากที่ใหญ่ที่สุด เป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมของคุณเฝิงครับ”

พอล อัลเลนไม่พอใจอย่างมาก ไม่รู้เหรอว่าฉันต้องการให้นายพูดอะไร? แต่นายกลับพูดจายกยอเด็กคนนั้นเนี่ยนะ!

“เขาไม่ได้เข้ามาทำงานในบริษัท ในฐานะที่คุณเป็นประธานของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ไม่คิดจะปรามกันเลยเหรอ?” พอล อัลเลนยังถามต่อไป

สตีฟ บัลเมอร์มีท่าทางอึดอัดใจ “คุณพอล คุณเฝิงไม่ได้เงินเดือนนะครับ แล้วเขาก็เป็นคนจ่ายเงินเดือนของเลขาเอง เขาบอกว่าบริษัทไม่จ่ายเงินเดือนให้เขา เขาจึงไม่มาทำงานก็ได้ ผมเลยไม่รู้ว่าจะตอบโต้เขาอย่างไร คุณจะช่วยสอนผมได้ไหมล่ะครับ?”

พอล อัลเลนโมโหทันที ตอนแรกเขาบอกว่าไม่ควรให้เงินเดือนเฝิงหยู่สูงเกินไป เพราะงานของเฝิงหยู่ไม่มากนัก แต่เฝิงหยูกลับพูดตัดบทว่าเขาไม่เอาเงินเดือน ขอแค่ได้เป็นคณะกรรมการและได้ถือหุ้นตามที่สมควรจะได้รับก็พอ ต่อมาเฝิงหยู่ได้จ่ายเงินเดือนให้เลขาเอง เขาก็นึกว่าเฝิงหยู่จะอาย ที่ไหนได้เฝิงหยู่กำลังรอแบบนี้อยู่สินะ

ไม่ได้เงินเดือนก็ไม่ผิดที่จะไม่มาทำงาน ที่จริง พอลก็ไม่ได้มาทำงานบ่อยครั้งจึงแทบจะไม่มีสิทธิ์ต่อว่าเฝิงหยู่เลย แต่อย่างน้อยเขากับบิล เกตส์ยังมาบริษัทสามวันต่อสัปดาห์

“เอาล่ะ ผมจะคุยกับคุณเฝิงในภายหลังเอง เราหยุดพูดถึงเรื่องนี้กันเถอะครับ เพราะถ้าไม่มีคุณเฝิง Microsoftก็จะไม่ประสบความสำเร็จในตลาดจีน แค่รอผู้ใช้ชาวจีนคุ้นเคยกับระบบและซอฟต์แวร์ Microsoft ของเราในสามหรือห้าปีหลังจากนี้ บริษัทซอฟต์แวร์อื่นในตลาดจีนก็จะล้มละลายไปเอง เมื่อถึงตอนนั้น เราจะปรับราคาให้สอดคล้องกับภูมิภาคอื่นๆ ทีนี้ผลกำไรของเราจะพุ่งสูงขึ้นอย่างแน่นอน!” บิล เกตส์พูดอย่างมั่นใจ

นี่คือเหตุผลที่แท้จริง บิล เกตส์ยอมตกลงให้ราคาต่ำมากกับเฝิงหยู่ อย่างไรเสีย ระดับเศรษฐกิจของจีนก็ไม่ดีเท่าในยุโรปและอเมริกาจึงต้องปลูกฝังแนวคิดของการบริโภคอย่างเร่งด่วน ก่อนอื่นยึดส่วนแบ่งตลาดให้ได้ก่อน รอจนครอบครองตลาดอย่างสมบูรณ์แล้วค่อยเพิ่มราคาขาย ทีนี้กำไรจะตามมาเอง

แม้ว่าตอนนี้ราคาจะต่ำมาก แต่ก็ยังมีกำไรไม่ใช่เหรอ?

บิล เกตส์พูดจบ คนอื่นๆจึงไม่พูดอะไรอีก ไม่มีใครคัดค้านเรื่องนี้รวมถึงพอลเช่นกัน พวกเขาสามารถพัฒนาMicrosoftได้ตั้งแต่แรกเพราะได้ลงนามข้อตกลงกับIBM แล้วจึงลงนามข้อตกลงกับบริษัทPCอื่นๆอย่างต่อเนื่องเพื่อขยายตลาด

แบบจำลองนี้ถูกใช้กับตลาดจีน แม้ว่าจะสุดโต่งไปหน่อย แต่จีนเป็นตลาดใหญ่ ถ้าราคาสามารถเท่ากับของยุโรปและอเมริกา กำไรของMicrosoftจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 50% แน่นอน!

ขณะที่Microsoftประชุมกำลังคณะกรรมการบริษัท เฝิงหยู่ที่ใครๆก็พากันพูดว่าเป็นกรรมการที่ละเลยบริษัทกำลังเซ็นสัญญากับเจฟฟ์ เขาได้เซ็นสัญญาลงทุนอย่างเป็นทางการกับAmazonแล้ว

เมื่อเขาเซ็นชื่อในสัญญาเสร็จเขากลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดของAmazonทันที เขาเลยให้ราล์ฟไปทำความรู้จักกับผู้ถือหุ้นรายอื่นเพื่อลองถามหยั่งเชิงดูว่ามีใครแตกต่างจากเจฟฟ์ แล้วคิดจะขายหุ้นเพื่อเก็งกำไรบ้าง แน่นอนว่ามีคนที่ต้องการกำไรอย่างสมน้ำสมเนื้อ

นี่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเฝิงหยู่เลย ตราบใดที่เจฟฟ์และยังมีพนักงานที่เจฟฟ์เล็งเห็นค่ายังอยู่ในอเมซอน มันก็คุ้มค่าที่เฝิงหยู่จะลงทุนต่อไป

เฝิงหยู่ขอให้การเพิ่มทุนคราวนี้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ อเมซอนสามารถป่าวประกาศได้แต่เฝิงจะหยู่ไม่ขอแสดงตัว เขาให้เจฟฟ์บอกสื่อว่ามีเศรษฐีลึกลับคนหนึ่งมาลงทุนอเมซอน นี่ยังยังช่วยกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของผู้อื่น ถือเป็นการประชาสัมพันธ์ที่ดีอย่างหนึ่ง

เฝิงหยู่ยังได้เข้าใจอีกเรื่องหนึ่งคือ ราล์ฟบอกเขาว่าเจฟฟ์ขายหลักทรัพย์ในมือของเขาราวกับว่ากำลังวางแผนที่จะซื้อหุ้นบางส่วนจากผู้ถือหุ้นอเมซอนรายอื่น

เฝิงหยู่มีความสุขมากที่ได้ยินข่าวนี้ แสดงให้เห็นว่าเจฟฟ์จะนำทรัพย์สินทั้งหมดของเขาเข้าสู่อเมซอนแล้ว นั่นแปลว่าเขาจะผูกติดอยู่บนกำมือของเฝิงหยู่

เมื่อออกจากอเมซอน เฝิงหยู่ได้รับโทรศัพท์จากสตีฟ บัลเมอร์

“คุณเฝิง คุณพอลและคนอื่นๆวิจารย์เรื่องคุณไม่ได้มาที่บริษัทครับ ผมเลยคิดว่าคุณควรจะไปคุยกับคุณบิลหน่อย”

บัลเมอร์คิดว่าให้เฝิงหยู่ไปคุยกับบิล เกตส์  คงดีกว่าให้บิล เกตส์เรียกเฝิงหยู่มาคุยเอง

“ตกลงครับ ขอบคุณมาก เพื่อนของผม”

เฝิงหยู่กำลังจะไปคุยกับบิล เกตส์อยู่พอดี เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองควรจะหยุดพักผ่อนนานๆหน่อย หลังจากนั้นเขาจะไปนิวยอร์กสักพักแล้วค่อยกลับประเทศอย่างน้อยสองสามเดือน

ถ้ามีเรื่องอะไรก็โทรคุยทางโทรศัพท์หรือจะส่งอีเมลกันก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าบริษัทเสียทุกวัน ว่าไหมล่ะ?

“ฮัลโหล คุณบิล ผมเฝิงเองครับ ผมอยากจะบอกคุณว่าผมจะไปพักผ่อนวันหยุดยาว”

ติดตามเพจใหม่ได้ที่ https://www.facebook.com/ceonovel23