บทที่ 1579 เกราะโชคชะตา

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1579 เกราะโชคชะตา

 

“เขายังไม่ตายงั้นหรือ? มันคือวิญญาณอมตะชนิดใด?” ฟางหยวนมองฟงจิวเก้อที่ลอยอยู่กลางอากาศด้วยดวงตาเบิกกว้างเล็กน้อย

 

เลือดไหลออกมาจากรูทวารทั้งเจ็ดของฟงจิวเก้อ แต่เกราะแสงบางๆที่ปกคลุมอยู่ร่างกายของเขาช่วยชีวิตเขาเอาไว้

 

“วิญญาณเกราะโชคชะตาระดับแปด” ฟงจิวเก้อกระอักเลือดขณะกล่าว

 

การแสดงออกของฟางหยวนกลายเป็นมืดมน

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ฟางหยวนเคยเห็นเกราะโชคชะตา แม้ฟงจิวเก้อจะเคยใช้มันในสายธารแห่งกาลเวลาก่อนหน้านี้ แต่ฟางหยวนไม่ได้อยู่กับเขาในเวลานั้น

 

ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงไม่ทราบถึงการมีอยู่ของวิญญาณอมตะเกราะโชคชะตาระดับแปด

 

นี่ทําให้เขาคํานวณผิด

 

รากฐานของวังสวรรค์….” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขื่น แต่ในวินาทีต่อมา ความมุ่งมั่นของเขาก็เพิ่มสูงขึ้น เขามองฟงจิวเก้อด้วยสายตาคุกคาม “เกราะโชคชะตาสามารถปกป้องเจ้าได้หนึ่งครั้ง แต่มันจะช่วยเจ้าได้อีกครั้งหรือไม่?”

 

ฟางหยวนยังมีบุตรแห่งภูตแรกกําเนิดอยู่อีกหนึ่งตน

 

ฟงจิวเก้อที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสผ่นเลือดออกมา “แค่ก แค่ก เจ้าสามารถทดลอง ข้าไม่กลัวที่จะบอกเจ้าว่าจุดเด่นของเกราะโชคชะตาคือการป้องกัน พลังของมันจะแตกต่างกันไปในแต่ละครั้ง แต่ผลลัพธ์ของมันถูกกําหนดโดยชะตากรรม หากข้ายังไม่ถึงที่ตาย เกราะโชคชะตาก็สามารถปกป้องข้าจากการโจมตีทุกชนิด หากข้าถูกลิขิตให้ตาย การป้องกันของเกราะโชคชะตาจะอ่อนแอราวกับกระดาษ”

 

“วิญญาณชะตากรรม!” ฟางหยวนขมวดคิ้วแน่น

 

“ถูกต้อง สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับวิญญาณชะตากรรม” ฟงจิวเก้อพยักหน้าและถอนหายใจ

 

หากวิญญาณชะตากรรมถูกทําลาย โชคชะตาจะไม่สามารถควบคุมสิ่งมีชีวิตทั้งหมดอีกต่อไป พลังอํานาจของเกราะโชคชะตาจะลดลงอย่างมาก แต่ตอนนี้วิญญาณชะตากรรมยังไม่ถูกทําลายลงอย่างสมบูรณ์ โชคชะตายังผูกมัดผู้คนบนโลกใบนี้เอาไว้ นั่นทําให้เกราะโชคชะตาสามารถปลดปล่อยพลังอํานาจที่เกินกว่าระดับแปดออกมา

 

“เกราะหวนคืนของข้าเหมือนกระดองเต่าที่แข็งแกร่ง แต่เกราะโชคชะตายิ่งทรงพลังกว่า” ฟางหยวนตระหนักถึงเรื่องนี้ขณะที่การโจมตีของเขายิ่งรุนแรงมากขึ้น

 

ฟงจิวเก้อใช้เกราะโชคชะตาโดยไม่สนค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตามในการบุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาครั้งนี้ เทพธิดาจื่อเว่ยเป็นผู้สนับสนุนด้านพลังงานอมตะของฟงจิวเก้อ

 

“บึม!”

 

ทันใดนั้นการระเบิดที่รุนแรงก็ปะทุขึ้นขณะที่ละอองดาวสีม่วงแทรกซึมเข้ามาในสนามรบราชันภูตและทําให้เกิดรอยแตกร้าวกระทั่งเผยให้เห็นภูมิทัศน์ของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

“รวดเร็วนัก!” ความเร็วในการอนุมานสนามรบราชันภูตของเทพธิดาจื่อเว่ยเหนือกว่าความคาดหมายของฟางหยวน

 

เลือดไหลออกมาจากจมูกและปากของเขาขณะที่สนามรบราชันภูตเริ่มพังทลายลง

 

ในความเป็นจริงเทพธิดาจื่อเว่ยไม่ได้มอบวิญญาณอมตะเกราะโชคชะตาให้กับฟงจิวเก้อเพื่อให้มันปกป้องเขาเพียงอย่างเดียว แต่เมื่อมันถูกกระตุ้นใช้งาน วังสวรรค์จะสามารถสัมผัสถึงมัน ย้อนกลับไปในสายธารแห่งกาลเวลา หงซื้อสามารถค้นพบฟงจิวเก้อเพราะเบาะแสจากเกราะโชคชะตา

 

เพื่อคลี่คลายสนามรบราชันภูต เกราะโชคชะตาเป็นสิ่งสําคัญที่ทําให้เทพธิดาจื่อเว่ยสามารถถอดรหัสสนามรบราชันภูตได้ในระยะเวลาสั้นๆ

 

โดยปกติแล้วการอนุมานทางปัญญาจะยากลําบากที่สุดในช่วงเริ่มต้น ผู้อมตะทุกคนบนเส้นทางแห่งปัญญาไม่สามารถอนุมานเกี่ยวกับฟางหยวนตราบเท่าที่วิธีป้องกันของเขาไม่เกิดความเสียหาย กระทั่งหนึ่งในสามผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยิ่งใหญ่ของทะเลตะวันออกฮัวอันก็ไม่สามารถอนุมานสิ่งใดเกี่ยวกับฟางหยวน

 

เมื่อเทพธิดาจื่อเว่ยสามารถเปิดช่องโหว่ เรื่องยากก็กลายเป็นเรื่องง่าย

 

ละอองดาวสีม่วงแทรกซึมเข้าไปในสนามรบราชันภูตมากขึ้นเรื่อยๆ

 

“บึม!”

 

ด้วยเสียงระเบิดที่ดังสนั่น สนามรบราชันภูตแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ฟางหยวนพ่นเลือดคําโตออกมาขณะที่วิญญาณระดับมนุษย์จํานวนมากที่อยู่ในมิติช่องว่างของเขาเสียชีวิต กระทั่งวิญญาณอมตะยังได้รับบาดเจ็บในระดับหนึ่ง

 

ฟางหยวนกลับสู่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาในร่างราชันภูต

 

“ระวัง เขามีวิธีขโมยวิญญาณอมตะจากมิติช่องว่าง!” ฟงจิวเกือบินกลับไปหาเทพธิดาจื่อเว่ย ขณะเดียวกันเขาก็แจ้งเตือนสหายร่วมรบของเขา

 

“เป็นเจ้า!” เฉินอี้เป็นคนแรกที่เปิดปากกล่าว เขาตะโกนด้วยความโกรธและดวงตาที่เบิกกว้าง

 

เขาอนุมานและสามารถเชื่อมโยงฟางหยวนกับซวนปู้จินที่ขโมยวิญญาณอมตะป้ายคําสั่งอสูรวิญญาณจากชิงโจวที่ทะเลทรายผีเขียว

 

หัวใจของฟางหยวนจมดิ่งลง

 

เขาไม่สามารถสังหารฟงจิวเก้อเพราะเกราะโชคชะตา สิ่งที่แย่ยิ่งกว่าก็คือข้อมูลเกี่ยวกับท่าไม้ตายอมตะราชันภูตและวิธีขโมยวิญญาณอมตะของเขาถูกเปิดเผย

 

นี่คือสิ่งที่ฟางหยวนพยายามหลีกเลี่ยงตั้งแต่การต่อสู้เริ่มขึ้น เขาซ่อนไพ่ใบนี้เอาไว้โดยหวังว่าจะสามารถใช้มันสังหารศัตรูที่แข็งแกร่งด้วยการพึ่งพาสนามรบราชันภูตเพื่อเก็บความลับ แต่ความปรารถนาของเขาไม่ได้รับการตอบสนอง ฟางหยวนไม่สามารถสังหารผู้ใดขณะที่ไพ่ตายของเขาถูกเปิดเผย

 

“ฟางหยวน เจ้าเป็นต้นเหตุของความวุ่นวายอย่างแท้จริง หลิวกวนซื่อคือเจ้า ซวนปู้จินก็คือเจ้าเช่นกัน!” ดวงตาของเทพธิดาจื่อเว่ยส่องประกายเย็นเยียบ นางเข้าใจแผนการของฟางหยวนทันที “เจ้าต้องการควบคุมทะเลทรายผีเขียวเพื่อรวบรวมแก่นแท้อสูรวิญญาณและใช้ภูเขาตงฮันกับหุบเขาเหล่าโปบ่มเพาะจิตวิญญาณ น่าเสียดายที่ภูเขาตงฮันถูกทําลาย คือ ไม่ เจ้ามีวิธีฟื้นฟูภูเขาตงฮัน!”

 

ฟางหยวนไม่ได้กล่าวสิ่งใด แต่เทพธิดาจื่อเว่ยเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยิ่งใหญ่ นางสามารถเปิดเผยความลับมากมายของฟางหยวนได้ทันที

 

ในความเป็นจริงเทพธิดาจื่อเว่ยก็รู้สึกหวาดกลัวเช่นกัน

 

“ผู้ใดจะคิดว่าฟางหยวนจะมีวิธีขโมยวิญญาณอมตะของผู้อื่น!”

 

“โชคดีที่มือปีศาจปล้นวิญญาณอ่อนแอกว่ามือปีศาจไร้ลักษณ์ มันไม่สามารถเลือกวิญญาณที่จะขโมย มิฉะนั้นหากมันขโมยวิญญาณที่สําคัญของผู้อมตะ การกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะของฟงจิวเก้อจะล้มเหลว เขาจะเผชิญหน้ากับฟันเฟือนและอาจถือแก่ชีวิต มันอาจเป็นปัญหาหากเขาไม่สามารถยื่อเวลาจนกว่าข้าจะสามารถถอดรหัสและทําลายท่าไม้ตายเขตแดนอมตะของฟางหยวน”

 

“อย่างไรก็ตาม เทพธิดาจื่อเว่ยมองฟางหยวนด้วยสายตาน่ากลัว แม้เขาจะล้มเหลวในการสังหารฟงจิวเก้อ แต่ปีศาจตนนี้สามารถขโมยวิญญาณท่องแดนอมตะ นั่นหมายความว่าโชคของเขาแข็งแกร่งมาก!”

 

วิญญาณชะตากรรมได้รับความเสียหายจากการโจมตีของเทพปีศาจบัวแดง แม้มันจะไม่ถูกทําลาย แต่มันก็อ่อนแอลงมาก ต่อมาเทพอมตะตะวันเดือดก็ลุกขึ้นและสร้างเส้นทางแห่งโชค

 

ตราบเท่าที่วิญญาณชะตากรรมไม่ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ เส้นทางแห่งโชคจะยังแข็งแกร่งต่อไป ระดับความสําเร็จบนเส้นทางแห่งโชคของฟางหยวนไม่สูงนัก เขาไม่มีท่าไม้ตายอมตะที่ทรงพลังบนเส้นทางแห่งโชค แต่โชคก็ช่วยเหลือเขามาตลอด

 

“บึม บึม บึม…”

 

เสียงระเบิดดังขึ้นเมื่อทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอีกครั้ง

 

ฟงจิวเก้อสูญเสียพลังการต่อสู้ไปมาก ตอนนี้เขาอยู่ภายใต้การคุ้มครองของเทพธิดาจื่อเว่ย ฟางหยวนไม่มีทางเลือกนอกจากร่วมมือกับยักษ์สวรรค์และค่ายกลวิญญาณอมตะเพื่อต่อต้านเฉินอี้กับเทพธิดาจื่อเว่ย

 

เทพธิดาจื่อเว่ยแสดงพลังอํานาจของผู้อมตะระดับแปดออกมาในเวลานี้ ท่าไม้ตายของนางกระทั่งเหนือกว่าเฉินอี้

 

เฉินอี้มีมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะบัวสรรค์ขณะที่เทพธิดาจื่อเว่ยมีมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะกลุ่มดาว ไม่ใช่ว่ามรดกที่แท้จริงของเทพอมตะบัวสวรรค์ต้อยกว่ามรดกที่แท้จริงของเทพอมตะกลุ่มดาว แต่มันเป็นเพราะพลังอํานาจของท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งปัญญาส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่พลังจิตของผู้ใช้งาน

 

ฟางหยวนมีบุตรแห่งภูตแรกกําเนิดอีกหนึ่งตน ราชันภูต และมือปีศาจปล้นวิญญาณ แต่พวกมันถูกเปิดเผยแล้ว เทพธิดาจื่อเว่ยและคนอื่นๆจะสามารถตอบโต้

 

พวกเขาไม่ได้ลดความระวังตัวลง พวกเขาใช้ท่าไม้ตายอมตะปลดปล่อยการระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่อง หากมือปีศาจปล้นวิญญาณเข้าไปใกล้ แรงระเบิดจะบังคับให้มันล่าถอยออกมาและไม่สามารถขโมยวิญญาณ

 

วิธีตรวจสอบของเฉินอี้และเทพธิดาจื่อเว่ยค่อนข้างมีประสิทธิภาพ แต่น่าเสียดายที่ฟางหยวนไม่ได้ใช้มือปีศาจปล้นวิญญาณ

 

ยิ่งเขาใช้มันมากเท่าใด ข้อบกพร่องก็จะยิ่งเปิดเผยออกมามากเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้าเทพธิดาจื่อเว่ย หากเบาะแสบางอย่างรั่วไหล นางจะสามารถอนุมานวิธีตอบโต้ได้ทันที

 

“เปรี้ยง!”

 

ด้วยเสียงฟ้าผ่า จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าปรากฏตัวขึ้นในที่สุด นางกลับมาแล้ว!