เฮลิคอปเตอร์ทั้งสิบลำค่อยๆลงจอดที่ค่ายตวนติงซือเย้าเดินลงมาทันทีที่ตัวเครื่องแตะพื้น เขาเดินเข้าไปหาตวนเจียงเหว่ยที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งซึ่งห้อมล้อมไปด้วยคนคุ้มกันมากมาย
นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ติงซือเย้ามาเยือนที่นี้ตั้งแต่ทางเข้าจนถึงห้องทำงานของตวนเจียงเหว่ย ที่จริงแล้วติงซือเย้าค่อนข้างคุ้นเคยเลยด้วยซ้ำ เนื่องจากเมื่อหลายเดือนก่อนหน้านี้เขาได้กลายเป็นคนตัวแทนพิเศษจากค่ายเขี้ยวหมาาป่า เป็นหนึ่งในสมาชิกทีมฮูหยาและก็ยังเป็นคนสนิทของชูฮัน เขาถูกแต่งตั้งให้เป็นนักทูตระหว่างค่ายเขี้ยวหมาป่าและค่ายตวน ตัวตนที่แตกต่างกันทั้งสามข้ออย่างสุดขั้วนี้ทำให้ติงซือเย้าเป็นคนที่ตวนเจียงเหว่ยให้ความสนใจอย่างมาก
เหมือนกับตอนนี้สีหน้าของติงซือเย้ากำลังสับสนและอึดอัด ในใจเอาแต่คิดถึงแต่คำพูดของชูฮันในตอนที่ตัวเขาถูกส่งมาจากค่ายเขี้ยวหมาป่า
มันทั้งแปลกอย่างมากแต่ก็เป็นคำพูดทั่วไปติงซือเย้านึกหาประโยชน์จากข้อความที่ชูฮันส่งมานี้ไม่ออกเลย แต่ชูฮันกำชับเขามาโดยเฉพาะว่าเขาต้องส่งมอบข้อความนี้ให้แก่ตวนเจียงเหว่ยโดยตรง
แล้วเขาจะบอกตวนเจียงเหว่นยังไง?อะไรคือจุดประสงค์ของหัวหน้าชูฮันกันแน่?
”หยุด!”หลูชูซเวที่ยืนประจำอยู่หน้าห้องตวนเจียงเหว่ยเอ่ยทักติงซือเย้าขึ้นก่อน ทำให้ติงซือเย้าต้องหยุดเท้าและเคาะประตูด้วยความเคารพและระมัดระวัง
ติงซือเย้ารีบดึงสติตัวเองกลับมาทันทีแต่เมื่อได้เห็นสีหน้าของหลูชูซเว สายตาของติงซือเย้าก็วาวขึ้นเล็กน้อย เขามองเห็นได้ชัดเจนว่าสถานการณ์ค่ายตวนในตอนนี้ผิดแปลกไปจากปกติ เมื่อตอนที่เขามาถึงระเบียบปฏิบัตินั้นไม่ได้เข้มงวดเหมือนเมื่อก่อน แต่ตอนนี้เมื่อได้เจอกับหลูชูซเวที่ยังคงเข้มงวดเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ติงซือเย้าจึงเริ่มสับสน
สถานการณ์ของตวนเจียงเหว่ยตอนนี้คงไม่ค่อยดีหัวหน้าชูฮันคงทำให้ทุกคนคิดผิดไปหลายอย่าง
ในขณะที่ความคิดในหัวติงซือเย้าเริ่มแตกขยายไปเรื่อยๆประตูก็ถูกเปิดออก หลูชูซเวหันมาพูดกับติงซือเย้า “เข้าไปข้างใน เงียบๆด้วยล่ะ อย่างส่งเสียงดังให้ท่านไม่พอใจ”
”อึก~”
ติงซือเย้าแอบปาดเหงื่อเบาๆสบตากับหลูชูซเวด้วยความกลัว มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมต้องระมัดระวังกันขนาดนี้?
ตวนเจียงเหว่ยไม่พูดจายั่วเย้าเขาอย่างเดิมแล้วหรือว่าเพราะอากาศเปลี่ยนทำไมอารมณ์เปลี่ยนไปด้วย?
ติงซือเย้าก้าวเท้าเข้าไปในห้องทันทีที่เข้าไปติงซือเย้าก็สามารถมองเห็นเพดานสูงชะลูด หน้าต่างบานใหญ่ที่ทำให้เห็นภาพทิวทัศน์กว้างเต็มตา มันไม่ใช่ห้องมืดมัวไฟสลัวหม่นๆอย่างที่ติงซือเย้าจินตนาการเอาไว้เลย ภาพที่ได้เห็นทำให้ติงซือเย้าที่เครียดหายใจเต็มปอดด้วยความโล่ง
ตวนเจียงเหว่ยยืนอยู่ตรงหน้าต่างบานใหญ่ที่สูงเกือบถึงเพดานหลังตรงแด่ว ไหล่กว้างผ่าเผย สำหรับติงซือเย้า…ตวนเจียงเหว่ยดูมีสง่าราศีไม่น้อย ภาพตรงหน้าที่ปรากฏสู่สายตาซึ่งไม่ห่างจากหน้าต่างตรงหน้าตวนเจียงเหว่ยคือภาพเสาหินยักษ์ ซึ่งด้านบนนั้นมีอันดับรายชื่อวิวัฒนาการระยะ 5 ปรากฏเด่นหราอยู่ ชื่อของชูฮันตั้งสง่าอยู่ตรงหน้าชัดเจนต่อสายตาทุกคนในค่ายตวน
”นักการทูตติงซือเย้า”ตวนเจียงเหว่ยเปิดก่อน หากเขายังไม่ได้หมุนตัวกลับมา สายตายังคงจับจ้องไปที่เสาหินไม่วางตา “มาที่นี่ทำไมกัน?”
แม้ว่าสายตาของตวนเจียงเหว่ยจะยังจ้องไปที่เสาหินอยู่ไม่เปลี่ยนหากสีหน้าและในใจนั้นกำลังเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย ทุกครั้งที่ติงซือเย้ามาเยือนค่ายตวนเขาไม่เคยมีช่วงเวลาดีๆให้จดจำเลย ทำไมตอนนี้จู่ๆติงซือเย้าถึงได้กลับมาพร้อมกับเฮลิคอปเตอร์ที่เขาส่งความช่วยเหลือไปให้ค่ายเขี้ยวหมาป่า มันเป็นประเด็นที่น่าสงสัยอย่างมาก
หรือต้องการแสดงความซาบซึ้ง?
ถ้าเป็นคนอื่นจากค่ายอื่นที่มาแสดงความซาบซึ้งขอบคุณมันคงเป็นเรื่องธรรดมา แต่สำหรับค่ายเขี้ยวหมาป่า…
ทุกอย่างคือสิ่งที่ไม่อาจรู้ได้!
ติงซือเย้าดึงสายตากลับมาจากเสาหินที่มีชื่อชูฮันแสดงอยู่เขาพยายามสงบอารมณ์ตัวเองลง
ชื่อของชูฮันบนเสาหินเหมือนเป็นหลักประกันทำให้ตอนนี้แม้ติงซือเย้าจะตัวคนเดียวแต่เขาไม่ได้รู้สึกโดดเดี่ยว แม้จะยืนเผชิญหน้าอยู่กับตวนเจียงเหว่ยที่ดูเหมือนพยายามเก็บอารมณ์อยู่ หากเขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรต่อติงซือเย้าออกมา ”หัวหน้าชูฮันส่งผมมาเพื่อนำส่งข้อความครับ”ติงซือเย้าเอ่ยเสียงนิ่ง ยืนเงียบๆอยู่หลังตวนเจียงเหว่ย รัศมีกล้าหาญที่ไม่กลัวต่อตวนเจียงเหว่ยค่อยๆกระจายออกไป
”ใคร”
จู่ๆตวนเจียงเหว่ยก็หันขวับกลับมากระทันหันร่างทั้งร่างสั่นเทิ้มและตะคอกใส่ติงซือเย้าเสียงดัง “นายพูดถึงใคร?!”
”พลเอกขูฮัน”ติงซือเย้าตอบเสียงนิ่งเรียบ
เงียบกริบ——
ตวนเจียงเหว่ยตะลึงนิ่วค้างเป็นเวลาพักใหญ่กว่าเขาจะเค้นเสียงออกมาอีกครั้ง “เขากลับมาที่ค่ายเขี้ยวหมาป่าแล้ว?”
รอยยิ้มปีศาจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของติงซือเย้าตวนเจียงเหว่ยประหลาดใจอย่างมาก ติงซือเย้ายังเงียบเงียบสงบเหมือนเดิมขณะเอ่ยตอบเสียงเรียบ “ครับ เขาพึ่งกลับมาถึงวันนี้” ติงซือเย้าเผชิญหน้ากับตวนเจียงเหว่ยด้วยท่าทางไร้ความเกรงกลัวเขายิ้มจางๆขณะเอ่ยตอบ ติงซือเย้าพยายามรักษาท่าทีนิ่งสงเอาไว้ แม้ภายในจะเต็มไปด้วยความร้ายกาจและยิ้มแก้มปริเต็มที่อยู่ก็ตาม
เป็นไงล่ะ?กลัวเหรอ? แค่ได้ยินชื่อหัวหน้าชูฮัน ก็เห็นแล้วว่านายกลัวขนาดไหน!
ตวนเจียงเหว่ยกำลังเป็นอย่างที่ติงซือเย้าคิดทันทีที่เขาได้ยินว่าชูฮันกลับมาที่ค่ายเขี้ยวหมาป่า เขาก็เหมือนกับถูกมีดปักเข้าอก เขาไม่ได้ตกใจแต่กลัว!
ที่สุดท้ายที่ทุกคนรู้คือชูฮันอยู่ที่เมืองหนานตู้หลังจากเกิดการเปลี่ยนแปลงของอันดับรายชื่อเสาหิน แต่ละค่ายก็แทบจะเป็นบ้ากันหมดทันที และยิ่งการที่ชูฮันได้คะแนน S+ อยู่เพียงคนเดียวในทุกอันดับอีก ไหนจะทีทุกคนคาดกันว่าเสาหินพิเศษที่ชูฮันเข้าไปทำการประเมิณน่าจะอยู่ใกล้กับเมืองหนานตู้เป็นแน่
ดังนั้นไม่ว่าจะค่ายเล็กค่ายใหญ่ ทุกคนต่างระดมกำลังพลที่แข็งแกร่งทั้งหมดของตัวและแอบส่งให้มุ่งหน้าไปยังเมืองหนานตู้ลับๆเพื่อตามหาเสาหินประเมิณพิเศษระยะ 5 เพื่อพยายามชิงข้อได้เปรียบในการพัฒนาเศรษฐกิจของเมืองตัวเอง เพราะนี่คือโลกาวินาศ ผู้ที่อยู่รอดได้คือคนที่ชิงได้ของมีค่ามาไว้กับตัวก่อน
แน่นอนว่าตวนเจียงเหว่ยที่เป็นนักวางกลยุทธ์มาเสมอเองก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน เขาถึงกับส่งวิวัฒนการที่มีฝีมือทั้งหมดในค่ายไป ในตอนเมืองโรแมนติกเขาเคยพ่ายแพ้อละอับอายมาแล้ว ครั้งนี้เขาจะต้องทำทุกอย่างสุดฝีมือเพื่อชิงเสาหินประเมิณพิเศษมาเป็นของตัวเองให้ได้
ทว่าตอนนี้ในวันเดียวกันนั้นเองจู่ๆติงซือเย้าก็บอกเขาว่าตอนนี้ชูฮันอยู่ที่ค่ายเขี้ยวหมาป่าแล้ว?
แล้วมันจะไม่ทำให้ตวนเจียงเหว่ยช็อคได้ยังไง!!!
ข้อมูลที่ได้รับรู้จากการเปิดเผยของติงซือเย้านั้นส่งผลกระทบของมันรุนแรงไม่ต่างจากกระสุนที่ยิงใส่ตวนเจียงเหว่ยเลยตวนเจียงเหว่ยที่เป็นคนควบคุมอารมณ์ได้ดีมาตลอดเกือบจะหลุดสบถออกมา คำสบถมากมายติดอยู่ในลำคอของเขาจนแทบจะขาดอากาศหายใจ
ชูฮันไม่ได้อยู่ในเมืองหนานตู้ชื่อของชูฮันพึ่งปรากฏบนเสาหินเมื่อวานเท่านั้น แต่วันนี้ชูฮันมาปรากฏตัวที่ค่ายเขี้ยวหมาป่าแล้ว!
ทุกอย่างทำให้ตวนเจียงเหว่ยเข้าใจได้ในทันทีมันชัดเจนว่าเสาหินประเมิณพิเศษไม่ได้อยู่ในเมืองหนานตู้ และการส่งกำลังพลทั้งหมดไปล่วงหน้าอย่างลับๆก่อนหน้านี้ก็เปล่าประโยชน์ทั้งนั้น ทุกอย่างคือเสียเปล่า!
มันคือการโดยสารโดยพาหนะบางอย่างแต่มันไม่มีพาหนะไหนที่พวกเขารู้จักจะเดินทางได้รวดเร็วขนาดนี้ ถ้าถามว่า ‘ชูฮันเดินทางกลับมาค่ายเขี้ยวหมาป่าด้วยพาหนะอะไร? หรือ มีใครส่งเฮลิคอปเตอร์ไปรับชูฮัน?’ ด้วยคำถามโง่ๆแบบนี้ ไม่ต้องพูดเลยว่าชูฮันจะหัวเราะเยาะใส่จนหงายหลังขนาดไหน เพราะแม้แต่ตวนเจียงเหว่ยเองก็คงอยากจะตบหน้าตัวเองเหมือนกัน
คำถามที่เป็นความลับนี้ที่ตวนเจียงเหว่ยบอกกับตัวเองว่ามันต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นโดยที่ทุกคนไม่รู้!
ไม่รู้ว่าชูฮันไปเจออะไรมาบ้างตลอดหนึ่งเดือนที่หายตัวไปและชูฮันได้พบกับใครมาบ้าง?