บทที่ 2278+2279

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 2278 เอาล่ะ บอกข้าสิ เจ้าเป็นใคร?

เธอลูบคลำซากศพอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดก็คลำพบถุงเล็กๆ ใบหนึ่ง เป็นถุงเก็บของชนิดหนึ่ง ซ้ำยังเป็นถุงเก็บของระดับสูงยิ่งนักด้วย

กู้ซีจิ่วหยิบอาภรณ์ชุดหนึ่งออกมาจากถุงเก็บของใบนั้น นั่นเป็นอาภรณ์สีดำชุดหนึ่ง ตรงชายกระโปรงกุ๊นขอบสีเขียวอ่อน ตรงขอบสีเขียวทอแสงจางๆ ด้วย ราวกับเพลิงอนธการที่ลุกโชติช่วง…

“นี่คือชุดกันเพลิงหรือ?”

กู้ซีจิ่วถาม

“อื้อ”

กู้ซีจิ่วมองพิศชุดนั้นอย่างละเอียดอีกรอบ ใจเต้นแวบหนึ่ง

หยิบอาภรณ์อีกชุดหนึ่งออกมาจากถุงเก็บของตัวเอง อาภรณ์ชุดนี้เธอพบในห้องเก็บสมบัติของอวิ๋นเยียนหลี ตอนนั้นมองเห็นมันวางอยู่บนชั้นสมบัติล้ำค่า จึงหยิบติดมาด้วย

ตอนนั้นเธอไม่รู้ว่าชุดนี้คืออะไร ยามนี้ในที่สุดก็กระจ่างแล้ว!

นี่คือชุดกันเพลิง!

ทำไมในห้องลับของอวิ๋นเยียนหลีถึงมีสิ่งนี้?

เขาเกี่ยวข้องอันใดกับคนของอาณาจักรมารหรือเปล่า?

“มีชุดกันเพลิงนี้แล้วสามารถเข้าออกอาณาจักรมารอสุราได้ตามใจชอบเลยหรือไม่?”

กู้ซีจิ่วถามเด็กน้อยในอ้อมแขน

“ต้องใช้คู่กับหญ้ายืนเยาว์”

เอาเถอะ เช่นนั้นเธอต้องหาทางไปเก็บหญ้ายืนเยาว์อีก

ถึงแม้หญ้ายืนเยาว์จะหายาก แต่ก็ไม่นับว่าหายากจนเกินไป ปกติแล้วมักนำมาประมูลขายในโรงประมูลอยู่บ่อยครั้ง

เนื่องจากมันก็เป็นสมุนไพรเสริมความงามที่พิเศษยิ่งนักชนิดหนึ่ง ใช้เป็นกระสายยาได้ เหมาะสำหรับสร้างเป็นโอสถชะลอวัย

เมื่อยืนยันเป้าหมายได้แล้ว กู้ซีจิ่วก็โล่งใจไปได้เปลาะหนึ่ง

“นางมิใช่มารดาเจ้าหรือ?”

กู้ซีจิ่วสอบถามหนูน้อยในอ้อมแขน

หนูน้อยมองตาแป๋วไม่พูดไม่จา แสร้งทำตัวเป็นทารกน้อยอีกครั้ง

“ไม่ต้องมาหลอกข้าเลย เมื่อกี้เจ้าไม่ได้เรียกนางว่าแม่ แต่เรียกชื่อนางแทน”

กู้ซีจิ่วเปิดโปงเขา

“เอาล่ะ บอกข้าสิ เจ้าเป็นใคร?”

หนูน้อยหลับตาลงเสียเลย

ขนตาเขายาวงอน ยามที่หลับตาเช่นนี้ ดูน่ารักยิ่งนัก

คนทั่วไปย่อมหักใจสร้างความลำบากใจให้ทารกเช่นนี้ไม่ลง แต่กู้ซีจิ่วใช่คนทั่วไปเสียที่ไหน?

เธอวางเด็กน้อยลงใต้ต้นไม้ใหญ่เสียเลย

“ถ้าแม้แต่ความจริงก็ยังไม่ยอมพูดออกมา ข้าจะไม่พาเจ้าไปด้วย”

พลางปัดแขนเสื้อ หันหลังหมายจะจากไป

หมาป่าเงินตัวน้อยร้อนรนแล้ว รีบคาบชายกระโปรงกู้ซีจิ่วเอาไว้ทันที ร้องงี้ดง้าด คล้ายหวั่นเกรงว่าเธอจะหนีไป

หมาป่าน้อยเจ้าน้ำตายิ่งนัก เนื่องจากรั้งกู้ซีจิ่วไม่อยู่ มันจึงตั้งท่าจะหลั่งน้ำตาอีกครา

กู้ซีจิ่วมองเด็กน้อยคนนั้นแวบหนึ่ง เด็กน้อยคนนั้นกำลังมองเธออย่างประหม่าอยู่บ้าง เมื่อเห็นเธอมองมา เขาก็รีบละสายตาไป

กู้ซีจิ่วลอบขัน ถึงอย่างไรก็ยังเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งอยู่ดี…

เธออุ้มหมาป่าเงินที่งับชายกระโปรงเธอขึ้นมา ลูบหน้าผากมัน

“เจ้าเป็นเด็กดีมาก ข้าจะพาเจ้าไปด้วยดีไหม?”

หมาป่าน้อยแข็งทื่อไปทันที เหลียวมองหนูน้อยคนนั้น หนูน้อยจ้องมันเขม็ง นัยน์ตาสีดำคู่นั้นเปล่งประกายดุจอัญมณี

“งี้ดๆ หงิงๆ…”

หมาป่าน้อยเลียหลังมือกู้ซีจิ่วอย่างเอาใจ จากนั้นก็ดิ้นรนลงไป ดูจากเจตนาแล้ว มันต้องการจะร่วมเป็นร่วมตายกับเด็กน้อย

กู้ซีจิ่วถอนหายใจ ลูบหัวหมาป่าเงินตัวน้อย

“เจ้ากลับมีใจภักดีนัก เอาเถอะ จะปล่อยให้เจ้าอยู่ข้างกายนายน้อยก็แล้วกัน”

แล้วอุ้มหมาป่าน้อยไปอยู่เบื้องหน้าเด็กน้อยในห่อผ้า แล้วหันหลังจากไปอีกครั้ง

ในที่สุดเด็กน้อยก็ทนไม่ไหวแล้ว

“นางไม่ใช่มารดาของข้าจริงๆ นางเป็นข้ารับใช้”

ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นสาวใช้…

“เช่นนั้นเจ้าชื่ออะไร? เกี่ยวข้องกับคนของอาณาจักรมารอย่างไร?”

เด็กน้อยคนนั้นคับข้องหมองใจยิ่ง

“ข้าเกิดมาก็ตกอยู่ท่ามกลางการไล่ล่าสังหารแล้ว ข้าไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ตลอดทางมานี้เป็นฮ่วนเฟิ่งที่ถ่ายทอดความรู้เหล่านี้แก่ข้า อย่างอื่นข้าไม่รู้เลย…”

คงจะทราบดีว่าปิดบังเรื่องที่ตนพูดได้ไม่อยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้เด็กน้อยจึงพูดออกมาจนหมดเปลือกเสียเลย

————————————————————————————-

บททที่ 2279 เข้าอาณาจักรมาร

“ฮ่วนเฟิ่งบอกว่าห้ามข้าพูดต่อหน้าคนอื่น กันไม่ให้เป็นการชักภัยมาใส่ตัว…เมื่อกี้เจ้ารับปากฮ่วนเฟิ่งไปแล้ว บอกว่าจะดูแลข้า ส่งข้าเข้าอาณาจักรมาร เจ้าคงไม่กลับคำกระมัง?”

เจ้าตัวน้อยมองเธอตาแป๋ว นัยน์ตาแวววาวดุจแก้วผลึก

กู้ซีจิ่วก็ไม่คิดจะหมางเมินเขาจริงๆ เช่นกัน พอได้ยินเขาเอ่ยเช่นนี้ จึงอุ้มเขาขึ้นมา

“นี่ก็ต้องดูก่อนว่าเจ้าเป็นเด็กดีไหม”

หนูน้อยเอียงหัวเล็กๆ ซบไหล่เธอ

“ข้าเป็นเด็กดี…”

กู้ซีจิ่วตบหลังเขาเบาๆ

“เช่นนั้นเจ้าก็ซื่อสัตย์หน่อย อย่าสร้างปัญหาให้ข้า”

“ข้าไม่ได้ชอบสร้างปัญหา”

เจ้าตัวเล็กฮึดฮัดเล็กน้อย

“เจ้าอายุเท่าไหร่แล้ว?”

“…สองสามเดือนกระมัง จำไม่ค่อยได้แล้ว”

“แม่เจ้าล่ะ?”

“ไม่รู้…”

“เห็นทีว่าเจ้าคงไม่รู้ด้วยกระมังว่าพ่อเจ้าคือใคร”

“อืม รอเจ้าตามหาให้ข้าไง”

กู้ซีจิ่วปวดหัวแล้ว นี่จะให้เธอหายังไงล่ะ? เธอหาเรื่องให้ตัวเองจริงๆ เลย…

เธอมองเด็กน้อยในอ้อมแขนอีกครั้ง รูปโฉมของเจ้าตัวเล็กงดงามผ่องแผ้วโดยแท้! ปานแกะสลักจากแก้วผลึก กลางหว่างคิ้วมีไฝชาดอยู่เม็ดหนึ่ง ยามที่ดวงตาคู่นั้นมองดูคนช่างกระจ่างแวววาวปานหล่อด้วยวารี…

หนูน้อยที่งดงามถึงเพียงนี้ไม่ว่าใครอุ้มล้วนกลายเป็นทิวทัศน์อันงดงามทั้งสิ้น ดึงดูดใจคนได้โดยอัตโนมัติ

เธอมองหมาป่าเงินตัวน้อยที่เดินตามติดทุกย่างก้าวอีกครั้ง เจ้าตัวเล็กทั้งสองสะดุดตาเกินไปแล้ว!

กู้ซีจิ่วยังต้องเข้าเมืองไปหาทางประมูลหญ้ายืนเยาว์อีก ถ้าพาเจ้าตัวน้อยทั้งสองที่แสนโดดเด่นไปด้วยต้องตกเป็นเป้าสายตาแน่นอน! ยิ่งไปกว่านั้นคือคนของอวิ๋นเยียนหลีกำลังไล่ล่าพวกเขาอยู่…

กู้ซีจิ่วหยุดฝีเท้า

“พวกเราต้องปลอมตัวกันหน่อยแล้ว”

หนูน้อยมีสีหน้าสนใจใคร่รู้…

เพียงแต่ เขาหมดความสนใจอย่างรวดเร็วยิ่ง!

เนื่องจากวิชาแปลงโฉมของกู้ซีจิ่วเลิศล้ำเกินไปแล้ว! เปลี่ยนไก่เป็นเป็ดได้ในชั่วพริบตา!

ตัวเขาที่เป็นหนูน้อยผู้งดงามอย่างน่าเหลือเชื่อคนหนึ่ง หลังจากตกอยู่ในเงื้อมมือนางครู่หนึ่ง ก็กลายเป็นเด็กขี้เหร่ไปแล้ว!

หน้าน้อยๆ ดำปานก้นหม้อ บนหน้าผากมีปานขนาดใหญ่ ทำให้คนเห็นแวบแรกแล้วไม่คิดจะมองเป็นครั้งที่สองอีก

ส่วนหมาป่าน้อยเปลี่ยนไปไม่มาก เพียงเปลี่ยนหมาป่าน้อยขนเงินตัวหนึ่งให้เป็นลูกหมาสีขาว

แม้แต่ดวงตาดุจทับทิมที่เป็นเอกลักษณ์ของมันก็กลายเป็นสีดำสนิทแล้ว…

เมื่อมองดูกู้ซีจิ่วอีกครั้ง เธอก็แปลงโฉมตัวเองด้วย กลายเป็นหญิงออกเรือนที่ไม่งดงามทว่าไม่ขี้ริ้วคนหนึ่ง แต่งกายหรูหรามีสง่าราศียิ่งนัก

“ข้าได้ยินฮ่วนเฟิ่งเรียกเจ้าว่าหลินเอ๋อร์ (กิเลนน้อย) นามเจ้าเรียกเช่นนี้จริงๆ หรือ?”

หนูน้อยเม้มริมฝีปากจิ้มลิ้มนิดๆ

“ข้าไหนเลยจะมีนามเฉิ่มเชยเช่นนี้! นั่นเป็นนางตั้งให้นายน้อยอย่างข้าส่งเดชต่างหาก!”

“งั้นเจ้าอยากชื่ออะไร?”

“ข้ายังเล็กเกินไป ไม่รู้อะไรเลย เจ้าช่วยตั้งให้ข้าสักชื่อได้ไหม?”

“จวิ้นเอ๋อร์?” (สุดหล่อ)

“ไม่เอา!”

“เซียวเอ๋อร์?” (สุดเท่)

“เชย!”

สุดหล่อเอย สุดเท่เอย ล้วนถูกเขาตีกลับมาทั้งหมด กู้ซีจิ่วนึกอะไรดีๆ ไม่ออกแล้วจริงๆ

เมื่อมองใบหน้าถมึงทึงของเจ้าตัวน้อย เธอพลันใจสั่นแวบหนึ่ง

“เช่นนั้นเรียกเฮ่าเอ๋อร์ดีไหม?” (เกรียงไกร)

คิ้วของหนูน้อยขมวดแน่นกว่าเดิมแล้ว

“เฮ่าคำนี้ออกเสียงไม่เลวเลย แต่อักษรไม่งาม มิสู้เรียกว่าเฮ่าเอ๋อร์ (ยิ่งใหญ่) ดีกว่า”

เขาว่าบอกลำดับการเขียนคำนั้นออกมา

ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าตัวน้อยจะมีการศึกษาถึงเพียงนี้ แม้แต่คำที่ไม่ค่อยใช้กันเช่นนี้ก็เขียนเป็น!

“ดูเหมือนฮ่วนเฟิ่งจะสอนอะไรให้เจ้าไม่น้อยเลยนะ”

กู้ซีจิ่วมองหนูน้อยในอ้อมแขนอย่างใช้ความคิด

“เป็นเพราะข้าฉลาดเกินไปน่ะ” เด็กน้อยในอ้อมแขนเธอทำตัวน่าเอ็นดู

ชิ! เชื่อเจ้าก็บ้าแล้ว!

ไม่รู้ว่าเจ้าตัวน้อยเป็นอันใดมาเกิด ถึงได้เลิศล้ำเหนือมาตรฐานจนเข้าขั้นวิปริต!

กู้ซีจิ่วอุ้มเด็กจูงสุนัข เข้าเมืองไปเช่นนี้

ที่กู้ซีจิ่วคาดไม่ถึงคือ หญ้ายืนเยาว์ช่างหาซื้อได้ยากเย็นถึงเพียงนี้!

เธอตระเวนไปมาหลายโรงประมูลแล้ว ถามเถ้าแก่ผู้เปิดประมูล ล้วนไม่มีหญ้านี้มายื่นประมูลเลย