ขณะที่เย่เซิ่งเทียนกำลังกลับมาที่ตระกูลหลี่ ข่าวที่น่าตกใจก็แพร่กระจายไปทั่วเมืองโมตู
ซ่งหยวนลี่คุณชายใหญ่ของตระกูลซ่งถูกตัดศีรษะต่อหน้าคนของตระกูลซ่ง! !
ข่าวนี้ทำให้เกิดพายุลูกใหญ่ในเมืองโมตู ทุกคนต่างคาดเดา ว่าใครที่ใจกล้าขนาดนี้ กล้าตัดศีรษะของซ่งหยวนลี่ต่อหน้าคนตระกูลซ่ง!
ฟ้ากำลังจะถล่มแล้ว!
ตระกูลซ่งจะยอมรามือได้อย่างไร!
“ได้ยินมาว่าตระกูลซ่งโกรธมาก และสาบานว่าจะตามหาฆาตกร ถึงแม้ว่าพวกเขาจะต้องปูพรมหาทั่วเมืองโมตู ก็ต้องหาฆาตกรออกมาให้ได้”
“ใครที่ใจกล้าขนาดนี้? ผมได้ยินว่าบุคคลนั้นนำตัวคุณชายซ่งมาที่ตระกูลซ่ง และใช้มีดตัดศีรษะของคุณชายซ่งต่อหน้าผู้นำตระกูลซ่งและคนอื่น ๆ ช่างใจกล้าจริง ๆ”
“ผมได้ยินว่าผู้นำตระกูลซ่งและคนอื่น ๆ คุกเข่าขอความเมตตาแต่มันก็ไร้ประโยชน์ คุณชายซ่งไปล่วงเกินคนใหญ่คนโตคนหนึ่ง และคำวิงวอนของตระกูลซ่งนั้นไร้ประโยชน์ พวกเขาไม่ให้เกียรติตระกูลซ่งแม้แต่น้อย”
“ถุย พวกคุณรู้อะไร ผมได้รับข่าวแล้ว ได้ยินมาว่าคุณชายซ่งถูกใจผู้หญิงคนหนึ่ง แต่สถานะของผู้หญิงคนนั้นไม่ธรรมดา และเธอได้รับการสนับสนุนจากนักบู๊ที่แข็งแกร่ง พวกคุณต่างก็รู้นิสัยของคุณชายซ่งใช่ไหม? ต้องมีผู้หญิงนอนเป็นเพื่อนทุกคืน และต่อมาเขาต้องการให้ผู้หญิงคนนั้นนอนกับเขา แต่ผลสุดท้ายคือถูกฆ่าตาย”
“ได้ยินเหมือนกันว่าคนนั้นเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่ง ดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่งกว่าพญาบู๊เฉินเสียอีก แต่ผมไม่รู้รายละเอียด พวกคุณคิดว่าคุณชายซ่งรนหาความตายใช่หรือไม่ เห็นผู้หญิงเป็นของเล่นจนสมองผิดปกติไปแล้วมั้ง? ผู้หญิงแบบไหนก็เอาหมด? ข่าวที่ผมรู้คือสามีของผู้หญิงคนนั้นรู้จักนักบู๊ที่แข็งแกร่ง ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเซียนบู๊ ว่ากันว่าถ้าอยู่ในกองทัพ ระดับเซียนบู๊นั้นเป็นระดับเดียวกับสี่ราชาสงคราม”
“ฮ่า ๆ ผมเพิ่งได้รับข่าว พวกคุณรู้ไหมว่าเมื่อคืนเกิดการนองเลือดที่ปี้หยุนเจียนของท่านจิน และท่านจินมักจะใช้ปี้หยุนเจียนเป็นสถานที่เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกทางการและชนชั้นสูงต่าง ๆ สาวในนั้นล้วนเป็นนักศึกษาชั้นแนวหน้า แต่ละคนสวยกว่าดาราเสียอีก เมื่อคืนคุณชายซ่งกับกลุ่มลูกเศรษฐีมั่วผู้หญิงอยู่ที่ปี้หยุนเจียน มีคนมาหาถึงที่ ทำให้คนของท่านจินได้รับบาดเจ็บสาหัส สุดท้ายแม้กระทั่งพญาบู๊เฉินออกหน้าก็ไม่สามารถปกป้องเขาได้”
“เป็นเรื่องจริงเหรอ? คุณรู้ได้อย่างไร?”
“พวกคุณอย่ากระจายข่าวนี้ออกไป ลูกพี่ลูกน้องของผมคือพี่มังกร เป็นผู้จัดการล็อบบี้ของปี้หยุนเจียน เขาเป็นคนบอกผมเอง…….”
ข่าวทุกประเภทแพร่กระจายเหมือนไฟป่าไปทั่วเมืองโมตู และไม่มีใครสามารถแยกแยะเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จได้
แต่ทุกคนรู้ว่าคราวนี้ตระกูลซ่งได้ยั่วยุคนที่ไม่สามารถยั่วยุได้ และคุณชายซ่งสร้างปัญหาใหญ่
อย่างไรก็ตาม มีคนไม่เชื่อว่าตระกูลซ่งจะยอมรับสภาพ เพราะอย่างไรเสียตระกูลซ่งก็เป็นหนึ่งในสามยักษ์ใหญ่แห่งเมืองโมตู นอกจากนี้เส้นสายของพวกเขายังกว้างขวาง และมีทรัพยากรทางการเงินที่แข็งแกร่ง ประเด็นสำคัญคือมีภูมิหลังแข็งแกร่งมาก พวกเขาต้องไม่ยอมรามืออย่างแน่นอน
คนแวดวงชั้นสูงคาดเดาเรื่องนี้ได้
ไป๋เหวินเซวียน ผู้นำของตระกูลไป๋ มาหาเฉินซือเลี่ยงเพื่ออยากรู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ได้รับคำเตือนจากเฉินซือเลี่ยงว่าอย่าสืบเรื่องนี้
หลังจากกลับไปถึงตระกูลแล้ว ไป๋เหวินเซวียนแจ้งสมาชิกทุกคนในตระกูลทันที และเตือนพวกเขาว่าช่วงนี้ไม่ให้ติดต่อกับตระกูลซ่ง ขณะเดียวกัน ถ้าใครกล้าล่วงเกินตระกูลหลี่ โดยเฉพาะหวางซีกับเย่เซิ่งเทียน เขาจะหักขาของบุคคลนั้นด้วยตนเอง!
เรื่องของซ่งหยวนลี่ ทำให้เขาตกใจกลัวเป็นอย่างมาก
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเย่เซิ่งเทียนและหวางซีในการประชุมวิชาการทางการแพทย์ก่อนหน้านั้นแล้ว เขาก็อดไม่ได้จนเหงื่อไหลออกมา
โชคดีที่เขาและเฉินซือเลี่ยงมีความสัมพันธ์ที่ดี สุดท้ายหลังจากฟังคำพูดของเฉินซือเลี่ยงแล้ว เขาก็ไปขอโทษเย่เซิ่งเทียนถึงบ้าน และเย่เซิ่งเทียนก็ยอมรับคำขอโทษแล้ว
“คุณพ่อ เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
ไป๋เส้าหยู่นั่งรถเข็น ขาทั้งคู่ของเขาถูกเย่เซิ่งเทียนหักในการประชุมวิชาการทางการแพทย์ และตอนนี้อยู่ในช่วงพักฟื้น
ตอนแรกไป๋เหวินเซวียนไม่อยากจะพูด แต่เขาเหลือบมองคนในตระกูล และกังวลว่าพวกเขาจะทำเรื่องโง่เขลา จึงกล่าวเบา ๆ ว่า “เป็นไปได้มากที่ตระกูลซ่งจะถูกทำลายล้าง!”
“อะไรน่ะ?”
คนของตระกูลไป๋ต่างตกใจ และไม่อยากจะเชื่อ