อีกหน่อยคงต้องงับลงบนริมฝีปาที่โต้เถียงนั้นเสียแล้ว ฮอนตัดสินใจอย่างนั้นแล้วคิ้วของฮอนที่กำลังวางเทียนเข้าไปข้างในโคมไฟก็ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เป็นเรื่องบังเอิญหรือ โคมไฟสีเหลืองเข้มพอวางเทียนลงไปก็ส่องสว่างดูเหมือนสีทอง แสงสีทอง สีของพระราชา รยูฮาที่หันมามองก็มองด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยคำถาม จูฮวันทำตามโตราวกับตกใจมาก 

 

 

“เป็นเรื่องบังเอิญหรือพ่ะย่ะค่ะ หรือหญิงชราคนนั้นมีญาณพิเศษ” 

 

 

“อย่าคิดมากเลย อาจจะเป็นเพราะสีเหลืองขายไม่ค่อยดีเลยเอาให้ก็ได้” 

 

 

“ขายไม่ค่อยดีงั้นหรือ เกินไปแล้ว” 

 

 

ฮอนบ่นพึมพำ รยูฮาเข้าไปคล้องแขนอีกครั้งแล้วเริ่มเดินหาความสนุกสนาน มือของทั้งคู่ที่เดินเที่ยวชมตลาดกลางคืนตรงนั้นตรงนี้อยู่สักพักก็มีอาหารเสียบไม้ที่ขายตรงถนนถืออยู่ ส่วนในมือของจูฮวันมีแต่ของจุกจิกไร้ประโยชน์ 

 

 

“ท่านสามี อันนั้น” 

 

 

คราวนี้สิ่งที่รยูฮาชี้คือแผ่นป้ายที่ทำมาจากหยก เป็นของหายากกว่าที่คิด ความอยากรู้อยากเห็นเริ่มเพิ่มขึ้นจึงหยิบมาสำรวจ 

 

 

“โอ้ เจ้านาย สายตาในการเลือกของไม่ธรรมดาเลย เดี๋ยวนี้เหล่าคุณหญิงไม่ใช้แผ่นป้ายไม้แต่ใช้แผ่นป้ายที่ทำจากหยก เคลือบด้วยน้ำมันที่ทำจากไม้ยิ่งทำให้สีสันสวยงาม” 

 

 

เพราะคำเยินยอของพ่อค้าเหมือนกับทาน้ำผึ้งไว้ที่ปาก หรือเป็นเพราะท่าทางการสำรวจแผ่นหยกด้วยสายตาอย่างรู้อยากเห็น ถึงจะเป็นอย่างหลังเหล่าหญิงสาวที่ผ่านไปมาก็พากันแอบเหลือบมองและถอนหายใจ รยูฮาก้าวไปข้างหน้าเปิดกระเป๋าเงินของฮอนออก  

 

 

“เท่าไหร่” 

 

 

“อันนี้ไม่ใช่ของธรรมดาเลยราคาสูงหน่อย แต่มาเจอเจ้าของที่เหมาะสมกัน ข้าจะขายให้ในราคาห้าสิบนยางก็แล้วกัน” 

 

 

คิ้วของฮอนที่ฟังอยู่ขมวดเข้าหากัน เงินห้าสิบนยางพอเพียงกับค่าจ้างหนึ่งเดือนของผู้ดูแลสี่ฝ่าย ถ้าเป็นชาวบ้านธรรมดาหนึ่งนยางสามารถเลี้ยงทั้งครอบครัวในหนึ่งเดือนได้เลย พ่อค้าคนนี้มองว่าฮอนและรยูฮาไม่รู้จักเสียดายเงินและใช้เงินฟุ่มเฟือยจึงพยายามจะหากินกับพวกเขาหรือเปล่า 

 

 

“งั้นหรือ ขอให้ขายได้นะ” 

 

 

รยูฮาเก็บกระเป๋าเงินอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ฮอนก็วางแผ่นป้ายหยกลงแล้วหันหลังไป แล้วพอก้าวไปได้แค่ก้าวเดียวเสียงเรียกอันรีบเร่งก็รั้งพวกเขาไว้จากทางด้านหลัง 

 

 

“สี่…สามสิบนยาง! จ่ายสามสิบนยางก็เอาไปได้เลย เจ้านาย!” 

 

 

ก้าวไปข้างหน้าอีกก้าว 

 

 

“ยี่สิบห้า! ยี่สิบห้านยาง! คุณหนู!” 

 

 

แต่ก็ไม่อาจรั้งทั้งคู่ไว้ได้ พ่อค้าลังเลอยู่สักพักแล้วเห็นว่าวันนี้ถ้าไม่ใช่คู่สามีภรรยานี้ก็คงขายของชิ้นนี้ไม่ได้ 

 

 

“ข้าให้ในราคายี่สิบนยางขอรับ!” 

 

 

เท้าที่หยุดอยู่หันกลับมาด้านหลังอีกครั้ง ฮอนเปิดกระเป๋าจ่ายเงิน รยูฮารับเอาแผ่นป้ายหยกมันวาวมา นางถูกใจมากจึงไม่ส่งให้มินอาถือแต่กอดไว้ราวกับเป็นของสำคัญ ฮอนมองรฮูยาแล้วฉีกยิ้ม 

 

 

“ถูกใจขนาดนั้นเลยหรือ” 

 

 

“ในบรรดาของที่ซื้อวันนี้ ข้าถูกใจอันนี้มากที่สุดเจ้าค่ะ” 

 

 

“มีของที่อยากได้อีกหรือไม่” 

 

 

“ตอนนี้ไม่แล้วเจ้าค่ะ ข้าคอแห้งแล้วก็อยากพัก” 

 

 

หมายความว่ารีบไปดื่มเหล้ากันเถอะ ฮอนดูออกแล้วบอกว่าหากอยากไปที่ใดก็ให้นำทางไป รยูฮาตบมือสองครั้งแล้วเดินไปตรงถนนด้านข้างอย่างไม่มีเกรงใจ ก่อนจะเข้าไปในร้านเหล้าเก่าที่ไม่มีแม้แต่ป้าย 

 

 

“ไปที่ที่ดีกว่านี้ไม่ดีกว่าหรือ” 

 

 

ตัวเขาไม่เป็นไรแต่รยูฮาไม่ชอบอาหารที่มีพวกผักหรือธัญพืช พอฮอนมีสีหน้าไม่พอใจ รยูฮาก็รีบส่ายหน้าแล้วยื่นคางชี้ไปทางเหล่าผู้คนที่มารวมตัวกัน  

 

 

“ดูนั่นสิเจ้าคะ ร้านนี้ทำอาหารเก่งที่สุดในละแวกนี้” 

 

 

เท่าที่ดูไม่น่าอร่อยเลยสักนิด ฮอนตามหลังรยูฮาไปอย่างเลี่ยงไม่ได้แล้วนั่งลงตรงเก้าอี้ตัวเก่าพลางมองดูรยูฮาสั่งอาหารอย่างชำนาญ 

 

 

“ลองชิมดูนะเจ้าคะ ไม่เคยมาร้านนี้ ช่วงชีวิตหนุ่มโสดของท่านเสียเสียเปล่าแล้วเจ้าค่ะ” 

 

 

ฮ่าๆ เสียงหัวเราะหลุดออกจากปากของฮอน ไม่รู้ว่าพูดด้วยสีหน้าจริงจังแบบนั้นได้อย่างไร แต่ว่าท่าทางเหล่านั้นกลับดูสวยกว่าเหล่าสตรีที่มีอาวุธคือการยั่วยวนทั้งหมด หากจะบ้าเขาก็คงจะบ้าจริง ฮอนเท้าคางบนโต๊ะแล้วเริ่มมองใบหน้าของรยูฮา 

 

 

“ฮูหยิน” 

 

 

“เจ้าคะ ท่านสามี” 

 

 

“คิกๆ” 

 

 

“อย่าหัวเราะแปลกๆ สิเจ้าคะ” 

 

 

“ฮูหยิน” 

 

 

“เจ้าคะ ท่านสามี” 

 

 

“อุ๊บ! คิกๆ” 

 

 

ฮอนซุกหน้าลงกับแขนเสื้อ ใช้กำปั้นทุบโต๊ะแล้วหัวเราะด้วยเสียงแปลกประหลาด ฮูหยินหรือ ในหัวของเขาที่ว่านางคือหญิงบ้าและแม้แต่เรื่องคืนแรกที่ตกอยู่ในความหวาดกลัวก็ถูกโอบล้อมด้วยความหอมหวานอันเทียบไม่ได้ 

 

 

“กินให้อร่อยนะขอรับ” 

 

 

คนงานในร้านที่ไม่เป็นมิตรเลยมองเขาอย่างไม่เกรงใจราวกับมองคนบ้า พอวางอาหารและเหล้าลงแล้วก็หายตัวไป ไม่มีอะไรพิเศษเป็นแค่ข้าวต้มที่คลุกเคล้ากับหมูต้ม เครื่องเคียงดองเค็มที่ดูจากรูปร่างแล้วน่าจะเป็นปู ฮอนมีสีหน้าไม่พอใจอีกครั้งแล้วหยิบเอาผ้าไหมเช็ดมือออกมาจากตรงหน้าอกเช็ดลงบนแก้วและช้อนกับตะเกียบของรยูฮาให้อย่างรอบคอบ  

 

 

“อย่ากังวลไปเลยเจ้าค่ะ กินไปก็ไม่ตายหรอกเจ้าค่ะ” 

 

 

“ริมฝีปากนั้นต่อไปข้าจะดูดกิน ต้องทำให้สะอาดไว้สิ” 

 

 

แน่นอนว่าแก้มของฮอนถูกหยิก แก้วเหล้าที่ว่างเปล่าถูกเติมเต็มด้วยเหล้าราคาถูก แต่ว่ารยูฮาก็ลองชิมแล้วดื่มจนหมดแก้ว นางคีบเนื้อหมูจิ้มลงบนเครื่องเคียงแล้วยื่นใส่ปากให้ฮอนแล้วก็คีบให้ตัวเองด้วย ฮอนคิดว่าเพราะรยูฮาป้อนต่อให้เคี้ยวหินก็อร่อย ตาของฮอนที่กำลังเคี้ยวหมูอยู่เบิกโพลง 

 

 

“เป็นอย่างไรเจ้าคะ รสชาติดีมากเลยใช่ไหมเจ้าคะ” 

 

 

“ข้าเพิ่งเคยกินของอร่อยแบบนี้ครั้งแรก” 

 

 

ใบหน้าของรยูฮาเปื้อนยิ้มเพราะท่าทางแบบนั้น พอได้เห็นรอยยิ้มสดใสที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยก็ดูเหมือนว่าโคมไฟจะช่วยทำให้พรของเขาเป็นจริงขึ้นมาแล้ว เขาแขวนโคมแล้วจุดไฟพร้อมกับขอพรให้รยูฮายิ้มอยู่ข้างกายของเขาตลอดไป ฮอนยิ้มตามรยูฮาแล้วรินเหล้าลงในแก้วเปล่า 

 

 

“พวกเราออกมาข้างนอกเช่นนี้บ่อยๆ กันเถอะ” 

 

 

“ไม่ได้เจ้าค่ะ วันนี้ก็ขอท่านพ่อออกมาเป็นพิเศษไม่ใช่หรือเจ้าคะ”  

 

 

“ก็ขออีกไง” 

 

 

ฮ่าๆ ริมฝีปากของวาดเป็นเส้นโค้งงดงามอีกครั้งแล้วหัวเราะ หญิงสาวดื่มเหล้าที่ฮอนรินให้อีกครั้งแล้วคีบเครื่องเคียงกิน นางเท้าคางกับโต๊ะเหมือนฮอนแล้วมองไปยังใบหน้างดงามนั้นอย่างเคลิบเคลิ้ม 

 

 

“คราวนี้ไม่ออกมาแล้วเจ้าค่ะ หญิงที่เดินผ่านไปมาจ้องท่านสามีจนสึกหรอหมดแล้วค่ะ” 

 

 

“หืม? เจ้าหึงหรือ” 

 

 

“ใช่เจ้าค่ะ หึง อยากทำให้ท่านสามีตัวเล็กนิดเดียวแล้วซ่อนไว้ในกระเป๋า ให้มีแค่ข้าเพียงผู้เดียวที่เห็นท่าน” 

 

 

“อ้า จริงๆ เลย เจ้าไปเรียนคำพูดพวกนี้มาจากที่ใดกัน” 

 

 

“ถ้าทำให้ตัวเล็กลงไม่ได้ก็คงต้องสร้างกระท่อมขึ้นมาหนึ่งหลัง มีแค่หนึ่งห้องแล้วให้ท่านสามีอยู่ในนั้นไม่ให้ใครเข้าไปได้” 

 

 

ถึงจะเหมือนคำที่ฝ่ายชายต้องเป็นคนพูดแต่ก็ไม่เห็นเป็นไร ริมฝีปากของฮอนกดลงบนฝ่ามือใต้คาง แล้วดูดเม้มปากของรยูฮาที่ยื่นออกมาข้างหน้าก่อนจะผละออกอีกครั้ง 

 

 

“อร่อยกว่าอาหารของร้านนี้เสียอีก” 

 

 

แก้มถูกหยิกอีกครั้ง รยูฮาที่วันนี้อารมณ์ดีใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดลงบนปากอันยั่วยวน ก่อนจะรินเหล้าและยกแก้วชนกับฮอน 

 

 

ความรู้สึกสบายใจที่ได้ออกมาจากพระราชวัง ความอุ่นใจที่ได้อยู่ใกล้ท่านพ่อท่านแม่ ท่าทางของมินอาที่เฝ้ามองพวกเขาจากโต๊ะฝั่งตรงข้ามและสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักของผู้ที่นั่งตรงข้ามกันทำให้รยูฮารู้สึกผ่อนคลาย 

 

 

ปล่อยวางสิ่งที่ทำให้ใจเจ็บปวดและหนักอึ้งสักพักเถอะ รยูฮาคิดอย่างนั้นแล้วยกแก้วขึ้นดื่มจนเกลี้ยงไปเรื่อยๆ ขวดเหล้าและจานถูกวางกองขึ้นสูงข้างสองคนที่มองและหัวเราะให้กัน 

 

 

“ท่านสามี ดื่มอีกแก้ว” 

 

 

รยูฮายกขวดเหล้าขึ้นแล้วเทใส่แก้ว นางยื่นปากออกไปรับเหล้าสองสามหยดที่หกลงมา ก่อนจะมองฮอนด้วยดวงตาผ่อนคลายและพูดด้วยท่าทางน่ารัก 

 

 

“แน่นอนอยู่แล้ว! ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว! ฮูหยินคนสวยของข้า” 

 

 

ฮอนเหยียดยิ้มในขณะที่ดวงตาดูผ่อนคลาย แล้วยกมือขึ้นลูบแก้มของรยูฮาราวกับเอ็นดู 

 

 

“ฮิๆ ท่านสามี”