บัญชามังกรเดือด บทที่ 893 รู้ทำยังไงแล้ว
แต้มสูงคือใหญ่ที่สุดแล้ว ฉินเทียนเพราะอะไรยังไม่ยอมแพ้?แม้กระทั่งไป๋หลิงต่างก็เปิดเผยสีที่สงสัยและลำบากใจออกมาแล้ว
ภายใต้การจ้องมองของทุกคน ฉินเทียนพูดจาง ๆ “ไม่แน่”
“ถ้าหากใหญ่กว่านายล่ะ?”
ปลาไหลโมโหยิ้ม พูด“ดี!”
“ในเมื่อนายไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ฉันก็ทำให้นายสมหวัง!”
“ตอนนี้ฉันต้องการวางเดิมพัน!เพิ่มอีกหนึ่งล้าน!”
“ชนะฉันแล้วให้นายสองล้าน กล้าหรือเปล่า?”
ฉินเทียนพยักหน้ายิ้มพูด“ตกลงการซื้อขาย”
ปลาไหลเอาลูกเต๋าผลักมาด้านหน้าของไป๋หลิงพูดอย่างได้ใจ“น้องสาว ดูแล้วเถ้าแก่ฉินยังเชื่อมั่นเธอจริง ๆ นะ!”
“ไม่ใช่ คือเชื่อมั่นลิงตัวนี้ของเธอ”
“ตอนนี้ เธอให้ลิงเริ่มได้แล้วกูก็ไม่เชื่อสู้ลิงตัวหนึ่งไม่ได้!”
ไป๋หลิงมองฉินเทียนอยู่อย่างลำบากใจ พูด“พี่เทียน คุณต้องการออกมือด้วยตัวเองไหม?”
ฉินเทียนพูดอย่างมั่นใจมากอย่างนั้น หล่อนยังคิดว่าต้องการออกมือด้วยตัวเองขอแค่ฉินเทียนออกมือด้วยตัวเอง หล่อนเชื่อจะทำได้แน่นอน
จินถังและฉวนซานก็คือคิดอย่างนี้
คิดถึงความสามารถมหัศจรรย์ของฉินเทียน พวกเขาเปลี่ยนเป็นสบายใจขึ้นมาอีกครั้ง
คิดไม่ถึงฉินเทียนส่ายหน้าแล้ว พูด“ฉันไม่เข้าใจอันนี้และก็ไม่เคยเล่นมาก่อน”
“เจ้าทองก็ดีมากให้มันเล่นต่อเถอะ”
ฟังคำพูดนี้แล้วไป๋หลิงอ้าปากกว้างอย่างตกใจแล้วเล็กน้อย วินาทีต่อมาใบหน้าสวยก็แดงแล้ว
เพราะหล่อนรู้เจ้าทองทำไม่ได้
“กลัวอะไร อย่างเก่งก็คือแพ้หนึ่งล้าน”
“เขย่าเถอะ” ฉินเทียนคิดไม่ถึงเริ่มเร่งแล้ว
ไป๋หลิงกัดฟันแล้วพูด“ตกลง!”
“รอบนี้ฉันมาแทนเจ้าทอง!”
หล่อนค่อย ๆ จับถ้วยลูกเต่าบนหน้าเล็กต่างก็เป็นสีที่เคร่งขรึม หล่อนไม่รู้ เห็นชัดว่าต้องแพ้เกมหนึ่งเพราะอะไรฉินเทียนต้องยืนหยัดที่จะทำต่อไป
แต่หล่อนมีความรู้สึกที่แปลกประหลาดชนิดหนึ่งอีก เหมือนขอแค่ฉินเทียนนั่งอยู่ที่นี่หล่อนก็จะไม่แพ้
ไม่ว่ายังไง พนันแล้ว!
ก๊อกแก๊ก ๆ !
ตามแขนที่ขยับเคลื่อนไหวของไป๋หลิง ลูกเต๋าที่อยู่ในถ้วยลูกเต๋าส่งเสียงออกมากระตุ้นหัวใจของทุกคนอยู่
ไป๋หลิงหลับตาอยู่ตัวเองพยายามทำเต็มที่ที่สุดเอาถ้วยลูกเต๋าคว่ำลงบนโต๊ะ
ปลาไหลกลืนน้ำลายแล้ว กัดฟันพูด“เปิด!”
“ฉันกลับต้องการดูหน่อย เธอจะใหญ่กว่าแต้มสูงของฉันยังไง!”
เพียงแต่เวลานี้ไป๋หลิงไม่มีความกล้าที่จะเปิดออกแล้ว หล่อนมองไปทางฉินเทียนอย่างขอความช่วยเหลืออีกครั้ง
ฉินเทียนยิ้มพยักหน้าแล้ว พูด“สุภาษิตกล่าวไว้ กล้าเสี่ยงจึงจะสามารถสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยได้ เปิดเถอะ”
พูดอยู่เหมือนไม่ได้ตั้งใจเอาก้นบุหรี่ที่อยู่ในมือดีดออกไป บังเอิญมากดีดไปถึงบนขาโต๊ะพอดี
เหมือนรู้สึกถึงลูกเต๋าที่อยู่ในมือขยับเล็กน้อย ไป๋หลิงมีปฏิกิริยามามีสีที่เซอร์ไพรส์
หล่อนหยิบถ้วยลูกเต๋าออก
คนที่อยู่รอบ ๆ รวมถึงฉวนซานและจินถังทั้งหมดก็แห่กันมาจ้องมองตาโตแล้ว
“หนึ่งสองสามสี่ห้าหก……”
“หกอันหกจุด……”
“เลขตองคิดไม่ถึงก็เป็นเลขตอง เกมเสมอกันแล้ว นี่เป็นไปได้ยังไง?”
ลูกน้องสักปูที่ง่ามนิ้วมือมีใบหน้าที่เหลือเชื่อ
ไป๋หลิงหัวเราะคิกคักขึ้นมา พูด“เกมเสมอกันแล้ว!”
“พี่เทียน พวกเรามาเล่นต่อเถอะ!”
พูดอยู่หล่อนคิดไม่ถึงว่าจะอดไม่ได้ทิ้งตาเยิ้มหนึ่งไปทางฉินเทียน นาทีนี้หล่อนดีใจมากแล้วจริง ๆ
ฉินเทียนไอแคร๊กแล้วเสียงหนึ่ง พูด“เธอดูอีกทีหน่อย เป็นเกมเสมอเหรอ?”
อ๊ะ?
ไม่ได้รอให้ไป๋หลิงมีปฏิกิริยามาฉวนซานที่อยู่ด้านข้างก็ร้องเสียงแหลมพูด“ยังมีอันหนึ่ง!”
“ยังมีอันหนึ่งหนึ่งจุด!”
“ทั้งหมดสามสิบเจ็ดจุด พวกเราชนะแล้ว!”
ลูกเต๋าหกลูกแต่ละลูกจำนวนจุดที่มากที่สุดคือหกจุด หกหกสามสิบหกจะเป็นสามสิบเจ็ดได้ยังไง?
มองอย่างละเอียด ลูกเต๋าลูกหนึ่งในนั้นคิดไม่ถึงถูกแบ่งเป็นครึ่งหนึ่ง ครึ่งหนึ่งในนั้นเป็นหกจุด ครึ่งหนึ่งอีกอันเป็นหนึ่งจุด
จุดที่หักเป็นระเบียบเรียบร้อยผิดปกติ ก็คือมีทักษะความละเอียดราวกับเทพและผีทำออกมา
“นี่คืออะไร?บล็อกตะกั่ว?”
มองเห็นจุดหักของลูกเต๋ามีสีดำเล็กน้อย ฉวนซานหยิบขึ้นมาดูโมโหมากทันที
“ปลาไหลนายคนนี้คิดไม่ถึงใช้ลูกเต๋าที่ราดไปด้วยบล็อกตะกั่วหลอกพวกเรา!”
“แต่ถึงแม้เป็นอย่างนี้ พวกเราก็ชนะแล้ว!”
“สองล้านของนายล่ะ?เอามา!”
สีหน้าของปลาไหลเขียวคล้ำน่าเกลียดมาก เดิมทีเขาคือเอาฉินเทียนพวกเขาเป็นคนโง่แล้วอยากที่จะหลอกมาถึงที่นี่ ตักตวงให้มาก ๆ ก่อนก้อนหนึ่ง
ตอนนี้ในที่สุดเขาเข้าใจแล้ว ที่จริงนับแต่เริ่มแรกเขาก็ถูกฝ่ายตรงข้ามหยอกล้อในฝ่ามือ
ตัวตลกคิดไม่ถึงเป็นตัวเขาเอง
“เด็กน้อย ไม่ว่านายแอบเล่นลูกไม้อะไรแล้ว ถึงแม้นายชนะแล้ว แล้วยังไงอีก?”
“นายคิดว่าสองล้านให้นาย นายมีชีวิตที่จะใช้ไหม?”
“พวกนายสองสามคนสามารถเดินออกจากห้องนี้ได้ไหม?”
ฟังคำพูดนี้แล้ว หน้าประตูอีกทั้งลูกน้องสิบกว่าคนที่อยู่รอบ ๆ ทั้งหมดยิ้มอย่างชั่วร้ายเข้ามาแล้ว
ในเรื่องจริงขอแค่เอาฉินเทียนพวกเขาหลอกมาถึงชั้นสอง อย่างนั้นแพ้ชนะก็ไม่สำคัญแล้ว
พวกเขาเป็นเจ้าของควบคุมที่นี่และฉินเทียนพวกเขาก็เป็นแค่คนข้างนอกที่ไม่คุ้นเคยกับสถานที่ ยังไม่ใช่เป็นคนที่รอให้คนอื่นเชือดได้ตามใจ?
ในมือของพวกเขาทั้งหมดแสดงอาวุธของมีคมออกมาแล้ว
ฉินเทียนนั่งอยู่ไม่ขยับ ยิ้มพูด“นายต้องการใช้วิธีชั่วร้ายเหรอ?ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ฉันก็ไม่มีความจำเป็นที่จะเกรงใจแล้ว”
“ฉวนซาน จินถัง”
สองคนพูดทันที“ครับ!”
“จัดการ”
“ครับ!”
ก่อนหน้านี้ช่วยไม่ได้ ฉวนซานและจินถังต่างก็อัดอั้นอารมณ์อยู่นานแล้ว นาทีนี้ในที่สุดฉินเทียนพูดออกมาใช้พวกเขาแล้ว
สองคนก็เหมือนเป็นเสือที่ออกจากกรงอย่างนั้น กระโจนขึ้นไปทางสมุนเหล่านั้นที่อยู่รอบ ๆ
“หาที่ตาย!”
“กูยิงแกให้ตาย!”
ปลาไหลมีปฏิกิริยากลับมารีบยื่นมือควักปืน
แต่เขาเพิ่งควักปืนออกมา ไก่ตัวผู้ที่ยืนบนไหล่ของฉวนซานก็กระโจนกระพือปีกบินไปแล้ว
ไก่ตัวผู้ที่โดดเด่นกล้าหาญมีพลัง นาทีนี้เหมือนเหยี่ยวสวมร่าง
กรงเล็บพอข่วนขณะที่มือของปลาไหลจับปืนก็ทิ้งรอยเลือดสองสามที่ทันที ปลาไหลร้องด้วยความเจ็บปืนตกลงพื้น
เขายังอยากก้มลงไปเก็บ
“อย่าขยับ”ตามเสียงพูดที่เย็นชาหนึ่ง ฉวนซานบุกมาแล้ว ในมือไม่รู้มีมีดกริชที่แหลมคมเพิ่มมาด้ามหนึ่งเมื่อไหร่แล้ว ก็จ่อที่คอหอยของเขาแล้ว
“อย่าวู่วาม!”ปลาไหลสั่นเทาเล็กน้อยยกมือขึ้นยอมแพ้ทันที จะขยับก็ไม่กล้าขยับ
ในเวลาเดียวกันนี้จินถังเหมือนลมพายุอย่างนั้น เขาก็ไม่ได้ดึงดาบทหารที่ไร้ประโยชน์ที่อยู่ข้างหน้าเหล่านี้ก็ไม่มีคุณสมบัติให้เขาดึงดาบ
ก็คือใช้หมัด
หมัดที่แข็งเหมือนเหล็กไปทุก ๆ ที่ที่ไปถึงก็ร้องเสียงดังโหยหวนเป็นแทบ
ปัง ๆ ๆ ๆ!
ในพริบตาเอาสิบกว่าคนล้มลงทั้งหมดแล้ว
“พี่เทียน ตอนนี้ยังไง?” เขาขอคำแนะนำเสียงหนัก
ในที่สุดฉินเทียนยืนขึ้นมาแล้ว เขายิ้มตาหยี่มาถึงด้านหน้าของปลาไหลหยิบมีดกริชที่อยู่ในมือของฉวนซานมาตบบนหน้าของปลาไหลแล้ว
“อย่า!”
“สหาย อย่าวู่วามมีอะไรพูดกันดี ๆ !”ปลาไหลร้องขึ้นมาอย่างไม่ห่วงชีวิตทันที
ฉินเทียนยิ้มพูด“นายรู้ว่าควรจะทำยังไง”
“พูดมาเถอะหลิวเสี่ยวเป่า อยู่ที่ไหน?”
พูดถึงหลิวเสี่ยวเป่าจู่ ๆ ปลาไหลก็มหัศจรรย์ขึ้นมาอีก พูดยิ้มอย่างเย็นชา“เขาอยู่ที่พี่ใหญ่หู่จิงที่นั่น”
“เด็กน้อย นายอยากช่วยคนยังกล้าใช้กำลังกับกู?”
“ฉันบอกนายให้”
เขาอยากดุร้ายใช้พี่ใหญ่หู่จิงมาข่มขู่ฉินเทียน
ฉินเทียนไม่ได้ให้เขาพูดต่อไปเหมือนตัดสินใจไม่ได้ มีดกริชสั้นในมือลื่นตกมีดกริชสั้นนี้แหลมคมผิดปกติ ฉึกเสียงหนึ่งทิ่มเข้าในขาใหญ่ของปลาไหลแล้ว มีสามเซนติเมตรเต็ม ๆ
“อ๊าก!”
ปลาไหลร้องเสียงดังด้วยความเจ็บ
ฉินเทียนดึงมีดกริชสั้นออกมา เอาเลือดถูที่ใบหน้าของเขาแล้ว ยิ้มพูด“ตอนนี้ นายรู้ควรจะทำยังไงแล้ว?”