แม่น้ำสีดำบนที่ราบลุ่ม โดย Ink Stone_Fantasy
ในตอนที่รถไฟมาปรากฏตรงหน้าทุกคน ขวานเหล็กก็ได้เห็นหน้าตาทั้งหมดของมัน
ตัวรถมีทั้งหมด 5 ตอน เทียบกับรถไฟที่ทำการเปิดตัวในครั้งนั้นถือว่าสั้นกว่ามาก แต่เป็นเพราะว่ามันมีแผ่นเหล็กหุ้มเอาไว้ จึงทำให้มันดูแข็งแกร่งอย่างมากทีเดียว บวกกับสีดำที่ไม่สะท้อนแสงของมันทำให้มันดูเหมือนอสูรที่กำลังนอนหมอบอยู่
รูปร่างของหัวรถและท้ายรถนั้นเหมือนกัน เรียกได้ว่าสมมาตรกันพอดี นอกจากป้อมปืนที่หมุนได้สองกระบอกแล้ว เกราะที่อยู่ด้านล่างยังมีรูเล็กๆ อีกจำนวนมากด้วย รูเหล่านี้ย่อมต้องใช้เพื่อให้ทหารใช้สังเกตการณ์และใช้ยิง
ขวานเหล็กจินตนาการภาพที่ศัตรูโจมตีใส่อาวุธชิ้นใหม่นี้ออกเลย
หอกกระดูกที่ตกโปรยปรายลงมาชนแผ่นเหล็กๆ เหมือนดั่งห่าฝนจนส่งเสียงดังติงตังๆ แต่รถไฟกลับยังคงวิ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วคงที่ ในขณะเดียวกัน ด้านข้างของมันก็พ้นเปลวเพลิงนับสิบเข้าใส่ศัตรู เป้าหมายถูกยิงจนพรุนเหมือนรังผึ้ง
ไม่ว่าจะเป็นปีศาจหรือสัตว์อสูรก็ล้วนแต่ต้องถูกยิงอย่างเดียวโดยไม่อาจทำอะไรได้ มันเป็นเหมือนกำแพงที่เคลื่อนที่ได้ ไม่ว่าจะไปอยู่ตรงไหน มันก็จะให้ความคุ้มครองกองทัพที่หนึ่งได้
เพียงแค่คิดก็ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นแล้ว!
ทหารที่รับผิดชอบเรื่องการป้องกันบริเวณรอบๆ ต่างพากันซุบซิบขึ้นมา
แต่ว่านี่ยังไม่ใช่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดของรถไฟนี้
นอกจากจะใช้เป็นแนวหน้าของกองทัพที่หนึ่งแล้ว เป้าหมายสุดท้ายของมันก็คือการทำลายซากเมืองทาคิลาและสัตว์ประหลาดโครงกระดูกที่ตัวใหญ่เหมือนกับตึกเหล่านั้น ด้วยเหตุนี้ปืนใหญ่ที่มีลำกล้องขนาดใหญ่จึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจขาดได้
และในตอนนี้เจ้าสุดยอดอาวุธที่ว่านี้ก็ถูกติดตั้งอยู่บนตู้โดยสารที่ 2 และที่ 4
ถึงแม้ปืนที่ติดตั้งเอาไว้บนนั้นจะเป็นปืนใหญ่ 152 มม. เหมือนกัน แต่ฝ่าบาทตรัสว่าปืนใหญ่เหล่านี้มีขนาดที่ยาวกว่าปกติ ดินปืนก็บรรจุได้เยอะกว่า ในจุดนี้แค่ใช้ตาเพียงอย่างเดียวก็สามารถมองออกถึงความแตกต่างได้ ตัวปืนใหญ่นั้นแทบจะกินพื้นที่บนตู้โดยสารไปจนหมด จะติดตั้งปืนกลอีกซักกระบอกก็ยังไม่สามารถทำได้
ท้ายปืนใหญ่นั้นก็มีแผ่นเหล็กขนาดใหญ่หุ้มเอาไว้อยู่ เช่นนี้ต่อให้ปีศาจโจมตีลงมาจากบนอากาศก็ไม่สามารถหยุดการยิงของปืนใหญ่ได้
สิ่งเดียวที่ทำให้ขวานเหล็กรู้สึกกังวลใจก็คือการติดตั้งเกราะขึ้นมาใหม่นี้ดูมีความปลอดภัยอย่างมาก แต่มันก็ทำให้น้ำหนักและขนาดของรถไฟเพิ่มขึ้นอย่างมากด้วย เมื่อมองเทียบกับล้อรถไฟแล้ว เขารู้สึกเหมือนรถไฟมีลักษณะหัวโตขาเล็ก นี่ทำให้เขากลัวว่ารถไฟจะไม่อาจรับแรงรีคอยล์อันรุนแรงของปืนใหญ่ในขณะที่มันยิงออกไปได้
“ทูลฝ่าบาท” ทหารคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาโรแลนด์พร้อมกล่าวรายงานว่า “ทุกคนมากันพร้อมแล้ว เชิญออกคำสั่งได้พ่ะย่ะค่ะ!”
“นี่เป็นอาวุธที่ยังไม่ได้ทำการติดตั้งอย่างเป็นทางการ ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมหรือการปรับปรุงก็ล้วนแต่เป็นความรับผิดชอบของกองอุตสาหกรรม” โรแลนด์ส่ายหัวยิ้มๆ “ด้วยเหตุนี้คนที่รับผิดชอบการทดสอบในวันนี้ไม่ใช่ข้าหรอก หากแต่เป็นหัวหน้ากองอุตสาหกรรม เจ้าควรจะไปรายงานนางถึงจะถูก”
ในเวลานี้ขวานเหล็กถึงได้สังเกตเห็นว่าราชินีก็มาเข้าร่วมการทดสอบในครั้งนี้ด้วย เพียงแต่ว่าเมื่อเทียบกับแม่มดคนอื่นๆ แล้ว การแต่งตัวอของเธอนั้นเหมือนเป็นชุดทำงานมากกว่า นี่จึงทำให้เขาไม่ทันสังเกตเห็นเธอในตอนแรก
“ฝ่า ฝ่าบาท…” ทหารพูดติดๆ ขัดๆ ทันที เขาทำความเคารพอันนาใหม่อีกครั้ง “ทุกคนมากันพะ พร้อมแล้ว…”
“ข้ารู้แล้ว” อันนาพูดด้วยเสียงราบเรียบ “ให้พวกเขาเริ่มทำการทดสอบเลย
“พ่ะย่ะค่ะ!” ทหารที่มารายงานคนนั้นรีบตะโกนไปทางรถไฟทันที “เริ่มยิงปืนใหญ่ได้!”
เหตุการณ์นี้ทำเอาหลายๆ คนถึงกับอมยิ้มขึ้นมา แต่ว่ามันก็ไม่ได้ส่งผลใดๆ ต่อการทดสอบทั้งสิ้น หลังออกคำสั่งไป เสียงสัญญาณเตือนก็ดังไปทั่วทั้งผืนป่าทันที
“อูวววววว….อูวววววว……..”
ขวานเหล็กหันไปมองยังรถไฟทันที ในตอนที่มีเสียงเอี๊ยดอ๊าดของฟันเฟืองดังขึ้นมา เขาก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าตัวรถไฟเกิดการเปลี่ยนแปลง
ตรงตู้โดยสารที่ 2 และที่ 4 มี ‘ขาเหล็ก’ ขนาดยักษ์งอกออกมาสองข้าง ซึ่งก่อนหน้านี้เขาคิดว่ามันเป็นเพียงแผ่นเหล็กที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไรเท่านั้น กระทั่งมันเปิดออกมาจนหมด ขวานเหล็กถึงได้สังเกตเห็นว่ามันเป็นเครื่องจักรที่สามารถทำงานได้ด้วยตัวมันเอง ตรงปลาย ‘ขาเหล็ก’ มีแผ่นเหล็กแผ่นหนึ่งติดเอาไว้อยู่ ตอนที่ขาปักลงไปบนพื้นหิมะ ตู้โดยสารเหมือนจะถูกยกขึ้นมาเล็กน้อย ดูแล้วเหมือนขาแมงมุมขนาดยักษ์ไม่มีผิด
นี่…นี่มันเหมือนเจ้าตัวประหลาดของพวกปีศาจเลยไม่ใช่เหรอ!
หรือว่าฝ่าบาททรงได้แรงบันดาลใจมาจากศัตรู แล้วก็ใช้มันกับอาวุธใหม่?
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เจ้ารถไฟเหล็กนี้กลับไม่ได้ดูชั่วร้ายเหมือนเจ้าตัวประหลาดของพวกปีศาจเลย ในทางกลับกัน มันกลับดูยิ่งใหญ่และแข็งแกร่ง ในตอนที่เท้าเหล็กเหล่านั้นปักลงไปบนพื้น ปืนใหญ่ก็เริ่มระเบิดเสียงดังสนั่นขึ้นไปบนท้องฟ้า!
ท่ามกลางการสั่นสะเทือนและกระแสอากาศอันรุนแรง อสูรยักษ์สีดำกลับไม่ไหวติง ราวกับว่ามันยึดตัวเองลงไปกับพื้นดิน
…..
ดูแล้วใช้ได้ดีทีเดียว โรแลนด์ถอดที่อุดหูออกพร้อมกับหันไปพยักหน้าชื่นชมอันนา
ก่อนที่จะประกอบเป็นรถขึ้นมา ระบบพวกนี้เคยผ่านการทดสอบมาแล้วหลายครั้ง ครั้งนี้ก็เป็นแค่การพิสูจน์ประสิทธิภาพโดยรวมของระบบเท่านั้น การที่ประสบความสำเร็จในการยิงครั้งแรกจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอะไร
ความจริงถ้าเทียบกับการยิงและการขับเคลื่อนของรถไฟหุ้มเกราะแล้ว สิ่งที่เขาให้ความสำคัญมากกว่าก็คือขาเหล็กทั้ง 4 ข้างนั้น
นี่ถือเป็นการทดสอบการใช้งานจริงครั้งแรกของระบบไฮโดรลิค
จากทฤษฎีของปาสคาล การเพิ่มแรงดันให้กับของเหลวในภาชนะปิด จะทำให้ของเหลวได้รับแรงดันเท่าๆ กันหมด ด้วยเหตุนี้ในท่อรูปตัวยูที่มีพื้นที่หน้าตัดไม่เท่ากัน ขอเพียงใช้แรงกดเล็กน้อยกดลงไปบนพื้นที่หน้าตัดขนาดเล็ก ก็จะทำให้ส่งแรงกดไปยังพื้นที่หน้าตัดที่มีขนาดใหญ่ได้ และก็ด้วยหลักการที่ว่านี้ทำให้ อุปกรณ์ไฮโดรลิคจึงสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย ตั้งแต่แม่แรงแบบมือโยกไปจนถึงเครื่องจักรไฮโดรลิคก็ล้วนแต่อาศัยหลักการนี้ทั้งสิ้น
ความยากลำบากเพียงอย่างเดียวของมันนั้นอยู่ที่การประกอบและการปิดผนึก แต่สำหรับเมืองเนเวอร์วินเทอร์ในตอนนี้ไม่ได้ถือเป็นเรื่องยากลำบากอีกต่อไป
สิ่งที่ติดตั้งอยู่บนรถไฟก็คืออุปกรณ์ซัพพอร์ทระบบไฮโดรลิคที่ควบคุมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า
หัวรถจักรไอน้ำสองหัวคอยผลักและลากตัวรถ แรงขับเคลื่อนอันมหาศาลสามารถทำให้รถไฟหุ้มเกราะสามารถวิ่งด้วยความเร็วที่มากกว่า 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากนั้นในตู้รถโดยสารที่ติดตั้งปืนใหญ่ก็มีกระสุนปืนใหญ่เตรียมไว้ 15 ลูก ด้วยเหตุนี้ัมันจึงดูใหญ่อย่างมาก ส่วนตู้โดยสารที่อยู่ตรงกลางสุดก็เอาไว้เป็นที่เก็บกระสุน แล้วก็เป็นแห่ลงกำเนิดพลังงานไฟฟ้าสำหรับทั้งรถ รุ่งอรุณหมายเลขหนึ่งสามารถให้พลังงานกับปั๊มไฮโดรลิค 2 ตัว พร้อมทั้งให้แสงสว่างกับลมภายในรถได้
ตู้โดยสาร 5 ตู้นี้จะเป็นตู้พื้นฐานที่ถูกติดตั้งไปในรถไฟหุ้มเกราะ
ถ้าไม่สนใจเรื่องที่จะทำให้มันเร็วขึ้นล่ะก็ หัวรถด้านหน้าและหลังยังสามารถเพิ่มตู้โดยสารเข้าไปได้อีก เพื่อใช้สำหรับขนทหารหรือเสริมอาวุธปืนเข้าไปเพื่อเพิ่มพลังโจมตี ซึ่งการที่สามารถเพิ่มหรือลดตู้โดยสารได้แบบนี้ก็คือเสน่ห์ของรถไฟหุ้มเกราะ
ในขณะที่ทุกคนกำลังอุทานออกมาด้วยความตกใจ เอดิธส์กลับเดินยิ้มๆ เข้ามาหาเขา
“แบบนี้ หมากตัวที่สำคัญที่สุดที่จะใช้ในแผนโจมตีเมืองทาคิลาก็ได้มาครบแล้วสินะเพคะ” เธอพูดพร้อมเอามือทาบอก “ไม่ทราบว่าอาวุธใหม่นี่มีชื่อหรือยังเพคะ?”
โรแลนด์คิดเล็กน้อย “เรียกมันว่าแบล็คริเวอร์ก็แล้วกัน”
“แบล็ควอเทอร์?” เอดิธส์หันมามองเขาทันที “เอามาสู้กับท่อส่งหมอกแดงเรดไลน์ของพวกปีศาจน่ะเหรอเพคะ?”
สมแล้วที่เป็นไข่มุกแห่งดินแดนทางเดิน เขายิ้มมุมปากขึ้นมา “ถูกต้อง”
ในพื้นที่ที่หมอกแดงปกคลุมไปไม่ถึงจะมีท่อส่งหมอกแดงที่พวกปีศาจขนออกมานับร้อยนับพันเส้นพาดทับกันไปมา นี่เป็นทั้งเส้นแห่งชะตาชีวิตของพวกมัน แล้วก็เป็นลวดลายแห่งเลือดที่สมาพันธ์หวาดกลัว แต่ในตอนนี้ บนที่ราบลุ่มบริบูรณ์ได้มีเส้นแห่งชีวิตอีกสีหนึ่งเพิ่มขึ้นมา
รถไฟหุ้มเกราะคันแล้วคันเล่าจะบรรทุกคนและกระสุนปืน แล้วเคลื่อนที่ไปบนที่ราบลุ่มบริบูรณ์กลายเป็นแม่น้ำสีดำสายใหม่