ตอนที่ 1852 พลังของอสูรอัสนี

A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน

ชั่วพริบตาที่เขตอาคมยักษ์พื้นที่พันจั้งถูกโจมตีก็เกิดระลอกคลื่นขึ้นมา ในกลางสั่นเทาอย่างรุนแรง ดูเหมือนว่าจะพังทลายในชั่วครู่

ร่างทองพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์สำแดงลำแสงสีทองออกมาเต็มกำลัง แม้แต่ลำแสงประหลาดที่ดูลึกลับก็ยังไม่อาจต้านทานได้เลยสักนิด

หานลี่เห็นสถานการณ์เช่นนั้น ใบหน้าก็อดที่จะเผยสีหน้ายินดีออกมาไม่ได้ แต่ทันใดนั้นก็หน้าเปลี่ยนสี

เพราะว่าครู่ต่อมาเสียงร้องประหลาดๆ ก็ดังมาจากใจกลางเขตอาคมลำแสง จากนั้นเขตอาคมลำแสงยักษ์แปดสิบสายก็สั่นเทา แล้วแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

กลิ่นอายน่ากลัวราวกับจะกลืนกินฟ้าดินทั้งหมด พลันพวยพุ่งออกมาจากเขตอาคมลำแสง

จากนั้นหมอกลำแสงห้าสีก็หมุนวนอย่างบ้าคลั่ง ฝ่ามือสีเงินขนาดยักษ์ข้างหนึ่งยื่นออกมาจากใจกลางของเขตอาคมลำแสง และกางนิ้วทั้งห้าออก คาดไม่ถึงว่าจะรองรับระลอกคลื่นสีทองเอาไว้ พลังมหาศาลที่แผ่ออกมาจากระลอกคลื่น ดูเหมือนจะไม่เห็นความแปลกประหลาดนี้

หานลี่สัมผัสได้ถึงความกลิ่นอายความน่ากลัว จึงหน้าซีดขาวไร้สีโลหิตไปเล็กน้อย

“ระดับมหายาน! เป็นไปไม่ได้ แดนนี้ไม่อาจมีอิทธิฤทธิ์ที่เหนือชั้นเช่นนี้ได้!”

สิ้นเสียงกรีดร้องในเขตอาคมลำแสงก็หยุดลง เขตอาคมลำแสงขนาดยักษ์ทั้งเขตส่งเสียงอึกทึกออกมา คาดไม่ถึงว่าจะสลายหายไปราวกับภาพลวงตา

และใจกลางของเขตอาคมลำแสงกลับมีสิ่งมหึมาขนาดสามร้อยสี่ร้อยจั้งปรากฏขึ้น

มีสองหัวแปดปีก กายท่อนบนดูเหมือนมนุษย์ กายท่อนล่างเหมือนวิหค!

หากพินิจมองสองหัวให้ละเอียดก็จะพบว่าเป็นหัวนกเขาของอสูรอัสนีและหัวของเจ้าของร้านอวี๋ ปีกทั้งแปดที่แผ่นหลัง หกปีกเป็นปีกเดิมของอสูรอัสนี อีกสองปีกกลับเป็นปีกนกยูงห้าสี

สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือแม้ว่าอสูรตัวนี้จะมีปีกสีเงินขาว แต่เสียงอัสนีที่ดังมาจากผิวกาย คาดไม่ถึงว่าจะมีประจุไฟฟ้าห้าสีคลอเคลียอยู่ด้วย

เมื่อเปรียบเทียบลำแสงอัสนีงดงามและใบหน้าน่ากลัวของอสูรตัวนี้ก็เผยความแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่งออกมา!

หัวของเจ้าของร้านอวี๋ที่อยู่บนตัววิหคประหลาดซึ่งปรากฏตัวขึ้นใหม่ อ้าปากออกและเปล่งเสียงหัวเราะหึๆ ออกมา ฝ่ามือสีเงินที่รองระลอกคลื่นสีทองเอาไว้ชี้นิ้วทั้งห้า ประจุไฟฟ้าห้าสีทะลักออกมา

เสียงฟ้าร้องสะเทือนเลื่อนลั่นดังขึ้น ระลอกคลื่นสีทองตัดสลับไปมากับลำแสงอัสนีห้าสี ถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ

ร่างทองพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ยืนอยู่ด้านข้างหานลี่ เศียรทั้งสามเผยสีหน้าร้อนรนออกมา จากนั้นผิวก็เปล่งแสงสีทองสว่างวาบ ส่งเสียงอึกทึกแล้วพลิ้วไหวไปมา

เห็นได้ชัดว่าเมื่อระลอกคลื่นลำแสงสีทองถูกทำลาย ก็ทำให้ร่างทองที่สำแดงออกมาถูกแว้งกัด โชคดีที่แผลแค่นี้ไม่อาจทำอันตรายร่างทองได้มากนัก

แต่เช่นนั้นหานลี่ก็ยังรู้สึกตกตะลึง และมั่นใจว่าวิหคประหลาดที่ปรากฏตรงหน้ามีพลังยุทธ์ระดับมหายาน

มิเช่นนั้นเกรงว่าต่อให้เป็นสิ่งมีชีวิตระดับผสานอินทรีย์ขั้นปลายก็ไม่อาจทำลายลำแสงสีทองได้ง่ายๆ เช่นนี้

เมื่อมั่นใจแล้ว หานลี่ก็มีความคิดหนีผุดขึ้นมาทันที

ต่อให้เขาผ่านการต่อสู้เมื่อครู่แล้วมั่นใจว่ากำลังของตัวเองเพิ่มมากขึ้น และยิ่งไปกว่านั้นยังมั่นใจว่ามีวิธีสังหารอื่นที่ยังไม่ได้สำแดงออกมา ก็ไม่คิดว่าจะมีพลังต้านทานกับระดับมหายานได้

ทว่าเมื่อเขาคิดอีกที หลังจากกวาดสายตาไปที่ปีกที่แปดที่แผ่นหลังของวิหคยักษ์ก็มีสีหน้าเขียวคล้ำไปเล็กน้อย

คาดไม่ถึงว่าวิหคยักษ์ตัวนี้จะมีแปดปีก และยิ่งไปกว่านั้นยังควบคุมอัสนีสวรรค์ห้าสีได้ด้วย ไม่ต้องถามถึงเคล็ดวิชาหลีกหนีจะต้องไม่อ่อนแอแน่ หากจะใช่เคล็ดวิชาหลีกหนีธรรมดาๆ กว่าครึ่งคงเป็นไปไม่ได้

ไม่รอให้วิหคประหลาดด้านล่างหยุดส่งเสียงหัวเราะประหลาดๆ ชั่วพริบตานั้นหานลี่พลันตัดสินใจ ฝ่ามือวานรยักษ์ทั้งสองร่ายอาคมอย่างรวดเร็ว แผ่นหลังมีเสียงอึกทึกดังขึ้น ชั่วพริบตานั้นปีกสีสันแวววาวพลันปรากฏขึ้น

สยายปีกทั้งสองข้าง ใต้ฝ่าเท้าของวานรยักษ์มีดวงแสงอัสนีสีเงินขาวปรากฏขึ้น ส่งเสียงหึ่งๆ แล้วระเบิดออก

ท่ามกลางประจุไฟฟ้าสีเงินที่เปล่งแสงสว่างวาบ เขตอาคมอัสนียักษ์พลันปรากฏขึ้น หานลี่ที่กลายเป็นวานรยักษ์มีประจุไฟฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนห่อหุ้มอยู่ ร่างกายรางเลือน คาดไม่ถึงว่าจะส่งตัวไปทันที

ทว่าครู่ต่อมาเขาก็หน้าเปลี่ยนสี

หัวหนึ่งของวิหคสองหัวด้านล่างส่งเสียงร้องประหลาดๆ ออกมา จากนั้นปีกทั้งแปดก็กระพือพร้อมกัน พลังปราณมหาศาลแผ่ออกมาจากร่างของเขา ชั่วพริบตากลางอากาศในรัศมีสิบกว่าลี้ก็ถูกพลังนี้ห่อหุ้มเอาไว้

แทบจะในเวลาเดียวกันลำแสงเขตอาคมอัสนีใต้ฝ่าเท้าวานรยักษ์พลันหม่นแสง ชั่วขณะนั้นพลันชะงักกลางอากาศ การส่งตัวหยุดลงทันที

หานลี่สูดลมหายใจเย็นยะเยือกเข้าไปเฮือกหนึ่ง!

ยามนี้หัวของเจ้าของร้านอวี๋ของวิหคประหลาดใช้สายตาเยาะเย้ย มองวานรยักษ์อย่างเย็นชา และพ่นคำพูดของมนุษย์ออกมา

“หึ แม้ว่าอสูรอัสนีตัวนี้จะแตกต่างกับอสูรอัสนีที่แท้จริงของแดนเซียน แต่ก็ถูกข้าใช้พลังของจิตวิญญาณเที่ยงแท้บรรจุเข้าไปในร่าง เพียงพอจะควบคุมพลังอัสนีเหล่านี้ได้ คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะกล้าใช้อัสนีต่อหน้าข้า ช่างรนหาที่ตายจริงๆ!”

สิ้นเสียงนั้น อีกหัวหนึ่งของวิหคยักษ์ก็ส่งเสียงกรีดร้องแหลมสูงออกมา!

ชั่วขณะนั้นเขตอาคมอัสนีก็ส่งเสียงอึกทึกออกมา ประจุไฟฟ้าหนาๆ สิบกว่าสายส่งเสียงเปรี๊ยะๆ พลางพุ่งออกไป ราวกับว่าดอกบัวสีเงินหนาๆ สิบกว่าดอกเปล่งแสงสว่างวาบ แล้วพัวพันร่างของวานรยักษ์เอาไว้แน่น

จากนั้นเสียงระเบิดพลันดังขึ้น ประจุไฟฟ้าสีเงินทั้งหมดระเบิดออกพร้อมกัน

ชั่วพริบตาสายฟ้าเป็นกลุ่มๆ ก็กลืนกินร่างของวานรยักษ์

ครู่ต่อมาเสียงคำรามดังสนั่นพลันดังขึ้นจากปากของวานรยักษ์สีทอง กำปั้นทั้งสองชูขึ้นกลางอากาศ ลำแสงสีทองจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมา ชั่วพริบตาสายฟ้าสีเงินก็ทะลวงผ่านจนเป็นรูพรุน สุดท้ายเสียงสายฟ้าก็เบาลงแล้วสลายหายไป

แต่วานรยักษ์สีทองที่กำลังดิ้นรนจากพันธนาการ หมุนตัวไปด้านล่างอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด ร่างกายหดเล็กลง ชั่วพริบตาก็คืนร่างมนุษย์

หานลี่พลิ้วกาย กลับมายืนได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง มองไปยังอสูรและวิหคยักษ์ด้วยสีหน้าดูไม่ได้

แต่ครู่ต่อมาเขาพลันพ่นลมหายใจยาวๆ ออกมา มือหนึ่งพลิ้วไหว ใบมีดหักๆ สีทองที่ไม่สมบูรณ์ปรากฏขึ้น ในเวลาเดียวกันแขนอีกข้างก็สะบัด ชั่วขณะนั้นเสียงหึ่งๆ พลันดังขึ้น ดอกบัวสีทองนับพันดอกทะลักออกมาจากแขนเสื้อ

นั่นคือแมลงกลืนทองที่กลายพันธุ์แล้ว

เมื่อแมลงกลืนทองเหล่านี้บินออกมา แม้จะมีขนาดเท่าหัวแม่มือ แต่หลังจากที่บินวนล้อมร่างของหานลี่ ก็มีขนาดเท่ากำปั้น หากกรูกันเข้ามาพร้อมกัน มองจากไกลๆ คงน่ากลัวมาก

ยามนี้ร่างทองพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ด้านข้างพลันมีไอสีดำทะลักออกมาจากร่าง เปล่งแสงสว่างวาบแล้วจมหายเข้าไปในร่างของหานลี่

ส่วนร่างเดิมของร่างทองพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์พลันส่งเสียงหึ่งๆ ออกมา กลายเป็นดวงลำแสงสีทองแล้วสลายหายไป

ครู่ต่อมาแผ่นหลังของหานลี่พลันมีลำแสงสีทองเปล่งแสงสว่างวาบ เทวรูปพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์ภาพลวงตาปรากฏขึ้นอีกครั้ง

แทบจะในเวลาเดียวกันเงาสีเขียวและลำแสงสีขาวก็พลิ้วไหว รางเลือนไปจากร่างของหานลี่แล้วปรากฏขึ้น กลายเป็น ‘หานลี่’ ผิวสีเขียวอีกคนหนึ่งและหญิงงามสวมชุดสีขาวพลิ้วไสวอีกคนหนึ่ง

นั่นก็คือร่างวิญญาณที่หานลี่เก็บไปก่อนหน้า รวมทั้งหุ่นเชิดสะท้านฟ้า ‘หวาหวา’

หานลี่วางใบมีดหักสีทองในมือไว้ตรงหน้า แล้วมองไปยังสองแขนประหลาดของวิหคด้านล่างด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก

“เอ๋ แมลงกลืนทอง! แถมยังโตเต็มวัย! เครื่องมือสังหารของสหายมีไม่น้อยจริงๆ แต่สหายคิดว่าแมลงนับพันตัวจะทำอันใดข้าได้งั้นหรือ หากเจ้ามีแมลงสักสองสามหมื่นตัว บางทีข้าอาจจะหวาดกลัวสักสามส่วน แต่แค่ตรงหน้านั้น ฮ่าๆ…” เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งดังออกมาจากหัวของเจ้าของร้านอวี๋ แต่เมื่อเพ่งพินิจมองกลับพบว่าแม้ว่าหัวของคนผู้นั้นจะมีสีหน้าดูเหมือนดีใจ แต่ดวงตาทั้งสองกลับจ้องเขม็งไปที่ใบมีดหักๆ สีทองในมือของหานลี่ แล้วฉายแววฉงนออกมา

แม้ว่าหานลี่จะยังไม่ได้สำแดงใบมีดชำรุดสวรรค์ทมิฬออกมา แต่จากการสัมผัสของพลังปราณ เจ้าของร้านอวี๋ผู้นี้ดูเหมือนจะพบความผิดปกติของใบมีดนี้

ทุกอย่างย่อมหนีไม่พ้นความสนใจของหานลี่ สีหน้าไร้ซึ่งความแปลกประหลาด แต่ในใจกลับหนักอึ้งขึ้นอีกครั้ง

เช่นนั้นล่ะก็ เดิมเขาคิดจะใช้ใบมีดชำรุดสวรรค์ทมิฬลอบโจมตี แน่นอนว่าต้องลังเลขึ้นมา อัตราการต่อรองลดลงสองส่วน

ทว่าอีกฝ่ายคงคิดไม่ถึงว่าในร่างของเขายังมีแมลงกลืนทองอีกสองสามหมื่นตัว รวมทั้งบนแขนยังมีกระบี่สวรรค์ทมิฬผนึกอยู่

ทั้งสองสิ่งนี้เขาล้วนต้องเอาออกมาใช้สังหารในเวลาที่เหมาะสม ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสหนี

ถึงอย่างไรเสียหลังจากที่อีกฝ่ายและอสูรอัสนีรวมร่างกัน แม้ว่าพลังยุทธ์จะบีบให้อยู่ในระดับมหายาน แต่หากไม่ได้ฝึกฝนอย่างหนัก เทียบกับสิ่งมีชีวิตระดับมหายานแล้วย่อมอ่อนแอลงไม่น้อย

และยิ่งไปกว่านั้นหากเขายังใช้สมบัติสวรรค์ทมิฬต่อสู้กับอีกฝ่าย ไม่แน่ว่าอาจจะทำให้ชิงหยวนจื่อที่ซ่อนตัวอยู่ตกใจได้ หากยื้อเวลาให้หน่วยสนับสนุนมาถึงก็ย่อมปลอดภัยกว่า

ชั่วพริบตาที่หานลี่ครุ่นคิดข้อได้เปรียบเสียเปรียบตรงหน้า ทันใดนั้นก็ตัดสินใจ ขว้างใบมีดชำรุดในมือไว้ตรงหน้า เตรียมใช้พลังทั้งหมดตัดสินแพ้ชนะกับอีกฝ่าย

วิหคยักษ์สองหัวที่อยู่ด้านล่างเห็นเช่นนั้น ในเวลาเดียวกันหัวทั้งสองก็ชูขึ้น และส่งเสียงกรีดร้องแหลมสูงและเสียงหัวเราะอย่างดูแคลนออกมา

เสียงสูงและต่ำดังขึ้น หยินและหยางตัดสลับกันไปมา ให้ความรู้สึกหนาวสะท้าน

แทบจะในเวลาเดียวกันวิหคยักษ์แปดปีกก็กระพือปีก ปีกสีเงินบนผิวขนลุกชัน จากนั้นเสียงสะเทือนเลื่อนลั่นพลันดังขึ้น กลายเป็นประจุไฟฟ้าห้าสีนับพันหมื่นสายพ่นออกไปทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้าน

ยามที่ประจุไฟฟ้าเหล่านี้เพิ่งจะออกจากร่างก็มีขนาดความหนาแค่เท่าแขน แต่หลังจากกะพริบวาบๆ ก็ทยอยกันมีขนาดมหึมา เสาทุกต้นล้วนมีความหนาสองสามร้อยจั้ง

ยามนั้นเสียงฟ้าร้องพลันดังแผ่ออกไป กลางอากาศกว่าครึ่งล้วนมีสายฟ้าสีเปล่งแสงสว่างวาบไม่หยุด ราวกับว่าตรงข้ามเปลี่ยนเป็นแดนของสายฟ้าอัสนี

พลังมหาศาลนี้ยิ่งแผ่ไปทั่วทั้งอากาศ

แม้ว่าหานลี่จะเคยพบสถานการณ์มาตั้งมากมายแล้ว ยามนี้เห็นอัสนีห้าเหล่านี้กำลังจะระเบิดออก ในที่สุดสีหน้าก็เผยความตกตะลึงออกมา แต่ทันใดนั้นแววตาก็ฉายแววเย็นชาออกมา มือหนึ่งร่ายอาคม มือหนึ่งสะบัดใบมีดชำรุดสวรรค์ทมิฬสำแดงออกไป

แต่ในยามนั้นเรื่องที่ทำให้หานลี่คิดไม่ถึงก็ปรากฏขึ้น!

เขากุมใบมีดชำรุดเอาไว้ในแขนเสื้อ เสียงร้องของวานรพลันดังขึ้นอย่างไม่มีเค้าลางมาก่อน

เสียงกระชั้นและร้อนรนมาก!

จากนั้นลำแสงสีดำพลันเปล่งแสงสว่างวาบ วงแหวนอสูรวิญญาณสีดำวงหนึ่งพุ่งออกมา เปล่งแสงสว่างวาบ แล้วบุกเข้าไปในแดนสายฟ้าอัสนีฝั่งตรงข้าม

ฉากนี้ทำให้วิหคยักษ์สองหัวตัวนี้อดที่จะตกตะลึงไม่ได้!