บทที่ 895 เปิดหูเปิดตา

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 895 เปิดหูเปิดตา

โอ๊ก!

มองเห็นหญิงแก่เรียกตัวเองว่านางฟ้ายังทิ้งสายตาที่หยาดเยิ้มต่อตัวเอง ข้าวที่กินข้ามคืนของฉินเทียนต่างก็ต้องอ้วกออกมาแล้ว

นี่เป็นการได้รับการทำร้ายที่มากที่สุดครั้งหนึ่งหลังมาถึงที่นี่อย่างเด็ดขาด

และคนอื่น ๆ ที่อยู่ด้านข้างก็คือกลั้นหัวเราะอยู่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา พวกเขาต่างก็รู้สึกถึงความอึดอัดแทนฉินเทียน

“แคร๊ก!”

ฉินเทียนไอแคร๊กเสียงหนึ่ง ใบหน้าเคร่งขรึมพูดอย่างเย็นชา“แปดเซียนข้ามทะเลใช่ไหม?”

“ขอเตือนพวกคุณประโยคหนึ่ง เรื่องของวันนี้พวกคุณรับไม่ไหว โดยเฉพาะเป็นคุณ”

เขามองเถี่ยก๋วยอยู่ พูดด้วยความสงสารเล็กน้อย“คนพิการไม่ง่าย กลับบ้านไปเลี้ยงดูชีวิตในวัยชราให้ดี ๆ เถอะ”

จริง ๆ เห็นแก่เขากับฉานเจี้ยนเป็นสภาพการณ์ที่เหมือนกันอยู่ในฐานะที่ให้ความเคารพต่อฉานเจี้ยน ฉินเทียนไม่อยากออกมือต่อหมอนี่หวังว่าเขาจะสามารถรู้ถึงความยากและถอยออกไป

“นายพูดอะไร?”

คิดไม่ถึงเถี่ยก๋วยโกรธในพริบตา เขาพูดอย่างหน้าแดง“กูทุ่มให้แกตาย!”

มีคำกล่าวว่าด่าคนอย่าซ้ำเติมจุดอ่อนของคนอื่น ปกติที่เขาเกลียดที่สุดคือคนอื่นเอาเขาเป็นคนพิการ ถึงแม้ฉินเทียนหวังดีแต่ในสายตาของเขาก็คือเหน็บแนมเขาอย่างเย็นชา

ดวงตาของฉินเทียนก็เย็นลงมาแล้วในพริบตา

ในเมื่อตาแก่คนนี้ไม่เห็นคุณค่าความหวังดีของคนอื่นอย่างนี้ งั้นก็ให้เขาเห็นถึงความร้ายกาจสักหน่อย

แต่ไม่ได้รอเขาออกมือจินถังที่อยู่ด้านหลังมาถึงอย่างรวดเร็ว

ยื่นมือดึงดาบยกดาบบัง ทำเสร็จเป็นขั้นตอนอย่างต่อเนื่องรวดเร็ว

ปกติแล้วดาบเป็นอาวุธที่ค่อนข้างจะคล่องแคล่วว่องไว ดังนั้นพิถีพิถันเบาและอ่อน

ดาบเล่มนี้ของจินถังกลับกว้างเท่ากับฝ่ามือ เหมือนเส้นเหล็กอย่างนั้นดำสนิท เหมือนกับคนของเขาดูไปแล้วมีความโง่เขลาเล็กน้อย

แต่ผู้เชี่ยวชาญพอออกมือก็รู้มีหรือเปล่า

นี่เป็นครั้งแรกที่จินถังดึงดาบ แกร๊งเสียงหนึ่งคิดไม่ถึงเอาไม้ค้ำเหล็กที่หนักหลายสิบโลเปลี่ยนแปลงแล้ว

เป็นไปได้ยังไง?

เถี่ยก๋วยโซเซถอยหลังรู้สึกข้อมือเกิดชา อดไม่ได้ที่จะมีใบหน้าตกตะลึงมึนงงอยู่ที่เดิม

“พี่เทียน มีเรื่องให้ผมมารับใช้”

จินถังก้าวขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าว พูดต่อฉินเทียนอย่างเคารพมาก

ฉินเทียนมองดาบของเขาแวบหนึ่งแล้ว พยักหน้าพูดแล้ว“ลำบากแล้ว”

“พี่จิน คุณรับมือกับคนพิการ ที่เหลือมอบให้ผม!”

ไม่ยอมอ่อนข้อให้ก็กระโดดออกมาทันทีแล้ว อาวุธที่แท้จริงของเขาเป็นเคียวรูปโค้งคู่หนึ่งปกติซ่อนที่หลังเอวไม่รู้สึกได้ง่าย

“นางปีศาจแก่มอบให้ฉัน!”

ไป๋หลิงก็กระโดดมาแล้วควักดาบสั้นออกมาคู่หนึ่ง ล็อกผู้หญิงคนนั้นที่เรียกตัวเองว่านางฟ้าแล้ว

พวกเขาสามคนทั้งหมดต่างก็แสดงอาวุธที่แท้จริงออกมาแล้ว เห็นได้ว่าเผชิญหน้าต่อสองสามคนนี้ก็คือมีพลังที่แน่นอน ไม่สามารถประมาทได้

“เธอว่าใครเป็นนางปีศาจแก่?นังเลว เชื่อไหมว่าฉันจะฉีกหน้าของแกเลย!”

นางฟ้าอายจนกลายเป็นโกรธทันที

ครั้งนี้ไม่ได้รอไป๋หลิงจู่โจมกลับ เจี๊ยกเสียงหนึ่งแสงทองหนึ่งพุ่งตรงมาที่นางปีศาจแก่ที่แท้เป็นเจ้าทองที่อยู่ด้านข้างไป๋หลิงออกมือแล้ว

ลิงน้อยตัวนี้ปกป้องเจ้านายอย่างกระตือรือร้น ไม่อนุญาตให้ใครมารังแกทำลายชื่อเสียงของไป๋หลิง

นางปีศาจแก่ตั้งตัวไม่ทัน ถึงแม้รีบหลบก็ให้ลิงจับผมจนยุ่งเหยิงแทบจะเอาใบหน้าข่วนจนรอย

“เดรัจฉาน ฉันจะสับแกแล้ว!”

หล่อนเหมือนเป็นบ้าอย่างนั้นสะบัดมีดหั่นไปทางเจ้าทอง

“หาที่ตาย!”ไป๋หลิงคำรามด้วยความโกรธเสียงหนึ่ง พุ่งขึ้นไปแล้ว

อีกด้านหนึ่งฉวนซานและจินถังสองคนรับมือกับเจ็ดคนที่เหลือ ฉวนซานรับมือกับสามคน จินถังรับมือกับสี่คน

สิบเอ็ดคนในสวนลานแบ่งเป็นสามสนามรบ ฆ่ากันอย่างดุเดือดยากที่จะแยกแยะแพ้ชนะได้

ฉินเทียนกวาดตามองแวบหนึ่งอดไม่ได้ที่จะแอบพยักหน้า หลายปีมานี้สำนักระกาและสำนักวานรดูแลจิตใจสะสมพลังน้อยมากที่จะปรากฏตัวในสายตาของผู้คน และก็น้อยมากที่จะแสดงพลังออกมา

แต่ภายใต้การดูแลของคนเหล่านี้มีวิชาการต่อสู้จริงอย่างแท้จริง

อีกทั้งวิชาการต่อสู้ของพวกเขายังไม่เหมือนกับในประเพณีของสังคม เคร่งครัดพลังมากแฝงไปด้วยกฏเกณฑ์พอดูก็คือมีการสืบทอด

เปรียบเทียบกันแล้วแปดเซียนข้ามทะเลอะไรก็ปรากฏให้เห็นว่ายุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบแล้ว

แบ่งระยะความต่างออกได้อย่างชัดเจน

เพียงแต่ไป๋หลิงสามคนยังไงโอกาสที่ลงมือกับคนอย่างแท้จริงน้อย ขาดแคลนประสบการณ์มองเห็นที่นี่ฉินเทียนยิ่งเพิ่มความยินดีให้โอกาสพวกเขาฝึกฝน

หลังยืนยันสามคนจะไม่แพ้เพียงแค่เป็นปัญหาของเวลาที่จะชนะ เขาเอาสายตามองไปทางหู่จิงอีกครั้งแล้ว

ไม่พูดก็มองยิ้มเล็กน้อยอย่างนั้น

เทียบกับรอยยิ้มที่สบาย ๆ ของเขาขึ้นมาแล้ว สีหน้าของหู่จิงยิ่งเคร่งขรึมขึ้นมาเรื่อย ๆ จริง ๆ

คนรูปร่างสูงหนึ่งเมตรเก้าคนนี้น้ำหนักมีถึงสามร้อยกว่าโลทำเรื่องเลวร้ายใช้อำนาจบาตรใหญ่ในแถบนี้ ฝันไปก็คิดไม่ถึงมีวันหนึ่งจะถูกคนข้างนอกสองสามคนหาเรื่องวุ่นวาย

สองดวงตาของเขาขยับหมุน ไม่รู้กำลังคิดวางแผนอะไรอยู่

เสียงฟิ้วหนึ่ง ไม้ค้ำเหล็กด้ามหนึ่งลอยขึ้นลอยไปตลอดจนถึงด้านนอกลานสวน ไม่มีเสียงแม้แต่นิด

และตาแก่ที่ถือไม้ค้ำเหล็กก็ถูกเท้าหนึ่งของจินถังถีบลอย ล้มทับตีนกำแพงลุกไม่ขึ้น

ฉวนซานก็ไม่ยอมแพ้ ก็ตีลอยคนหนึ่ง

การเก็บเกี่ยวได้เริ่มแล้ว มองท่าทางใช้เวลาไม่มากก็สามารถชนะได้อย่างสมบูรณ์

เกินความคาดคิด เวลานี้หู่จิงจู่ ๆ กลับเงียบลงมา

เขามองฉินเทียนอยู่ถาม“ฉันยอมรับ คนของนายมีความสามารถเล็กน้อยจริง ๆ บอกฉันได้ไหมพวกนายมาจากทางไหน?”

ฉินเทียนพูดจาง ๆ “ทางใต้”

หู่จิงทำตาหรี่แล้ว“สำหรับพลังของนายอาจจะสามารถใช้อำนาจบาตรใหญ่ที่ทางใต้ได้ แต่ที่นี่เป็นของทางตะวันออกนายรู้ทางตะวันออกเป็นโลกของใครไหม?”

ในใจของฉินเทียนพอขยับ“เกาะตงไห่ คนตระกูลหวังกลุ่มนั้นอยู่อาศัยบนเกาะ?”

หู่จิงยิ้มพูดอย่างเย็นชา“งั้นนายก็รู้อีกพี่ใหญ่เบื้องบนของฉันเป็นใครไหม?”

สีหน้าของฉินเทียนเย็นลงเล็กน้อยแล้ว“นายเป็นคนของเกาะตงไห่?”

เขามาตามหาเห็ดหลินจือเลือดที่นี่ ที่สำคัญที่สุดก็คือหลบหลีกคนของเกาะตงไห่ พอเกิดการปะทะจะต้องเป็นสงครามใหญ่ที่ไม่ตายก็ไม่มีวันเลิกลา

เสียเวลามาก!

คิดไม่ถึงคนนี้ดูไปแล้วเหมือนเป็นอันธพาลที่ชั่วร้ายมากที่สุด คิดไม่ถึงหลังชนเกาะตงไห่!

มองเห็นฉินเทียนมีความตื่นเต้นเล็กน้อย หู่จิงแสดงท่าทางที่พอใจมาก

เขายิ้มพูดอย่างเย็นชา“สำหรับฐานะของฉันไม่มีคุณสมบัติที่จะเจอคนของตระกูลหวังอยู่แล้ว และก็ไม่มีคุณสมบัติไปบนเกาะ”

“แต่นายรู้ไหมภายใต้เกาะตงไห่ ต่างก็มีใคร?”

ฉินเทียน“เป็นใคร?”

เสียงตึ้งหนึ่ง นางฟ้าถูกเท้าหนึ่งของไป๋หลิงถีบลอยตกลงด้านหน้าของหู่จิงแล้วอย่างแรง ใบหน้าทั้งหมดของหล่อนต่างก็ถูกลิงขนทองข่วนเลือดซึม มองไปแล้วน่ากลัวมาก

“นังเลว ฉันสู้ตายกับแกแล้ว!”

“พี่ใหญ่จิง คุณรีบเรียกคนสิ!รีบเรียกทหารเสริม!”

หู่จิงเหมือนหันไปยกเท้าที่เหมือนกับช้างขึ้นมาถีบเอานางฟ้าเหมือนถีบขยะอย่างนั้นไปถึงมุมกำแพง สลบไปแล้ว

สีหน้าของฉินเทียนพอเปลี่ยน คนอื่นเขาไม่รู้จัก แต่จินยีโหวเคยคบหาจริง ๆ และหวังเหมี่ยนก็คือจินยีโหวนั่น

ดูจากการจัดอันดับชื่อ ตำแหน่งที่หมอนี่อยู่ในเกาะตงไห่ ก็คือเป็นขุนนางที่มีฐานะสูงส่งและมีอํานาจ

“คุณคือกับใคร?”ฉินเทียนถามด้วยเสียงที่เย็นชา

หู่จิงยิ้มพูดอย่างเย็นชา“หกเมืองชายทะเลต่างก็เป็นทั่วโลกของตระกูลหวัง โดยมีสามท่านแม่ทัพดูแลแทนพวกเขา”

“และที่นี่เมืองเจียงเหอก็เป็นพื้นที่ของนายพลเกา”

“โชคดีมากพี่น้องของฉันกับลูกชายของนายพลเกาเป็นเพื่อนสนิทกัน”

ฉินเทียนย่นคิ้ว

หู่จิงพูดต่อ“นายคนทางใต้คนหนึ่ง มาหาหลิวเสี่ยวเป่าถึงที่นี่ เป้าหมายไม่ใช่อย่างเดียวอย่างนั้นใช่ไหม?”

“นายอยากที่จะได้รับอะไรจากบนตัวของหลิวเสี่ยวเป่า?”

ฉินเทียนตกใจแล้ว พูดอย่างคิดได้“คุณต่างก็รู้อะไรแล้ว?”

หู่จิงยิ้มพูดอย่างเย็นชา“ดูแล้วฉันทายถูกแล้ว ไปเถอะ พานายไปเปิดหูเปิดตาหน่อย”