ตอนที่ 907

Alchemy Emperor of the Divine Dao

หลังจากที่เดินออกมาจากหอสมุด หลิงฮันไม่ได้กลับไปที่พักของเขา แต่มุ่งหน้าไปที่เมืองจักรพรรดิเพื่อหาร้านขายเม็ดยาแทน

การฝึกฝนบ่มเพาะพลังไม่อาจแยกขาดจากเม็ดยาได้ และเม็ดยามีเพียงแค่นักปรุงยาเท่านั้นที่สามารถหลอมขึ้นมาได้และวางขายอยู่ในร้านขายเม็ดยา หลิงฮันเห็นร้านหลายแห่ง แต่ขนาดของร้านขายเม็ดยาที่เขาพบเจอนั้นมีขนาดเล็กเกินไป ทั้งยังขายเม็ดยาระดับต่ำ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะซื้อสมุนไพรหลอมเม็ดยาระดับศักดิ์สิทธิ์

หลิงฮันเดินหาอยู่สักพักหนึ่ง ในที่สุดเขาก็พบร้านขายเม็ดยาขนาดใหญ่ที่มีแผ่นป้ายชื่อร้านขนาดใหญ่ติดอยู่ ทั้งยังมีทหารยามสี่คนยืนอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้า ซึ่งพวกเขาแต่ละคนนั้นเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติ

เพียงแค่มองหลิงฮันก็รู้แล้วว่าจะต้องมีของที่เขาต้องการขายอยู่ในนั้นอย่างแน่นอน

อย่างที่คิดภายในร้านมีเม็ดยาและสมุนไพรจำนวนมากขายอยู่ และเม็ดยาที่มีระดับสูงสุดคือเม็ดยาระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด!

ถ้าเขาใช้มันจะเกิดอะไรขึ้น?

เม็ดยาระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ดคือเม็ดยาสำหรับจอมยุทธระดับสุริยันจันทรา ถ้าหลิงฮันใช้มัน ร่างกายของเขาจะต้องระเบิดตายอย่างแน่นอน

แต่โชคดีที่อัตราแลกเปลี่ยนผลึกก่อเกิดค่อนข้างน่าประทับใจทีเดียว ผลึกก่อเกิดหนึ่งก้อนสามารถซื้อเม็ดยาระดับศักดิ์สิทธิ์ได้ห้าเม็ด และถ้าใช้ซื้อสมุนไพรหลอมเม็ดยาจะได้สิบชุด ซึ่งสมุนไพรแต่ละชุดนั้นจะสามารถหลอมเม็ดยาขึ้นมาได้สูงสุดห้าเม็ด

อย่างไรก็ตามมีนักปรุงยาเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถหลอมเม็ดยาระดับศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาห้าเม็ดได้ด้วยสมุนไพรหลอมยาชุดเดียว ซึ่งสามเม็ดคือระดับมาตรฐาน

เมื่อคำนึงถึงต้นทุนแล้ว การหลอมเม็ดยาจึงเป็นธุรกิจที่สามารถทำกำไรได้อย่างมหาศาล

แต่น่าเสียดาย การที่จะเป็นนักปรุงยาได้นั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก และยิ่งนักปรุงยาที่มีอัตราสำเร็จมากกว่าล้มเหลวยิ่งมีน้อยยิ่งกว่า

ในขณะเดียวกันจอมยุทธระดับทลายมิติมีจำนวนมากที่สุดในจักรวรรดิราชวงศ์ดาราหายนะ ดังนั้นเม็ดยาระดับศักดิ์สิทธิ์จึงเป็นที่นิยมมาก ไม่ต้องกลัวว่าจะขายไม่ออกเลย ในทางตรงกันข้าม เม็ดยาของจอมยุทธระดับทลายมิตินั้นไม่แพง กำไรที่ได้รับจึงน้อย แต่สามารถขายได้จำนวนมาก

หลิงฮันไม่สนใจเรื่องพวกนั้น เขาไม่เพียงแค่ซื้อสมุนไพรหลอมยาเท่านั้น แต่ยังซื้อเมล็ดพันธ์ของพวกมันมาด้วย

ในเมื่อเขามีหอคอยทมิฬ เขาก็สามารถปลูกสมุนไพรได้ทุกชนิด!

เมื่อสมุนไพรที่เขาปลูกเติบโตจนได้ที่ เขาก็ไม่จำเป็นต้องมาที่นี่เพื่อซื้อสมุนไพรอีกต่อไป

ยิ่งไปกว่านั้น สมุนไพรหลักที่ใช้สำหรับหลอมยามีอายุแค่ร้อยปีเท่านั้น ส่วนสมุนไพรอีกสองสามชนิดแค่สองร้อยปีก็เพียงพอแล้ว และด้วยความเร็วในการเพาะปลูกสมุนไพรของหอคอยทมิฬ แค่สองเดือนก็เพียงพอแล้ว

หลิงฮันใช้ผลึกก่อเกิดสองก้อนเท่านั้นเพื่อซื้อสมุนไพรสิบชุดและเม็ดพันธ์จำนวนมาก

หลังจากกลับไปที่สำนัก เขาก็เริ่มหลอมเม็ดยาทันที

การทำให้สมุนไพรบริสุทธิ์ สำหรับหลิงฮันแล้วไม่ใช่เรื่องยากแม้แต่น้อย

เปิดเตา!

ในหอคอยทมิฬ หลิงฮันไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องอุณหภูมิของเปลวเพลิง เพราะที่แห่งนี้เขาคือพระเจ้า

พรึบ เปลวเพลิงปะทุขึ้นมาและหลิงฮันก็เริ่มโยนสมุนไพรลงไปในเตาหลอมทีละชนิด ภายใต้เปลวเพลิงที่ร้อนแรง สมุนไพรเริ่มหลอมละลายเข้าด้วยกัน และวาดฝ่ามือที่ซับซ้อนออกไปไม่หยุด

ปัง ในขณะนั้นเองหลิงฮันถอนหายใจ เขาหลอมเม็ดยาล้มเหลว

ในฐานะจักรพรรดินักปรุงยา เขาไม่ได้ลิ้มรสความล้มเหลวของการปรุงยามานานแค่ไหนแล้ว?

ช่วยไม่ได้ที่หลิงฮันจะระลึกถึงอดีตที่ผ่านมา หากไม่ล้มเหลวบ้าง เขาจะก้าวหน้าขึ้นได้อย่างไร?

แต่แทนที่หลิงฮันจะเริ่มหลอมเม็ดยาครั้งที่สองต่อ เขากลับหลับตาลงและค้นหาสาเหตุที่ทำให้เขาหลอมเม็ดยาล้มเหลว หากเขาหาต้นตอของปัญหาไม่ได้ ต่อให้เขาหลอมเม็ดยาร้อยครั้ง มันก็จะล้มเหลวร้อยครั้งอยู่ดี

หลังจากคิดหาสาเหตุอยู่นาน หลิงฮันก็เริ่มหลอมเม็ดยาครั้งที่สอง

ปัง เขาล้มเหลวอีกครั้ง

แต่การหลอมเม็ดยาครั้งที่สองนั้น หลิงฮันใช้เวลามากกว่ารอบแรก

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เขาก้าวหน้าขึ้นเล็กน้อย

หลังจากคิดหาสาเหตุอยู่นาน เขาก็เริ่มหลอมเม็ดยาอีกครั้ง

ใช่แล้ว หลิงฮันล้มเหลวอีกครั้ง แต่มันก็ไม่สำคัญ เพราะอย่างน้อยเขาก็ก้าวหน้าขึ้นอยู่บ้าง

ครั้งที่สี่ล้มเหลว ครั้งที่ห้าล้มเหลว และครั้งที่หกเขาก็ยังคงล้มเหลวเหมือนเดิม

แต่หลิงฮันก็ยังคงยิ้มออกมาให้เห็น และมั่นใจว่าครั้งที่เจ็ดจะต้องหลอมเม็ดยาสำเร็จอย่างแน่นอน

ครั้งนี้แหละข้าจะต้องทำเสร็จ!

ครึ่งวันต่อมา

สีหน้าของหลิงฮันกลายเป็นเคร่งขรึม ตอนนี้คือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด

“จงเปิด!” หลิงฮันตะโกนและขยับนิ้วไม่หยุดโดยใช้เทคนิคสามเพลิงชี้นำ

สามเพลิงชี้นำคือเทคนิคลับที่เขาคิดค้นขึ้นมาเอง

ทันใดนั้นเอง หลิงฮันก็ยกฝาเตาหลอมขึ้นและมีเม็ดยาสีน้ำเงินห้าเม็ดลอยขึ้นมา แต่มีเม็ดยาสี่เม็ดที่ดูเหมือนจะล้มเหลว มีเม็ดยาแค่เม็ดเดียวเท่านั้นที่ลอยหนีไปจากเขาราวกับมันมีชีวิต

หลิงฮันรีบคว้ามันเอาไว้และออกมาจากหอคอยทมิฬทันที และรีบไปยืนอยู่กลางสวนเพื่อรอรับพลังสายฟ้าสวรรค์ แต่ทว่ามันกลับไม่มีร่องรอยของเมฆสายฟ้าเลยแม้แต่น้อย

หรือว่าข้าหลอมเม็ดยาในหอคอยทมิฬเลยถูกสวรรค์และปฐพีเมิน?

“เมี๊ยว!” เมื่อเห็นหลิงฮันเจ้าแมวอ้วนกรีดร้องด้วยความโกรธและพุ่งเข้าหาเขาพร้อมกับอุ้งมือที่จะตะปบใส่หลิงฮัน

“ไม่ใช่ว่าพวกเราเป็นสหายที่ดีต่อกันหรอกหรือ?” หลิงฮันรีบหลบอย่างรวดเร็ว

“เมี๊ยว! เมี๊ยว! เมี๊ยว! เมี๊ยว!” เจ้าแมวอ้วนยังคงส่งเสียงกรีดร้องไม่หยุด

“มันพูดว่า มันรอเจ้ามาเจ็ดวันแล้ว แต่เจ้าก็ไม่ยอมปรากฏตัวออกมาสักที และตอนนี้มันรู้สึกหิวมากด้วย” หอคอยน้อยกล่าว

ปากของหลิงฮันกระตุกเล็กน้อย “เจ้าพูดกับเจ้าแมวอ้วนตัวนี้รู้เรื่องด้วยรึ?”

“ทำไมข้าจะไม่ได้?” หอคอยน้อยกล่าวด้วยท่าทางภาคภูมิใจ

จากนั้นชั่วครู่ หลิงฮันก็รู้สึกตกตะลึง นี่ผ่านมาเจ็ดวันแล้วอย่างนั้นรึ?

หลิงฮันอุ้มเจ้าแมวอ้วนขึ้นมาและพูดว่า “ก็ได้ ก็ได้ ข้าจะทำอาหารให้เจ้ากินเดี๋ยวนี้แหละ! หากเจ้ายังไม่หยุด ข้าจะทำอาหารให้เจ้ากินได้อย่างไร?”

จากนั้น เจ้าแมวอ้วนก็หยุดอาละวาด และนั่งรออย่างใจจดใจจ่อ

มนุษย์ เจ้าเป็นทาสแมวของข้าผู้นี้!