ตอนที่ 514 ช่วยทำให้พ่อได้หน้า
“คุณหนูใหญ่ ถึงตาคุณแล้วครับ” หัวหน้าหน่วยห้าวหาญยิ้มแล้วมองดูอีลั่วเสวี่ย เธอเองที่บอกให้พวกเขายิงก่อน ไม่ใช่พวกเขาไม่รู้จักให้เกียรติผู้หญิง
เฉวียนหมิงขมวดคิ้ว “อาเสวี่ย ให้ผมช่วยคุณยิงดีไหม” เขาเชื่อว่าตัวเขาเองก็มีฝีมือในการยิงปืนบ้าง ต่อให้เกิดแพ้ก็ไม่ถึงกับเสียหน้ามากนัก
ผู้หญิงจะหน้าบางกว่า เขาไม่อยากให้เธอต้องรู้สึกเสียหน้า
อีลั่วเสวี่ยสั่นหัว “ไม่เป็นไร เชื่อฉันเถอะ ฉันทำได้” ในโลกของพวกเธอมีการล่าสังหารสัตว์ปีศาจ ฝูงสัตว์ปีศาจเคลื่อนไหวเร็วกว่านี้มาก เธอยังสามารถสังหารพวกมันได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้
เป้าเคลื่อนที่ลักษณะนี้ สำหรับทหารเหล่านี้อาจจะมีความยากไม่น้อย แต่สำหรับเธอแล้วยังช้าเกมล่าตัวตุ่นในร้านเกมด้วยซ้ำ
พอเฉวียนหมิงนึกถึงความคล่องแคล่วและฐานะของอีลั่วเสวี่ยก็รู้สึกแปลกใจ เขามองข้ามศักยภาพของเธอ เธอต้องทำได้แน่นอน
“ดี” เฉวียนหมิงยิ้มอย่างอ่อนโยน ยืนอยู่ด้านข้างไม่พูดอะไรอีก
จากนั้นอีลั่วเสวี่ยจึงหยิบปืนบนโต๊ะ เล็งไปที่เป้า แล้วยิงอย่างต่อเนื่อง ระหว่างนั้นบางครั้งหยุดสองสามวินาที มากที่สุดหยุดหนึ่งนาที ปืนบรรจุกระสุนได้จำกัด เธอใส่กระสุนชุดใหม่ แล้วยิงต่อ เธอยิงด้วยความมั่นใจและแข็งกร้าว ทุกคนจ้องมองตาไม่กะพริบ
สิบนาทีต่อมาเธอจึงวางปืนลง ผลการนับคะแนนออกมาแล้ว เธอยิง ทั้งหมด 57 นัด แต่ทุกนัดเข้าจุดแดงหมด
ยิงเข้าเป้าร้อยเปอร์เซ็นต์ คนของหน่วยบุกหน้าตื่นเต้นจนพูดไม่ออก กลับเป็นคนของหน่วยห้วหาญตกตะลึงจนแทบไม่อยากเชื่อ
“ผมไม่ได้ตาฝาดนะ” หัวหน้าหน่วยห้าวหาญตะลึงงัน มองดูอีลั่วเสวี่ยอย่างไม่อยากเชื่อ ผู้หญิงคนนี้ทำไมถึงร้ายกาจปานนี้ ยังเก่งกว่าอวิ๋นเว่ยที่ได้ฉายาว่ามือปืนระดับพระกาฬ ไม่เสียทีที่เป็นลูกสาวเขา
อีลั่วเสวี่ยยิ้มเมื่อได้ยินเสียงร้องด้วยความประหลาดใจ “พวกคุณอาจจะไม่เชื่อความสามารถของฉัน แต่คงต้องเชื่อสายตาตัวเองจริงไหม ในนี้ยังมีกระสุนอีกสามนัด อยากตรวจสอบไหม?”
เธอพูดจบก็เอากระสุนที่เหลือออกมาวางบนโต๊ะ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นทำให้คนของหน่วยห้าวหาญพากันหน้าแดงเหมือนถูกตบหน้า
“คุณหนูใหญ่เยี่ยมจริงๆ” จ้าวจวินพูดเบาๆ ส่วนคนของหน่วยบุกหน้าพากันมองอีลั่วเสวี่ยด้วยสายตายกย่อง ตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก สวรรค์โปรด ถ้ารู้แต่แรกน่าจะตั้งใจดูเธอยิง จะได้เอาอย่างบ่าง
อีลั่วเสวี่ยยิ้ม แล้วหันมามองเฉวียนหมิงที่กำลังจ้องมองตนเองไม่วางตา แววตาลุ่มหลง สีหน้าเปี่ยมด้วยความเสน่หา สามารถสื่อถึงความรักระหว่างกันได้
จ้าวจวินก้าวออกมา “เอาละ แพ้แล้วต้องถูกลงโทษ พวกคุณไปวิ่งรอบสนามเถอะ พวกเรา บ่ายนี้พักผ่อน”
“ไม่ถูก ระบบให้คะแนนต้องผิดพลาดแน่ๆ เรามาประลองกันอีก” เขามองดูเธอยิงทุกนัด รู้สึกเหมือนเป้าไม่ขยับเขยื้อน
อีลั่วเสวี่ยกำลังจะหันไป ขมวดคิ้วทันที “ระบบอะไรผิดพลาด คุณไม่เชื่อในระบบของพวกคุณเองงั้นหรือ? หรือว่าพวกคุณจะไม่รักษาคำพูด”
“แพ้แล้วต้องถูกลงโทษ นี่เป็นวินัยของกองทัพเรา หรือพอมาถึงหน่วยห้าวหาญ ก็จะไม่รักษาคำพูดหรือไง แม้เสวี่ยเอ๋อจะไม่ใช่คนในหน่วย แต่ในเมื่อแข่งขันกันแล้ว ก็ต้องถือเป็นเรื่องจริงจัง ถ้าขืนไม่รักษาคำพูด ต้องถูกลงโทษด้วยวินัยทหาร!”
ทุกคนหันไปมองตามเสียงทันที เห็นอวิ๋นเว่ยยิ้มร่าเดินมาจากที่ไม่ไกลนัก มองมาที่อีลั่วเสวี่ยด้วยสายตาอบอุ่นและอ่อนโยน
“พ่อ” พออีลั่วเสวี่ยเห็นอวิ๋นเว่ยก็เปลี่ยนท่าที มีท่าทางเหมือนเด็กสาวที่ยังไม่ได้ออกเรือนทันที
ตอนที่ 515 พวกเรายอมรับแล้ว
“เดินทางคงเหนื่อยแล้ว หิวหรือยัง?” คำพูดของอวิ๋นเว่ยทำให้ทุกคนอ้าปากค้าง
แม่ทัพเลือดเหล็กอย่างอวิ๋นเว่ยถึงกับพูดแบบนี้ ท่าทางเป็นพ่อที่เปียมด้วยความเมตตา เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง
อีกอย่างฝ่ายนั้นก็ไม่ใช่เด็กเล็กๆ แล้ว ต้องรักทะนุถนอมอย่างนี้เชียวหรือ ทุกคนพากันประหลาดใจ ในใจต่างนึกอิจฉาอีลั่วเสวี่ย
เธอสามารถทำให้แม่ทัพใจเด็ดอย่างอวิ๋นเว่ยรักได้ขนาดนี้ ถือว่ามีบุญวาสนามาก ชาติที่แล้วคงช่วยกู้โลกไว้
ตลอดเวลาสายตาอวิ๋นเว่ยมองไปที่อีลั่วเสวี่ย มองข้ามเฉวียนหมิงอย่างสิ้นเชิง เขาไม่รู้ว่าเฉวียนหมิงรักษาอาการป่วยหายดีแล้ว ในใจเขาหวังดีต่อเธอ ไม่อยากให้เธอสูญเสียวัยสาวไปกับเฉวียนหมิง
อีลั่วเสวี่ยสั่นหัว “พ่อคะ หนูสบายดีไม่ใช่หรือ พ่อไม่ต้องห่วงค่ะ”
อวิ๋นเว่ยถอนหายใจ “งั้นก็ดีแล้ว” จากนั้นจึงมองเพื่อนร่วมงานสองคนข้างๆ
พวกเขาสวมเครื่องแบบทหาร ท่าทางองอาจ
ดูแล้วคงมีฐานะสูงในเขตทหารที่สิบสอง หนึ่งในนั้นเป็นแม่ทัพของหน่วยห้าวหาญ ยศต่ำกว่าอวิ๋นเว่ยหนึ่งขั้น อวิ๋นเว่ยสงสัยว่าเขาคือคนที่ส่งคนไปเล่นงานตนที่เมืองเอฟคราวก่อน
“เสวี่ยเอ๋อ เฉวียนหมิง เธอสองคนมาทางนี้ นี่คืออาลี่ ลี่ปิง ส่วนนี่คืออาหวัง หวังอวี่ รีบมาทักทาย” พอเอ่ยถึงลี่ปิง ใบหน้าอวิ๋นเว่ยมีรอยยิ้มทันที
แต่ขณะที่แนะนำหวังอวี่ดูเหมือนแววตาเขาไม่เป็นมิตรนัก อีลั่วเสวี่ยเองก็มองออก คนผู้นี้ก็คือแม่ทัพของหน่วยห้าวหาญ
“สวัสดีค่ะอาลี่ สวัสดีค่ะอาหวัง” อีลั่วเสวี่ยและเฉวียนหมิงพูดทักทายอย่างมีมารยาท แล้วยื่นมือตนเองออกไป ยิ้มแล้วสัมผัสมือกับอีกฝ่าย
คนของหน่วยห้าวหาญได้แต่มองดูอีลั่วเสวี่ยมีท่าทางสนิมสนม เธอกลายเป็นคนรุ่นเยาว์ไปทันที ยังเรียกอีกฝ่ายว่าอา
“สวัสดี ได้ยินท่านแม่ทัพอวิ๋นพูดถึงลูกสาวอย่างโน้นอย่างนี้ ไม่ขาดปาก วันนี้ได้เจอตัว น่าทึ่งจริงๆ แม่ทัพอวิ๋นได้ลูกสาวเก่งอย่างนี้ น่าอิจฉาจริง ไม่รู้ว่าท่านนี้เป็นใคร…” ลี่ปิงหันมามองอวิ๋นเว่ย สีหน้าแปลกใจ
หน้าตาดูคุ้นๆแต่นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
อวิ๋นเว่ยเลิกคิ้วขึ้น “เขาชื่อเฉวียนหมิง พวกคุณเดาไม่ออกหรือว่าเขาเป็นใคร?” พออวิ๋นเว่ยพูดเช่นนี้ ลี่ปิงและหวังอวี่ก็นึกออกทันที
“สกุลเฉวียน หรือเขาก็คือหลานชายของท่านผู้เฒ่าเฉวียนสือ มิน่าผมถึงรู้สึกว่าหน้าตาคุ้นๆ”
“เอาละ เอาละ วันหลังคอยคุยถึงความหลังกันใหม่ แม่ทัพหวังน่าจะให้ทหารในสังกัดวิ่งรอบสนามได้แล้ว ส่วนพวกเราก็ควรกลับกันแล้ว” อวิ๋นเว่ยยิ้มอยางเจ้าเล่ห์
ไม่เสียทีที่เป็นลูกสาวเขา พอมาถึงก็ช่วยกู้หน้าให้เขา น่าปลื้มใจจริงๆ
หวังอวี่ขมวดคิ้ว “ระหว่างเพื่อนก็แค่เล่นสนุกกัน แม่ทัพอวิ๋นจะถือเป็นจริงเป็นจังไปเพื่ออะไร” ถ้าให้คนของเขาวิ่งรอบสนามจริงๆ คงเสียหน้าแย่
ถึงตอนนี้หัวหน้าหน่วยห้าวหาญนึกเสียใจย้อนหลัง ถ้ารู้แต่แรกว่าผู้หญิงคนนี้ยิงปืนแม่นแบบนี้ พวกเขาคงไม่ไปหาเรื่อง ตอนนี้เหมือนถูกตบหน้า แย่จริง
“อาหวังพูดแบบนี้ไม่ถูกหรอกค่ะ สนามฝึกก็เหมือนสนามรบ ถ้าไม่มีวินัยทหาร วันหน้าจะบังคับบัญชาได้อย่างไร อีกอย่างเริ่มแรกเราก็เตรียมพร้อมที่จะวิ่งรอบสนามแล้ว” อยากเบี้ยวหรือ ไม่มีทาง!
ทหารในสังกัดของจ้าวจวินพากันผงกหัว “ใช่แล้ว เราเองก็คิดไม่ถึงว่าคุณหนูใหญ่จะเก่งกาจอย่างนี้ เดิมทีคิดว่าให้เธอลองดูเท่านั้น” นั่นหมายวามว่าพวกเขาพร้อมใจที่จะแพ้ แต่หน่วยห้าวหาญไม่พร้อมที่จะแพ้
“ท่านแม่ทัพครับ แพ้แล้วต้องยอมถูกทำโทษ เรายอมรับครับ คุณอีฝีมือยิงปืนเยี่ยมมาก วันหน้าต้องขอลองประลองอีก!” หัวหน้าหน่วยรีบพูด คนอื่นๆ ล้วนมีสีหน้าขึงขัง พวกเขาไม่ยอมเสียหน้า